คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เล่ห์รักจำนนใจ 1.1
สิบแปดปีต่อมา...
ภายในร้านอาหารกึ่งบาร์สุดหรูบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมระดับห้าดาวในย่านถนนสายธุรกิจแห่งหนึ่ง ซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ได้แบบสามร้อยหกสิบองศา พื้นที่ส่วนกลางเป็นบาร์เครื่องดื่ม สร้างเป็นโดมทรงสูงโดดเด่น ณ มุมหนึ่ง กลุ่มลูกค้าสี่ห้าคนกำลังดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน ทว่ามีอยู่คนหนึ่งที่ดูเหมือนจะมาผิดงาน
“ก้อย พี่วีเขาเป็นอะไร ทำไมถึงได้ดื่มหนักขนาดนั้น” จอมนรีเอ่ยถามกนิษฐาซึ่งเป็นเจ้าของงานวันเกิดในวันนี้และคนที่เธอถามถึงนั้นก็คือสุธาวี ญาติของอีกฝ่าย
อันที่จริงเธอรู้สึกได้ตั้งแต่เจอหน้าสาวหล่อซึ่งเป็นญาติผู้พี่ของเจ้าของวันเกิดในวันนี้แล้วว่า สุธาวีมีท่าทางประหนึ่งคนอกหัก แล้วพอมาถึงร้านอาหารก็ดื่มเอาๆ ดื่มคนเดียวยังพอว่า แต่นี่เล่นมาชวนเธอดื่มเป็นเพื่อน จนตอนนี้ยังไม่ทันจะสามทุ่มเลยด้วยซ้ำ เธอก็ชักจะเริ่มมึนแล้ว ครั้นบอกว่าเธอดื่มไม่ไหวแล้วก็โดนอีกฝ่ายตัดพ้อต่อว่าว่าไม่รักกันจริง แค่ดื่มเป็นเพื่อนคลายทุกข์แค่นี้ก็ไม่ได้
เดิมทีนั้นจอมนรีกับกนิษฐารู้จักกันเพราะเป็นคู่บัดดี้ตอนร่วมกิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัย แล้วด้วยความที่กนิษฐานั้นเป็นลูกคุณหนูที่หยิบจับอะไรไม่เป็นเอาเลย จึงโดนรุ่นพี่แกล้งเสียจนร้องห่มร้องไห้ จอมนรีทนดูคนถูกรังแกไม่ได้เลยลุกขึ้นมาปกป้องคู่บัดดี้ของตัวเอง สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าโดนรุ่นพี่แกล้งจนสะบักสะบอมด้วยกันทั้งคู่
ส่วนสุธาวีนั้น จอมนรีมารู้จักทีหลัง เพราะครอบครัวของกนิษฐากับสุธาวีเป็นญาติสนิทกันเลยทำให้เธอได้รู้จักกับสาวหล่อลูกสาวท่านทูตคนนี้ไปด้วย
“อาการแบบนี้จะเป็นอะไรได้ นอกจากอกหัก”
“นึกแล้วเชียว” จอมนรีถอนหายใจดังเฮือก ก่อนจะสะบัดหัวไล่อาการมึนเบาๆ “ตกลงว่ายัยน้องขิงน้องข่าอะไรนั่นเลิกกับพี่วีแล้วเหรอ”
“อืม เพิ่งเลิกเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนี่แหละ แถมก่อนเลิกยังหลอกเอากระเป๋าใบใหม่จากพี่วีไปอีกใบด้วย” กนิษฐากระซิบบอก
“นี่เธอสองคนกระซิบอะไรกัน” สาวหล่อที่เพิ่งอกหักมาสดๆ ร้อนๆ ชี้หน้าสองสาวคู่ซี้ ก่อนจะเข้ามากอดคอจอมนรี “น้ำหวาน มา...มาดื่มเป็นเพื่อนพี่หน่อย...วันนี้พี่อยากเมา!”
“แต่ตอนนี้หวานเมาแล้ว”
จอมนรีดื่มไม่เก่ง แค่ค็อกเทลไม่กี่แก้วเธอก็จอดแล้ว และตอนนี้หัวเธอก็จะทิ่มแหล่มิทิ่มแหล่อยู่แล้ว ดีหน่อยที่กนิษฐาเปิดห้องในโรงแรมนี้เอาไว้เพื่อให้คนที่ขับรถกลับบ้านไม่ไหวใช้เป็นที่ซุกหัวนอน และคาดว่าหนึ่งในนั้นก็คือเธอนี่แหละ เพราะสภาพนี้คงขับรถกลับบ้านไม่ไหวแน่ๆ
“ไม่เอาน่า ดื่มเป็นเพื่อนพี่ก่อน ไหนว่ารักกันจริงไง” พอสุธาวีพูดจบ บริกรหนุ่มคนหนึ่งก็นำค็อกเทลสีฟ้าใสแก้วใหม่มาเสิร์ฟให้แก่สมาชิกที่โต๊ะพอดี “หรือว่าผู้หญิงหน้าหวานๆ อย่างน้ำหวานไร้หัวใจเหมือนกันหมดทุกคน”
“อ้าว อย่าเหมารวมสิ” จอมนรีโวย “หวานกับก้อยก็เคยเตือนพี่วีแล้ว ว่ายัยขิงเน่านั่นน่ะมันไม่ได้จริงใจกับพี่วีหรอก มันหวังแต่เงินแล้วก็ข้าวของที่พี่วีซื้อให้เท่านั้นแหละ เพราะที่จริงมันชอบผู้ชาย หวานเคยเห็นเดินควงกับหนุ่มๆ ออกบ่อย”
“งั้นหวานมาคบกับพี่เอาไหม รับรองว่าต่อไปนี้พี่จะมีหวานแค่คนเดียว จะดูแลหวานเป็นอย่างดี หวานอยากได้อะไรพี่จะซื้อให้ทู้กอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น Coach Chanel Hermes บอกมาคำเดียว พี่เปย์ไม่อั้น” สาวหล่อที่ดื่มเหล้าเหมือนดื่มน้ำว่าพลางทำตาเชื่อม แถมยังกอดร่างบางในอ้อมแขนเสียแน่น
ด้วยความเมาทำให้จอมนรีเผลอยกแก้วค็อกเทลขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว กำลังจะตอบรับคำชวนของสุธาวีที่เสนอมาให้เหมือนที่คุยเย้าล้อเล่นกันเป็นประจำ ทว่ายังไม่ทันที่สาวเจ้าจะทันได้เอ่ยปาก เสียงห้วนห้าวของใครคนหนึ่งก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน
“น้ำหวาน!”
เสียงนั้นไม่ได้ทำให้เจ้าของชื่อหันไปมองเพียงคนเดียว ทว่ากลับเรียกให้สมาชิกร่วมโต๊ะอีกสี่คนที่เหลือหันไปมองที่มาของเสียงนั้นเป็นตาเดียว แล้วพอเห็นว่าชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ด้านหลังเป็นใคร จอมนรีก็ถึงกับต้องขยี้ตาแรงๆ เพราะคิดว่าบางทีเธออาจจะตาฝาดไป
ก็ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาคมคาย เรือนร่างสูงใหญ่สมส่วนที่กำลังทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าคนอยู่ตอนนี้ ถ้าไม่ใช่ ‘นายน้อย’ ของเธอแล้วจะเป็นใครไปได้
แต่เดี๋ยว บางทีเธออาจจะเมาจนตาพร่ามัว...
จอมนรีลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม แต่ด้วยความสูงที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา
“ทำไมหน้า...ถึงได้เหมือน...อีตานายน้อยจอมเผด็จการของฉันจัง” คนหน้าหวานที่กำลังเมาได้ที่เอ่ยเสียงอ้อแอ้พลางมองชายหนุ่มร่างสูงตาปริบๆ
อัศนีกัดฟันกรอดๆ ด้วยความโมโห เมื่อครู่ตอนที่เขาเดินผ่านโต๊ะนี้ไปเขาก็แค่รู้สึกว่าหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของสาวทอมผมสั้นคนนี้หน้าตาคุ้นๆ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่คิดว่าจอมนรีจะมาอยู่ที่นี่ได้ แต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจเลยพาพรไพลินไปส่งที่โต๊ะก่อนจะเดินกลับมาดูให้เห็นชัดๆ แล้วก็เห็นว่าสาวเจ้าคือยัยซาลาเปาของเขาจริงๆ
“คุณอัศนี” กนิษฐาเอ่ยเรียกอัศนี เธอมีโอกาสได้เจอชายหนุ่มเพราะสมัยที่ยังเรียนอยู่เขาเคยแวะไปหาจอมนรีที่มหาวิทยาลัยอยู่สองสามครั้งเลยทำให้รู้จักกันไปด้วย และเธอก็รู้ด้วยว่า พี่ชายของจอมนรีคนนี้ ‘หวง’ น้องสาวต่างสายเลือดของตัวเองขนาดไหน พอเห็นสายตาดุๆ ของคนที่กำลังจ้องหน้าเพื่อนกนิษฐาก็รีบบอก “คือวันนี้เป็นวันเกิดของก้อยน่ะค่ะ ก็เลยชวนเพื่อนๆ มาเลี้ยง”
“ยัยก้อย เพ้อเจ้อแล้ว อีตานายน้อยอยู่ปารีสโน่น จะมายืนหัวโด่อยู่นี่ได้ไง”
@@@@@@@@@@@
มาแล้วจ้าาาาาาาา
เรื่องนี้ใครยังไม่มี อย่าลืมไปโหลดอีบุ๊กกันนะจ๊ะ
โปรงามๆ แค่ 179 เท่าน้านนนนนนนนน
22 ตุลา แจกันจ้าาาาาาาา
ความคิดเห็น