ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อภิมหาสงครามสะท้านภพ ออนไลน์

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่7 สิ่งที่ต่งต้งไม่มีและสิ่งที่ชวี่สื่อมีแต่ไม่เห็นค่า

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 54


    หุบเขาโอสถเทพเป็นหุบเขาขนากใหญ่ปกคลุมด้วยต้นไม้สูงใหญ่ที่หนาทึบ ภายในเขาเต็มไปด้วยสมุนไพรมากมายแต่พวกผู้เล่นไม่นิยมมากนักเพราะว่าห่างไกลและไม่มีสิ่งที่ดึงดูดนั้นเอง กลุ่มของชวี่สื่อเดินทางรอนแรมมาถึงหุบเขาเทพโอสถจนได้กลังจากที่เดินเท้ามา3วันเต็ม
    “ถึงแล้ว...อาสุ่ยหลิง อาต่งต้งอั๊วว่าเราพักกันที่นี่ก่อนดีกว่า แล้วค่อยขึ้นเขาอาสุ่ยหลิงอีเหนื่อยมากแล้วให้อีพักหน่อยเถอะ”ชวี่สื่อพูดในขณะหอบแฮกๆ
    “ผมว่านะที่เหนื่อยนะชวี่สื่อมากกว่า ดูสิหอบซะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
    “เอาเถอะ ขอพัก10นาทีแล้วกันระหว่างนี้ใครจะไปทำอะไรก็ได้อั๊วนั่งพักแปปนึง”
    ต่งต้งกับสุ่ยหลิงพากันเดินไปสำรวจตีนเขาเพื่อเปิดทางขึ้นเขาจะได้ไม่ถูกสัตว์อสูรรบกวนตามทาง ส่วนชวี่สื่อนั้นยกดาบมุรามาซะขึ้นมาเพื่อตรวจสอบสถานะ
    ดาบมุรามาซะ
    ประวัติ – ดาบชั้นเยี่ยมที่ถูกตีขึ้นโดย มุรามาซะว่ากันว่าเป็นดาบปีศาจที่มีชื่อเสียงทัดเทียมกับดาบมาซามูเนะหากแต่ว่าผู้ที่ถือครองดาบมุรามาซะนั้นเลือดจะสูบฉีด จะกระหายที่จะสังหารส่วนดาบมาซามูเนะนั้นจะสงบนิ่ง ดาบมุรามาซะว่ากันว่าสามารถผ่าภูเขาสบั้นสายน้ำ ตัดอากาศได้ด้วยดาบเดียว
    ข้อมูลความสามารถ
    ดาบมุรามาซะ ระดับเทพกึ่งปีศาจ???
    พลังโจมตี 200-210
    -ได้รับทักษะติดตัว โลหิตเดือดสงผลให้ผู้เล่นพลังป้องกันและความทรหดเพิ่มขึ้นอีก10%
    -ได้รับทักษะเรียกใช้ ดาบผ่าวิญญาณ ปล่อยพลังออกจากดาบตามวิถีของคมดาบเงื่อนไขเสียพลังจิต100หน่วยทุกครั้งดีเลย์10วินาทีสามารถหน่วงเวลาเพื่อเพิ่มอานุภาพแต่เสียจิตเพิ่มวิละ10หน่วย
    “มุรามาซะ กระบี่เทพอสูรของอั๊วมีผู้อารักษ์ที่ชื่อลูซิเฟอร์ใช่มั้ยแล้วลื้อล่ะเป็นผู้อารักษ์รึปล่าว”ชวี่สื่อถามมุรามาซะ
    “ไม่ใช่ครับ เมอร์ลินและลูซิเฟอร์ถูกผนึกโดยเจ้าของอาวุธแต่ข้าผูกวิญญาณตัวเองเข้ากับดาบเล่มนี้โดยไม่สามารถถูกอัญเชิญหรือถูกปลดปล่อยได้เหมือนพวกเขา”มุรามาซะอธิบาย
    “แล้วลื้อจะผูกวิญญาณไว้ที่ดาบทำไม”
    “เพื่อความเป็นที่1ครับข้าต้องเป็นที่1”
    “ที่1ลื้อแข่งกับใครว่ะ”
    “นานมาแล้วสมัยที่ข้ายังมีชีวิต นามของข้าโด่งดังไปทั่วผู้คนกล่าวขานว่าข้าคือปีศาจร้ายที่มาพร้อมเงามรณะข้าหลงมัวเมาในสิ่งที่ผู้คนหวาดกลัวข้าทำให้ข้าเริ่มเที่ยวท้าดวลกับซามูไรหรือยอดฝีมือต่างๆจนไม่มีใครที่ข้าไม่สามารถสังหารยกเว้น...”
    “ยกเว้น...”ชวี่สื่อถ้วนคำพูด
    “ยกเว้น มาสามูเนะข้าไม่เคยเจอผู้ใดที่มีความเยือกเย็นดุจน้ำแข็งเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าข้า มาสามูเนะกับข้าดวลดาบกันถูก3วัน3คืนก็ไม่อาจหาผู้ชนะได้ดาบของเขาคมกริบและแข็งแกร่งเฉกเช่นดาบของข้าและจู่ๆมาสามูเนะก็พูดขึ้นว่า “เราทั้ง2ฝีมือเทียมกันไม่อาจหาผู้ชนะได้ดาบของพวกเราก็เช่นกัน เอาอย่างงี้ข้าว่าเราเอาดาบมาลงพื้นใต้ต้นไม้นี้และรอดูเวลาที่ใบไม้ล่วงหล่นลงมายงดาบของเรา” ใบไม้ใบแล้วใบเล่าที่สัมผัสคมดาบข้าต่างก็ขาดสบั้นข้าคิดในใจว่าต้องชนะแน่ แต่พอมองดาบของมาสามูเนะก็พบว่าใบไม้ที่ล่วงหล่นเข้ามาใกล้คมดาบก็ลอยหนีออกห่างจากคมดาบทุกใบ”
    “อ้าว...งั้นลื้อก็ชนะสิเพราะว่าดาบของมาสามูเนะไม่สามารถตัดใบไม้ได้เลย”
    “ไม่ครับ...ข้าแพ้มาสามูเนะเพราะว่าการที่ข้าเห็นดาบของเขาทำให้ข้าค้นพบสัจธรรมเข้า”
    “สัจธรรม!!!”
    “ใช่ครับ ดาบของข้ามีเพียงไว้เพื่อสังหารเท่านั้นแต่ดาบของมาสามูเนะนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อสังหารดาบเล่มนั้นมีไอสังหารลอยออกมาทำให้แม้แต่ใบไม้ที่ล่วงลงมายังต้องกลัวเกรงเพราะว่าดาบเล่มนี้ไม่ได้มีไว้สังหารแต่มีไว้เพื่อปกป้องตนเองและผู้อื่นเพื่อไม่ให้หลั่งเลือด”
    “อ๋อ...อย่างนี้นี้เองแสดงว่าที่ลื้อผูกวิญญาณก็เพื่อจะให้ดาบนี้มีไอสังหารใช่มั้ย”
    “ครับข้าไม่ต้องการให้ดาบเล่มนี้สังหารผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผลอีกต่อไปแล้ว”
    ในขณะนั้นเองสุ่ยหลิงและต่งต้งก็สำรวจเส้นทางเสร็จพอดี
    “ ชวี่สื่อผมสำรวจเส้นทางแล้ว ไม่มีสัตว์อสูรกวนใจเราแน่นอนใช่มั้ยครับสุ่ยหลิง”
    “ใช่ค่ะเดี๋ยวสุ่ยหลิงจะพาชวี่สื่อเดินไปเองนะค่ะ”
    พูดจบสุ่ยหลิงก็คล้องแขนชวี่สื่อและพาไปยังเส้นทางที่สำรวจโดยมีต่งต้งที่คิดว่าอยากจะมีคนที่เอาใจแบบนี้บ้างจังเดินตามหลังมาอยู่
    “ชวี่สื่อดูเหนี่อยนะค่ะ ทานน้ำมั้ย”
    “ไม่อั๊วไม่หิว”
    “ทานขนมมั้ยค่ะ จะได้ฟื้นพลังงานสะสมในร่างกาย”
    “ไม่เอา”
    “เหงื่อ ออกนี้ค่ะเดี๋ยวสุ่ยหลิงเช็ดให้นะค่ะ”
    “ไม่ต้องๆลื้อไปคุยกับอาต่งต้งเลย”
    ชวี่สื่อพูดกับสุ่ยหลิงอย่างเย็นชาไม่มีเยื่อใย สุ่ยหลิงเองก็ได้แต่น้อยใจเพราะคิดว่าตัวเองคงสวยไม่พอทำให้ชวี่สื่อไม่ปรายตามามองเธอเลยซักนิดเดียวเธอก็เลยได้แต่เก็บความรู้สึกที่ปวดร้าวไว้ในใจโดยที่ไม่บอกใครและฝืนใจเดินทางต่อ
    เดินไปได้ซักพักพวกของชวี่สื่อก็เดินมาถึงบ้านเก่าๆที่มีรั้วไม้ไผ่ล้อมเตี้ยๆและมีชายแก่นั่งโปรยอาหารให้ไก่อยู่บนแคร่ไม้
    “สวัสดีตาแก่ ของที่มาครบแล้วนะ”ชวี่สื่อและสุ่ยหลิงถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินคำทักทายของต่งต้ง
    “เจ้าบ้าเอ๊ย!!!บอกกี่ครั้งว่าอย่าเรียกตาแกตายซะเถอะ ลูกถีบพิฆาต”
    จู่ๆชายแก่ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงกระโดตัวลอยถีบต่งต้งกระเด็นไปหลายเมตรจนหมดความน่านับถือไปทันทีจากนั้นพอจัดการกับต่งต้งและส่งไปปรุงยาเสร็จแล้วตาแก่ก็เดินมาหาชวี่สื่อและสุ่ยหลิง
    “พวกท่านคงเหนื่อยสินะ เชิญๆเข้ามาพักในบ้านก่อนข้าชื่อว่า ท่านตาเซียนกระเรียนแดงมัวเมาพิโรธสวรรค์ถล่มนรกจิบสุราอมตะไม่มีวันแก่”
    “มิน่าหล่ะอาต่งต้งถึงเรียกnpcนี่ว่าตาแก่ชื่อยาวซะขนาดนั้น(เอาคำแรกและคำสุดท้ายมารวมกันก็จะได้คำว่าตาโดยต่งต้งไม่นับถือnpcคนนี้เลยไม่เรียกท่าน)”
    จากนั้นชวี่สื่อก็สนทนากับตาแก่อย่างถูกคอถึงขั้นดวลสุรากันด้วยส่วนสุ่ยหลิงก็ไปช่วยต่งต้งปรุงยาปล่อยให้ขี้เมาทั้ง2ดวลเหล่าจนหลับไปในที่สุด
    วัตถุดิบทั้งหมดถูกโยนลงไปในหม้อต้มยาขนาดใหญ่น้ำในหม้อถูกหาบมากจากบ่อน้ำแร่บนภูเขาซึ่งกว่าจะเต็มต่งต้งต้องหอบเลยทีเดียวโชคดีที่ได้สุ่ยหลิงมาช่วยหยิบของให้เลยทุ่นแรงได้เยอะเมื่อทำการทุกอย่างเสร็จก็เหลือแค่รอเวลาต่งต้งขี้เกียจมายืนกวนยาจึงได้ใช้เวทย์มนต์บังคับไม้ให้กวนแทนและหันไปคุยกับสุ่ยหลิง
    “สุ่ยหลิงเป็นเพื่อนในโลกภายนอกกับชวี่สื่อหรอครับเขาเป็นคนยังไงหรอ”
    “ชวี่สื่อเขาเป็นคนเปิ่นๆเซ่อๆแต่ก็น่ารักนะค่ะถึงแม้จะไม่ชอบฉันเท่าไหร่”
    “ทำไมชวี่สื่อเขาถึงไม่ชอบสุ่ยหลิงหล่ะครับ สุ่ยหลิงออกจากสวยขนาดนี้”
    “ชวี่สื่อเป็นคนที่ไม่ชอบผูกมัดค่ะ เขามักจะทำตามใจตัวเองเสมอถึงขั้นหนีออกจากบ้านมาทำงานที่กรุงเทพเลยเพราะเขาไม่อยากรับมรดกจากพ่อเขาและพ่อของเขากับพ่อของฉันได้มั้นหมายจะให้เราแต่งงานกันค่ะ ชวี่สื่อคงยังไม่พร้อมเลยเมินใส่ฉัน”สุ่ยหลิงพูดด้วยเสียงเศร้าๆเพราะว่าในใจเธอแอบชอบชวี่สื่ออยู่นั้นเอง
    “ชวี่สื่อนี้โชคดีนะครับที่มีสุ่ยหลิงอยู่ข้างกาย แต่ผมนี้สิเพื่อนก็ไม่มีถมไม่มีคนพิเศษที่ตามมาอยู่กับเราตลอดเวลาแบบนี้ด้วย”ต่งต้งพูดเสียงเศร้า
    สุ่ยหลิงเห็นต่งต้งเศร้าก็ก็เลยจะลุกขึ้นไปปลอบแต่เท้าเจ้ากรรมดันไปสะดุดหินทำให้หกล้มหน้าผากชนกันกับต่งต้งจนหน้าชิดกัน ต่งต้งสบตาสุ่ยหลิงอย่างไม่กระพริบในใจคิดว่าทำไมชวี่สื่อมีผู้หญิงที่สวยและจิตใจดีอย่างสุ่ยหลิงแต่ไม่สนใจพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้สุ่ยหลิงเรื่อยๆจนสุ่ยหลิงต้องถอยตัวออกห่าง
    “เอ่อ...สุ่ยหลิงไปปลุกชวี่สื่อดีกว่านะค่ะใกล้เช้าแล้ว”
    พูดจบสุ่ยหลิงก็รีบเดินออกไปจากห้องปรุงยาอย่างรวดเร็ว
     
     
     
     _________________________________________________________________________________________
    หมายเหตุ
    ไรเตอร์กลับไปอ่านเนื้อหาตอนแรกๆใหม่พบว่าชื่อตัวละครนั้นซ้ำกันโดยหลิงเอ๋อที่จริงชื่อว่า ฮวงหลงนะครับไม่ใช่สุ่ยหลิงไรเตอร์จะทำกรแก้ไขโดยด่วน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×