ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่5 เพื่อนใหม่่ที่ชื่อ ต่งต้ง
เกม อภิมหาสงครามสะท้านภพ เมืองเริ่มต้น บริเวณป่าลับต้องห้ามมีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งกำลังนั่งกุมขมับอยู่บนโขดหินโดยที่รอบข้างรายล้อมไปด้วยสัตว์อสูรหมาป่าทมิฬหลาย10ตัวที่กำลังจดจ่องเหยื่ออยู่
“โอ๊ย...ทำไมมันเป็นอย่างงี้เนี่ย ทำสูตรยาโอสถมังทองมันปรุงยากยังงี้เนี่ย”
ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังอ่านตำราปรุงยาอยู่นั้นหมาป่าทมิฬตัวหนึ่งก็กระโดดเข้าจู่โจทเขาทันที
“รำคาญเฟ้ย...”
ชายหนุ่มใช้มือปักหมาป่าทมิฬเลเวล40อย่างสบายๆแล้วอ่านหนังสือตำราปรุงยาต่อด้วยท่าทางจริงจัง หมาป่าที่เหลือทั้งหมดเริ่มจู่โจมชายหนุ่มอีกครั้ง
“โอ๊ย...พวกแกจะกวนฉันไปถึงไหนทนไม่ไหวแล้วเว้ย ทักษะลับ สรรพสิ่งสูญสิ้นระดับ1”
หมอกสีดำลอยออกมาจากร่างชายหนุ่มและเริ่มกินพื้นที่เริ่มๆทุกอย่างที่สัมผัสหมอกจะถูกละลายจนสิ้นซกไม้เว้นแม้แต่ต้นไม้หรือสิ่งมีชีวิตต่างๆหมอกนี้ครอบคลุมกว่า100เมตรเมื่อไม่มีสิ่งกวนใจแล้วชายหนุ่มก็อ่านหนังสือตำราปรุงยาต่อไป
“ถ้าเราหา ดีมังทอง กระดูกมังกรทอง โลหิตมังกรทองและหญ้าเซียนสีเขียว ไม่เจอมีหวังเราปรุงยาไม่ทันให้อาจารย์แน่เลย เดี๋ยวปรุงไม่ทันก็เอาไปขังไว้ในกรงสิงโตวายุ3หัวอีกหรอก เฮ้อ...สงสัยต้องลองไปที่สุสานมังกรซะแล้ว”
เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็ลุกขึ้นและมุงหน้าไปยังสุสานมังกร ซึ่งในขณะนั้นเองชวี่สื่อก็ออนไลน์พอดีแถมยังมีหมวยหรือสุ่ยหลิงที่เป็นชื่อในเกมตามมาด้วย
“ชวี่สื่อจะพาสุ่ยหลิงไปไหนค่ะ”
“อั๊วจะพาลื้อไปสุสานมังกรอั๊วมีธุระที่นั้นจะพาลื้อไปเก็บระดับด้วย จะได้เดินตามทางของตัวเองซะที”
เมื่อชวี่สื่อเดินทางไปถึงสุสานมังกรเขาก็จัดการสร้างปาตี้แบบเฉลี่ยค่าประสบการณ์ขึ้นแล้วก็พาสุ่ยหลิงไปเก็บระดับกับพวกมังกรหวงอมยิ้มที่ระดับไม่สู้มากนักถึงแม้ปาตี้จะเป็นแบบเฉลี่ยซึ่งถ้าชวี่สื่อจัดการสัตว์อสูรก็จะหารแบ่งให้สุ่ยหลิงได้เลย แต่ชวี่ไม่ทำเขาโจมตีมังกรหวงอมยิ้มเพียงแค่บาดเจ็บเจียนตายแล้วให้สุ่ยหลิงเป็นคนสังหารจากนั้นเมื่อระดับสุ่ยหลิงสูงขึ้นเรื่อยๆจนระดับ15ซึ่งเท่ากับมังกรหวงอมยิ้มชวี่สื่อก็ปล่อยให้สุ่ยหลิงเก็บระดับด้วยตัวเอง
“สุ่ยหลิงตอนนี้ระดับลื้อเท่ากับมังกรหวงอมยิ้มแล้ว อั๊วจะปล่อยให้ลื้อฝึกคนเดียวไปก่อนเพราะอั๊วจะไปทำธุระอีกไม่นานเดี๋ยวกับจำไว้นะมีเรื่องอะไรส่งสัญญาณปาตี้มาหาอั๊วทันที”
“ได้ค่ะสุ่ยหลิงจะฝึกรอที่นี้ ชวี่สื่อไปเถอะ”
“อ่า...มุรามาซะเดี๋ยวอั๊วจะพาลื้อไปเก็บวิญญาณต่อนะ ตอนนี้วิญญาณใกล้ครบรึยัง”
“ขาดอีก200กว่าดวงครับนายท่าน”มุรามาซะตอบ
“ฮ่อๆ...งั้นเดี๋ยววันนี้เราไปเก็บวิญญาณเลเวลสูงๆหน่อยดีกว่าซัก...เลเวล60ก็น่าจะโอเค เดี๋ยวตัวสุดท้ายอั๊วจะพาไปเก็บบอสมังกรทองด้านใน แต่ไม่ให้ลื้อดูดวิญญาณไปเลยนะอั๊วจะฆ่าดรอปของก่อน”
“ครับนายท่าน”
ชวี่สื่อและมุรามาซะมาบริเวณที่มังกรโลหิตกระดูกเหล็ก เลเวล60อาศัยอยู่แน่นอนคนฉลาดอย่างชวี่สื่อไม่ไปเสี่ยงเอาตัวเข้าล่อมังกรแน่ ชวี่สื่อจัดการขว้างดาบมุรามาซะไปยังกลางรังของมัน เมื่อเหล่ามังกรโลหิตกระดูกเหล็กเห็นดังนั้นก็เข้าโจมตีดาบมุรามาซะทันทีเพราะคิดว่าเป็นศัตรู ดาบมุรามาซะค่อยๆดูดกลืนวิญญาณของเหล่ามังกรโลหิตกระดูกเหล็กที่ละน้อยจนพวกมันล้มตายไปกว่าครึ่งแล้วแต่...จู่ๆก็มีหมอกสีดำลอยไปยังเหล่ามังกรจากนั้นเหล่ามังกรพวกนั้นก็อันตธานหายไป
“เฮ้ย...มังกรหายไปไหนว่ามุรามาซะยังดูดวิญญาณไม่เสร็จเลย”
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวจู่ๆก็มีชายหนุ่มหน้าตาดีกำลังอ่านหนังสืออยู่เดินเขามาแต่ที่น่าสังเกตคือหมอกสีดำที่สังหารมังกรเมื่อกี้ลอยอยู่ทั่วร่างของชายหนุ่ม
“เฮ้ย...ลื้อหน่ะทำไมทำให้มังกรหายไปว่ะ อั๊วกำลังทำภารกิจอยู่แท้ๆ”
“โอ้...ขอโทษจริงๆครับผมไม่นึกว่าหมอกมรณะของผมจะรบกวนคุณขนาดนี้เอาเป็นว่าผมจะช่วยคุณทำภารกิจแทนแล้วกันครับ”
“ก็ดี...ลื้อนี้ท่าทางเป็นคนดีเหมือนกันนะ ลื้อชื่อไรว่ะ”
“ตงฟางอู๋หย๋าครับ เรียกผมว่าตงก็ได้”
“อั๊วชื่อว่า ชวี่สื่อ เรียกลื้อว่าตงนี้มันดูเชยไปว่ะอั๊วขอตั้งชื่อให้ลื้อได้มั๊ย”
“ได้ครับ ผมไม่ใส่ใจชื่ออยู่แล้ว”
“งั้นอั๊วขอเรียกลื้อว่า ต่งต้ง แล้วกันมาโนเนะดี ลื้อช่วยอั๊วหาวิญญาณมาเซ่นดาบอั๊วหน่อยสิแต่เอาวิญญาณมังกรระดับสูงๆนะเอาซัก200กว่าดวงพอเพราะว่าดวงสุดท้ายอั๊วจะไปล่าบอสมังกรทองด้านใน”
“ว้าว...โชคดีจริงๆผมว่าจะไปล่ามังกรทองพอดี กำลังคิดๆอยู่เลยว่าจะไหวมั้ยเพราะว่ามันเลเวลตั้ง200คนสร้างเกมนี้โรคจิตใช่ได้เลยนะครับ สัตว์อสูรในสุสานมังกรทองที่ไม่ใช่บอสระดับสูงสุดก็แค่120เอง”
“ใช่ มันโรคจิตจริงแหละว่าแต่ลื้อจะไปล่อมังกรตัวไหนมาให้อั๊วหล่ะ”
“ถ้าเป็นวิญญาณของมังกรผมไม่มีหรอกครับและไม่อยากไปด้านมาด้วย พอดีผมมีศิลากลืนวิญญาณอยู่มันจะดูดวิญญาณของสัตว์อสูรที่ตายมาเก็บไว้หน่ะครับ ผมได้มาจากของขวัญผู้เล่นใหม่ลองให้ดาบคุณมาดูดวิญญาณในนี้ดูสิครับมันมีวิญญาณเลเวล50ขึ้นหลายดวงอยู่น่าจะประมาณ200ตัวเห็นจะได้นะ”
“ไอ้หย่า...แล้วงี้ลื้อเลเวลเท่าไหร่แล้วว่ะ”
“120ครับ”
“ทำไมมันน้อยจังว่ะ วิญญาณในนี้มีแต่เวลสูงๆทั้งนั้นเยไม่ใช่หรอ”
“อ๋อ...มันมาจากทักษะ สรรพสิ่งสูญสิ้นของผมครับ จะสลายสิ่งมีชีวิตที่สัมผัสหมอกนี้แต่จะไม่สามารถรับค่าประสบการณต่างๆหรือของจากสัตว์อสูรครับแถมมันยังฆ่าผู้เล่นไม่ได้ด้วย ผมเอาไว้เปิดทางหาที่อ่านหนังสือเฉยๆครับ”
“ข้อเสียเยอะเหมือนกันนะ เอ้า...มุรามาซะเอ๋ย...เลือกดูดวิญญาณตามใจชอบเลยแต่หยุดไว้แค่998ล่ะเก็บดวงสุดท้ายไว้ให้บอสมังกรทอง”
เมื่อมุรามาซะดูดวิญญาณจนได้998ดวงแล้วสนิมก็หายไปจนเกือบหมดเหลือที่ด้ามจับนิดหน่อย จากนั้นชวี่สื่อและต่งต้งก็เดินเข้าไปภายในสุสานมังกรทองใช้หมอกสีดำของต่งต้งเปิดทางจึงทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวก และพวกเขาก็เดินมาถึงห้องโถงขนาดใหญ่เพดานสูงประมาณ30เมตรภายในห้องมีมังกรจีนสีทองนอนขดตัวอยู่ตัวมันยาวประมาณ100เมตรเกล็ดที่น่าจะแข็งเหมือนทองของมันทำให้ชวี่สื่อและต่งต้งคิดหนัก
“เอาไง ลื้อพอมีวิธีมั้ย”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เพราะว่าผมเพื่อที่จะเอาชิ้นส่วนของมันมาปรุงยาเท่านั้นเอง”
“ลื้อได้อาชีพหมอหรอ”
“ปล่าวครับผมกำลังจะทำการเปลี่ยนอาชีพเป็น ปรจารย์โอสถเทพเป็นอาชีพลับหน่ะพวกนี้แตกต่างจากอาชีพหมอเพราะผมปรุงยาอย่างเดียวแต่ยาผมก็แตกต่างจากยาทั่วไปเพราะยาพวกนี้เป็นของวิเศษไม่มีขายในเกม”
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ มุรามาซะอั๊วใช้พลังวิญญาณในดาบได้ใช้มั้ย”
“เสียด้วยขอรับเมื่อวิญญาณครบ998ดวงทักษะนั้นจะไม่สามารถใช้ได้ แต่พอจะมีหนทางอยู่ในตัวนายท่านมีของวิเศษอยู่1อย่างและตัวของสหายท่านก็มีของวิเศษอีก1อย่างเช่นกัน”
“ลื้อหมายถึงกระบี่เทพอสูรของอั๊วกับไม้เท้าของอาต่งต้งหน่ะหรอ”
“นี้คือไม้เท้ากระดูกมังกรครับ”ต่งต้งบอกแก่ชวี่สื่อ
“แน่นอนครับว่า ของวิเศษย่อยมีสิ่งปกปักษ์รักษาขอเพียงนายท่านอัญเชิญพวกเขาออกมาก็น่าจะพอสูสีกับมังกรทองนะครับ”
“แล้วจะอัญเชิญยังไง”ชวี่สื่อถาม
“ต้องสังเวยโลหิตของพวกท่าน วิญญาณชั้นสูง7ดวง สื่อกลางที่ใช้สื่อสารซึ่งก็คือข้าครับ”
ชวี่สื่อและต่งต้งวางอาวุธของตนเองลงพื้นแล้วกรีดเลือดหยดลงไปจากนั้นก็ใช้ศิลากลืนวิญญาณเพื่อใช้สังเวยวิญญาณชั้นสูง7ดวงจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของมุรามาซะ
“ ในนามแห่งข้า มุรามาซะขออัญเชิญผู้อารักษ์แห่งของวิเศษทั้ง2สิ่งออกมาเพื่อสังหารมังกรเบื้องหน้านี้ด้วย”
สิ้นคำพูดของมุรามาซะก็ปรากฏชายหนุ่มผมสีเงินสวมเกราะสีแดงหน้าตาหล่อเหลาถือกระบี่เทพอสูรอยู่และชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมจอมเวทย์สีดำหน้าตาหล่อเหลาถือไท้เท้ากระดูกมังกรอยู่ทั้ง2คือผู้อารักษ์ของกระบี่เทพอสูรและไม้เท้ากระดูกมังกร
_________________________________________________________________________________________
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น