ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อภิมหาสงครามสะท้านภพ ออนไลน์

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 กระบี่เทพอสูรกับดาบปริศนา

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 54


    “นั้นไงครับลูกพี่ ไอ้หน้าตี๋ที่มันมาหาเรื่องผมมันมาแซงคิวผมหน้าด้านๆเลยแถมมันยังไม่กลัวพวกเราด้วยมะนบอกว่าลูกพี่เก๋าเจ๊งๆอะไรนี้แหละแถมมันยังบอกอีกว่าลูกพี่หน่ะสู้มันไม้ได้หรอก”บะหมี่ต้มยำเริมเป่าหูทันที
    “พูดดีๆนะเว้ยไอ้เก๋าเจ๊งข้าไม่เคยพูดถึงลูกพี่เอ็งซักแอะนึงเลย ที่เหลือเติมเองหมดเลยนี้หว่า*เฉินจิงปิ้งๆ”
    “เฮ้ย...จิงๆปิ้งๆอะไรข้าไม่สนเอ็งบังอาจว่าข้าเก๋าเจ๊งมันแปลว่าอะไร ถ้าไม่บอกเอ็งตายแน่...ไม่บอกหรอตายซะเถอะไอ้หน้าตี๋”บะหมี่เป็ดพะโล้พุ่งเข้ามาหาชวี่สื่อ
    “เก๋าเจ๊งเอ๊ย ตูยังไม่พูดซักคำมันก็วิ่งเข้ามาแล้วทำไงดีว่ะหลบไม่พ้นแน่เลย อั๊ก...”ชวี่สื่อโดนต่อยที่หน้าเข้าอย่างจัง
    “ฮ่า ฮ่า ฮ่าสมน้ำหน้าอยากซ่าดีนะ เป็นไงล่ะรู้พิษสงของท่านบะหมี่เป็ดพะโล้รึยัง”
    “แก...แกนะแก”สีหน้าของชวี่จื่อเริ่มเปลี่ยนไป
    “เป็นไรว่ะโมโหรึไง!!!”บะหมี่ต้มยำพูด
    “ไอ้พวก...เก๋าเจ๊งรับรองแกโดนดีแน่”ชวี่สื่อพูดเสียงดัง
    “ทำไมแกจะทำอะไรข้า”
    “จิตกระบี่!!!
    กระบี่5เล่มแยกออกจากกันแล้วลอยขึ้นไปในอากาศ เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งกับผู้เล่นคนอื่นเพราะไม่คิดว่าผู้เล่นใหม่จะมีทักษะแปลกๆแบบนี้ด้วย
    “โจมตี!!!
    กระบี่ทั้ง5ลอยออกไปพร้อมกันจุดมุ่งหมายคือบะหมี่เป็ดพะโล้และบะหมี่ต้มยำ กระบี่ที่คมกริบและรวดเร็วพุ่งไปยังบะหมี่เป็ดพะโล้เป็นคนแรก
    “อย่าให้ตาย...ทรมานมันก่อนแล้วค่อยเชือดคอหอยมันซะ”
    เมื่อกระบี่ได้รับคำสั่งพวกมันก็บินวนรอบบะหมี่เป็ดพะโล้จากนั้นกระบี่2ใน5ก็บินเข้าไปตัดเอ็นมือและเอ็นเท้าของบะหมี่เป็ดพะโล้ บะหมี่เป็ดพะโล้ร้องเสียงดังระงมกระบี่ที่เหลือเริ่มใช้คมของตัวเองกรีดไปตามร่างกายของบะหมี่เป็ดพระโล้อย่างช้าๆและค่อยๆกรีดลึกเข้าๆจนแทงไปถึงกระดูก
    “อ๊าก...ฆ่าฉันซะฆ่าฉัน ไอ้ต้มยำเอาดาบแทงฉันซะฉันทรมานเหลือเกิน”บะหมี่เป็ดพะโล้เริ่มสติเลื่อนลอย
    “ขอโทษนะลูกพี่ ย้าก...เคร้ง”เสียงกระบี่สกัดดาบของบะหมี่ต้มยำเอาไว้แล้วใช้คมจู่ที่คอหอยของบะหมี่ต้มยำ
    “ดูอยู่เงียบๆแล้วต่อไปจะถึงคิวแกเอง...กระบี่ตัดลิ้นมันซะจากนั้นก็แทงขั้วใจมันเลย!!!
    พวกกระบี่เหมือนจะรู้งานพวกมันแย่งกันตัดลิ้นของบะหมี่เป็ดพะโล้จนปากฉีกเลือดไหลทะลักเต็มไปหมดจนน่าสยดสยองจากนั้นคมกระบี่ก็แทงเข้าสู้หัวใจและตายลงไปในที่สุด เมื่อเห็นภาพที่สลดสยองบะหมี่ต้มยำก็เอาคอปาดใส่กระบี่จนขาดใจตายตามลูกพี่ไปในที่สุด
    “กระบี่กลับมา”
    จากนั้นกระบี่ทั้ง5ก็รวมกลับมาเป็น1เดียวอีกครั้ง เมื่อกระบี่กลับมาแล้วดูเหมือนว่าชวี่สื่อจะเหมือนตื่นจากฝันเขาจำอะไรแทบไม่ได้เลยจำได้แค่ว่าเขาอยากฆ่าพวกนั้นแค่นั้นเอง
    “ซี้แล้วๆ...อั๊วไม่รู้เรื่องนะไปก่อนนะ บ๊ายบาย”พูดจบชวี่สื่อก็เผ่นไปทันที
    “ผู้ชายหน้าตี๋คนนั้นเป็นใครกันนะ”ประสาสัมพันธ์สาวคิดจากนั้นก็ทำงานต่อ
    ชวี่สื่อวิ่งหนีได้ซักพักก็มาหยุดที่ลานน้ำพุกลางเมือง ชวี่สื่อนั่งลงยังม้านั่งและลองหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็พบว่าพวกมันทั้งกลุ่มมีค่าหัวกันหมดโดยเฉพาะเจ้าบะหมี่ต้มยำกับบะหมี่เป็ดพะโล้มีค่าหัวรวมกัน2000เงินหรือเท่ากับ2ทองเลยทีเดียวสำหรับผู้เล่นใหม่เงินจำนวนนี้ถือว่ามีค่ามหาศาลเลยทีเดียว
    “2000เงินหรอดีๆอั๊วจะไปขึ้นเงินแล้วไปซื้อชุดเท่ๆดีๆ(แต่ถูก)มาใส่อวดสาวๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่าว่าแต่ขึ้นเงินได้ที่ไหนว่ะสงสัยน่าจะเป็นอาคารตั้งค่าหัวตรงนั้นมั้ง ลองไปดูดีกว่า”
    อาคารตั้งค่าหัวเป็นอาคารสำหรับตั้งค่าหัวตามชื่อของอาคารโดยที่ผู้เล่นสามารถตั้งค่าหัวของผู้เล่นคนใดหรือแม้แต่ตัวเองก็ได้ โดยการตั้งค่าหัวแต่ละครั้งตั้งไม่ต่ำกว่า100เงินโดยระบบจะเก็บภาษีครั้งละ2%ของค่าหัวที่ตั้งไว้หากผู้เล่นที่ถูกตั้งค่าหัวไม่ตายภายในเวลาที่กำหนดจะได้รับเงินค่าหัวครึ่งหนึ่งของเงินค่าหัวทั้งหมด
    “ฮ่อๆ...สวัสดีครับผมมารับค่าหัวครับ”ชวี่สื่อพูด
    “กรุณาแจ้งชื่อมาด้วยครับ”พนักงานถาม
    “อืม...ชวี่สื่อครับ”
    “คุณชวี่สื่อได้รับค่าหัว2000เงินหรือเท่ากับ2ทองจากการสังหารผู้เล่น บะหมี่เป็ดพะโล้และบะหมี่ต้มยำดังนั้นคุณชวี่สื่อจึงไม่โดนติดชื่อแดงนะครับ”
    “แล้วชื่อแดงคืออะไรครับ”
    “ชื่อแดงคือ ผู้เล่นที่สังหารผู้เล่นที่ไม่มีความผิดหรือผู้เล่นที่ไม่มีค่าหัวหากมีชื่อแดงแล้วระบบจะตั้งค่าหัวอัตโนมัติทันทีแต่ไม่ต้องห่วงนะครับชื่อแดงสามารถล้างได้ด้วยการบำเพ็ญจิตสาธารณะเช่นการบริจาคเงินเข้าอาคารตั้งค่าหัวเป็นต้นครับ”
    “อ๋อ...หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองสินะพวกเฉินจิงปิ้ง”ชวี่สื่อคิด
    “ฮ่อๆ...ขอบคุณครับงั้นผมลาเลยนะครับ”
    พูดจบชวี่สื่อก็เดินจากไปพร้อมกับเงิน2000 ชวี่สื่อเลือกที่จะไปซื้อของที่ผู้เล่นวางขายกันเองเพราะว่าอาจจะเจอของดีและถูกมากกว่าที่จะไปซื้อของกับทางระบบที่มีแต่ของพื้นฐานราคาแพง
    “เร่เข้ามาครับๆเร่เข้ามา ชุดขุนนางบู๊ ระดับขุนนาง1ราคาถูกมีครบเชตเลยพี่น้องเอ๊ย”พ่อค้าคนหนึ่งตะโกนเรียกรู้ค้า
    “พี่ชาย..ชุดขุนนางบู๊มันดียังไงหรอ”ชวี่สื่อถาม
    “ก็พอใส่แล้วพลังป้องกันมันก็300กว่าๆนะแต่ถ้าน้องชายใส่ครบเชตน้องชายจะได้ทักษะลับติดตัวด้วยเป็นทักษะ บารมีแก่กล้าเพิ่มความน่าเชื่อถืออีก20%หรือพูดง่ายๆคือน้องชายจะหล่อขึ้นอีก20%
    “แล้วราคามันเท่าไหร่พี่ชาย”
    “กันเองครบเชตก็1000เงินแล้วกันนะ”
    “500เงินได้มั้ยพี่ชายผมไม่ค่อยมีตั้ง”
    “900ละกัน”
    “600”
    “800นะ”
    “700”
    “โอเค 700ก็ได้เห็นแกน่องชายที่สนใจหรอกนะพี่เลยลดให้ขนาดนี้”
    จากนั้นชวี่สื่อก็จ่ายไป700เงินแล้วขอเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องลองชุดชุดขุนนางบู๊เป็นชุดขุนนางสมัยโบราณสีดำขลิบทองมีมังกรทองสลักอยู่ด้านหลังดูแล้วมันก็ภูมิฐานอยู่หรอกแถมยังให้คนหน้าตาออกตี๋มาใส่อีกยิ่งดูเข้ากัน
    “ถ้าหลิงเอ๋อเห็นตี๋แต่งตัวแบบนี้ต้องมาขอตี๋เป็นแฟนแน่ๆเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
    หลังจากนั้นชวี่สื่อก็ตระเวนซื้อของอื่นๆอีกเช่น ม้วนคาถากลับเมือง ยาเลือด(แดง)ยาเพิ่มเวทย์(ยาฟ้า)ยาเพิ่มปราณ(ยาเหลือง)ยาเพิ่มจิต(ยาม่วง)ใช้เงินไปทั้งหมด1000เงินเหลืออีก300เงินไว้ยามฉุกเฉินเมื่อได้ของครบแล้วชวี่สื่อก็เริ่มคิดที่จะเก็บเลเวลซะทีชวี่สื่อเห็นชายชราในชุดคลุมขาดๆมีรอยปะเต็มไปหมดนั่งอยู่ข้างทางจึงเดินเข้าไปหา
    “นี่ๆท่านผู้เฒ่าทำไมมานั่งอยู่ที่นี้หล่ะ”
    “ขอเป็นเพียงขอทานน่าสังเวชคนหนึ่งเท่านั้น ขุนนางอย่างท่านอย่าได้ใส่ใจเลย”
    “คงเป็นเพราะว่าเห็นอั๊วใส่ชุดขุนนางสินะเลยไม่อยากยุ่งด้วย รึว่าท่านผู้เฒ่าจะเป็นNPCไม่แน่อั๊วอาจะได้เควสลับก็ได้”ชวี่สื่อคิด
    “ข้าเป็นเพียงขุนนางต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นเห็นท่านผู้เฒ่าแล้วน่าสงสารยิ่งนักหากไม่รักเกียจก็เอาเงินนี้ไปหาซื้อของกินเถอะ”พูดจบชวี่สื่อก็ยืน100เงินให้
    “ขอบคุณกับน้ำใจของท่านขอไม่มีสิ่งใดที่จะตอบแทนท่านแต่ข้าจะขอมอบสิ่งนี้ให้ท่านแล้วกันนะ”ขอทานชรายืนดาบเก่าๆสนิมจับเต็มไปหมดให้กับชวี่สื่อ
    “ของสิ่งนี้คืออะไรหรือท่าน”
    “ดาบ...ดาบอาถรรพ์ตอนนี้มันถูกปิดผนึกอยู่หากท่านต้องการเป็นนายของมันก็จงสังเวยเลือดของตัวเองและสิ่งมีวิตอื่นอีก999ชีวิตเมื่อนั้นท่านจะได้เป็นนายของดาบอาถรรพ์นี้ ข้า...เสร็จสิ้นหน้าที่แล้วข้าต้องไปแล้ว”พูดจบขอทานชราจะเดินจากไป
    “ดาบอาถรรพ์หรอดูยังไงก็ดาบเก่าสนิมจับอยู่ดีแหละ ช่างเถอะถือว่าทำบุญจะได้เกิดมาหล่อๆแบบนี้อีก”
    จากนั้นชวี่สื่อก็ได้ลองไปถามข้อมูลกับผู้เล่นอื่นๆว่าจะเก็บเลเวลที่ไหนจึงจะเลื่อนได้ไวที่สุดและก็ได้คำตอบที่ตรงกันว่าผู้เล่นระดับต้นต้องไปเก็บเลเวลที่สุสานมังกรสัตว์อสูรที่นั้นระดับเฉลี่ยที่10-20เมื่อได้ข้อมูลแล้วชวี่สื่อก็เริ่มออกเดินทางการเดินทางนั้นผ่านป่ากระดูครวญซึ่งสำหรับผู้เล่นระดับ1นั้นการจะผ่านป่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยเพราะขาใหญ่ประจ่าคือผีโครงกระดูกจำนวนหลายพันตัว
    “เก๋าเจ๊งเอ๊ย...มีผีโครงกระดูกก็ไม่บอกพวกนี้อึดเป็นบ้าเลย”
    “200”
    “190”
    ตัวเลขค่าโจมตีของกระบี่เทพอสูรครั้งละ200ลอยขึ้นมาเรื่อยๆ1ตัวเฉลี่ยชวี่สื่อต้องโจมตีประมาณ10-13ทีซึ่งการโจมตีแต่ละครั้งต้องอาศัยเวลาในการหลบการโจมตีของผีโครงกระดูกด้วยจนเวลาผ่านไป30นาทีชวี่สื่อก็สามารถเปิดทางไปยังกลางป่าได้เพราะว่าเลเวลเพิ่มขึ้นจาก1ไป15เพราะว่าผีโครงกระดูกนั้นระดับสูงกว่าชวี่สื่อนั้นเองทำให้การเดินทางเข้าไปยังใจกลางป่าช่วงหลังง่ายและสะดวกขึ้น
    “อ่า...เลเวล15แล้วค่อยสบายขึ้นหน่อยไอ้พวกผีผีโครงกระดูกนี้เลเวลสูงตายฉิบมิน่าหล่ะถึงบอกว่าเวล1ถ้ารอดอยู่ในป่านี้ได้ซัก30นาทีเลเวลก็จะขึ้นพรวดพลาดแต่ถ้าอั๊วตายไปมันก็ลดฮวบฮาบเหมือนกันเลเวลหน่ะ”
    “แฮ่...”ผีโครงกระดูกตัวหนึ่งเดินเข้ามาหาชวี่สื่อ
    “โอ๊ย...เก๋าเจ๊งเอ๊ยไม่คิดจะให้อั๊วหายใจบ้างเลยรึไงจิตกระบี่”
    กระบี่5เล่มลอยเข้าจู่โจมผีโครงกระดูกกระบี่ที่แสนคมเข้าเชือนกระดูกอย่างไม่ลดละพวกมันไม่เลือกที่จะโจมตีใส่กระดูกโดยตรงแต่เลือกที่จะโจมตีข้อต่อต่างๆของกระดูกแทน
    “กระบี่พวกนี้มีความคิด”ชวี่สื่อพูด
    เพียงเวลาไม่นานกระบี่ทั้ง5ก็สามารถจัดการผีโครงกระดูกลงได้และทันทีที่ผีโครงกระดูกล้มลงชวี่สื่อก็สังเกตเห็นไอวิญญาณลอยมาที่ดาบสนิมจับที่ขอทานชราให้มาแล้วก็หายเข้าไปในดาบ
    “จริงสิขอทานชราบอกว่าต้องสังเวยเลือดเรากับวิญญาณอีก999ดวงนิตอนนี้เราสังหารไปกี่ตัวแล้วนะ...ช่างเถอะถึงเวลาค่อยดูก็ได้ยังไงก็ต้องไปเก็บเลเวลก่อน”
    ที่จริงชวี่สื่อไม่ทันสังเกตว่าทุกครั้งที่ไอวิญญาณเข้ามาในดาบสนิมที่เกาะจะหายไปทำให้เริ่มปรากฏคมดาบขึ้นยิ่งไอวิญญาณกล้าแกร่งก็ยิ่งทำให้ดาบมีอานุภาพมากขึ้นดังนั้นถ้าหากชวี่สื่อไปเก็บวิญญาณของสัตว์อสูรระดับต่ำมาก็จะทำให้อานุภาพของดาบลดลงด้วย แต่ชวี่สื่อหารู้ไม่เขายังคงใช้กระบี่เปิดทางและร้องเพลงไปเรื่อยๆ
    “ผมชื่อว่าอาตี๋....เกิดมาผมก็เป็นแบบนี้  ผมชื่อว่าอาตี๋....บ้านผมรักอาตี๋ทุกคนเลย คุณชื่ออะไรนะอา...อา... มีแฟนรึว่ายังไม่มี คุณชื่ออะไรนะอา..อา..มีแฟนชื่ออาตี๋จะดีมั้ยเอ่ย โปรดพิจารณาผู้ชายอย่างผมชื่อ อาตี๋...อี..อี ชื่ออาตี๋”
    ชวี่สื่อยังคงแหกปากร้องเพลงบ้าบอคอแตกของเขาไปเรื่อยจนแทบไม่มีผีโครงกระดูกตัวไหนอยากจะเข้าใกล้เขาแล้วด้วยซ้ำ
    “ผู้เล่น ชวี่สื่อ ทักษะ จิตกระบี่สังหารเลื่อนเป็นระดับ2ค่ะ”
    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า โชคดีจริงๆคนหล่อมักโชคดียังงี้แหละยังงี้ต้องจัดเต็มอีกซัก2เพลง”

    ________________________________________________________________________________________________________
    *เฉินจิงปิ้ง แปลว่า นิสัยไม่ดี นะครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×