ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เบื่อจริง...พวกห้อง 1

    ลำดับตอนที่ #2 : เพื่อนเก่าและใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 47


                     แล้ววันนี้ก็หมดไป ผมกลับบ้านมาด้วยความรู้สึกว่าเรายังไม่ใช่ส่วนหนึ่งของที่นี่ และคงยากที่จะเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา เด็กที่หน้าตาพอดูได้ กับหัวสมองที่ถูๆไถๆ เข้ามาเรียนได้ด้วยโชค (ไม่รู้ว่าดีหรือร้าย) แล้วอย่างงี้ ผมจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปดีเนี่ยะ จะอยู่ต่อได้ไหมอีก



        คงมีไม่น้อยที่เป็นเด็กห้อง 1 ที่คอยคัดค้านสิ่งที่ผมกำลังเขียนอยู่นี้ แต่ก็อย่างที่บอกนี่เป็นจินตนาการและความจริงที่พบเจอมากับตัว และเสริมแต่งขึ้นมาเพื่อให้เรื่องดำเนินต่อไปได้เท่านั้นเอง เอาหละ เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว

        วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมเบื่อมากอีกวัน อาจสงสัยกันว่าทำไมผมถึงเบื่ออีกแหละ เป็นโรคจิตอ่อนๆ หรือเปล่า หรือว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นเข้ามาในชีวิต วันๆหนึ่งถึงได้เบื่อมากมายขนาดนี้ ขอโทษครับ ที่คุณคิดผิดถนัดเพราะแต่ละวันของผมที่ผ่านมามันช่างดีและมีความสุขมากๆ จนพบได้มาอยู่ห้องนี้หละครับ

        “อะไรนะ มันไม่ชอบหน้า กู เหรอ  ทำไมอ่ะ มิน่าถึงไม่ค่อยพูดกับเรา” ผมถามขึ้นหลังจากที่ฉิมพลี  มาบอกกับผมว่าเด็กใหม่ที่มาจากอีกโรงเรียน ไม่พูดกับผมเลย

        “จริงดิ มันว่า แกไปล้อมันว่า  จ๊ะเอ๋  มันไม่ชอบก็เลยไม่พูดด้วย” ฉิมพลีอธิบายให้ฟัง สำหรับฉิมพลีเป็นเพื่อนที่เรียนห้อง 2 มาด้วยกัน ตอนนี้พวกเราก็จะสนิทกันเฉพาะเด็กที่มาจากห้องอื่น ที่พลัดพลูมาอยู่ห้อง 1 นี่แหละ สำหรับผมที่เป็นคนร่าเริง จึงค่อนข้างคบกับคนได้ง่ายและใช้เวลารวดเร็วในการทำความรู้จัก แม้บางคนผมจะไม่ชอบเลยก็ตาม แต่ไหนๆ ก็อยู่ห้องเดียวกันแล้ว จะให้ลุกขึ้นไปชกหน้าเขา ก็ผิดวิสัยอยู่ ใช่ม๊ะ

        หลังจากที่ผมรู้ความตริงเรื่องนี้แรกๆ ผมก็พยายามเข้าไปคุยกับเขา เผื่อเขาจะคุยด้วย แต่รู้ไหมว่า เขาก้ยังไม่พูดกับผมเลย ผมก็เลย ช่างเฮอะ ถ้าเขาอยากพูดก็คงจะพูดกับเราเองนั่นแหละ

        





         “๑๑ฉิมพลี๑๑  เสียงแหบ เอกลักษณ์ของเขา การร้องเพลงที่ตกคีย์ เป็นอีกสิ่งที่ที่จำได้ กับร่างกายที่ผอมกะหร่อง ทานได้เฉพาะไส้กรอก และไข่ดาว”

        “๑๑จ๊ะเอ๋๑๑ หนุ่มขาวตี๋ (ตัวจริง) เงียบ เรียบร้อย ที่ใครต่อใครอยากได้เป็นแฟน หัวกะทิอีกคนในห้อง”




        อีก 3 วันก็จะถึงวันไหว้ครูอีกแล้วหละ  เพราะฉะนั้นมันคงเป็นประเพณีแล้วมั้งที่จะต้องเลือกคนถือพานไหว้ครู ชาย- หญิง นี่ก็เป็นธรรมเนียมประหลาดอีกเหมือนกัน ที่จะต้องเลือกคนหน้าตาดี หรือไม่ก็เป็นหัวหน้าห้องไปเป็นตัวแทนถือพาน ทำไมน้า...  ถึงไม่เลือกไอ้พวกขี้เหร่ หรือพวกฉลาดไม่มากไปถือบ้าง ไม่ว่าจะกี่ปี กี่ปี ทุกอย่างก็เป็นอย่างนี้ไปหมด

        “เอาหละ อีก 3 วันก็จะถึงวันไหว้ครูแล้วนะ เรามาเลือกคนถือพานกันดีกว่า ว่าจะเอาใครดี” เสียงของเจ๊กั๊ก คนเดิมยังแจ้วๆ มาตลอด จนผมเคยคิดว่าถ้าวันนึงเธอพูดไม่ได้ขึ้นมาเธอจะเป็นอย่างไรนะ โลกจะเงียบไปเลยไหมหว่า

        “ผู้ชาย ก็มี จะเอ๋ กับ เก็ก  ส่วนผู้หญิง ก็มีมัจ กับ อ้อ เอาหละตอนนี้เพื่อนๆ ช่วยกันโหวตหน่อยนะค่ะว่าจะเลือกใครดี” เจ๊กั๊กพูดขึ้นหลังจากที่ ถามเพื่อนอยู่ช่วงหนึ่ง  สำหรับคนที่ได้ถือพาน ก็คือ จะเอ๋ และ เจ๊มัจ งานนี้โผไม่พลิกเหมือนงานประกาศรางวัล เช่นกัน เพราะแค่มองก็รู้แล้วหละ ก็ที่ห้องมันไม่ค่อยมีพวกหน้าตาดีๆ เท่าไหร่ มีแต่ไอ้พวกหูดำดำ ทั้งนั้น  

        “ตอนนี้เราต้องมาแบ่งคนช่วยกันทำงานแล้วนะ เพราะเราต้องทำพาน 2 พาน และปีนี้มีประกวดพานด้วยทั้งประเภทสวยงามและสร้างสรรค์ ยังไงเราอยากให้เพื่อนๆ ช่วยกันทำนะ” กระบอกเสียงคนเดิมพูดขึ้นมาอีกครั้ง

        สำหรับผม ด้วยความที่หัวศิลปะไม่มีอยู่กับเขาเลย เลยต้องใช้แรงกายแทน ไปขุดดินเหนียวที่หลังรงเรียนแทน จากนั้นก็ไม่ค่อยช่วยอะไรเขาทำหรอก นั่งเล่น แกล้งเพื่อนๆ เขาไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้หลายอย่างในความคิดของผมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปแล้วหละ เพราะผมไม่นึกเลยว่าไอ้พวกที่ผมเบื่อมันสุดๆ เนี่ยะ มันจะทำงานเยอะขนาดนี้ แถมทำเยอะกว่าผมอีกด้วยซ้ำ  ในคืนก่อนไหว้ครูเรากลับกันเกือบเที่ยงคืน แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังนั่งทำต่อไป สำหรับผมขอตัวกลับบ้านก่อนดีกว่า เพราะบ้านที่แสนไกลของผมป่านนี้จะรอผมอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้  นั่นคือข้ออ้างของผมเองหละครับ ว่าไปผมนี่ก็น่าเบื่อตัวเองเหมือนกันนะเนี่ยะ

        วันไหว้ครู ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่สุดท้าย พานของห้องเรา ที่ว่าสวย แต่พอไปเทียบกับห้อง อื่นๆ เราก็ธรรมดาไปเลย สรุปว่า แห้วรับประทาน ไม่ได้อะไรกลับมาเลย แต่ก็ทำให้พวกเราเริ่มทำงานร่วมกันเป็นทีมแล้วหละ



        ที่อ่านมาอาจจะสงสัยว่าเออแล้วผมจะไปเบื่อพวกเขาทำไมเหรอ ทั้งที่เขาดีกับผมแบบนี้ แต่ขอโทษครับ ความเบื่อไม่เข้าใครออกใคร ถึงแม้ว่าหลายคนจะดีกับผม แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่ชอบหน้าผม หรือเอาง่ายๆ ผมไม่ชอบขี้หน้าเขาก็ได้อ่ะครับ ไม่ใช่ผมเป็นคนชอบหาเรื่องคนอื่นนะ แต่มันมีเรื่องมาหาผมเอง





        “อะไรกัน จะจับบัดดี้ ปีใหม่ กันเหรอ” อ้อ เพื่อนที่มาจากห้องเดียวกับผมพูดขึ้น หลังจากที่พวกเรา 5 คน คือ ผม ดาว อ้อ ฉิมพลี และตั๊กมานั่งรวมกัน พวกเรามักจะคุยด้วยกันบ่อย เพราะเรามาจากห้องเดียวกัน

        

        “๑๑อ้อ๑๑ สาวร่างโปร่ง นักวอลเล่ย์บอลโรงเรียน ถือว่าเป็นดาวอีกคนของห้อง”



        “งบตั้ง 500 บาท แพงโค-รเลย แกจะเอาเหรอฉันนะไม่อยากเลย ไหนจะต้องซื้อของให้ในระหว่างใบ้เทคอีก ตายน่ๆเลย” ฉิมพลีพูดขึ้น ซึ่งเราทุกคนก็เข้าใจ เพราะก็ประสบปัญหาถังแตกเหมือนๆ กัน

        “เอ้อ แต่ใครจะไปเถียงเขาหละ เจ๊มัทนะ รู้ก็รู้นิ ถ้ามีเรื่องด้วย ไม่สงบสุขแน่ๆ เลย” ดาวพูดขึ้นมาบ้าง

        แล้วการคุยของเราก็จบลงทันที หลังจากที่คนที่เราพูดถึงเดินเข้ามา ตอนนี้ทุกคนเดินเข้ามาแล้วหลังจากไปกินข้าวกันมาเรียบร้อย เมื่อทุกคนมาพร้อมกัน เจ๊กกก็เริ่มพูดถึงเรื่องจับบัดดี้ปีใหม่ทันที ซึ่งก็มีหลายคนที่ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะอีวิท ที่วีนเรื่องนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถคัดค้านเรื่องนี้ได้ เนื่องจาก 1 เสียง สู้ 1 กลุ่มไม่ได้ แถมเป็นกลุ่มสำคัญของห้องอีกด้วยทั้งเด็กเรียนเด็กกิจกรรมอยู่กลุ่มนี้ทั้งนั้น แม้จะเป็นหัวหน้าห้อง แต่พวกเราก็ดูออก ว่าก็แค่หุ่นเชิด กับขี้ข้าเท่านั้นแหละ

        นี่จึงเป็นอีกเรื่องมี่สุดแสนจะน่าเบื่อ กับอำนาจที่กุมไว้ในคนเพียงกลุ่มเดียว ถ้าพูดถึงกลุ่มนี้แล้วจะไม่พูดถึงคนอื่นๆ ได้อย่างไรหละ



        “๑๑แฟร์๑๑ ลูกอาจารย์ ที่คุณแม่สุดหวง มีแต่คนเอาใจ สามารถเข้านอกออกในในห้องกิจการนิสิต ได้อย่างสบาย”

        “๑๑ต่อหญิง๑๑ สตรีที่มักชมตัวเองตลอดเวลาในเรื่องของความสวย มีความสามารถในการแสดงล้มเปี่ยม  เป็นที่รักของอาจารย์แทบทุกคน”


        

        นับรวมเจ๊กั๊ก และ เจ๊มัจเข้าไปอีก กลุ่มนี้ก็เหมือนยึดครองอำนาจเบ็ดเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ดีของพวกเขาก็ยังมีแต่จะเป็นอะไรก็เดี๋ยวลองอ่านต่อไปเรื่อยๆ แล้วกัน

    เหตุการณ์ต่างๆ เข้ามาในชีวิตของพวกเรามากขึ้น ทั้งเรื่องเรียนและกิจกรรม หลายคนไม่คิดหรอกว่า เด็กห้องหนึ่งจะเป็นห้องที่เป็นนักกิจกรรมตัวยง เพราะกิจกรรมต่างๆ แทบจะเรียกได้ว่า เหมามาทำซะหมดเลยก็ว่าได้ วันนี้ก็เหมือนกัน กิจกรรมวันภาษาไทย ช่างเป็นอะไรที่สับสนวุ่นวายซะเหลือเกิน

                    “เฮ้ย ทำไงดีว่ะ บทหมาป่าบ้ากาม ยังไม่มีใครยอมเล่นเลย พรุ่งนี้ก็เริ่มซ้อมบทกันแล้ว นี่จะเอาใครมาเป็นดีว่ะ”เสียงไอ้จุ๊ก ดังขึ้นมา หลังจากที่พวกเรานั่งรวมกันอยู่ที่ห้องเรียน

                    “อ้าว ไอ้วายไง เหมาะจะตาย มันไม่ยอมเล่นให้เหรอ” เสียงต่อชายดังขึ้นมา

                    “เออดิ มันบอกเสียภาพพจน์มันหมด กูนิไม่รู้จะทำอย่างไรดีเลย” ไอ้จุ๊กยังคงบ่นพึมพันของมันไปเรื่อยๆ จนมีเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมา

                    “เออ เดี๋ยวกูไปบอกมันเอง ยังไงมันก็เล่นให้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เอาบทมาดิ เดี๋ยวกูจัดการเอง” ต่อชายพูดขึ้น พร้อมกับมาเอาบทที่ไอ้จุ๊ก เดินไปคุยกับไอ้วาย ทันที พวกเราก็นั่งอยู่ในห้องแป๊บนึง ต่อชายก็เดินเข้ามาพร้อมกับแสดงท่าทางที่เราเข้าใจกันได้ว่า ไอ้วายยอมเล่นแล้ว แต่พวกเราก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมมันถึงยอมเลยแอบไปถามต่อชายทีหลัง ซึ่งก็พบว่าแลกกับเบอร์น้องฟ้า เด็กที่มันกำลังตามจีบอยู่นั่นเอง



                   “๑๑ไอ้วาย๑๑ หนุ่มตาคม ที่ชีวิตมีแต่เรื่องเพศเข้ามาในชีวิต บ้าเกมส์สุดๆ สามารถเล่นได้ทั้งวันทั้งคืน”

                  “๑๑ต่อชาย๑๑ หนุ่มตัวล่ำ ไม่สูงมากนัก เห็นเพื่อนสำคัญในชีวิต เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเพื่อนๆ ในเวลาที่มีปัญหา”




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×