ตอนที่ 53 : -18-
แพขนตาหนาปรือขึ้นเมื่อได้รับสัมผัสแผ่วเบาที่หน้าผากและพวงแก้ม อึนฮยอกกระพริบตาปริบๆเมื่อสบกับรอยยิ้มของอีกคน คิบอมไล้หลังมือกับแก้มเนียนที่แดงก่ำพร้อมถามเสียงนุ่ม
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
อึนฮยอกแก้มร้อนวาบเมื่อเห็นอีกคนยังเปลือยเปล่าพร้อมทั้งตัวเขา ร่างบางมุดหน้าเข้ากับหมอนพร้อมพยักหน้ารับ คิบอมหัวเราะก่อนจะดึงอีกคนมาโอบกอดไว้ทั้งตัว ไล้ริมฝีปากตรงบ่าบอบบางซึ่งมีร่องรอยของเขาอยู่เต็มไปหมด
“อย่าฮะ...”ร่างบางหดคอด้วยความจั๊กจี้ เอ่ยเสียงรัวเร็วเหมือนกลัวว่าจะถูกรังแกอีกรอบ “...เรารีบไปบริษัทกันจะดีกว่านะฮะ”
คิบอมที่กำลังกอดฟัดร่างนุ่มๆนั่นอยู่ชะงักการทำ ชักสีหน้าเหมือนเด็กขัดใจหากก็ยอมปล่อยอีกคนแต่โดยดี อึนฮยอกถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างโล่งอก ก่อนจะชะงักกึกเมื่ออีกคนดึงเขาเข้าไปเผชิญหน้า คิบอมกดจูบที่เรียวปากนิ่มที่ยังคงแดงเรื่อนั่น
“เมื่อคืนผมไม่กล้าหลับเลยรู้มั้ย...”คำถามนุ่มนวล พร้อมประเคนจูบอ่อนหวานตามมาติดๆ “...ผมกลัวว่าคุณจะหายไปอีกเหมือนเมื่อห้าปีก่อน”
อึนฮยอกชะงัก สบดวงตาสีดำขลับที่เว้าวอนแทบขาดใจของอีกคน คิบอมเอ่ยเสียงอ้อนวอนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
“ได้โปรด...อย่าหายไปอีกนะครับ”
“...”
คนตัวบางเม้มปากแน่น ตัวเขาน่ะตั้งใจจะไปทันทีที่อี ฮยอกแจกลับมาด้วยซ้ำ เรื่องเมื่อคืนมันเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เพราะยังรักกันมาก...ใช่ เขายังรักคิบอมมากเลยเผลอในมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่มีผลกระทบยาวนาน อึนฮยอกคิดว่านั่นคือฝันดี...
...แต่ยังไงคนตรงหน้าก็เป็นผู้ชายของพี่ เป็นผู้ชายของอี ฮยอกแจและไม่มีวันเป็นผู้ชายของอี อึนฮยอกได้ เขาหลุบตาลงต่ำหากก็โดนอีกคนประคองหน้าขึ้นมาสบตาอีกครั้ง ความหวาดกลัวนั่นเห็นได้ชัดเพราะเป็นช่วงเวลากลางวันและอยู่ใกล้กันระยะประชิด
“ครับ”ยิ้มจางๆออกมาให้อีกคนคลายกังวล แต่ในใจนี่สิที่ค้านออกมาเสียงดังลั่น “...ผมจะอยู่กับคุณ”
คิบอมยิ้มกว้าง ดึงอีกคนเข้ามากอดอีกครั้ง เหมือนของรักที่หายไปนานได้กลับคืนมาแล้ว อยากจะถนอมเอาไว้อย่างดี ไม่อยากให้บุบสลายหรือสูญหายไปอีก กอดไว้แน่นจนอึนฮยอกรู้สึกว่าได้ยินเสียงหัวใจของร่างสูง
“ผมรักคุณมากนะ...อึนฮยอก”
เจ้าของชื่อพยักหน้ารับทั้งๆที่หัวตาร้อนผ่าว ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกช้อนร่างขึ้นมาจากเตียง คิบอมเอ่ยออกมาเสียงร่าเริง
“งั้นเราไปอาบน้ำกันเถอะนะ”
“ไม่เอาหรอก!! เดี๋ยวคุณแกล้งผมอ่ะ!!”
ร้องเสียงหลง หากสุดท้ายสองร่างก็ลับหายเข้าไปในห้องน้ำ เสียงโวยวายผสานเสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่เสียงครวญครางจะตามมาต่อจากนั้น
**
เราไม่มองหน้ากันอีกเลยนับจากจูบกันเมื่อคืนนี้...
ความจริงแล้วอี ฮยอกแจกำลังคิดว่าเขาไม่สมควรเป็นแบบนี้ แค่จูบเดียว...เขาเคยจูบกับซีวอนตั้งหลายครั้งแม้มันจะผ่านมานานแล้ว เคย...ขนาดเกินเลยกันบนเตียงด้วยซ้ำ แม้อันหลังนี่จะเป็นความไม่เต็มใจของเขาก็เถอะ แต่ถึงอย่างนั้น...คนที่ชาชินกับการจูบแบบอี ฮยอกแจก็ไม่สมควรคิดมากที่จะจูบกับผู้ชายคนเก่าแม้ว่านั่นจะเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งในชีวิตของเขาก็ตาม
ไม่สิ...คิดมากเหรอ ไม่มีทางที่อี ฮยอกแจจะเอาสัมผัสของคนที่เคยดูถูกอย่างชเว ซีวอนมาครุ่นคิดให้เสียเวลาอยู่แล้ว แต่ที่น่าเจ็บใจคือเขาต่อต้านได้น้อยมาก เพราะอะไรล่ะ...ถ้าเป็นเพราะบุหรี่ในมือฮยอกแจจะทิ้งขว้างมันไปแล้วเลิกสูบโดยเด็ดขาด อาจจะเป็นสภาวะทางอารมณ์ก็ได้...ต้องใช่แน่ๆล่ะ
แต่ที่น่าแปลกคือซีวอนเองก็พาลไม่มองหน้าเขาไปด้วย ขณะที่คยูฮยอนเขม่นเขายิ่งกว่าเดิมเสียอีก คาดว่าคงเห็นเขากับซีวอนจูบกันที่สวนเมื่อคืนกระมัง เพราะท่าทางบุตรบุญธรรมตระกูลชเวจะงอนค้อนพี่ชายตัวเองด้วย
มันก็แค่จูบน่า...
อี ฮยอกแจคว้าเอาผ้าขนหนูมาพันตัวส่วนล่าง ทาบทับด้วยผ้าคลุมอาบน้ำอีกชั้นหนึ่ง เดินออกมาจากห้องน้ำมาเปลี่ยนเป็นชุดนอน เตรียมตัวนอนเต็มที่ในคืนนี้ ร่างบางเอาผ้าขนหนูขยี้เส้นผมที่เปียกลู่ เปิดทีวีดูข่าวเศรษฐกิจ...โรสมาร์คกำลังชลอตัว ขณะที่ไลอ้อนจิวเวอร์รี่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ เห็นข่าวแบบนี้แล้วอดที่จะรู้สึกหงุดหงิดในใจไม่ได้ หรือไอ้ที่ชเว ซีวอนมันกักตัวเขาเอาไว้เพื่อช่วยเขาหรือเพราะไม่อยากให้เขากลับไปบริหารโรสมาร์คมาแข่งกันมันกันแน่วะ
แหงเลย...ฮยอกแจสาปส่งเจ้าของบ้านที่เขาอาศัยอยู่อีกรอบหนึ่ง อึนฮยอกขึ้นแท่นประธานบริหารโรสมาร์คแทนพี่ชายที่หายไปไหนเลยจะทำอะไรเป็น ถึงข้างกายจะมีทั้งคิบอมและทงเฮก็เถอะ แต่โครงการหลายๆอย่างเขาเป็นคนคิดสรรค์ และดำเนินงานด้วยตัวเองมาได้สักพัก ก่อนจะถูกจับและจับพลัดจับผลูมาอยู่บ้านชเว ซีวอน ซึ่งมันก็ถูกปล่อยร้างเพราะคนอื่นนอกจากเขาคิดวิธีสานต่อไม่ออก ถึงอี ฮยอนซูจะมาอยู่ที่เกาหลี แต่ขอโทษเถอะ...ตาแก่นั่นอายุสักเท่าไหร่กัน ให้มานั่งบริหารงานเหมือนหนุ่มสาวมันทำได้ยาก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้ขึ้นมาเป็นประธานของโรสมาร์คหรอก
แล้วป่านนี้คนที่บริษัทจะมีคนรู้บ้างหรือยังนะว่าประธานบริษัทโรสมาร์คต้องมาติดแหง่กเป็นพี่เลี้ยงเด็กอยู่ที่บ้านของคู่แข่งตัวฉกาจเนี่ย คิบอมมันจะรู้หรือยังนะ...
ฮยอกแจส่ายหน้ากับตัวเองแรงๆ ถ้าหากคิม คิบอมรู้อย่างน้อยเจ้านั่นต้องพยายามกระเสือกกระสนมาลากคอเขากลับโรสมาร์ค แต่ที่เขายังอยู่ที่นี่โดยไร้เงาของคิบอม...ก็แปลว่าเจ้าตัวคงยังไม่รู้ หรือไม่ก็...
รู้...แต่ยังไม่อยากให้ฮยอกแจกลับไป เพื่อไม่ให้อึนฮยอกไปไหน
ปิดโทรทัศน์เมื่อหมดอารมณ์ดูมันเสียดื้อๆ ความคิดหลังนี่เข้าท่า เพราะถ้าคิบอมรู้ว่าอึนฮยอกอยู่กับตัวล่ะก็...รายนั้นต้องพยายามยื้ออย่างที่สุดเพื่อไม่ให้อึนฮยอกหายไปไหนอีก
แล้วเขาล่ะ...
อี ฮยอกแจเหยีดยิ้มสมเพชออกมาจางๆ อย่างนั้นคงอีกนานกว่าคนของโรสมาร์คจะมารับเขา เป็นแค่เงานี่มันลำบากจริงๆเลยนะอี ฮยอกแจ
เสียงรถของเจ้าของบ้านแล่นกลับมา วันนี้ได้ยินแว่วๆว่าซีวอนจะไปคุยธุระสำคัญกับลูกค้ารายใหญ่ กลับดึกขนาดฮยอกแจเอามินโฮเข้านอนเป็นที่เรียบร้อยตั้งสองสามชั่วโมงแล้วยังไม่เห็นอีกคนโผล่มาเลย จนคยูฮยอนขับรถกลับมาและปิดไฟนอนไปแล้ว เขาก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงารถของชเว ซีวอนเลยสักนิด พอตอนนี้เจ้าของบ้านกลับมา...ฮยอกแจเงยหน้ามองนาฬิกา เที่ยงคืนพอดีเป๊ะ...แล้วเขาจะมาสนใจทำไมเนี่ย
ฮยอกแจส่ายหน้ากับตัวเองก่อนจะเดินไปปิดม่าน เห็นชเว ซีวอนพยุงใครบางคนที่เมาจนทรงตัวยืนตรงๆไม่ได้ออกมาจากรถป้ายแดงยี่ห้อดังของตัวเอง อ่อ...มีผู้หญิงมาด้วยแหะวันนี้ ฮยอกแจเกือบจะปิดม่านอยู่แล้ว...ถ้าหากไม่เผลอเห็นดวงหน้าของหล่อนชัดๆ ประธานของโรสมาร์คถึงกับเบิกตากว้าง พอได้สติก็ถึงกับหลุดสบถออกมาเสียงดัง
“ยัยบ้านั่นมาได้ยังไงเนี่ย!!?”
ไม่ได้การ...อี ฮยอกแจ คว้าเอาเสื้อคลุมกันความหนาวด้านนอกออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว เจ้าบ้าชเว ซีวอน...รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังเล่นอยู่กับอะไรน่ะ ลอเป็นแบบนี้...
อี ฮยอกแจว่าตัวเองไม่ยุ่งไม่ได้แล้ว...
**
ร่างระหงที่ซบซุกอยู่ตรงบ่าทำเอาชเว ซีวอนลำบากใจไม่น้อยล่ะ เขามองสตรีที่ดูยังไงก็น่าจะอายุมากกว่าเขาเยอะพอควร แต่กระนั้นทรวดทรงองค์เอวก็ยังงามงอนเหมือนสาวรุ่น ร่างสูงเบือนหน้าหนีเมื่ออีกคนขยับคอเสื้อที่คว้านลึกจนน่าตกใจ ไม่นึกรู้ว่าอีกคนทำอีท่าไหนถึงกลายมาเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเขาได้
ก็ถึงกับสั่งแคตตาล็อคทุกเซตของไลอ้อนจิวเวอร์รี่ในปีนี้ และเรียกพบเขาเพื่อถามรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งซื้อรวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าได้ แปลว่าอี นาบีนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆนะ
แต่ที่ไม่ธรรมดามากกว่าคือการวางตัวของเจ้าหล่อน เข้าใจนะว่าอาจจะอยู่เมืองนอกเมืองนาจนไม่ถือสาแม้กระทั่งการแตะเนื้อต้องตัว และพอเหล้าเข้าปากก็เมามายพอที่จะกล้าหาญวางมือบนหน้าขาของเขา ซีวอนไม่เคยเจอผู้หญิงไฟแรงขนาดนี้ เป็นไปได้ไม่อยากพาผู้หญิงคนนี้เข้าบ้านหรอก แต่เพราะเจ้าหล่อนดันเมามายจนบอกทางกลับบ้านตัวเองไม่ถูก แถมไม่ยอมค้างโรงแรมด้วย มันเป็นการดูไม่ดี แต่วันนี้เขาจะไปนอนกับลูกก็แล้วกันเพื่อไม่ให้อีกคนมีคำครหา
คนรับใช้กลับหมดแล้ว เป็นหน้าที่ของชเว ซีวอนที่ต้องพาอีกคนมานอนที่ห้องพักสำหรับแขก แต่ทันทีที่วางร่างนุ่มนิ่มนั่นลงบนเตียงอีกคนก็ผวากอดเขาเอาไว้แน่น ซีวอนไม่ใช่คนไม่ประสาขนาดไม่รู้ว่านี่กำลังจะเกิดอะไรขึ้น
“อยู่กับฉัน...นะคะ”
เสียงงึมงำดังขึ้นเหมือนน้ำหอมที่ยั่วยวนจมูก อีกคนก้มลงจูบไซร้คอของเขาจนดวงตาคู่คมเบิกกว้าง ขณะที่มือเรียวเปะปะไปทั่วจนซีวอนต้องใช้ความรุนแรงในการดึงตัวเองออกมาห่างจากอีกคนถึงสิบก้าวเห็นจะได้ เขามองอีกฝ่ายอย่างเหลือเชื่อ แต่ก็เพราะความเป็นสุภาพบุรุษนั่นแหละที่ทำให้เขาต้องเอ่ยเสียงเครียด
“เชิญคุณใช้ห้องนี้ตามสบาย ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ”
นาบีอยากจะหัวเราะกับดวงหน้าที่ขึ้นสีน้อยๆของอีกฝ่าย เนื้อสมันหนุ่มท่าทางจะทนแรงยั่วยุไม่ไหวอย่างที่คิด ก็แหม...ข่าวสารที่แว่วมาอีกคนเปล่าเปลี่ยวมากี่ปี แล้วพวกผู้ชายมีเหลือจะไม่หวั่นไหวกับเรื่องพวกนี้ บางทีก็อยากจะรู้เหมือนกันนะว่าเมื่ออยู่บนเตียงแล้วเจ้าเนื้อหนุ่มมันจะกลายร่างเป็นราชสีห์ได้หรือเปล่า
“ฉันอยากได้น้ำค่ะ...นะ”
คราวนี้ชเว ซีวอนกลอกตา พอมองเห็นดวงหน้าออดอ้อนคลอด้วยน้ำตาเหมือนคนเปล่าเปลี่ยวก็นึกใจอ่อน นาบีคิดไม่ผิดหรอกที่ผู้ชายมักจะอ่อนยวบเมื่อเจอน้ำตาของสตรีเพศไม่ว่าจะวัยไหนก็ตาม ร่างสูงพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินหายไปได้สักพักก็กลับเข้ามาใหม่พร้อมเหยือกน้ำเย็นและแก้วน้ำใสสะอาด ซีวอนล่ะอยากจะสบถเมื่อเห็นว่าอีกคนถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกจนเห็นสัดส่วนได้ชัดกว่าเมื่อครู่อีก อารมณ์น่ะไม่มีหรอก แต่ความกระดากอายนั่นมีอยู่เต็มเปี่ยม อายแทนอีกคนหากก็พยายามคิดว่าอีกคนคงเมามายจนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
นาบีทำตัวว่าง่ายรับแก้วที่ถูกรินน้ำจนเต็มมาดื่ม น้ำใสไหลออกจากเรียวปากแดงเข้มหยดลงบนเนินอกอิ่ม ท่าทียั่วยวนแบบนั้นใช้ไม่ได้ผลเมื่ออีกคนไม่คิดเหลือบตามองมันเลยสักนิด มือบางยื่นแก้วกลับคืน อีกคนรับก่อนจะเกือบสะดุ้งเมื่อฝ่ายหญิงกุมมือเขาเอาไว้แล้วไล้มืออุ่นอย่างสื่อความหมาย ซีวอนถึงขั้นพูดไม่ออก
“คุณนี่ดีจัง...”นาบีซบหน้าลงกับฝ่ามืออุ่นพร้อมช้อนตาขึ้นมองอย่างอ่อนหวานขณะที่อีกคนยังนิ่งตะลึง “...ผิดกับสามีฉันลิบลับเลย”
ซีวอนพยายามดึงมือตัวเองออกอย่างนุ่มนวลหากอีกคนก็ยื้อเอาไว้ ร่างสูงเริ่มคิดว่าตัวเองคิดผิดมหันต์ที่หลวมตัวมาตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมแบบนี้ ยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย...ถึงตอนนี้จะไม่รู้สึก หากความเย้ายวนอันร้ายกาจของคนตรงหน้ามันจะทำให้อะไรเกิดขึ้นมาได้ก็ไม่รู้ และไม่อยากรู้ด้วย
ยังไม่ทันเอ่ยปากขอตัวออกจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนั่น ใครบางคนก็เดินเข้ามากระชากมือของเขาออกจากการเกาะกุมของฝ่ายหญิง ดวงตาของชเว ซีวอนเบิกกว้างมองอี ฮยอกแจที่จ้องเขม็งไปที่ลูกค้ารายใหญ่ของตนที่กำลังมองมาอย่างตกตะลึง
นาบีไม่คิดว่าจะเห็นลูกชายตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าในสถานการณ์แบบนี้ ก่อนคำพูดร้ายกาจต่อมาของอีกฝ่ายจะเพิ่มความกระดากอายและรับรู้ได้ทันทีว่าคนตรงหน้าคือลูกคนไหนของตน
“คิดจะกินหญ้าอ่อนหรือไง...อี นาบี?”
ดวงตาสีอำพันกวาดมองแม่ของตัวเองในสภาพล่อแหลม มันทั้งกรุ่นโกรธ เอือมระอาและยิ่งกว่านั้นคือความผิดหวัง เขาหันมาหาเจ้าของบ้านที่ทำหน้างุนงงก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงราบเรียบ
“ขอโทษนะ ฉันขอคุยกับยัยนี่เป็นการส่วนตัวจะได้ไหม?”
ชเว ซีวอนยังทำหน้างงๆ หากก็พยักหน้ารับแล้วเดินออกจากห้องไปเมื่อได้จังหวะหนี ไม่วายหันมามองอีกสองคนที่ยังจ้องตากันอย่างไม่มีฝ่ายไหนยอมฝ่ายไหน ดวงหน้างดงามของฝ่ายหญิงครานี้มีแต่ความกราดเกรี้ยวแทบจะฉีกร่างของอี ฮยอกแจเป็นชิ้นๆ นั่นทำให้ชเว ซีวอนเลือกที่จะยืนอยู่ตรงปากประตูเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้น ก็ฮยอกแจตอนโมโหนั้นใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่...เคยทำเอาฮเยอินเข้าโรงพยาบาลมาตั้งกี่รอบล่ะ
เสียงบานประตูปิดลงทำให้อี ฮยอกแจเหลือบตาไปมองว่าอีกคนออกจากห้องไปเรียบร้อย ก่อนจะหันมามองมารดาของตัวเองด้วยแววตาสมเพชอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด นาบีเองก็เหมือนจะถอดหน้ากากสุภาพอ่อนหวานเมื่อเจอกับลูกชายคนโต เสียงแหลมกราดเกรี้ยวดังขึ้นด้วยความเจ็บใจที่ถูกลูกของตัวเองมองด้วยสายตาเหยียดหยาม
“แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!?”
ฮยอกแจเหยียดยิ้มเยาะ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วเอ่ยเสียงนุ่ม
“ฉันต่างหากล่ะที่ต้องถามว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง อ่อ~ ตามผู้ชายมาอีกแล้วล่ะสิ น่าเสียดายที่ฉันอยู่ที่นี่เลยต้องเข้ามาขัดขวาง ไม่งั้นเธอกับชเว ซีวอนคงจะได้มีความสุขกันแล้วล่ะ ถามจริงเหอะนะนาบี...”ฮยอกแจชะโงกหน้าเข้าไปจับจ้องดวงตาแข็งกร้าวของอีกคนใกล้ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบไม่มีความนอบน้อมเลยสักนิด
“...มีลูกตั้งสามคนแล้วยังบ้าผู้ชายไม่เลิกอีกเหรอ?”
เพี๊ยะ!!!
ความอดทนขาดสะบั้นรวดเร็วพอๆกับมือบางที่ประดับด้วยแหวนเพชรประทับที่นวลแก้มขาว ฝากฝังรอยเล็บไว้อย่างแสบสันต์ ฮยอกแจสะบัดดวงหน้าไปอีกทาง หน้าตาสะสวยยังคงเฉยชาแม้จะรู้ถึงรสกลิ่นคาวเลือดที่ริมฝีปาก
“ไอ้ลูกไม่รักดี...”นาบีเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ “...ฉันคลอดแกมาเพื่อให้แกเอาปากที่ฉันให้มาด่าว่าฉันแบบนี้น่ะเหรอ อี ฮยอกแจ! ไอ้ลูกเนรคุณ!!”
“ตบก็แรงดีขนาดนี้...”ฮยอกแจเอามือแตะมุมปาก น้ำแดงข้นติดปลายนิ้วมาถูกพินิจด้วยดวงตาสีอำพันราบเรียบ ก่อนที่เจ้าของของมันจะคลี่ยิ้ม “...แถมยังมีแรงด่าอีก แปลว่าเธอก็ไม่ได้เมามายอะไรเลยนี่น่า แบบนี้คงจะมีปัญญาเรียกแท็กซี่กลับบ้านได้ล่ะสินะ”
“แก...!!”
“ขอบคุณนะที่อุตส่าห์จำฉันได้น่ะ แต่กลับบ้านไปนอนกกลูกคนเล็กเหอะนาบี...”ฮยอกแจเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เหมือนเหนื่อยอ่อน ท่าทางนั้นก็เอือมระอาเสียเต็มทน “...ยังไงแทมินก็ยังเป็นเด็กมีอนาคตนะ จะปล่อยให้เขาโตขึ้นมาโดยที่เห็นแต่แม่วิ่งไล่ตามผู้ชายคนอื่นอยู่อย่างนี้ไม่สงสารลูกบ้างเหรอ อ่อ~ฉันลืมไปว่าเธอคงจะจ้างพี่เลี้ยงพิเศษเลยไม่ต้องกังวลอะไรสินะ หรือว่า...”
ฮยอกแจยิ้มจางๆออกมาอีกครั้ง โน้มดวงหน้าเข้ามาหาอีกคนที่แทบไม่เหลือความงามเพราะความโกรธ
“...กำลังปล่อยให้ตาแก่ฮยอนซูเลี้ยงลูกตามลำพังอีกแล้ว เธอนี่ช่างเป็นศรีภรรยาที่ประเสริฐจริงๆนะ”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!!...”นาบีกระชากร่างของลูกชายตัวเองให้ลมลงนอนกับเตียง ก่อนจะระดมตบตีไม่ยั้ง “...ฉันบอกให้แกหยุดไง! บอกให้หยุดไง!!...”
ฝ่ามือบางฟาดลงบนดวงหน้าขาวไม่ยั้ง ก่อนจะหยุดลงเมื่อเจ้าของมันเริ่มเหนื่อยอ่อน ฮยอกแจมองมารดาที่กำลังหอบหายใจเหนือร่างของเขาก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงหยันเยาะ
“มีแรงแค่นี้เองเหรอ...”ผลักร่างของมารดาออกจากกาย ชายหนุ่มร่างบางหยัดตัวลุกขึ้นมาอีกครั้ง ก้มลงปัดฝุ่นตามเนื้อตัวยั่วยุอารมณ์อีกคน ทั้งๆที่ไม่มีไรฝุ่นเลยสักนิด “...แบบนี้ค่อยหายกังวลหน่อย เพราะอีกสักพักเธอคงจะเอาตัวเองไปยั่วยวนใครเขาไม่ได้อีกแล้วล่ะ ฉันกับตาแก่นั่นจะได้ไม่ต้องขายหน้า แล้วไอ้บ้าแฮซอกจะได้ไม่ต้องคอยปิดเรื่องของเธออีก เท่ากับว่าเราหมดภาระไปเยอะเลยนะเนี่ย”
“แกพูดแบบนี้กับฉันได้ยังไง!!?...”นาบีตวาดอีกคนเสียงดังลั่น “...ขนาดอึนฮยอกยังไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ใส่ฉันเลยสักครั้งนะ! แกมันปีศาจ!!”
“ใครมันจะเหมือนลูกรักของเธอกันเล่า ฉันไม่ใช่อึนฮยอกนะ...”ฮยอกแจว่าพลางช้อนตาขึ้นสบอีกคนด้วยความเฉยชา โยนหมอนที่กระเด็นกระดอนด้วยแรงอารมณ์ของอีกฝ่ายขึ้นบนเตียง “...เพราะฉะนั้นรีบๆกลับไปก่อนที่ฉันจะโทรไปบอกตาแก่นั่นให้ส่งคนมาลากเมียรักของเขากลับไปจะดีกว่า”
“อี ฮยอกแจ แกนี่มัน...!!”
นาบีชี้หน้าอีกคนอย่างโกรธจัด หากก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากคว้าเสื้อคลุมมาสวม ก่อนจะก้าวลงจากเตียงแล้วตวาดใส่อีกคนเสียงดังลั่น
“...ถ้ารู้ว่าแกโตขึ้นมาเป็นแบบนี้ตั้งแต่ทีแรก!! ฉันก็น่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากให้แกตายๆไปซะตั้งแต่ยังเด็กเลย!!?”
ดวงตาสีอำพันของฮยอกแจกระตุกวูบ ร่างบางแย้มรอยยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม
“งั้นก็เสียใจด้วยนะ ที่ทำอย่างใจนึกไม่ได้แล้ว...”ฮยอกแจก้าวไปที่ประตู ก่อนจะเปิดให้พร้อมพยักเพยินให้อีกคนออกจากห้องไป “...เชิญ”
“แก...!!”
“อ่อ...เตือนไว้อย่างนึงนะนาบี”ฮยอกแจกอดอกมองมารดาของตัวเอง แววตาคราวนี้จริงจังทั้งน้ำเสียง และท่าทาง “...อย่ายุ่งกับชเว ซีวอน เธอจะไปหาสามีชั่วคราวคนไหนก็ได้ฉันไม่เคยว่า แต่ถ้าหากคิดจะเอาไอ้หมอนี่มาเป็นพ่อของฉันอีกคน ฉันเองก็คงจะยอมไม่ได้ และถ้าหากเธอไม่คิดจะฟังคำพูดของฉันล่ะก็...”
ฮยอกแจกระชากอีกคนเข้าไปใกล้ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม
“...เป็นเรื่องแน่”
อี นาบีเบิกตากว้าง ก่อนจะตวัดมือตบหน้าลูกชายตัวเองอีกครั้งอย่างรุนแรง
“แกนี่มัน...!!”
ฮยอกแจหันมามองอีกคนด้วยแววตาเฉยชาเหมือนดังเคย ตวาดออกมาเสียงดังลั่นอย่างคนที่หมดความอดทนเต็มที
“...ฉันไม่น่าคลอดแกออกมาเลย!!”
ดวงตาสีอำพันจุดวาบมองสตรีตรงหน้าก่อนจะเอ่ยถามออกมาเสียงนุ่ม
“เธอเอง...ตั้งแต่ตอนแรกก็ไม่คิดจะคลอดฉันออกมาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?...”
“...”
“...ไม่เคยคิดอยากได้ ไม่เคยคิดเลี้ยงดู ไม่เคย...คิดว่าฉันเป็นลูก...”
“...”
“...เพราะฉะนั้น...ตอนนี้อย่ามาทำตัวว่ามีบุญคุณกับฉันมากมายจะดีกว่า เพราะแม่งน่าสมเพชว่ะ”ฮยอกแจเหยียดยิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเปิดทางให้อีกคนแล้วเอ่ยถามหน้าตาย “...จะไปได้หรือยังล่ะนาบี?”
“อี ฮยอกแจ...”คนที่โกรธจนตัวสั่นเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาอย่างยากลำบาก
“...ฉันเป็นแม่แท้ๆของแกนะ”
อี ฮยอกแจนิ่งไปนิด มือที่จับขอบประตูครานี้เริ่มสั่นระริก เมื่อผู้หญิงตรงหน้าเดินผ่าน เขาถามเสียงเบาหวิว
“ถ้าเป็นแม่จริงล่ะก็...ทำไมถึงไม่เคยจำลูกตัวเองได้เลยล่ะ?”
.
.
.
“ขโมยเหล้าชาวบ้านเขากินหรือไง”
เสียงถามที่คุ้นเคยทำเอาคนที่กำลังถือแก้วเหล้าอยู่ขยับยิ้มออกมา ดวงตาสีอำพันไม่ต่างจากสีเหล้ามากนักไม่ได้เบือนมามองคนพูด หากเลือกที่จะเอ่ยถามคนที่เดินมานั่งข้างๆแทน
“ไปส่งยัยนั่นแล้วเหรอ?”
“ส่งขึ้นรถแท็กซี่น่ะ...”ซีวอนว่าพลางดึงขวดเหล้าไปรินให้แก้วของตัวเองบ้าง “...ขอโทษนะ ผมไม่น่าพาเขามาเจอกับคุณ”
คำพูดของอีกคนพอจะทำให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในห้องนั้น อีกคนรับรู้เสียจนหมดสิ้น ฮยอกแจไม่แปลกใจ เพราะตนเองก็ไม่คาดว่าอีกคนจะไม่ได้ยินมันหรอก กำแพงของห้องก็ใช่ว่าจะกักเก็บเสียงเอาไว้ได้เสียเมื่อไหร่ และเสียงของเขากับแม่มันก็ดังซะขนาดนั้น นี่เป็นครั้งแรกเลยล่ะมั้งที่ฮยอกแจคิดว่า...น่าอาย
“ไม่หรอก...”ร่างบางกระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียว ก่อนจะรินเพิ่มให้ตนเอง...ฤทธิ์เหล้าเข้มข้นจนน่าใจหาย “...กับผู้หญิงคนนั้น ลองได้ถูกใจใครแล้วก็ย่อมหาทางไปที่บ้านของเขาจนได้ เพราะฉะนั้นถึงแม้นายจะไม่พามาในวันนี้ วันอื่นเขาก็ต้องหาทางมาเหยียบที่นี่ให้ได้ นั่นแหละอี นาบี...”
ฮยอกแจหัวเราะออกมาเบาๆเหมือนสมเพชตัวเองนัก
“...แม่ของฉันเอง”
ซีวอนมองอีกคนที่กระดกเหล้าเข้าปากในรวดเดียว ก่อนที่จะฟุบหน้าลงกับท่อนแขนของตนในที่สุด ไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ ไม่มีการสั่นสะอื้น แต่ดวงตาคู่นั้นกำลังหลั่งน้ำตาออกมาหรือเปล่าซีวอนไม่รู้ ได้ยินแต่เสียงอู้อี้ที่ดังรอดออกมาเท่านั้นแหละ
“นี่...ขออะไรอย่างนึงได้ไหม”
คำพูดง่ายๆ แต่พอมันออกจากปากคนข้างๆกลับไม่น่าเชื่อ คราวนี้อี ฮยอกแจเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอร้องเขาเอง...
“เรื่องของยัยนี่อย่าให้ใครรู้นอกจากเราจะได้ไหม เพราะถ้าเกิดรู้ไปถึงหูตาแก่นั่นล่ะก็...ฮยอนซูจะต้องหัวใจวายตายแน่ๆ ฉันยังไม่อยากเป็นประธานบริษัทโรสมาร์คเต็มตัวหรอกนะ”
ชเว ซีวอนนิ่งงัน คำขอนั่นแฝงไว้ด้วยความห่วงใยครอบครัวของตนเองไว้อย่างปิดไม่มิด ร่างสูงกวาดตามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ รอยช้ำจางๆของอีกคนท่อนแขนเห็นเด่นชัดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก เขาตัดสินใจเอ่ยออกมาเสียงเบาหวิว
“ได้สิ...”
“ขอบใจ...”
“...แต่ผมขอดูหน้าคุณหน่อยได้ไหม”
เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เมื่อซีวอนจับอีกคนให้เงยหน้าขึ้น ก่อนที่เขาจะแทบลืมลมหายใจเมื่อเห็นรอยช้ำและรอยเล็บบนดวงหน้าสวยจัดนั่น ร่างสูงใจหาย...ถึงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารับรู้ว่าอีกคนโดนบุพการีของตนเองซ้อมเอาก็ตาม
“ดูพอรึยังอ่ะ”
ฮยอกแจถามออกมาอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก กับแววตาที่มองมาอย่างตระหนกของอีกฝ่าย เขาเบี่ยงหน้าหลบฝ่ามือนั่นก่อนจะรินเหล้าให้ตัวเองอีกแก้ว ซีวอนมองอีกคนอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะถามออกมาเสียงแผ่วเหมือนละเมอ
“แม่...ทำไมทำกับลูกได้แบบนี้”
คำพูดนั้นทำเอาอี ฮยอกแจเหยียดยิ้มเยาะออกมาในที่สุด จิบเหล้าพลางตอบเหมือนมันเป็นเรื่องปกติทั่วไป
“ก็ฉันมันไม่ใช่ลูกรักนี่...”
“แต่ว่า...”
“...ไม่เหมือนอึนฮยอก...”
“...”
“...รายนั้นน่ะมันมีแต่คนทะนุถนอม...”ฮยอกแจว่าพลางกระดกเหล้ารวดเดียวหมดแล้วรินใหม่ “...ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้น หรือผู้ชายที่นอนอยู่ในหลุมนั่น...”
ล้วงเอาบุหรี่มาคาบ แล้วควานมือหาไฟแช็กมาจุด ดวงตาสีอำพันคราวนี้หม่นลงเล็กน้อย
“...คยูฮยอน ซองมิน ทั้งคิบอม แล้วก็นายด้วย”
ควันบุหรี่ถูกพ่นออกมาจนตลบอบอวน แค่เหล้าตอนนี้มันคงไม่พอสำหรับอี ฮยอกแจหรอก
ชเว ซีวอนมองอีกคนนิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยถามคำถามที่เขาไม่คาดคิดว่าจะถามมันออกไปเช่นกัน
“คุณเคย...นึกเกลียดอึนฮยอกบ้างหรือเปล่า”
บุหรี่ล่วงลงจากมือ ฮยอกแจรีบก้มลงเก็บมันแทบจะทันทีก่อนที่มันจะไหม้พรม ดวงตาสีอำพันมองอีกคนอย่างเหลือเชื่อ พอเห็นแววตาที่เหมือนผู้ใหญ่มองเด็กแบบนั้น...เขาหลบตา
“ไม่...”เสียงอ่อนแรงกลับกลายเป็นหนักแน่นขึ้นมา “...ไม่มีทางหรอก ฉันเกลียด...คนๆเดียวที่รักฉันในโลกนี้ไม่ได้หรอก”
“คำพูดนั้นมันเหมือนกับ...บอกตัวเองอย่างนั้นแหละ”
“!!”
ดวงตาสีอำพันตวัดมองอีกคนแข็งกร้าวแทบจะทันที ซีวอนเลิกคิ้วขึ้นสูง
“หรือไม่จริงล่ะ คุณไม่ได้นึกอิจฉาน้องชายฝาแฝดของตัวเองบ้างเลยเหรอ...”
“ไม่...”
“...งั้นก็น่าแปลกเหมือนกันเนอะ เพราะตอนที่อึนฮยอกไม่ได้อยู่กับคุณ ตัวคุณน่ะ...สามารถตามหาน้องชายของตัวเองได้สบายๆ แต่กลับปล่อยเวลาให้ทิ้งร้างไป บางทีก็เหมือนกับว่าคุณไม่ต้องการจะเจอตัวเขาอย่างนั้นแหละ...”
“ฉันรักอึนฮยอก!...”ฮยอกแจเอ่ยเสียงแข็ง ก่อนจะเบือนหน้าหลบ “...คนไม่เอาไหนอย่างนายน่ะไม่มีทางเข้าใจมันหรอกน่า”
“ใช่ ผมไม่เข้าใจคุณเลย...”ซีวอนพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี “...ปากคุณก็บอกว่ารักน้องของตัวเอง แต่ตั้งแต่ตอนที่อึนฮยอกกระโดดลงไปในสายน้ำนั่น คุณตามหาเขาน้อยกว่าผมเสียอีก...”
“ฉันนึกว่าเขาตายแล้ว...”มือที่กำแก้วเหล้า กำแน่นขึ้นเรื่อยๆ “...นึกว่าเขาตายแล้วจริงๆ”
“...แต่ถ้ารักเขาจริงคุณคงไม่คิดหยุดตามหาเขาหรอกนะ ถ้ารักจริงคุณต้องเชื่อว่าเขายังอยู่ ไม่ใช่วิ่งหนีปัญหากลับแอลเอไปทั้งอย่างนั้น และที่คุณไม่คิดจะตามหาน้องชายของตัวเองอย่างจริงจัง...”
“...”
“...คุณไม่ได้อยากให้เขากลับมาอย่างนั้นเหรอ”
“อย่ามาพูดบ้าๆนะ!!”
แก้วเหล้าถูกกระแทกลงกับโต๊ะอย่างแรง เสียงสั่นๆนั่นดังออกมาจากเรียวปากที่แตกยับนั่น
“นายมันจะไปเข้าใจอะไร...”
“...”
“...คนเห็นแก่ตัวที่ไม่เคยนึกถึงความเดือดร้อนของคนอื่น คนที่ดีเอาแต่ตักตวงความสุขให้กับตัวเองอย่างนายน่ะ มันจะไปเข้าใจอะไร...”
“...”
“...อึนฮยอกน่ะ...เด็กคนนั้นเป็นทั้งชีวิตของฉันเลยด้วยซ้ำไป เพราะอย่างนั้นฉันถึงอภัยให้นายไม่ได้ ต่อให้นายทำดีให้ตายหรือคุกเข่าขออภัย และต่อให้เด็กคนนั้นกลับมาได้อีกครั้งฉันก็ไม่อาจะอภัยให้คนอย่างนาย!...”
“...”
“...นายไม่ได้เห็นสภาพ...ของเขาตอนที่ฉันไปเจอเมื่อห้าปีก่อนนั่น...”
“...อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ!! เอามันออกไป!!...”
“อึนฮยอก...พี่เอง...”
.
.
“...ฮยอกแจไง”
“...ในตอนนั้น...เขาน่ะ...”
“ไม่จริง!! ออกไปนะ!! แกไม่ใช่พี่ชายของฉัน!!...”
“...พี่จ๋า!! ช่วยผมด้วย!!...”
ซีวอนมองมือร่างกายที่สั่นระริกของอีกคน แม้ดวงตาของอีกคนจะไม่มีน้ำตาเลยสักหยดหากมันก็มากด้วยความรู้สึกอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ฮยอกแจกำลังใส่หน้ากาก...หน้ากากแห่งความเข้มแข็งที่เคยร้าวรานมาแสนนาน ร่างบางขยี้บุหรี่ลงบนขอบแก้ว ก่อนจะจบการสนทนาโดยการหยัดตัวลุกขึ้นยืน
“มันป่วยการที่จะพูดกับคนแบบนายชเว ซีวอน”
ข้อมือบางถูกคว้าไว้อย่างรวดเร็ว ดวงตาสีอำพันเบิกกว้างเมื่อหันมาสบดวงตาสีดำขลับคมกริบที่มองมาอย่างไม่พอใจเลยสักนิด บีบต้นแขนเล็กไว้แน่น ไม่ว่าสะบัดออกเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมหลุด
“ปล่อย! ซีวอน!!”
“ทำไมคุณถึงไม่เคยยอมรับอะไรเลยนะ...”
“...นายพูดบ้าอะไรของนาย!?...”
“...อิจฉาน้องชายตัวเองก็ไม่ยอมพูด อยากได้ความรักก็ไม่ยอมพูด อยากให้คนอื่นหันมาสนใจก็ไม่ยอมพูด...”
“!!”
ดวงตาสีดำขลับจ้องลึกลงไปในดวงตาสีอำพันเข้มนั่น ความจริงอยากจะเขย่าร่างนั้นแรงๆเสียด้วยซ้ำ ความรู้สึกเขาพลุ่งพล่านเมื่ออี ฮยอกแจหลบสายตา
“...ทั้งๆที่อยากได้จนตัวสั่นแต่ก็ไม่เคยแม้แต่จะปริปาก! คิดจะเล่นละครทำตัวเข้มแข็งไปจนถึงเมื่อไหร่น่ะ!!?”
“ฉัน...”
“คุณเองก็อยากให้แม่รัก อยากให้พ่อรัก อยากเป็นที่รัก อยากให้คิม คิบอมรักคุณเหมือนกันใช่ไหมล่ะ!!?”
“คิบอมเป็นคนรักของอึนฮยอกนะ!...”ฮยอกแจตวาดลั่น “...แล้วฉันจะ...!!”
“เพราะอย่างนี้คุณถึงได้อิจฉาอึนฮยอกมาโดนตลอดไง!!...”ร่างสูงตวาดออกมาอย่างเหลืออด ยกมือขึ้นตบเบาๆที่แก้มแดงช้ำของอีกคน ฮยอกแจเบ้หน้าเพราะมันเจ็บแปลบ...ถึงหัวใจ “...แล้วตอนนี้ก็อยากจะร้องไห้เต็มแก่แล้วไม่ใช่หรือยังไง!? เจ็บขนาดนี้แล้วทำไมถึงยังไม่ยอมร้องออกมาอีกล่ะ!!? ร้องไห้ออกมาสิ!!”
“ปล่อยฉันชเว ซีวอน!! นายน่ะ...!!”อี ฮยอกแจมองอีกคนด้วยแววตาวาววับ ปัดมือของเขาออก “...อย่ามาทำเป็นรู้เรื่องของฉันดีไปหน่อยเลย!!”
“คุณเองก็รู้ตัวดีว่าสู้อึนฮยอกไม่ได้เลยทำตัวแข็งกร้าวมาโดยตลอดยังไงล่ะ! แต่ความจริงแล้วน่ะ...คุณไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่ใครคนอื่นคิดเลยสักนิด!! และความจริงแล้ว...คุณมันก็แค่คนไม่เอาไหนคนนึงเหมือนอย่างผมนี่แหละ!!!”
“หุบปากนะ!!”
“...ที่ไม่เคยพยายามตามหาน้องของตัวเองเลยก็เพราะกลัวว่าเขากลับมาจะแย่งความรักของคุณไป!! พยายามแก้แค้นแทบตายเพราะความจริงแล้วมันเป็นความผิดของคุณเองที่ทิ้งเขาเอาไว้!! คุณไม่อยากให้อึนฮยอกกลับมาเพราะรู้ตัวดีว่าตัวเป็นได้แค่เงา...แค่เงาที่ไม่อาจสู้แสงได้ยังไงเล่า!!”
“ฉันบอกให้นายหุบปากเดี๋ยวนี้ยังไงเล่า!!”
ร่างบางผลักอีกคนจนล้มลงก่อนจะก้าวขึ้นคร่อม ชกเข้าที่ดวงหน้าคมสันไม่ยั้ง
“คนไม่เอาไหนอย่างนายมันจะมาเข้าใจอะไรเล่า!!...”
ชเว ซีวอนหน้าหันตามแรงชก มันไม่ได้เจ็บอย่างที่คิด อี ฮยอกแจคงไม่มีเรี่ยวแรงมากนัก
“...ความรู้สึกของฉัน! ตัวตนของฉัน! อย่ามาทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลยน่า!!...”
มือมันเริ่มอ่อนแรง จนร่างสูงสามารถมองคนที่คร่อมร่างเหนือตนเองได้ถนัดตา ฮยอกแจกำคอเสื้อของอีกคนแน่น กระชากขึ้นมาสบตา
“อึนฮยอกน่ะ...”
“...ฉันรักเขาที่สุด...”
.
.
.
“ขอโทษ...”
เสียงเอ่ยแผ่วเบาดังมาจากคนที่อยู่ใต้ร่าง อี ฮยอกแจปล่อยมือของตนเองลงอย่างอ่อนแรง ชเว ซีวอนกำลังโอบกอดเขา ดันศีรษะให้แนบกับแผ่นอกของตนเองแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“...อย่าร้องไห้เลยนะฮยอกแจ”
เจ้าของดวงตาสีอำพันชะงักกึก ยกมือขึ้นแตะที่แก้มของตนเองแผ่วเบา...ความชื้นที่สัมผัสได้คือสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ เขาเผลอร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่น้องชายของตัวเองเนี่ยนะ
แต่ถึงกระนั้น...ความอบอุ่นเหมือน ‘เข้าใจหัวอก’ ก็ทำเอาทั้งร่างสั่นระริก มากจนหลงลืมความกระดากอายและสิ่งที่รักษาไว้นานแสนนาน หน้ากากแห่งความเข้มแข็งแตกร้าว เหลือเพียงตัวตนที่อ่อนแอยิ่งกว่าใคร
“ฮึก...”มือขาวกำเสื้อของอีกคนไว้แน่น ชเว ซีวอนกอดร่างของอีกคนแน่นยิ่งกว่าเก่า ร่างของอี ฮยอกแจสั่นสะอื้น ความชื้นที่แทรกซึมผ่านผิวเสื้อเป็นด่างดวงกำลังบอกเขาว่าคนๆนี้อ่อนแอเพียงใด
“นิ่งซะ ผมผิดเอง...ผมขอโทษ...”
แค่คำพูดเบาๆทำเอาเขาได้ยินเสียงสะอื้นจากคนในวงแขน ฮยอกแจซุกหน้ากับแผ่นอกนั้นแน่ เอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ
“ฉัน...ฮึก...เกลียดนายที่สุด...”กำปั้นอ่อนแรงทุบหนักๆที่แผ่นอกของอีกฝ่าย หากกระนั้นก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตาอีกคนเลยสักนิด “...เกลียดที่สุดเลย”
“เข้าใจแล้วครับ...”ซีวอนลูบเส้นผมสีอ่อนนั่นราวปลอบเด็กเล็ก
“...ผมจะไม่บอกใครหรอก ผมสัญญา”
**
ในตอนนี้ไรเตอร์มีฟิคเรื่องใหม่ -w- //
แฟนคลับที่ขอเอ็นซีในเพจจะรู้จักกันดีแหละ เพราะฟิคเรื่องนี้เขียนขึ้นเพื่อนเป็นของกำนัลแฟนคลับในเพจขงไรเตอร์เท่านั้น ตอนนี้เนื่องจากเราอาจจะมีปัญหาในการส่งเมลล์ (รู้ๆกันดีว่าฮอทเมลล์แม่งกากขนาดไหน) จึงได้นำมาไว้ที่หน้าเด็กดีแทน
เป็นฟิคที่แต่งขึ้นมาทดแทนลัสดอร์จนกว่าไรเตอร์จะสามารถกลับไปต่เรื่องนั้นได้ (บังเอิญพลอตฟิคลัสดอร์ของไรเตอร์อยู่ๆก็ดีลีทตัวเองซะงั้นอ่ะ)
เพราะฉะนั้นเราจึงมี >> http://my.dek-d.com/chamachu/writer/view.php?id=891428
ฝากให้เหล่าแฟนคลับสนับสนุนฟิคเรื่องนี้ด้วยนะคะ = =//
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

วอนจะพูดทำไมดูสิร้องให้เลย
ซ๊วอน ฮยอกแจ ดูเหมือนจะเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น อยู่บ้านเดียวกันก็ค่อยๆใกล้ชิดกันไปละกัน ^^
ว่าแต่แม่ของ 2 ฮยอกนี่แร๊งดีจริงไรจริงนะนี่ - -
บอมอึน หวานตลอด
ร้องออกมาแล้วนะฮยอกแจ TT^TT ความเข้มแข็งที่แบกไว้มันไม่ไหวแล้วใช่มั้ย
วอนนายแน่มาก ฮืออออออออออ T^T เค้าไม่ไหวแล้ว โคตรจี้ใจเลย
แต่ละคำที่วอนพูดโคตรจี้ใจ T^T ร้องตอนแม่นาบีทำร้ายฮยอกรอบนึงแล้ว
นี่ร้องตอนวอนไล่ต้อนฮยอกด้วย เงามันจะไปสู้แสงได้ยังไง << เจ็บเลย T^T
เค้ารักทั้งฮยอกแจทั้งอึนฮยอกนะ ฮยอกเค้าเชื่อว่าแกรักอึน อย่าร้องนะ ToT
สวมหน้ากากเป็นคนเข้มแข็งมาตลอด เหนื่อยใช่มั้ย T^T วอน แกเอาใจไป *ปาหัวใจใส่วอนรัวๆ*
นายลืมhyukjae
ToT
นายสัญญาแล้วไง....ทำไมหล่ะ
hyukคงไม่ไหวแล้ว
วอนเข้าใจhyukดีจัง....อย่างน้อยก้อคอยปลอบคนอ่อนแออย่างhyukได้็้
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าวอนจะเข้าใจฮยอกทุกอย่างเลย
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้เพราะตฮยอกเองก็อยากได้ความรักจากคนรอบข้าง
แต่ฮยอกไม่เคยได้เลยแม้แต่กับแม่ของตัวเองฮยอกถึงต้องสร้างเกราะ
ขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองน่าสงสารนฮยอกนะ
เหมือนเป็นครั้งแรกที่ซีวอนฮยอกแจจูนกันเจอซักที
เป็นครั้งแรกที่ฮยอกเปิดใจให้วอน
ซึ้งแท้
ฮยจน่าสงสารมากจริงๆ ขอร้องล่ะซีวอน รักฮยอกแจเถอะ
เหมือนฮยอกแจจะไม่เหลือใครแล้ว T v T
แม่ประสาอะไรว่าลูกได้ขนาดนี้ โหดร้ายที่สุด
วอนดูแลฮยอกดีๆนะ
วอนใจอ่อนเเล้วใช่ไหม ฮยอกเเจ ใจอ่อนเร็วๆนะ สงสารฮยอกเเจที่สุดเลย
แต่พอฮยอกแจกลับมาอึนก็พร้อมจะหายไปใช่มั้ย
ตอนนี้ก็คงตักตวงความสุขก่อนจากสินะ (เดา)
พอมาวอนฮยอกชอบพาสนี่ที่สุด
แต่ละคำถามของวอนมันจี้จุดฮยอกมาอ่ะ
ฮยอกได้ปลดปล่อยความรู้สึกตัวเองออกมา
ฮยอกเหมือนแบกทุกอย่างไว้คนเดียวน่าสงสารนะ
อยากให้คนอื่นรักไม่แปลกหรอกที่ฮยอกจะรู้สึกอิจฉาอึนที่ใครๆต่างก็รุมรัก
TT_______TT
ปล. ไรเตอร์เมื่อไหร่จะเปลี่ยนตัว
วอนฮยอก สุดยอดดดดด ในที่สุด วอนก็ถอดหน้ากากของฮยอกและเข้าใจฮยอกได้ในที่สุด!!!
ฮยอกแจ สู้ๆต่อไปนะ อย่าฝืนทำอะไรเลย แต่ว่ายังไงเราก็เชียร์ฮยอกแจให้บริหารโรสมาร์คได้ขึ้นจุดสูงสุดนะ
บอมอึน หวานไปนะคะ อึนอึนอย่าทิ้งบอมนะ สงสารและเห็นใจบอมบ้างเถอะ
ใจตรงกันทั้งทีแบบนี้
ต้องอดทนมามาก
อยากให้วอนหันมารักฮยอกได้แล้ว
แบบสงสารฮยอกแจไม่ไหวแล้ว
มันความผิดของฮยอกแจมั้ยที่ต้องเป็นแบบนี้
ทั้งๆ ที่ฮยอกแจทำเพื่ออึนฮยอกทุกอย่าง
แต่อึนฮยอกกลับไม่รู้เลยว่าพี่ชายตัวเองรู้สึกยังไง
พี่ชายตัวเองต้องการอะไร คนรักของพี่ชาย
เจ็บปวดมากกกกกกกกกกกกกกก
แล้วแบบคนอ่อนแอมักจะได้รับความรัก เป็นแสงหรอ
โอ่ยยยย ยิ่งคิดยิ่งสงสารฮยอกแจอ่ะ
คิบอมก็ดูไม่แคร์ความรู้สึกฮยอกแจซักนิด เหมือนตอนทงเฮไม่มีผิด
เหมือนยอมมีความสุขกันสองคนบนความทุกข์ของคนอื่น
ฮืออออออออออออ จริงๆ ทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเองแหล่ะนะ
แต่มันอิ๊นอิน อ่านแล้วอยากจะกรี๊ดดดดด
โกรธคิบอมกับอึนฮยอก!!
หวังว่าหลังจากดีจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นบ้าง เครียดกันทุกคนเลยเศร้า
อีนาบีเธอทำตัวได้น่ารังเกียจมาก!!
ชเวขา~ เข้าใจฮยอกแจทะลุปรุโปร่งเลยอ่ะ
ดีแล้วหล่ะ ช่วยปลดปล่อยฮยอกแจจากความทุกข์ทีเหอะ
บอมอึนตอนนี้หวานนะ อยากให้หวานอย่างนี้ตลอดไป~ >.<
ชอบตอนนี้มากกก อ่านไป ใจเต้นไปอ่ะ แบบว่าๆ เหมือนเป็นตอนที่ฮยอกแจทิ้งความเข้มแข็งที่แบกมาตลอดเรื่อง และเป็นตอนที่วอนอ่อนโยนกับฮยอกที่สุด(แม้ตอนแรกจะกดดันฮยอกแบบโคดๆก็ตาม)
น่ารักที่สุดเลยยยย อ้ากกกกกก ฟิน!!
เราว่าวอนเป็นตัวละครที่ "มีความสามารถ" ในการล้วงหัวใจฮยอกแจได้ดีที่สุดคนหนึ่งเลยล่ะ เพราะคนที่เหลือจะทำเหมือนฮยอกแจเป็น "คนที่เข้มแข็ง" ที่ไม่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ต้องการที่พึ่ง สามารถยืนหยัดด้วยตัวเองตลอดเวลา
เพลง คนไม่น่าสงสาร เข้ามาในหัวเราทันที 5555
ตอนที่ฮยอกพูดถึงคิบอมว่า ที่ยังไม่มีใครออกมาตามหาตัวเอง อาจจะเป็นเพราะคิบอมยังไม่รู้ หรือรู้แล้วไม่อยากให้ฮยอกแจกลับไป เพราะอยากอยู่กับอึนฮยอกมากกว่า นั่นน่ะ โอ้ยยยยย โคดเจ็บปวด! ดราม่า!
ตอนนี้เรายังได้รู้ว่าฮยอกแจรักฮยอนซูมากๆ เลยนะเนี่ย โถถถถ ลูกพ่ออ TT_TT
เรายังอยากจะเห็นการพัฒนาของคู่นี้ต่อไปจัง
ยิ่งเข้าใจกันมากขึ้น เราก็ได้รู้เบื้องลึกในใจฮยอกมากขึ้น
ซึ่งมันสนุกมากกกก!!!
เข้าใจความเว่อร์ของการเข้าข้างฮยอกแจของเราหน่อยนะ แบบว่าๆ ชอบฮยอกแจมากอ่ะ ฮ่าๆๆ
ปล. เราชอบเรื่อง Lust Doll มากกกก!! ไม่ได้ชอบเพราะเอนซีเยอะนะ ฮ่าๆๆ คือแอบสารภาพว่าเราชอบเทมจีมากกกก ซึ่งเรื่องนี้มันเข้มข้นและดุเดือดถึงใจสุดๆ ชอบแบดบอยมาประชันกันน่ะ ถึงแม้ว่าฮยอกจะอ่อนด้อยมากก็ตาม TwT โดนเค้ารังแกตลอด... เรายังรอไรเตอร์มาต่อนะคะ ฮยอกยังไม่ได้ล้างแค้นซีวอนเลยยย!! <<ติดความโหดของฮยอกแจเรื่องนี้ไปใช้อีกเรื่อง ฮ่าๆ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 23 ธันวาคม 2555 / 22:27
บีบคั้น สงสารฮยอกแจ อะ
ถ้าการเริ่มต้นของการพบเจอไม่แย่ การเจอกันของคู่นี้จะเป็นไงนะ
ดูเหมือนเกราะความเข้มแข็งของฮยอกจะกระเทาะออกเรื่อยๆโดยเฉพาะตอนนี้ ตอนที่อยู่กับวอนนะคะ
อยากให้สองคนมาดีกันเร็วๆ
พี่วอนต้องคอยดูแลฮยอกดีๆน้า
แต่วอนก็พูดซะใจดำจริงๆ
แต่สุดท้ายก็ปลอบล่ะหน่า
สุดท้ายก็ถอดหน้ากาก ต่อหน้าศัตรู5555
ปล.เค้ายังรอคยูเฮ จุ๊บๆ==;
หวังว่าคงเข้าใจกันในเร็ววันนี้นะ >