ตอนที่ 46 : -11-
“ผมไม่ชอบให้พี่เอาไอ้หมอนั่นเข้าบ้านเลยจริงๆ”โจ คยูฮยอนเอ่ยพลางก้มลงช้อนหลานรักที่เดินเต๊าะแตะเข้ามาหาคนเป็นอาอย่างนาเอ็นดู น้ำเสียงและสีหน้ายังไม่สู้ดีนัก หากกระนั้นมือที่อุ้มหลานก็ยังอ่อนโยน “...พี่อย่าลืมเชียวนะฮะว่าเขาเคยทำอะไรกับเราเอาไว้บ้าง อีกอย่าง...ผมกลัวว่าเขาจะทำอะไรมินโฮ”
“พี่ไม่ยอมให้เขาทำอะไรลูกของพี่หรอก แล้วก็ใช่ว่าอยากจะให้ฮยอกแจกลับมาอยู่บ้านของเราด้วย แต่ถ้าขืนปล่อยให้ไปไกลหูไกลตา...เกิดทำอะไรขึ้นมาให้มันเดือดร้อนถึงอึนฮยอกจะว่ายังไง”
เหตุผลของพี่ดูเข้าที คยูฮยอนเลยยอมคลายสีหน้าลงนิด ซีวอนเอ่ยถามอีกครั้งอย่างจริงจัง
“แล้วฝ่ายอึนฮยอกเป็นยังไงบ้าง”
“คนของโรสมาร์คประกบติดแจอย่างที่เราคาดคิด จะเข้าไปดึงตัวมาเปลี่ยนกับฮยอกแจคงจะทำได้ไม่ง่าย แต่พี่คิดยังไงล่ะครับถึงได้บอกเรื่องอึนฮยอกกับฮยอกแจ ถ้าเกิดฮยอกแจได้กลับไปประจำตำแหน่งประธานของโรสมาร์ค เขาต้องตามหาตัวอึนฮยอกให้ควัก นั่นไม่ใช่สิ่งที่อึนฮยอกต้องการเลยสักนิด เขาเองก็ขอร้องพวกเราเอาไว้แล้ว”
“แต่ยังไงฮยอกแจก็ต้องสงสัยว่าใครที่เปลี่ยนตัวกับเขาเข้าไปอยู่ในโรสมาร์ค ไม่บอกตอนนี้ กลับไปเขาก็ต้องรู้อยู่ดีว่าเป็นน้องชายแท้ๆของตัวเอง สู้บอกตอนนี้...แล้วก็ให้เขาใช้เวลาตัดสินใจจะดีกว่าสุดท้ายแล้วจะเอายังไงกับอึนฮยอก ส่วนแฝดคนน้อง...พี่ว่าการหนีปัญหาไม่ใช่สิ่งที่ดี เขาควรที่จะเรียนรู้เผชิญหน้ากับมันมากกว่า และถึงจะเจ็บกว่าเก่า แต่มันก็โล่งใจกว่าต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ”
“มันก็จริง...”คยูฮยอนเอ่ยเสียงอ่อน “...แต่ยังไงผมก็ไม่อยากให้พี่กลับไปยุ่งกับแฝดคู่นี้อีกอยู่ดีนั่นแหละ ไม่ว่าจะอี ฮยอกแจ หรืออี อึนฮยอก...ผมกลัวว่าพี่จะต้องเจ็บอีก”
“ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแหละ...”ดวงตาคู่คมเงยจากเอกสาร ก่อนจะเหลือบมองไปยังบ้านอีกหลังนึงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล “...เพราะเมื่อจบเรื่องนี้แล้ว ระหว่างพี่กับ ‘เขา’ เราจะได้ไม่มีอะไรที่ต้องติดค้างกันอีกต่อไป...”
ดวงตาคู่คมตวัดกลับมามองน้องชายต่างสายเลือดของตนเอง คำพูดต่อมาทำให้โจ คยูฮยอนต้องหลุบตาต่ำ
“...ทั้งพี่ และนาย”
**
“เย้~!!!”
เสียงแก้วเหล้ากระทบกันดังเสนาะหู สำหรับการเฉลิมฉลองการเซ็นสัญญาของคู่ค้าอย่างประเทศจีน ที่โรสมาร์คสามารถบุกตลาดได้สำเร็จ จียงกระเดือกเหล้าเย็นเจี๊ยบลงคอก่อนจะส่งเสียงออกมาเหมือนตาแก่ได้ลิ้มรสของดี ยองเบที่โดนลากมาด้วยก็ทำหน้าที่เด็กดริ๋งให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
“ยินดีด้วยนะทงเฮ~”ฮีชอลที่ห่างหายไปนานกลับมาร่วมก๊วนจนได้ แม้จะพ่วงเอาปาร์ค จองซูมานั่งคอยรินเหล้าให้ตามประสาฝาละมีที่ดีหากก็ไม่ทำให้บรรยากาศเสียแต่อย่างไร
ทงเฮยิ้มรับน้อยๆก่อนจะดื่มเหล้าที่มีคนรินให้ลงคออย่างช้าๆ ดูท่าจะชำนาญการดื่มอยู่พอตัว แต่คนที่คอแข็งมากที่สุดในวันนี้กลับไม่ยอมแตะเหล้าเลยสักนิด คิบอมที่นั่งอยู่ข้างๆต้องหันมาเอ่ยถามอย่างนุ่มนวล
“ไม่ดื่มหน่อยเหรอฮยอกแจ? นี่ฉันผสมเหล้าตามแบบที่นายชอบเลยนะ”
“...”อึนฮยอกรับมาอย่างเสียไม่ได้ ความจริงแล้วเขาไม่ใช่คนที่ดื่มเก่งเลยแม้แต่น้อย พอเหล้าเข้าปากก็ชอบทำท่าจะฟุบหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ทุกเมื่อ แต่ก็ปฏิเสธคำชวนของคนอื่นๆอีกก็ไม่ได้นั่นแหละ
“ไม่สบายหรือเปล่านะ”ทงเฮหันมาเอามือแตะหน้าผากเพื่อนสนิท ที่จริงวันนี้ฮยอกแจน่าจะยินดีไม่แพ้ใครแท้ๆ แต่พอมาถึงก็เอาแต่นั่งนิ่ง แทบจะไม่พูดไม่จาอะไรกับใครมาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
“โดนท่านประธานอีดุมาเหรอ?”ฮีชอลตั้งข้อสันนิธาน ได้ข่าวว่าเมื่อช่วงเช้าอี ฮยอกแจถูกบิดาบุญธรรมเรียกเข้าไปหาตั้งนานสองนาน คนอื่นๆเป็นห่วงแทบตายแต่พอออกมาก็ไม่ปรากฏร่องรอยการถูกตบตีเหมือนอย่างเคยก็ค่อยวางใจ
คนถูกถามยิ้มบางๆก่อนจะส่ายหน้า แต่ละคนมองหน้ากันแล้วชักสีหน้างุนงง ไม่ว่าข้อสันนิธานใดก็ถูกปฏิเสธจนหมด ถามอะไรก็เอาแต่ส่ายหน้า จนสุดท้ายพวกที่คอยตั้งคำถามก็เลิกสนใจ หันมาเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
“นี่คิบอม...”ฮีชอลหันมาหาน้องชายตัวเอง “...พ่อบอกว่า พวกนายสองคนน่าจะแต่งงานกันเมื่อโปรเจคที่ญี่ปุ่นจบลงนะ”
“อะ...อ่า”คิบอมละความสนใจจากร่างข้างกาย หันมาฟังพี่ชายตัวเองพูด
“แล้วก็น่าจะเตรียมงานกันภายในเร็วๆนี้ด้วยนะ เพราะเดี๋ยวพวกนายก็จะยุ่งยากกับการทำงานกันจนหัวปั่น เดี๋ยวงานแต่งจะออกมาได้ไม่ถูกใจ เหมือนตอนฉันกับอีทึก...”ว่าพลางซบหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรงลงออดอ้อนคนข้างกายพร้อมเอ่ยเสียงอ่อย “...ฉันน่ะอยากจะจัดงานแต่งที่มัลดีฟ แต่ต้องไปจัดที่ข้างแม่น้ำแยงซีเกียงเสียนี่ เหอะ! เทศกาลกินเจด้วย โรแมนติกมากกกก ขอบอก!"
“ประทัดดังมากเลยครับ”จียงเอ่ยย้ำความโรแมนติกของงาน
“ดีนะที่ไม่มีแห่มังกรมาด้วย”ฮีชอลเสริมอีก ก่อนจะมุ่ยหน้า
“ของผมยังไงก็ได้อ่ะ ว่าแต่...”คิบอมว่าพลางเหลียวมองคนข้างกาย ถามอีกด้วยความอ่อนโยน “...อยากจัดงานของเราเป็นแบบไหนล่ะ?”
อึนฮยอกชะงัก ท่าทางของอีกคนดูอ่อนโยนจนเขารู้สึกอิจฉาพี่ชายฝาแฝดของตัวเองเล็กๆ ท่าทางของอีกคนรอฟังคำตอบอยู่ แต่เขาไม่ใช่พี่ชายแล้วจะตอบอะไรได้ล่ะ
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้ว...คิบอมอยากจะจัดออกมาเป็นแบบไหนล่ะ?”
คิบอมนิ่งไปนิด ความจริงเขาไม่เคยคิดถึงสถานที่จัดงานแต่งระหว่างเขากับฮยอกแจเลยสักครั้ง อาจจะเป็นเพราะไม่คิดที่จะมีครอบครัวอีกต่อไปแล้ว หรือไม่ก็ไม่คิดว่าคู่แต่งงานจะเป็นเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่เด็กจนโตด้วย คำว่าคู่ชีวิต...เขายังคิดกับคนตรงหน้าไม่ออกเลย
“นั่นสิเนอะ”สุดท้ายก็พูดได้แค่นี้ อึนฮยอกมองอีกคนตาปริบๆ คิบอมทำหน้าเหมือนเก้อกระดากแกมสำนึกผิดเล็กๆที่ไม่ได้นึกใสใจในงานแต่งงานของพวกเขาเท่าที่ควร แต่สุดท้ายก็พูดความคิดแรกของตนออกมาจนได้
“เอาแบบมีแต่คนกันเองมาร่วมงานก็แล้วกัน เราสองคนไม่ได้ชอบพวกคนพลุกพล่านเหมือนกันทั้งคู่นี่น่า”
ตัดสินจากนิสัยส่วนตัวที่เหมือนกัน มากกว่าตัดสินจากความรู้สึกตนเองว่าต้องการให้มันออกมาเป็นแบบไหน สำหรับอึนฮยอกคิดว่าอีกคนคงจะแคร์พี่ชายของเขาน่าดู ก็แหงล่ะ...ครั้งนึงเขาเองก็เคยผิดสังเกต ว่าสองคนนี้อาจจะรักกันอยู่ก็ได้ ในเมื่อเขาเองก็เคยเห็นว่าคิบอมทำเพื่อพี่ชายของเขาได้มากขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นผู้ชายดีๆที่ไหนกันเล่าถึงได้ยอมมารักษาคนไม่สมประกอบอย่างเขาอยู่นานสองนาน
...นานจนคิบอมอาจจะคิดว่าเขาเป็นตัวแทนของพี่ชายก็ได้ ไม่อย่างนั้นคนที่คิม คิบอมรักจริงๆแล้วอาจจะเป็นพี่ชายของเขาก็ได้
ความคิดของอึนฮยอกหยุดลงเพียงเท่านั้น ร่างบางเอ่ยขอตัวแล้วผุดลุกไปเข้าห้องน้ำท่ามกลางความมึนงงของคนรอบข้าง ฮีชอลตวัดตาดุใส่น้องชายตัวเองให้เดินตาม คิบอมมองสายตาที่ส่งมาจากทั่วสารทิศก่อนจะก้าวตามอย่างไม่รอช้า
อึนฮยอกปลีกตัวมาล้างหน้าเงียบๆ หวังว่าความเย็นของสายน้ำจะทำให้เขาสามารถไล่ความคิดฟุ้งซ่านนั่นออกไปได้บ้าง หากตัวต้นเหตุกลับเดินตามมา แล้วเอ่ยออกมาเสียงนุ่มกังวาน
“ฉันทำให้นายเสียอารมณ์อย่างนั้นเหรอ?”
ร่างบางชะงัก หันมองคนที่เดินเข้ามาหาอย่างเงียบๆ คิบอมยิ้มออกมาจางๆก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองขึ้นมาซับหน้าให้เขาอย่างนุ่มนวล
“ฉันไม่อยากให้นายไปไหนมาไหนคนเดียวนะฮยอกแจ กลัวจริงๆว่าใครจะมาจับตัวนายไปอีก”
“คงไม่แล้วล่ะ”อึนฮยอกเอ่ยออกมาเสียงเบาหวิว ยิ่งรู้ว่าอีกคนอ่อนโยนกับพี่เขามากขนาดไหน ตัวเขายิ่งรู้สึกจุกลึกในอกแหะ
“อย่าประมาทสิพ่อคนเก่ง...”คิบอมยีหัวอีกคนอย่างหมันไส้เล็ก ก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้ง “...ที่มันปล่อยตัวมานี่ก็โชคช่วยแล้วนะรู้มั้ย อย่าคิดทำให้คนอื่นเขาหัวใจวายอีกเชียว เพราะถ้าไม่มีนาย...ฉันคง...”
คิบอมนิ่งไปนิด ดวงตาจุดเศร้าหากก็ไม่พูดอะไรต่อจากนั้น อึนฮยอกรู้สึกชาวาบไปทั้งกาย...นี่พี่ชายของเขาคนตรงหน้าผูกพันกันมากขนาดนี้เชียวเหรอ
“ฉันจะไม่หายไปไหนอีก...”อึนฮยอกเอ่ยออกมา เล่นเอาดวงตาสีดำขลับนั่นชะงัก เขาเอื้อมมือไปจับฝ่ามืออุ่นอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนจะรีบปล่อยเมื่อเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั้งกาย “...จะไม่หายไปอีกนะ”
“...”ดวงตาสีดำขลับคมกริบจุดประกายประหลาด จับจ้องคนตรงหน้าด้วยรับรู้ถึงความอ่อนหวานที่ส่งมาให้ ซึ่งมันไม่เคยมีเลยสักครั้ง
“...อี ฮยอกแจจะอยู่กับคิม คิบอม”
พูดจบอึนฮยอกก็เหมือนน้ำท่วมปาก กลืนอะไรไม่ลงคอเลยสักอย่างเดียว ใช่...แค่อี ฮยอกแจไม่ใช่เขา และไม่มีทางเป็นอี อึนฮยอกที่ตายจากอีกฝ่ายไปนานแล้วด้วย
คิบอมมองคนตรงหน้าดวงแววตาอ่อนโยนกว่าเก่า เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มขาวนั่นก่อนจะเลื่อนกายเข้าหา อึนฮยอกนิ่งงันด้วยรู้ดีว่าอีกคนกำลังคิดทำอะไร ใจนึงเขาอยากจะผลักออก...หากความโหยหาที่ไม่ได้สัมผัสมาแสนนานกลับสาปให้ทั้งร่างนิ่งแข็งเมื่อคิบอมประทับริมฝีปากลงมา
“ขอบคุณนะ...เจ้าสาวของฉัน”
เสียงทุ้มแนบชิดเพียงเท่านั้น ก่อนความหอมหวานที่ไม่เคยได้สัมผัสจะทาบทับลงมาที่เรียวปาก เรียวลิ้นที่แทรกเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัวนั่นทำให้ดวงตาสีอำพันเบิกกว้าง คิบอมไม่เคยจูบเขาอย่างจริงจัง รายนั้นบอกเสมอว่าจะเก็บไว้ในวันสำคัญของเรา พ่อสุภาพบุรุษตลอดกาล...แต่กับพี่ชายคงเคยทำสินะ
ถึงจะเจ็บปวด...หากคนอ่อนแอยังเลือกที่จะหลับตาลงรับสัมผัสนั้นโดยดุษฎี
พี่ฮะ...
...ความสุขของพี่ ผมขอขโมยมันสักพักได้หรือเปล่า
**
ยามของบ้านตระกูลชเวมันเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่...
อี ฮยอกแจกำลังคิดว่าตัวเองเป็นนักโทษขุมขังเสียอย่างนั้น ยามแต่ละคนเดินขวักไขว่ไปมาพอเห็นเขาเดินไปทางไหนก็เหลียวตาม ก็รู้หรอกน่าว่าเจ้านายคงจะกำชับนักกำชับหนาว่าไม่ให้เขาออกจากนอกรั้วบ้านไปได้ ร่างบางทรุดตัวลงนั่งข้างบ่อน้ำอย่างหงุดหงิด รู้สึกเหมือนนกที่ถูกกักกัน เขาอาจจะอยู่ที่นี่อย่างใจเย็นได้แม้ไม่ชอบหน้าคนในบ้านนี้นัก หากไม่ใช่เพราะว่า...
“น้องชายของคุณไง”
“คุณรู้หรือยังว่าเขายังไม่ตายน่ะ”
ดวงตาสีอำพันหลุบต่ำ มองภาพเงาสะท้อนของตัวเองในแม่น้ำ ดวงหน้าของอึนฮยอกเหมือนเขาไม่ผิดเพี้ยน หากกระนั้นอี ฮยอกแจก็เลือกที่จะวาดมือลบรอยเงาของตัวเองไป
ความจริงแล้ว...ตัวเขาไม่เคยเห็นอึนฮยอกในเงาของตัวเองเลยสักครั้ง
ต่อให้เหมือนแค่ไหน อี ฮยอกแจก็รู้มาโดยตลอดว่าเงาที่สะท้อนกลับมานั้นมันไม่ใช่เงาของอึนฮยอก
ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจที่น้องชายตัวเองยังไม่ตาย เขาและคิบอมมักมีความหวังมาโดยตลอดว่าคนๆนั้นจะยังมีชีวิตอยู่ ตราบใดที่ยังหาศพไม่เจอเขาก็ไม่เคยเชื่อว่าอีกครึ่งหนึ่งของตัวเองได้หายไปจากโลกนี้แล้ว ไม่สิ...สำหรับฮยอกแจ อึนฮยอกไม่เพียงเป็นครึ่งหนึ่งของตัวเขา รายนั้นเป็นทั้งชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้
แค่มีอึนฮยอก...ฮยอกแจก็จะคิดว่าตัวเองมีค่าพอที่จะอยู่บนโลกที่มีแค่คำโกหกหลอกลวงใบนี้แล้ว
เพราะอย่างนั้นถึงได้อยากกลับไป...เขาคิดว่าคนที่จับเขาไปเพื่อไม่ให้ได้เซ็นสัญญานั่นจะต้องไม่อยู่เฉยแน่นอน ถึงคิบอมจะไม่ยอมให้อึนฮยอกหรือฮยอกแจตัวปลอมเป็นอะไรไป แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังคิดว่า...อันตรายอยู่ดีนั่นแหละ
เป็นครั้งที่สองที่เขาคิดถึงคิม คิบอม...
ไฟดวงเล็กถูกจุดขึ้น ก่อนที่มันจะติดกับบุหรี่รสโปรดที่ควานหาเจอในที่ๆเขาเคยอยู่ ฮยอกแจสูดควันเข้าเต็มปอดแล้วปล่อยออกมา เงยมองควันสีขาวที่เหมือนก้อนเมฆกำลังพวยพุ่งไปตามทิศทางลม กลิ่น...และรสของมันเป็นแบบที่เขาชอบ ทั้งๆที่จำได้ว่าลองสูบครั้งแรกก็ถึงกับสำลักควันจนหน้าแดง แถมโดนเจ้าคิบอมเทศน์ใส่เสียหูชา แต่ถึงกระนั้น...เด็กดื้ออย่างฮยอกแจก็ได้ลิ้มลองมันเรื่อยมา
...และนี่ เป็นครั้งที่สามที่เขาคิดถึงคิม คิบอม...
ฮยอกแจหลุบต่ำมองจุดแดงวาบที่มวนบุหรี่ เปลวไฟถึงมีน้อยนิดแต่ก็มักแผดเผาได้ทุกอย่าง ไฟราคะของคิบอมก็เหมือนกัน แผดเผาเขาทั้งตัวและใจในคืนนั้น...ฮยอกแจรู้สึกเหมือนตัวเองถูกทำร้ายจนยับเยิน ก่อนที่ถูกจับไปเขาแทบมองหน้าคิบอมไม่ติดเลยด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะเหตุผลนี้กระมัง พวกมันถึงได้เลือกจังหวะในการจับตัวเขาโดยรอดผ่านสายตาของคิบอมไปได้
คิบอม...คิบอม...คิบอม...
ฮยอกแจล่ะอยากจะเกลียดผู้ชายคนนี้นัก ตั้งแต่เด็กมาก็เจ้ากี้เจ้าการ มาทำให้ฮยอกแจมีเพื่อนคนอื่นที่ไม่ใช่น้องชายของตัวเอง มาคอยดูแล มาคอยเอาใจใส่ มาคอยเอาใจทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่ ที่สำคัญ...มาทำให้เขารักทำไมนะ
ร่างบางฟุบหน้าลงกับหัวเข่าของตัวเองอย่างเหนื่อยอ่อน แน่ล่ะ...รักเป็นสิ่งที่เลิกไม่ได้ง่ายๆ ตอนนี้อึนฮยอกกลับไปโรสมาร์ค ไม่ว่าวันใดก็วันนึงคิบอมจะต้องรู้ว่าคนที่อยู่ด้วยกันมันไม่ใช่เขา คิบอมเป็นคนฉลาดที่แยกแยะคนออกง่ายจะตาย ต่อให้อึนฮยอกจะเหมือนเขาราวส่องกระจกแค่ไหน แต่ฮยอกแจก็เชื่อว่าคิบอมจะจำน้องชายของเขาได้
แล้วกำหนดแต่งงานของ ‘เรา’ ‘เขา’ จะทำยังไง
ฮยอกแจอัดควันบุหรี่เข้าปอดของตัวเองอีกครั้ง แล้วเผลอแค่นยิ้มเยาะออกมา...
ก็ง่ายๆ...คิบอมก็ต้องเลือกอึนฮยอกอยู่แล้ว เจ้าสาวตัวจริงของคิบอมเขากลับมาแล้วนี่ เขาที่เป็นได้แค่ ‘เงา’ ของอึนฮยอกก็หมดความหมาย คิบอมเป็นคนฉลาด...และเป็นเหมือนคนอื่นๆนั่นแหละ ที่มักเลือกอึนฮยอกไม่ใช่เขา ก็เงามันไม่อุ่นเหมือนแสงนี่...
ฮยอกแจมองบุหรี่ในมือของตัวเองอีกครั้ง เริ่มนึกสงสัย...
บุหรี่นี่มันจะทำให้คนเราตายเร็วจริงหรือเปล่านะ
**
บางทีคยูฮยอนเองก็คิดเหมือนกันนะ...ว่าตัวเองใจอ่อนมากเกินไปหรือเปล่า
ร่างสูงหักรถเลี้ยวเข้าบริษัทของคู่แข่งตัวฉกาจ ทำให้ตั้งแต่ยามหน้าประตูยันพนักงานหันมามองเขาอย่างตกตะลึงเมื่อเอ่ยปากขอพบ ‘ท่านประธานแห่งโรสมาร์ค’ ของพวกเขา คยูฮยอนก้าวเข้าไปในลิฟท์ที่เคยใช้เป็นประจำยามที่บริษัทนี้ยังเป็นของไลอ้อนจิวเวอร์รี่ เขาช่ำชองที่ทางพอควรถึงการตกแต่งจะดูแปลกตาไปบ้าง แต่พวกห้องของผู้บริหารรายใหญ่ๆนั้นคงไม่แตกต่างไปจากเดิมมากนักหรอก
เลขาหน้าห้องหน้านิ่งตามแบบที่ชางมินเคยบอก มองเขาอย่างตกตะลึง ก่อนจะพยายามรักษาภาพพจน์แล้วกดรายงานท่านประธานในห้อง ซึ่งคยูยอนเองก็รู้สึกยินดีที่ไม่เจอกันใครคนอื่นในโรสมาร์คซึ่งเขาไม่ต้องการแม้แต่จะพบหน้าเลยสักนิด
“คุณคยูฮยอน...”อึนฮยอกปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองขึ้นมาทันทีที่เห็นเขา ผุดลุกและก้าวเข้ามาหาเขาด้วยท่าทีที่คยูฮยอนคุ้นเคยดี ถึงแม้เสื้อผ้าหน้าผมจะดูขัดตาเพราะดันไปเหมือนฮยอกแจมากไปหน่อยก็เหอะ “...ผมดีใจจริงๆนะที่เห็นคุณ”
“ที่จริงผมไม่ควรจะเข้ามาพบคุณถึงที่นี่ เพราะตอนนี้โรสมาร์คกำลังคิดว่าใครกันที่เป็นหนอนบ่อนไส้ให้กับไลอ้อนจิวเวอร์รี่...”คยูฮยอนบอกเรียบๆ ยื่นแฟ้มในมือให้ “...แต่ฮยอกแจเขากำชับกับพี่ชายผมถึงขนาดจะฆ่าปาดคอกันเลยถ้าหากไม่มีใครเอาเอกสารพวกนี้มาส่งให้ถึงมือคุณ”
“ขอบคุณครับ”อึนฮยอกรับมาท่าทางยังงงๆ เอกสารนั้นมีน้ำหนักพอตัว อึนฮยอกวางมันลงบนโต๊ะทำงานแล้วหันมาเอ่ยกับเขาต่อ “...แล้วพี่เป็นไงบ้าครับ เขาคงจะรู้เรื่องผมแล้ว”
“ครับ เขาเป็นห่วงคุณมาก แต่เราคงจะเปลี่ยนตัวคุณกับพี่ชายไม่ได้ง่ายๆ โรสมาร์คไม่ไว้ใจไลอ้อนจิวเวอร์รี่ และที่สำคัญคือทุกการเคลื่อนไหวนอกบริษัทคุณเป็นที่จับตามองของคนในโรสมาร์ค เหตุการณ์ที่ฮยอกแจถูกจับตัวไปอยู่ครั้งหนึ่งคงจะข่มขวัญคิม คิบอมน่าดู”
พอชื่อของบุคคลที่สามดังออกมา คยูฮยอนสังเกตได้เลยว่าอึนฮยอกหลุบตาต่ำ
“...เพราะงั้นนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้มาพบคุณที่นี่ เราจะติดต่อกันทางโทรศัพท์ ผมแนบเบอร์ของพวกเราไว้ในแฟ้มนั่นด้วย ข้อมูลที่ฮยอกแจส่งมาเขาบอกว่าเป็นข้อมูลลับที่คุณจะต้องรู้หากเข้ามาเป็นประธานของโรสมาร์ค”
“ขอบคุณครับ...”อึนฮยอกแย้มรอยยิ้มออกมาจางๆ “...ผมไม่รู้จริงๆว่าจะขอบคุณคุณยังไงดี”
“ถ้าอย่างนั้นช่วยอ่อนข้อให้บริษัทของผมหน่อยก็พอ”คยูฮยอนยิ้มออกมาจางๆ พอทำให้อึนฮยอกยิ้มออกมาได้ ร่างสูงก้มมองนาฬิกาข้อมือของตนเอง “...ผมต้องกลับไปบริษัทก่อน อยู่นานท่าจะไม่ดี ยังไงก็รักษาตัวด้วยนะครับ”
“ฮะ”อึนฮยอกโบกมือลา ก่อนจะแทบสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
คยูฮยอนเหยียดยิ้มจางๆเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา “หวงเจ้านายของตัวเองเหลือเกินนะ โรสมาร์ค”
คิม คิบอมก้าวเข้ามาเป็นคนแรก เขาทำหน้าประหลาดเมื่อเห็นโจ คยูฮยอน ส่วนคนที่สองไม่ต้องพูดถึง อี ทงเฮทำท่าเหมือนกำลังกินยาขมเมื่อสบดวงตาสีดำขลับที่เย็นชาคู่นั้น
“ขอโทษ ผมนึกว่าเป็น...”คิบอมเอ่ยออกมาเป็นคนแรกอย่างกระอักกระอ่วน
“พี่ชายของผม...”คยูฮยอนไหวไหล่ “...มาไม่ได้หรอกครับ วันนี้เป็นวันหยุดที่พี่จะต้องอยู่กับลูก งานอะไรผมจะต้องเป็นคนจัดการแทนเองทั้งหมด และพวกคุณเองก็คงจะไม่ไว้ใจถ้าหากเห็นว่าพี่ซีวอนเขาเข้าใกล้ประธานของพวกคุณใช่มั้ยล่ะ”
“แต่ฉันแปลกใจที่เห็นนายมากกว่า...”ทงเฮเอ่ยขึ้นมาเสียงราบเรียบ ทำเอาดวงตาของอีกคนเปลี่ยนไป “...เพราะฉันคิดว่าตัวเองรู้จักนายดี เลยไม่คิดว่านายจะอยากเข้ามาเหยียบที่โรสมาร์คหรอกนะ ถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็นจริงๆ”
“ผมก็เป็นอย่างที่คุณพูดนั่นแหละ...”คยูฮยอนรู้ตัวว่ากำลังใช้น้ำเสียงที่ห่างเหินและเย็นชานัก “...แต่เพราะมันจำเป็นจริงๆผมเลยต้องมา ข้อตกลงการแข่งขันที่ทางญี่ปุ่นเขาส่งมาให้ จะต้องให้ประธานแห่งโรสมาร์คเซ็นรับเหมือนๆกับพี่ชายของผม และต้องใช้สัญญาใบเดียวกันด้วย”
คิบอมกับทงเฮมองหน้ากัน คยูฮยอนหันมาหาอี ฮยอกแจตัวปลอมที่ได้แต่ปั้นหน้ายากเพราะไม่รู้จะวางตัวยังไงในสถานการณ์มาคุแบบนี้
“อย่าลืมอ่านรายละเอียดการแข่งขัน และเซ็นรับทราบ พร้อมแฟกซ์มาให้ไลอ้อนจิวเวอร์รี่ด้วยนะครับ ‘อี ฮยอกแจ’”
“อื้อ”
อึนฮยอกวางตัวไม่ถูก แต่โชคดีที่อีกสองคนไม่มีใครสังเกตเขามากนัก พอคยูฮยอนเดินออกจากห้อง ทงเฮก็ปราดเข้าไปหาเพื่อนแล้วถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“นายเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่”อึนฮยอกส่ายหน้า หยิบซองเอกสารมาวางไว้บนตัก กันคนอื่นมาดึงไปเปิดดูแล้วความจะแตก
“หมอนั่นไม่ได้ทำอะไรนายนะ?”
ทงเฮยังถามต่อ อึนฮยอกส่ายหน้า เขาไม่รู้เรื่องระหว่างพี่ชายกับคนของไลอ้อนจิวเวอร์รี่มากนัก คิบอมมองท่าทีแบบนั้นแล้วต้องเลิกคิ้วขึ้นสูง
**
“จริงๆนะพี่! ผมเห็นเจ้าซึงฮยอนมันอยู่กับคนของโรสมาร์คจริงๆนะ!”
ชางมินเอ่ยเสียงเครียด เปิดประเด็นเผ็ดร้อนที่ทำเอาคนที่เดินเล่นอยู่รอบสวนบ้านชะงักกึก แล้วรอฟังประโยคต่อมาอย่างใจจดจ่อ
“โรสมาร์ค? เจ้าหมอนั่นมันไปรู้จักคนของโรสมาร์คตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
ซีวอนเอ่ยถามเสียงเครียด ขณะที่มือก็ตักเค้กป้อนมินโฮที่นั่งออดอ้อนอยู่บนตักของพ่อประสาเด็กติดพ่อ ชางมินเอามือเท้าคางพลางตักเค้กกินแล้วส่ายหน้า
“ไม่รู้ดิพี่! พี่ก็รู้ว่าไอ้หมอนี่มันอาร์ตตัวพ่อ จะทำอะไรหรือก็ไม่มีจะสุงสิงกับใครเขาหรอก ขนาดงานออกแบบมันยังจดคำสั่งยิกๆให้นักประดิษฐ์ของเราจัดการ ถ้าไม่มีแดซองเป็นล่ามนะ ผมว่าไลอ้อนจิวเวอร์รี่คงจะไม่ได้งานสักชิ้นอ่ะ!”
“แล้วนายได้เดินเข้าไปทักมันหรือเปล่า?”
“โห่พี่!...”ชางมินขึ้นเสียงสูง “...มันนั่งคุยกันอยู่ในร้านเหล้าสองคน หน้าเครียดกันทั้งคู่ แต่ที่ไม่ผิดแน่ๆก็คืออีกฝ่ายนึงเป็นคนของโรสมาร์คนั่นแหละ เป็นไปได้ไหมพี่ว่าหมอนั่นจะเป็นสายให้เราผ่านเจ้าซึงฮยอนที่บริษัทนั้นเขาตามตัวอ่ะ”
ซีวอนส่ายหน้าโดยไม่ต้องคิด อุ้มมินโฮลงจากตักเมื่อลูกชายตัวดีทำท่าอยากจะลงจากตักพ่อไปวิ่งเล่นเต็มแก่ “คนที่คอยป้อนข้อมูลของเรามักบอกถึงคอนเซป เวลาการทำงาน แผนเจาะตลาดของโรสมาร์คเป็นส่วนใหญ่ แต่ซึงฮยอนเขาจะทำงานตามที่พี่สั่ง หมอนั่นไม่มีปากเสียงอะไรหรอก แค่ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้นเอง”
“แล้วพี่รู้ป่ะว่าสายของเราเป็นใครอ่ะ”คราวนี้ชางมินถามอย่างจริงจัง
ซีวอนส่ายหน้าอีกครั้ง “หมอนั่นชอบส่งจดหมายผ่านทางคยูฮยอน ไม่ลงชื่อ ไม่ลงที่อยู่ ตอนแรกก็นึกว่าพวกโรคจิต แต่ไปๆมาๆ...แผนการตลาดที่เขียนไว้ในจดหมายนั่นดันตรงเป๊ะกับแผนการตลาดของโรสมาร์ค”
“อ้าว = =” ชางมินอ้าปากหวอ เกาหัวแกรกๆ “...แล้วมันใครวะเนี่ย”
“พี่กำลังคิดว่า...”
“เฮ้ยยยยยยยยย!!!”
เสียงร้องของบุคคลที่สามดังลั่น เล่นเอาอีกสองคนลุกพรึบ เห็นอี ฮยอกแจกำลังทำหน้าเหมือนอยากฆาตกรรมคนตัวเล็กที่กระโดดขี่หลังเขาเสียอย่างนั้น
“เล่นกันนะ เล่นกัน ^O^”
มินโฮว่าพลางรัดร่างอีกคนไว้แน่น ฮยอกแจตวาดลั่นแทบจะทันที
“ไม่เล่น!!!”
เจ้าหนูน้อยถึงกับสะอึก รื้นน้ำตาแล้วเบะปาก ปล่อยอีกคนที่ทำสายตาดุใส่ ก่อนจะวิ่งโร่ไปหาพ่อตัวเองที่ทำหน้าปั้นยาก ขณะที่ชางมินทำหน้าเหรอหรา
“คุณมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“ก็ตั้งแต่นายพูดเรื่องเกี่ยวกับหนอนในบริษัทฉันนั่นแหละ” ฮยอกแจว่าพลางเอามือปัดเศษทรายที่ติดมาเพราะมินโฮเอาขาตะกายตัวเขา ดวงตาสีอำพันตวัดมองอีกคนแล้วเอ่ยออกมาเสียงราบเรียบ “...สรุปแล้วมีจริงๆใช่มั้ย? หนอนที่คอยส่งข้อมูลของพวกฉันไปยังบริษัทของนายน่ะ”
“มี...”ซีวอนตอบตามตรง ก้มลงช้อนลูกรักขึ้นมากอดปลอบ มินโฮมองฮยอกแจแล้วเบะปาก ทำท่าจะร้องไห้จนซีวอนต้องส่งต่อให้ชางมิน เพราะตัวเองคงต้องจัดการปัญหาใหม่เสียก่อน “...แต่เราไม่รู้ว่าเป็นใคร และไม่เคยส่งใครเข้าไปในบริษัทของคุณด้วย”
“แต่นายก็ยังทำตามแผนการที่จดหมายนั่นส่งมาให้?”
“ก็ผลประโยชน์ของบริษัท เขาส่งมาให้เราก็ถือว่าลาภลอย”
ฮยอกแจชักสีหน้าไม่พอใจโดยทันควัน ซีวอนเหยียดยิ้มเมื่อเห็นอีกคนดูไม่ค่อยสบอารมณ์
“อย่าทำหน้าแบบนั้นเลยน่า สิ่งที่คุณทำเอาไว้มันร้ายกว่านั้นเยอะ จำได้หรือเปล่า”
“นายนี่เอะอะก็ชอบยกเรื่องเก่าๆมาพูด ทำไม...”ฮยอกแจเดินเข้าไปใกล้อีกคนพร้อมยิ้มออกมาอย่างยั่วยวนจนซีวอนเปลี่ยนสีหน้า ยิ้มยั่วใส่ดวงตาดุๆของอีกคน “...ติดใจฉันหรือไง”
“...”
“อะแฮ่ม!”
ชางมินที่เหมือนว่าตัวเองถูกลืมเลือนไปกระแอมเรียกร้องความสนใจ ชูมินโฮที่เบะปากร้องโยเย เอื้อมมือจะหาฮยอกแจลูกเดียวแล้วเอ่ยถามเสียงเหนื่อยหน่ายกับซีวอน
“จะเอายังไงกับลูกพี่ดีเนี่ย?”
ซีวอนหันควับไปที่คนข้างตัวที่ทำหน้าประหลาด ก่อนจะเอ่ยเสียงราบเรียบ
“อุ้มเขาหน่อยสิ”
“เรื่องสิ! ฉันไม่อุ้มลูกของนายหรอก!”
“ที่งานประกวดอัญมณีผมเห็นคุณยังอุ้มได้เลย?”
“ก็ตอนนั้นฉันไม่รู้นี่น่าว่าเขาเป็นลูกของนายน่ะ!!”
“พี่!...”ชางมินทำท่าขยาดกับเสียงเด็กร้องซึ่งดูจะดังขึ้นเรื่อยๆเรียกร้องความสนใจอีกครั้ง “...มินโฮร้องไห้จนหน้าจะเบี้ยวแล้วเนี่ย!! เอาไง!?”
ซีวอนมองคนดื้อแพ่งที่ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมแตะต้องลูกของเขา ก่อนจะเอื้อมมือไปรับเด็กมาอุ้มเสียเอง แล้วส่งให้อีกคนเสียดื้อๆ ทำท่าเหมือนจะปล่อยจนคนตัวบางตกหลุมพรางยกมือขึ้นอุ้มโดยอัตโนมัติ ฮยอกแจทำหน้าประหลาดเมื่อเด็กน้อยมาอยู่ในวงแขนและโผกอดเขาเต็มรัก ซีวอนขยับยิ้มออกมาจางๆ
“ดูแลเขาหน่อย ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่ผมได้ช่วยเหลือคุณก็แล้วกัน”
“ห๊า!?”
ฮยอกแจทำเสียงสูงใส่ ไม่ทันได้เอ่ยปากอะไรอีกคนก็เดินเข้าบ้านดื้อๆเสียอย่างนั้น ชางมินเองก็เดินลิ่วเพราะกลัวประธานแห่งโรสมาร์คจะโยนภาระตัวเล็กให้เขา อี ฮยอกแจหลุบมองดวงตาใสแจ๋วของชเว มินโฮที่อยู่ในวงแขน เจ้าตัวเล็กซบหน้าลงกับบ่าเขาแล้วเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้ว
“เล่นกันนะ”
“...”
**
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สงสารมันทุกคนเลยเนี่ย
อึนฮยอกบอม
เเต่ก็ยังเเอบเชียร์บอมฮยอกเเจเเฮะ
ยังรู้สึกเคืองๆวอนจากภาคที่เเล้ว ไม่หายเล้ย
ฮยอกสู้ๆนะ
อ่านแล้วไม่รู้จะสงสารใครดี
เพราะมันน่าสงสารทุกคนเลยอะ
อีฮยอกแจจะอ่อนลงมั๊ยนะ??
สงสารอึนฮยอกด้วย แต่สงสารฮยอกแจมากกว่าอ่ะ T^T
มินโฮ กามเทพตัวน้อย ช่วย วอนฮยอก สมหวังทีเถอะน๊า
แต่กำลังหลอกตัวเองอยู่ใช่มั้ยว่าคนนี้เนี๊ยะคือ ฮยอกแจ ไม่ใช่ อึนฮยอก
ไม่อยากทำให้ ฮยอกแจเสียใจเหรอ หรือ แค่ไม่อยากให้ตัวเองต้องเจ็บปวด เพราะต้องนึกถึง อึนฮยอก ??
ฮยอกแจ ยังคงรักคิบอมเหมือนเดิม น่าสงสาร ทั้งพี่ทั้งน้อง
แต่ฮยอกแจจ๋า อยู่บ้านซีวอน เค้าแล้วก็ช่วยดูแลลูกชายเค้าหน่อยเหอะ
แต่ก็ยังมั่นคง
ที่จะเชียร์ คิบอม ฮยอกแจต่อไป
แอบห่วงหนูมินโฮ ฮยอกจะทำอะไรมั้ยเนี่ย 555 แต่คงไม่หรอก...มั้ง (?)
ไหนๆวอนฮยอกก็มาอยุ่ด้วยกันแล้ว มินโฮจ๋า ~ หนูช่วยเป็นกามเทพให้ที่สิ 555
2คนนี้จะได้รักกันเร็วๆ แม่ฮยอกสวยน้าาดีด้วย(??)
อึนกับฮยอก อ่านแล้วเศร้า T^T พอๆกันเลย ฮยอกถึงใครๆจะทำเพื่ออึน อย่าเสียใจเลยนะ
บอมนายแกล้งจำไม่ได้ใช่มั้ย บอกเรามา *เขย่าตัว*
ให้ความหวังกันซักนิดไม่ได้เรอะว่าแกยังจำอึนได้ ToT
คยูแกะเย็นชากับเฮแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กันห๊ะ !
#โอเคไรเตอร์ จะรอน้าา ~ จะแวะไปคุยด้วยอีกนะคะ ><
ขอให้วอนรักฮยอกแจมากขึ่นๆทีเตอะ */\*
เค้าสงสารฮยอกอ่าไม่มีใครรักเลย วอนก็เหมือนจะรัก แต่ความแค้นมันบังตา=*=
ช่วงแรกๆที่อ่าน รู้สึกคล้ายแรงเงาเบาๆ 555555555 .__.
ฮยอกรีบรับไว้เชียวนะ กลัวลูกเค้าบาดเจ็บล่ะสิ
แอบลุ้น
บอมจะเอะใจแล้วป่ะเนี๊ยะ!!!
แต่ฮยอกต้องมาดูแลมินโฮ มินโฮคงคิดว่าเป็นอึน
อ๊ากกกก น่ารักอ่ะ ฮยอกในแบบนี้
เจ็บปวดกับอึนฮยอกอ่ะ ต้องไปอยู่แทนที
แหง่ใส่กันตลอดเชียวนะ คยูเฮ - -!
รออัพของไรเตอร์นะค่ะ สู้สู้
เราอุตส่าเชื่อว่าบอมจะจำได้นะเนี่ย..
หรือว่าบอมกำลังกลับไปตกหลุมรักฮยอกอีกรอบกันแน่...
อย่าเชียวนะ... อะำไรๆมันก็กำลังจะลงตัว(?)
ฮยอกแจอุตส่าได้ไปอยู่กับวอนแล้ว อย่าเพิ่งยุ่งยากไปกว่านี้เลยนะ ~~
อึนอึนก้อพยายามเข้านะ... เราจะเปนกำลังใจให้
อย่าท้อนะ... เพราะถึงยังไงก็มีคนรักอึนอึนมากมายเลยแหละ ~
ด้วยความสัตย์จริง.... เวลาอ่านช่วงความรู้ของฮยอกแจทีไร
มันอึดอัดทุกทีเลยอะ... มันแบบ เจ็บปวดดดดด
เหมือนไม่ีมใครรักและต้องการฮยอกจิงๆสักคนเลย Y []Y
ชเว... จิงๆแล้วลุงก็เริ่มรักฮยอกแล้วใช่มั้ย?
แล้วฮยอกละ... เปลี่ยนใจจากคิบอมเถอะนะ...
เรื่องนี้อ่านทีไรต้องรู้สึกหยุดไม่อยู่จิงๆ ลุ้นมันทุกตอน
อยากรู้เหมือนกันว่าใครมันเป็นหนอน จิงๆในใจก้อคิดไว้คนนึงเหมือนกัน
ไม่กล้าเดา กัวไรเตอร์หักมุมอีก 5555
อัพอาทิตย์ละครั้งก้อยังดีค่ะ ยังไงก้อจะรอเสมอเลยนะค่ะ สู้ๆ