ตอนที่ 3 : -3-
อึนฮยอก...จัดการนี่ให้ด้วยนะ
ร่างบางของหญิงสาวเดินมาวางปึกเอกสารหลายปึกตรงหน้าของคนที่เพิ่งกลับมาทำงานได้ไม่กี่ชั่วโมง ฮยอกแจปรายตามองเอกสาร ก่อนจะหยิบมาจับๆดูสักเล็กน้อย
ฮยอกแจ ฉันช่วย...ซองมินไหวตัว หากโดนอีกคนยกมือขึ้นห้าม
นี่มันไม่ใช่งานของฉัน แล้วก็นาย คนที่ควรจะทำเป็นอีกโต๊ะนึงมากกว่า...ร่างบางหยัดตัวลุก ก่อนจะฉีกยิ้มหวาน ...เดี๋ยวผมเอาเอกสารไปส่งให้นะครับ
หลายคนที่โบ้ยงานมาให้ชักสีหน้าหลากหลายจนบอกไม่ได้ว่ามันคืออะไรบ้าง หากตัวการยังก้มลงนั่งทำงานของตนที่เดิม ฮยอคแจไม่ใช่จะสามารถทำงานของตนต่อไปได้อย่างสบายใจ ความรู้สึกด้านลบมันส่งผลให้เขาต้องขบคิดว่าเพราะเมื่อก่อนอึนฮยอกยอมตกเป็น เบี้ยล่าง แบบนี้หรือเปล่า ทุกคนถึงได้มองเขาเหมือนเป็นคนเก่า คนที่จะสามารถเอารัดเอาเปรียบได้ พอคิดถึงว่าเมื่อก่อนเขาเคยมองคนที่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างของคนอื่นด้วยสายตาแบบไหน ก็รู้สึกเจ็บใจเท่านั้นเพราะตระหนักแล้วว่าใครอีกคนก็เป็นหนึ่งในผู้ที่สมควรรับสายตาเช่นนั้นจากเขาเช่นกัน น่าสงสาร...น่าเย้ยหยัน...หนึ่งในเรื่องเศร้าของชีวิตคนเรา ที่ยากจะหาทางแก้ไขเช่นกัน
ไม่ช้านานใครบางคนก็เดินเข้ามา เขาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะของคนที่เพิ่งจะกลับมาทำงานเป็นวันแรก แล้วเอ่ยเสียงเบาเรียกให้ดวงตาสีอำพันใสนั้นช้อนขึ้นมองเจ้าของคำพูด
ไปทานข้าวกลางวันกันไหมครับ
นิ้วที่กำลังกดคอมพ์ชะงัก ช้อนสายตาขึ้นมองประธานหนุ่มที่กำลังแย้มรอยยิ้มอ่อนหวาน ฮยอกแจส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มน้อยๆเหมือนเอาใจคนที่ต้องผิดหวังเมื่อเอ่ย
เสียใจครับ ผมนัดกับซองมินเอาไว้เรียบร้อยแล้ว...
ไม่เป็นไร ไปเหอะซองมินรีบเอ่ยเสียงเบา เกรงใจใครอีกคนที่ลงมาจากชั้นบนสุดเพื่อเชิญชวนเพื่อนของเขาร่วมทานอาหารกลางวัน
หากฮยอกแจก็ยังส่ายหน้าอยู่ดี เหลือบตามองสีหน้าผิดหวังน้อยๆของชเว ซีวอน ก่อนจะดึงเนคไทให้อีกคนโน้มคำคอมาใกล้ๆ แย้มยิ้มเหมือนยั่วยวน แต่เย็นนี้...มือดึกนะครับ ผมว่าง
ชเ ซีวอนชะงักน้อยๆ ก่อนจะแย้มรอยยิ้มอ่อนหวาน ฮยอกแจกดจูบเบาๆที่แก้มขาวของอีกคน ท่ามกลางสายตาของคนทั้งแผนกที่มองมา ซองมินทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนเพื่อน ซีวอนมองอีกคนที่ทอดสายตามองเขาอย่างอ่อนหวาน
งั้นเย็นนี้ผมรับคุณกลับคอนโดนะร่างสูงเอ่ย ไล้แก้มขาวแผ่วเบาอย่างอาวรณ์ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่วายเหลียวมองคนรักเป็นระยะ
ฮยอกแจหันมาคว้ากระเป๋า ก่อนจะหันมาดึงมือซองมิน
ไปกินข้าวกลางวันกันเถอะ
ซองมินพยักหน้า ก่อนจะเป็นฝ่ายรีบลากเพื่อนไปไวๆ เพราะเขารู้ดีว่าอีกไม่นานก็คงจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ลั่นบริษัท เจ้าตัวเดินพาเพื่อนมาร้านอาหารริมทางที่เคยทาน หากฮยอกแจรั้งไว้เมื่อเห็นสภาพร้านที่ทรุดโทรมและไม่ถูกสุขอนามัยเท่าที่ควร
นายจะกินร้านนี้เนี่ยนะ
ร้านนี้เจ้าประจำเราเลยนะ...ซองมินหันมาขมวดคิ้วใส่ ทำปากยื่น ก่อนจะยิ้มให้อย่างสดใส ...แล้วก็ถูกที่สุดด้วย ถ้าร้านนี้ฉันเลี้ยงข้าวนายได้นะ^^
ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะเลี้ยงเอง...ฮยอกแจดึงมือของอีกคนไปอีกทาง ก่อนจะยิ้มหวาน ...ฉันพาไปกินอีกร้านจะดีกว่า มานี่เร็ว!
ซองมินทำหน้าเหวอ ก่อนจะโดนอีกคนลากคอขึ้นรถแท็กซี่ไปโดยไม่ทันได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร
**
ฮยอกแจนั่งมองอีกคนที่นั่งตัวสั่น ซองมินทำท่าลุกลี้ลุกลนมองซ้ายขวา ร่างบางเห็นแล้วรู้สึกรำคาญตายิ่งนัก
เป็นอะไร นั่งสั่นเป็นจ้าวเข้าอยู่ได้ฮยอกแจเอ่ยถาม ขณะที่บริกรเดินมารินน้ำเสิร์ฟอย่างเอาใจ
ก็ฉันไม่เคยกินร้านหรูขนาดนี้นี่ เราไปที่อื่นกันเถอะนะ...ร้านนี้ฉันไม่มีปัญญาจ่ายหรอกซองมินกระตุกมือเพื่อนอย่างเว้าวอน ฮยอกแจส่ายหน้า
ก็ฉันบอกว่าจะเลี้ยงนายเองไง
ไม่เอาหรอก นายก็สถานะไม่ได้ดีไปกว่าฉันเท่าไหร่ จะให้นายมาเลี้ยงฉันได้ยังไง ไปกันเถอะ กลับตอนนี้ยังทันนะ
ไม่ทันแล้ว...ฮยอกแจชี้นิ้วไปที่บริกร ...เขาเอาอาหารมาเสิร์ฟเราเรียบร้อยแล้ว
ซองมินอ้าปากค้าง ก่อนจะมองอาหารสุดหรูที่วางเรียงรายบนโต๊ะ แต่ละอย่างเรียกเอาพยาธิในท้องเต้นระบำ ซองมินลูบพุงอย่างอายๆเมื่อมันส่งเสียงโครกครากมาตามสาย
กินสิ...ฮยอกแจผายมือ มองอีกคนอย่างเอ็นดู ซองมินพยักหน้าก่อนจะปัดความรู้สึกเครียดเกร็งทิ้ง คว้าส้อมและมีดหั่นเนื้อมาจัดการกับเสต็กเนื้อโคขุนตรงหน้า ฮยอกแจมองอีกคนแล้วเขาก็รู้สึกไม่ได้ว่าซองมินช่างเปรียบได้กับใครบางคนที่ตอนนี้คงกำลังจัดการเอกสารต่างๆนานาอยู่เสียเหลือเกิน ไม่ใช่เพราะท่าทางน่าเอ็นดู แต่หากแววตาบริสุทธ์และรอยยิ้มอ่อนหวานนั่น...คลับคล้ายเพื่อนรักที่ต้องห่างเหินกันอย่างคนๆนั้นเสียจริงๆ
...ทงเฮ...
เสียงเรียกช่อพึมพำทำเอาคนที่กำลังตักชิ้นเสต็กเนื้อวัวเข้าปากเงยหน้ามองตาใส ก่อนถามเสียงเบาเมื่อเห็นว่าอีกคนมองเขาอย่างเหม่อลอยไปไกล และที่สำคัญคือชื่อที่ออกมาจากเรียวปากสีกุหลาบนั่นไม่คุ้นเลย
ใครเหรอ
เพื่อนน่ะ...ฮยอกแจค่อยๆตักซุปเข้าปาก ...เขานิสัยคล้ายนายมากเลยทีเดียว แต่ซองมินคง...อ่อนต่อโลกกว่าเขานะ
ใช่...อี ทงเฮถึงจะแย้มรอยยิ้มได้อย่างบริสุทธิ์ใจ และมีดวงตาที่ใสซื่อแค่ไหน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมองโลกในแง่ดีขนาดไม่คิดเฉลียวใจเรื่องใกล้ตัวเสียเกินไปอย่างอี ซองมิน ถ้าเป็นรายนั้นล่ะก็...ต้องจับผิดคนได้แน่ๆ
นายไปมีเพื่อนคนอื่นนอกจากฉัน ทำไมฉันไม่เห็นรู้เลย...ซองมินทำหูตกเหมือนน้อยเนื้อต่ำใจ ก่อนเอ่ยเสียงเบา ...พอกลับมานี่นายเปลี่ยนไปเยอะเลยนะฮยอกแจ
อะไรบ้างล่ะที่อึนฮยอกคนเก่าเขาไม่ทำฮยอกแจถาม พลางตักกุ้งเข้าปาก
ก็...ซองมินกรอกตา ...แค่ภายนอกก็จะมี ผิวขาวขึ้น แถมยังดูสูงขึ้นนิดหน่อย แล้วก็...
ฮยอกแจเลิกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถาม ซองมินทำปากยู่
ไปรวยมาจากไหนก็ไม่รู้ ใช้แต่ของแบรนด์เนม ฉันล่ะไม่กล้าแตะนายเลยนะตั้งแต่กลับมา แถมยังสู้คนขึ้นอีกตั้งเยอะ
อี ซองมิน...ฮยอกแจเอ่ยเรียกชื่ออีกคนเสียงเรียบ เอาส้อมจิ้มมะเขือเทศแล้วชูไปมาต่อหน้าซองมินเรียกความสนใจของอีกฝ่าย แล้ส่งมันเข้าปากอย่างง่ายดาย ...อี อึนฮยอกคนที่ใส่เสื้อผ้าราคาถูกๆ ใส่ซ้ำๆกันแทบทุกๆวัน กินแต่อาหารข้างทาง แล้วก็ไม่กล้าสู้คน ไม่กล้าสบตาใคร...กำลังจะหายไป มันจะเหลือแต่ฉัน...
รอยยิ้มของอีกฝ่าย เป็นรอยยิ้มของเพื่อนเขาแน่ แต่ตอนนี้ซองมินกลับพบว่าระยะเวลาหลายปีที่คบกับคนตรงหน้ามา เขาไม่เคยเห็นอึนฮยอกแย้มรอยยิ้มได้เหี้ยมเกรียมขนาดนี้มาก่อนเลย ฮยอกแจคนนี้กำลังทำให้ซองมินรู้สึกว่าตัวเองเล็กลีบลง จนเหมือนเด็กน้อยที่ต้องหวาดเกรงผู้ใหญ่ ทำให้ซองมินรู้สึกว่า...ไม่สนิทใจเลยสักนิด
...อี ฮยอกแจที่ไม่มีใครสามารถรังแก ดูถูก...และเหยียดหยามได้อีกต่อไป บางทีนะ...นายอาจจะเห็นฉันกลายเป็นคนแปลกหน้าไปเลยก็ได้
ตอนนี้ฉันก็เริ่มรู้สึกแบบนั้นหน่อยๆแล้วล่ะ...ซองมินเอ่ยถามซื่อ ...ฉันล่ะอยากรู้จริงๆว่าหนึ่งเดือนมานี้นายไปทำอะไรมานอกจากเปลี่ยนชื่อน่ะฮยอกแจ
ฉันคงจะเปลี่ยน...ทั้งหัวใจและสมองด้วยล่ะมั้งฮยอกแจตักสลัดเข้าปาก ก่อนจะตักกุ้งให้อีกคนอย่างเอาใจ ...กินซะ แล้วก็อย่าคิดอะไรมาก ตอนนี้ฉันเป็นเพื่อนนาย และนายก็ไม่ต้องกลัวฉันด้วย เพราะฉันจะดีกับนายให้มากๆ ให้สมกับที่นายดีกับอึนฮยอก
นายนี่พูดจาประหลาดเข้าทุกที...ซองมินห่อไหล่ ก่อนจะยัดกุ้งเข้าปาก ...แต่บางทีฉันก็ชอบนะ ถึงจะน่ากลัวหน่อยๆ แต่นายก็สู้คนขึ้นมากเลย จากนี้ไปฉันก็คงไม่ต้องห่วงนายแล้วล่ะฮยอกแจ
ใช่ นายไม่ต้องห่วงฉันอีกแล้ว...ฮยอกแจยิ้มหวาน ...เอาเวลาไปห่วงไอ้พวกที่มันจ้องเล่นงานฉันจะดีกว่า
ฉันเห็นด้วยอยู่ในใจเล็กๆ...ซองมินยกมือทาบอก ก่อนจะยิ้มหวาน ...ขอบคุณนะที่มาเลี้ยงข้าวฉันวันนี้ แต่นายไปรวยมาจากไหนเหรอ
มรดกแม่...ฮยอกแจตอบเสียงเรียบ ...หนึ่งเดือนนี้ฉันไปเจอแม่มา
งั้นก็ดีสิ! นายจะได้เลิกคิดถึงแม่ แล้วนายมีพี่ใช่ไหม? นายเคยเล่าให้ฟังอยู่ทีนึง...พี่นายชื่ออะไรน้า~
ซองมินชักสีหน้าครุ่นคิด ฮยอกแจมองอีกคนก่อนเอ่ยออกมาเสียงอ่อนโยน
ถ้าไม่รีบกินซุปจะเย็นหมดนะ เดี๋ยวก็ไม่อร่อยหรอก
กินแล้วจ้าๆๆซองมินสะบัดความคิดแรกเริ่มทิ้งแทบจะทันที ก่อนจะตักซุปเข้าปากแล้วลืมเรื่องอื่นไปจนสิ้น มีเพียงอาหารเลิศรสที่นานครั้งจะเข้าปากเท่านั้นที่อยู่ในห้วงคิด ฮยอกแจยิ้มกับความเป็นเด็กในตัวของอีกฝ่าย ถ้าหากว่าเขาสามารถ...กินข้าวกับน้องชายแบบนี้ได้ก็คงจะดีสินะ
แล้วป่านนี้เจ้าตัวทำอะไรอยู่นะ...
**
อึนฮยอก...ร่างสูงเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆร่างเล็กที่กำลังมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย ความรู้สึกที่เหมือนเบาะข้างตัวมันยวบลง ทำเอาคนที่นั่งอยู่ก่อนผินหน้าหันกลับมามองผู้ที่มาใหม่
คิม คิบอมแย้มรอยยิ้มเมื่ออีกคนหันมามองด้วยแววตาว่างเปล่า ตอนนี้ยังอยู่ในยามสงบ...เจ้าตัวไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้สึกอะไรเลยขริงๆ
...อึนฮยอก เดี๋ยวผมจะพาออกไปข้างนอกนะ อยากจะไปดูดอกไม้สวยๆไหม?
แม้พยายามดึงความสนใจของอีกคนให้จิตใจกลับสู่สภาพปกติมากแค่ไหน แต่ดวงตาสีอำพันที่มองมาเขายังเหมือนไม่มอง ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย...
คิบอมยื่นเอาดอกไม้ที่อยู่ด้านหลังของเขามาให้ ก่อนจะเอ่ยอย่างร่าเริง นี่ไง! กุหลาบขาวที่เราชอบไง ผมขับรถผ่านเลยแวะซื้อมาให้ ชอบไหมล่ะฮะ?
ดวงตาสีอำพันหลุบมองกุหลาบดอกสวยในมือของอีกฝ่าย ก่อนจะแย้มรอยยิ้มออกมาอย่างอ่อนแรง เป็นยิ้มแรกที่คิบอมได้เห็น อึนฮยอกยกมือขึ้นแตะเบาๆที่กลีบสวยอย่างทะนุถนอม
กุหลาบ...
ใช่ กุหลาบไง...คิบอมขยับตัวมานั่งข้างอีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มกว้าง ...พี่คุณบอกว่าตอนเด็กๆคุณชอบกุหลาบสีนี้มากเลยนะ จำพี่ชายตัวเองได้หรือเปล่า เขาหน้าเหมือนคุณเป๊ะเลยนะ
พี่...อึนฮยอกเอียงคอ คิบอมเดาว่าหากฮยอกแจมาเห็นภาพนี้ต้องเอามือทุบกำแพงแรงๆจนมันร้าวแน่ๆ เพราะแม้แต่เขาเองที่กำลังมองอยู่ยังอดสะท้อนในใจ สีหน้าครุ่นคิดนั้นจางหายไป เหลือแต่รอยยิ้มอ่อนหวานบริสุทธิ์ที่น่าสมเพช ...ผม...รักพี่
อยากอัดเสียงไว้ให้พี่คุณฟังจัง...คิบอมแย้มรอยยิ้มอ่อนโยนก่อนจะยื่นกุหลาบให้อีกฝ่าย
มือบางประคองกุหลาบสีขาวนวลไว้เต็มสองมือ ริมฝีปากแย้มรอยยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวานเหมือนจมในห้วงภวังค์ทำเอาดวงตาของคนมองนั้นอ่อนหวานตาม
สวยจัง...
กุหลาบสวยใช่ไหมครับ...
!!
ดงตาสีอำพันชะงักกึก มือที่ประคองกุหลาบแสนสวยสั่นระริก คนที่มองดูอาการอยู่เอียงคออย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
...ผมซื้อกุหลาบมาให้ครับ...
ซี...วอน...
อึนฮยอก!...คิบอมผวา รีบปราดเข้าหาอีกฝ่ายเมื่อมือที่กำก้านดอกกุหลาบนั้นสั่นระริก มันกำแน่นจนหนามของเจ้ากุหลาบตำลงที่ผิวเนื้อจนเลือดไหลออกเป็นทาง ก่อนที่เจ้าตัวจะขว้างเจ้ากุหลาบทิ้งอย่างไม่ไยดี ร่างสูงกระชากร่างบอบบางเข้ามาไว้ในวงแขน ร่างของอีกคนสั่นสะท้านก่อนจะปล่อยน้ำตาออกมาที่บ่าของอีกฝ่าย
ไม่...ภาพความมืดที่น่ากลัว...บานประตูเปิดออกพร้อมใครหลายคนที่กรูเข้ามา ร่างบางผลักไสเจ้าของอ้อมกอดอุ่นก่อนจะกรีดร้องออกมาเสียงสั่น
ออกไปนะ!...บอกให้ออกไป!...ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!!...
อึนฮยอก...คิบอมรีบจับอีกคนกดลงบนเตียง ก่อนจะหันไปทางบานประตูแล้วร้องเรียกคนที่อยู่ด้านนอกเสียงสั่น ...พยาบาล! พยาบาลมาช่วยกันหน่อย!
...ไม่!! ไปให้พ้น! ไปให้พ้นฉันนะ...!!
นางพยาบาลกรูกันเข้ามาอย่างทันท่วงที ก่อนเข็มฉีดยาอันเล็กที่ถูกเตรียมพร้อมไว้เสมอจะฉีดลงเส้นเลือดบนข้อมือบางที่มีร่องรอยของการฝังเข็มนับไม่ถ้วน ฤทธิ์ยากดประสาททำให้เจ้าตัวสงบลง หากก็ยังโบกมือไม้ไล่คนอื่นอย่างอ่อนแรง
...ออกไปนะ...
อึนฮยอก...ร่างสูงปราดเข้ามา ประคองดวงหน้าหวานละมุนก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยน ...มองตาผมสิครับ...
ดวงตาสีอำพันเลื่อนลอย ก่อนจะจุดวาบเมื่อสบกับดวงตาคู่คมเข้มสีดำขลับ เจ้าของดวงตาคมกริบนั้นแย้มรอยยิ้มอย่างอ่อนโยน มันยิ้มทั้งดวงตา และริมฝีปากอย่างจริงใจ
...มองนะ แล้วจำเอาไว้ให้ดีนะครับ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่มีวันทำร้ายคุณ...มืออุ่นลูบเส้นผมสีอ่อนของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ก่อนจะดึงอีกคนเข้ามาไว้ในวงแขนหลวมๆ ...ไม่มีวัน ผมจะไม่ทำร้ายคุณเด็ดขาด คุณเชื่อใจผมนะครับ
เจ้าของดวงตาสีอำพันช้อนมองอีกฝ่าย เรียวปากแตกแห้งขยับขึ้นลงเล็กน้อยเมื่อเอ่ยเสียงผะแผ่ว สติสัมปชัญญะเริ่มที่จะกลับคืนมาในที่สุด
คุณ...
คิบอมครับ...คนแนะนำตัวยิ้มจนตาหยี ...คิม คิบอม ถ้าหากต้องการอะไรก็บอกผมนะ ผมจะเฝ้าคุณอยู่ตรงนี้แหละ จะไม่ไปไหน...
นิ้วเรียวเกลี่ยสีเส้นผมข้างแก้ม ให้มันไปทัดใบหู มองดวงตาสีอำพันที่ทอดมองมาอย่างอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆ คิบอมยิ้มเมื่อเอ่ยถ้อยคำหนักแน่นต่อไป
...แล้วผมก็สัญญา ว่าจะไม่ให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายคุณได้เป็นอันขาด
อีกคนไม่ตอบรับคำสัญญานั้น หากเอาศีรษะพิงพักบนบ่าของอีกฝ่ายอย่างไร้เรี่ยวแรง คิบอมกอดอีกคนไว้อย่างหลวมๆ ซุกหน้าบนบ่าบอบบางผอมเกร็งนั่น หลัตาลงซึมซับไออุ่นและกลิ่นหอมละมุน
...ผมสัญญา
**
เสร็จแล้ว...ฮยอกแจเอ่ยเสียงราบเรียบ ก่อนจะเอาที่หนีบมาหนีบเอกสารอันเป็นผลงานของตัวเอง เก็บใส่กระเป๋าเหมือนกลัวว่าหากเผลอวางทิ้งไว้จะมีใครมาหยิบไปลนไฟเล่นเสียอย่างนั้น ซองมินยื่นหน้ามามองความเรียบร้อยของงาน ก่อนจะเอ่ยเสียงตระหนก
ทำไมทำเสร็จเร็วจังล่ะ? แล้วไอ้ปึกพวกนั้นนายจะไม่ทำมันจริงๆเหรอ
มันไม่ใช่งานของฉันนี่ งานใครงานมัน ฉันไม่ชอบให้ใครมาโบ้ยงานใส่ ที่สำคัญ ถึงไม่ทำ...ดวงตาสีอำพันตวัดมองคนทั่วแผนกเหมือนสื่อความหมาย ...เจ้าของงานมันก็ควรจะรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง เดี๋ยวเบื้องบนก็สั่งลงมาเองแหละว่าจะต้องรับโทษยังไงในฐานะที่ละเลยงานของตน แล้วก็...
ร่างบางเดินมาหยิบแฟ้มงานที่เพื่อนทำเสร็จหมาดๆ แล้วยิ้มกริ่ม โบกไปมาต่อหน้าซองมินที่มองมาอย่างสงสัย
...งานของนาย ฉันจะเอาไปส่งให้ท่านประธานเองนะ บังเอิญคืนนี้เรามีนัดทานข้าวกันพอดี
อ่า...ซองมินพยักหน้าหงึกหงักตามใจเพื่อน ตั้งแต่ฮยอกแจกลับมานี่เขาขัดใจอีกฝ่ายไม่ได้เลยสักครั้งเดียว
ทานข้าวต้มกลางคืนกันงั้นเหรอ?ร่างบอบบางที่คุ้นเคยเอ่ยถามเสียงสูง ฮยอกแจหันมาไล่มองเลขาสาวอีกครั้งแล้วแย้มรอยยิ้มให้
สวัสดีครับคุณจีฮยอน เมื่อเช้าโดนท่านประธานเอ็นดูมามากขนาดไหนล่ะครับ?
หน้าสวยๆนั้นง้ำลง ก่อนจะเชิดหน้าอีกครั้ง
มันไม่ใช่เรื่องของนาย! แล้วฉันก็ขอเตือนด้วยความหวังดีเถอะนะอี อึนฮยอก เลิกไปยุ่งกับของชาวบ้านเขาจะได้แล้ว! หรืออยากจะโดนคู่หมั้นเขาบุกมาเล่นงานรอบสองอีกหรือไง!?
มันไม่ใช่เรื่องของเธอ...ฮยอกแจสวนกลับ เลียนแบบคำพูดของอีกฝ่ายได้หน้าตาใสซื่อจนอีกคนอยากตบสักสองสามผลัวะ ...ผมว่าเวลานี้คุณน่าจะไปตะเวนหาชีวิตรักของตัวเองท่าจะดีกว่ามายุ่งชีวิตรักของคนอื่นเขานะครับ ได้ข่าวจากแถวๆนี้...คุณเองก็ยังไม่มีหนุ่มมาติดพันเลยสักคนไม่ใช่เหรอครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นสาวแก่ไม่รู้ด้วยนะ
แก...!!
ฮยอกแจจุ๊ปาก อย่าชักสีหน้าจนหน้าเบี้ยวขนาดนั้นสิครับ เดี๋ยวหน้าจะเหี่ยวก่อนวัยเอานา~
แก!!มือบางตวัดฟาดหน้าหวานของอีกคนอย่างแรง
ฮยอกแจ!!ซองมินผวา วิ่งเข้าไปประคองร่างที่โดนตบจนหันไปทางของเพื่อน
ฮยอกแจยกมือกุมแก้มที่แดงไปข้าง ช้อนสายตาขึ้นมองหญิงสาวที่ยิ้มเยาะตรงหน้า และเขาก็คงจะถลาเข้าไปเอาคืนอีกฝ่ายแล้วถ้าหากใครบางคนไม่เดินเข้ามาที่แผนก เจ้าของดวงตาสีอำพันชะงัก ก่อนจะเคล้นน้ำตาออกมาอย่างง่ายดายและสมบทบาท ยกมือขึ้นปิดหน้าแล้ววิ่งไปซบอกคนที่เดินเข้ามาแล้วหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง
คุณซีวอน!
ชเว ซีวอนนิ่งงันเมื่อร่างบอบบางของคนรักวิ่งเข้ามาโอบกอดรอบลำคอของเขาแน่น ก่อนจะสะอื้นออกมาแล้วเอ่ยเสียงสั่น
...ผมไม่ได้ทำอย่างที่คุณจีฮยอนว่านะ! ไม่ได้ทำจริงๆนะ!!
ร่างสวยที่กำลังยิ้มเยาะหน้าซีดเผือด เมื่อสบดวงตาดุกร้าวของท่านประธานใหญ่ ซีวอนยังลูบบ่าลูบหลังปลอบคนในอ้อมแขนอย่างนุ่มนวล ขณะที่เอ่ยบอกเลขาของตนเสียงเข้ม
คุณจีฮยอน...เดี๋ยวเราคงต้องคุยกันหน่อยนะฮะ
ร่างสูงหันมาหาคนในวงแขนที่ยังสะอึกสะอื้น เหมือนกำลังร้องไห้เสียขวัญอยู่ ปาดน้ำตาให้อีกคนแล้วเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล
ไม่เอา ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวเรากลับบ้านกันนะ
ผมเจ็บ...ฮยอกแจเอ่ยเสียงเบาหวิว ก่อนจะดึงมืออีกคนมากุมที่บาดแผล หลับตาลงเหมือนจะให้ไออุ่นจากอีกคนเป็นที่เยียวยารักษาบาดแผล
ชเว ซีวอนมองเลขาสาวของตัวเองอย่างคาดโทษอีกครั้ง ก่อนจะหันมาประคองร่างบอบบางของคนรักให้เดินออกนอกห้อง
เดี๋ยวผมจะพาคุณไปส่งนะ...
ไม่เอาครับ เดี๋ยวเราไปหาอะไรอร่อยๆทานกันดีกว่านะ
ฮยอกแจค่อยๆคลายบทบาทเจ้าน้ำตา เปลี่ยนสีหน้ามาแย้มรอยยิ้มบางเบา เมื่ออีกคนยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ซีวอนประคองอีกฝ่ายเดินไปที่รถ ร่างบอบบางชะงักกึกก่อนจะผละตัวออกจากอ้อมแขนอุ่น
ผมลืมของเอาไว้บนโต๊ะ เดี๋ยวขอไปเอาก่อนนะครับ
ให้ผมไป...
ไม่เป็นไรหรอกฮะ เดี๋ยวคุณไปรอที่รถเถอะร่างบางเอ่ยเสียงอ่อนหวาน ก่อนจะส่งกระเป๋าของตนให้อีกคนถือเอาไว้ เขย่งตัวขึ้นจูบแก้มขาวไวๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่แผนกของตน
แก!!
เลขาสาวชะงักเมื่อหันมาเห็นคนที่เดินกลับเข้ามา ฮยอกแจหันไปคว้าดอกกุหลาบสีขาวที่แจกันอย่างนุ่มนวล แล้วหันมายิ้มเย้ย ไม่เหลือเค้าคราบน้ำตาหรือความหวาดผวาอย่างเมื่อครู่เลยสักนิด
เรียกแต่แกๆอยู่นั่นแหละ ผมก็มีชื่อนะครับคุณเลขา...ร่างบางลากเสียงยาว ทั้งห้องเงียบสงัดเหมือนกำลังนั่งดูโชว์สด ฮยอกแจทำลอยหน้าลอยตา ...ชื่ออี ฮยอกแจไง
อีกคนเต้นเร่าแล้วกรีดเสียงใส่ดวงหน้าหวานที่กำลังยกยิ้มอยู่นั่น
แกหลอกท่านประธาน!!
เหรอครับ?...ร่างบางหันมาเลิกคิ้วสูง ก่อนจะยักไหล่อย่างไม่แคร์ ...หลอกว่าอะไรล่ะ?
...แกทำให้ฉันต้องถูกเพ่งเล็ง!!
คุณทำตัวคุณเองมากกว่ามั้ง...ฮยอกแจเอ่ยเสียงสูง ก่อนจะผูกริบบิ้นสีแดงที่ก้านดอกกุหลาบอย่างบรรจง หันมายิ้มยียวน ...แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น แล้วคุณจะทำอะไรผมได้ล่ะ?
แก...!!
เลขาสาวยกมือขึ้นตวัดหมายฟาดบนดวงหน้าสวยใสของอีกฝ่าย ก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่ออีกคนยกมือขึ้นคว้าแขนหล่อนได้อย่างทันท่วงที ฮยอกแจกระตุกร่างสวยนั้นเข้ามาใกล้ ก่อนจะตวัดมือฟาดเข้าที่แก้มปัดเครื่องสำอางอย่างแรงจนอีกฝ่ายเสียหลักล้มลง ร่างบางก้าวเข้าคร่อม ก่อนจะตวัดมือฟาดเข้าที่หน้าสวยจัดนั่นอีกหลายครั้งอย่างไม่ยั้งมือ
ฮยอกแจอย่าน่า!!ซองมินได้สติก่อนใคร รีบวิ่งเข้ามาปรามเพื่อนรักที่กำลังเป็นที่มุงดูของคนหลายๆคนที่ยืนมองอย่างตื่นตระหนก
ฮยอกแจสะบัดมือเพื่อนออก ก่อนจะเสยผมแล้วเอ่ยเสียงดัง จับจ้องดวงหน้าบอบช้ำของอีกคนอย่างแข็งกร้าว
จำเอาไว้นะ! นอกจากแม่แล้วฉันจะไม่ยอมให้ไอ้อีหน้าไหนมันตบหน้าฉันเป็นอันขาด! แล้วถ้าแกยังคิดหือหรือเอ่ยคำสวะๆแบบนั้นมาให้ฉันฟังอีกล่ะก็...ได้เสียโฉมแน่คุณจีฮยอน
มือขาวเลื่อนไปเชยคางของดวงหน้าที่โดนตบจนแดงก่ำ แล้วสะบัดมันออกแรงๆ ฮยอกแจปัดฝุ่นก่อนจะลุกขึ้นไปคว้าดอกกุหลาบดอกน้อย คนที่ทรุดอยู่ที่พื้นตวาดใส่เขาเสียงดังอย่างไม่ยอมความ
อึนฮยอก! ฉันจะฟ้องท่านประธาน!!
ซีวอนน่ะเหรอ?...ฮยอกแจเอ่ยเสียงสูง ยิ้มเยาะน้อยๆเมื่อเอ่ยประโยคถัดไป ...เอาซี~ รีบไปฟ้องเลย ถ้าแกยังลุกไหวล่ะนะ จะฟ้องตอนไหนล่ะ ที่ทำงาน บนรถ หรือว่ากลางถนน แต่ช่วยกรุณาอย่าลืมนะครับว่าผมน่ะ...
หน้าสวยยื่นเข้าไปกระซิบข้างหูของอีกคน พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
...ฟ้องบนเตียง
หญิงสาวตวัดมองหน้าเขาอย่างเดือดดาล ปานจะกินเลือดกินเนื้อ ฮยอกแจหัวเราะคิก
ก็อยากจะรู้เหมือนกันนะครับว่าเขาจะเชื่อใคร แต่ก็คงไม่ต้องบอกคุณก็คงจะรู้ใช่ไหมว่าค่าน้ำหนักมันต่างกันอย่างเห็นได้ชัด และคุณเองก็คงจะไม่โง่ขนาดไปฟ้องเอาตอนที่เขายังทั้งรักทั้งหลงผมอยู่...ฮยอกแจหรี่ตามองอีกคนอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอื้อมมือมาตบที่ปากสวยของคนที่โกรธจนหมดความสวยเหมือนหยอกเอิน ...แล้วก็อย่าลืมกระจายข่าวให้คู่หมั้นของเขาได้รู้ไว้ด้วยนะครับ
เอ่ยจบ ร่างบอบบางก็ก้าวข้ามร่างนั้นเหมือนว่าเป็นของไร้ค่า เดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผยไม่เหลียวมองใครต่อใครที่จับจ้องเขาจนตาแทบถลน ซองมินชักสีหน้าปั้นยาก ถึงจะแอบสะใจเล็กๆจนถึงสุดๆ แต่เขาก็เริ่มหนักใจเหมือนกันว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ยิ่งตอนจบชอง จีฮยอนได้กรีดร้องดังลั่นจนพวกเขาต้องอุดหูแทบไม่ทัน
**
ตอนเขียนเรื่องนี้แรกๆไรเตอร์ก็กลัวว่าจะมีคนไม่ชอบฮยอกแจลุคนี้เหมือนกันนะ - -
ตอนนี้ไรเตอร์ดีใจที่มีแฟนคลับวอนฮยอกติดตามผลงานของไรเตอร์ด้วย >[+++]< (ดีใจมากมาย เพราะไรเตอร์ไม่ค่อยมีแฟนคลับวอนฮยอกซะเท่าไหร่ - -;;)
ถ้าจะถามว่ามีฟิคเรื่องไหนที่อยากจะเขียนออกมาให้ดีที่สุดของวอนฮยอก ไรเตอร์ก็คงต้องตอบว่าเรื่องนี้แหละนะ =w=
แต่ถ้าเขียนออกมาแล้วไม่มีคนชอบก็ต้องลบล่ะนะ -_- (ไปแต่งคู่อื่นแทนก็ได้)
ปล. ขอบคุณทุกคอมเม้นท์เคอะ ^^ (ฮยอกแจจะยิ่งร้ายกว่านี้ ไรเตอร์รับประกัน - -v(ชเวอ่วมแน่ 55+))
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น่าจะเอาก้านกุหลาบรูดปากสักที แถม 5555
ว่าแต่อึนฮยอกเจออะไรมาเหรอ
เลขาวอนได้คาบข่าวไปบอกคู่หมั้นแน่ๆ
ชอบฮยอกแบบนี้ รักเรื่องนี้มากๆ ไรเตอร์สู้ๆต่อไปห้ามลบทิ้งเน้อ 555
ชอบฮยอกแจลุคนี้นะคะ เปรี้ยวได้ใจ
(รีเควสต์รูปฮยอกแจกรีดอายจิกตา)
ตื่นเต้นขึ้นทุกที ลุ้นมาก
อยากเห็นฉากฟ้องบนเตียง
(สครีมมม วิ่งไปหลบหลังเสา)
ตามต่อก่อนนะคะ
แต่ชอบอ่ะ ชอบฮยอกแรงมาแรงกลับไม่ยอมคนดี
เริ่มจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อยากดูว่าแต่ละคนจะโดนฮยอกแจแก้แค้นยังไงบ้าง
ชอบจังที่ฮยอกตอบโต้กลับไปแบบนั้น
อยากให้อึนๆเข้มแข็งแบบนี้บ้างจะได้ไม่ต้องทรมาน
ฮยอกแจ ชอบที่นายเป็นแบบนี้อ่ะ
ฮยอกแจร้ายมากอ่ะ แต่สะใจ เราชอบ
สะใจแทนฮยอกแจ ฟ้องบนเตียง O.O
ฮยอกแจลุ๊คนี้ กินขาดเลยค๊าาาาา! (แม้บางทีจะรู้สึกว่านางเอกแทบจะเป็นนางร้ายไปแล้วก็ตาม)
อ่านถึงตอนนี้ จินตนาการไม่ออกเลยว่าใครจะมากล้าท้าชนกับฮยอกแจ เจ้าตัวร้ายขนาดนี้ ยังมีทัพเสริมเป็นฮีนิมกับทงเฮอีก
สรุปสั้นๆ ได้ว่า
เชว อ่วม !!!!
ปล. เราชอบวอนฮยอก! ไรเตอร์แต่งต่อนะคะ ;)
ต้องสู้เค้าอย่างนั้นสิคะคุณลูกขา
อย่าไปยอมอีนางชะนีพวกนั้น ^^
อย่าลบเลย
มีผลงานหลากหลายให้เราได้อ่านก็เป็นเรื่องดีออก
ถึงฮยอกแจจะร้ายแต่ก้นะ มันมีสาเหตุ
ฮยอกแจ เด็ดโคตรอะ สุดติ่ง แม่งเอ้ย ถือไพ่เหนือกว่า นานๆจะเจอคาแรคเตอร์แบบนี้ ชอบมากๆ
55555555555555555555555555555555555555
อีชเวนี่ก้ หลงลืมมัวเมา อีบ้า 55555555555555555
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก ฮยอกแจเท่มากไม่ไหวแร้ววววว
อึนฮยอกเหมือนดอกไม้บอบบางเลย ฮึกกก สงสารอะ ฮยอกแจ เอาคืนเลย
อยากอ่านตอนที่ฮยอกแจกะอึนฮยอกอยู่ด้วยกันจังเลยค่ะ พี่น้องคู่นี้ ดูน่ารักมากนะ
ชอบชอบ
เมื่อไรน้องชายฮยอกจะเข็มแข็งเหมือนพี่ชายสักทีนะ
ไรเตอร์ สู้สู้
ชอบๆๆๆๆๆ
^^~
มันต้องแรงๆแบบนี่ค่ะถึงจะสะใจ!!!!!!!
โฮกกกกกก มันมากๆๆๆ
แต่นะ อึนฮยอกก้อน่าสงสารนะ คงจะโดนเยอะมากแน่ๆ
แบบนี้คราวเอาคืนมันต้องสาสมน่าดู