คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 : มู่ เฟิงหลง
บทที่ 3 : มู่ เฟิงหลง
ยามเช้าของอนิลตัวน้อยนั้น ไม่ดีนัก เพราะต้องตื่นมาด้วยความทรมารจากกล้ามเนื้อที่ปวดเมื่อยหลังจากเดินขึ้นเขามาที่พักของท่านตาหลิ่งซาน อนิลตัวน้อยลุกจากอดีตที่นอนของลูกสาวท่านตาหลิ่งซานและจัดให้เข้าที่เช่นเดิม นิสัยที่เป็นระเบียบนั้น ได้จากการที่ผู้เป็นมารดาสอนอย่างเคร่งครัดนั้นดูท่าว่า อนิลตัวคงติดเป็นนิสัยเสียแล้ว หลังจากจัดที่นอนสักพักเเล้ว ก็คิดเรื่องเมื่อคืนที่อนิลตัวน้อยได้ฟังท่านตาเล่านั้นตนก็ได้นึกถึงนิยายคุณแม่และภาพยนต์หรือละครต่างๆที่ตัวเอกประสพอุบัติเหตุหรือนอนหลับไปเเล้วไปโผล่ในสถานที่ต่างๆเช่น รัตนโกสินทร์ตอนต้น หรือจีนโบราณ แต่อะไรก็ตาม อนิลกานต์คิดว่า นี้คงเป็น มิติหนึ่งที่คล้ายยุคจีนโบราณ ปัญหาอยู่ที่ว่าตัวเขานั้นจะทำเช่นไรต่อจากนี้ไปดี อนิลกานต์คิดเรื่องนี้อยู่สักพักจึงเดินออกไปจากห้องนอน เเล้วพบท่านจัดอาหารเช้าที่โต๊ะไม้ไผ่ อาหารวางเรียงลายอย่างชวนลิ้มลอง
"ท่านตา ท่านทำเองหมดเลยหรือ น่าทานจริง"อนิลตัวน้อยถามด้วยแววตาเปร่งประกาย เพราะเมื่อคืนตนยังไม่ได้ทานอะไรย่อมหิวเป็นธรรมดา อนิลกานต์มองที่จานข้าวซึ่งมีตะเกียบคู่ซึ่งมีลักษณะที่สวยงาม ลายมังกรทะยานลมสวยจนอนิลตัวน้อยถามท่านตา
"ท่านตา ตะเกียบคู่นั้น สวยจัง ดูแปลกตา ซ้ำยังมีปลอกใส่ตะเกียบพร้อม ท่านตาได้มาจากที่ใดหรือ"
"ลูกสาวข้า เป็นคนทำขึ้นมา"ท่านตามองไปที่ตะเกียบด้วยสายตาเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อคิดถึงความหลัง
"แล้วลูกสาวท่านตาไปไหนหรือ ข้าน้อยไม่เห็นตั้งแต่เมื่อคืนวานเเล้วขอรับ"อนิลน้อยคงเป็นจำไมตัวน้อยที่ขี้สงสัยเสียเต็มประดา
"เขากลับมาเเล้ว เพียงแต่เขาไม่รู้ตัวว่าเขากลับแล้วเท่านั้น อาหมวยน้อย นี้จริงสิ อาหมวยน้อย เจ้าต้องลงท้ายด้วยคำว่า เจ้าค่ะ สิ!!!"ท่านตาหลิ่งซานเบี่ยงประเด็นความสนใจเด็กน้อยอนิลไปที่คำลงท้ายของเขาซะนี้
"ท่านตา....ดูใบหน้าข้าน้อยเสียก่อนเถอะขอรับ ไม่เหมาะกับคำว่า เจ้าค่ะ หรอกท่านตา" เด็กน้อยอนิลกรอกตามองบนและพูดด้วยน้ำเสียงเอือมระอากับใบหน้าตนเอง
"เจ้าไม่ลอง จะรู้ได้อย่างไร"ท่าตาพูดน้ำเสียงนั้นด้วยความปลอบโยนเด็กน้อยอนิล ให้รู้สึกตัว แต่ไฉนเด็กน้อยจักเข้าใจ
"ข้าน้อยเคยลองแล้วท่านตา ลองจนเหนื่อยแล้ว แต่ก็โดนเข้าใจผิดอยู่หลายคราว่าเป็นพวกลักเพศอยู่เรื่อยไป ข้าน้อยก็เหนื่อยเช่นกันนะขอรับ"
"เฮ้ออ ข้าล่ะเหนื่อยจะพูดกับเจ้า ดื้อจริง แล้วแต่เจ้าเถอะ แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อเล่า คิดเอาแล้วหรือยังล่ะ อยู่กับข้าไหมล่ะอาหมวย ลูกสาวข้าก็อยู่คนเดียว" ท่านตาหลิ่งชานถามอย่างห่วงใย ด้วยรูปร่างหน้าตาและวัยของอนิลกานต์นั้น อันตรายนักที่จะออกเผชิญโลกกว้าง ทำให้คิดมิตกเล็กน้อยถ้าอนิลกานต์จะปฎิเสธที่จะอยู่กับตน
"ท่านตาจะรับเราเป็นหลานหรือ" อนิลตัวน้อยถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังเกินวัยที่ตนเผ่ยออกมา
"....อาหมวยน้อย รับสิอาหมวยน้อย ฟ้าลิขิตให้ข้าได้ช่วยเหลือเจ้าแล้ว ใยฟ้าจะไม่ลิขิตใจข้าให้รับเจ้าหลานเล่า"ท่าตาหลิ่งซานพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยนและสังเกตุสีหน้าอนิลตัวน้อยด้วยความเป็นห่วงด้วยวัยของอาหมวยตัวน้อยหลานของตนที่ไม่แน่ใจว่าจะอยู่กับเขาไหม สีหน้านั้นไม่เหมาะกับเด็กวัยสิบเอ็ดปีด้วยซ้ำไป
'เจ้าคงพบเจออะไรมามากสินะ อาหมวยน้อย ทายาทข้า'
"จริงหรือท่านตาจะรับข้าเป็นหลานจริงหรือ ฮึกๆ"อนิลตัวน้อยน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใจ ตนนั้นหลังจากพ่อแม่เสียไปไม่มีใครดีกับตัวเขาได้เท่าท่านตาหลิ่งซานที่พบกันได้ไม่นาน ทั้งช่วยเหลือ ปลอบโยน และเป็นที่พักพิงให้ตน เด็กน้อยอนิลกานต์คงลืมไปว่ามนุษย์นั้นถึงแข็งแกร่งเพียงใด แต่ย่อมมีความเหนื่อยล้าและเสียใจ เมื่อตนได้รับการปลอบโยนและได้ที่พักพิงที่ทำให้อุ่นใจ ความเหนื่อยล้าและเสียใจเล่านั้นเพิ่มพูนเเล้วเล่า จนตนเองไม่รู้ตัวว่าจะหยุดความเสียใจและเหนื่อยนั้นอย่างไร
"อาหมวยน้อย อย่าร้องเลย ใบหน้าเจ้าไม่เหมาะกับน้ำตาหรอกนะ ฮึๆ"ท่านตาหลิ่งซานพูดออกมาด้วยเสียงติดขบขันเล็กน้อย
"ท่านตาาาาา"
"จริงสิ อาหมวยน้อยเจ้าไม่คิดชื่อของเจ้าที่นี้หน่อยหรือ ไหนๆเจ้าจะอยู่ที่นี้"
"ข้ายังคิดไม่ออกขอรับ ท่านตาเลิกเรียกข้าว่าอาหมวยเถอะ ข้าว่ามันไม่เหมาะกับข้าหรอก"
"เอ๊ะเจ้านิ งั้นข้าช่วยเจ้าคิดเอง เจ้าอยากได้ชื่อเกี่ยวกับอะไรล่ะ"
"ชื่อของข้าน้อยเกี่ยวกับสายลม อนิลกานต์ สายลมอันเป็นที่รัก อย่างน้อยก็ชื่อที่เกี่ยวกับสายลมขอรับ"
"เฟิงหลง มู่ เฟิงหลง ข้าสกุลมู่ เจ้าคงไม่รังเกียจรังนอนข้าหรอกนะ อาเฟิงน้อย ฮึๆ"
"มู่ เฟิงหลง ชื่อใหม่ของหลานคือ มู่ เฟิงหลง"
-----------------------------------------------------------------------------------------
ข.หนึ่ง ขออภัยยิ่งยวดที่คนเขียนช้า แค่น้อยใจคนคอมเม้นน้อย
ข.สอง ขออภัยที่ตอนนี้สั้นมาก เนื่องจากข้าน้อยนั้นม่ชอบการยัดอะไรใส่จนนิยายเละ เลยขอสั้นแต่รู้เรื่องดีกว่า
ผิดพลาดประการใดขออภัย(อีกครั้ง)
ความคิดเห็น