ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สุดรอยทรายฝากใจรัก

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 7 ส.ค. 59


    ตอนที่ 5

    เสียงทรงพลังตะโกนออกมา ก่อนที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราขององค์ชีคฮัสมานจะเข้าไปใกล้หญิงต่างชาติคนนั้น

    พระมารดานี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้พระองค์ตกพระทัย

    เธอลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ หญิงสูงวัยเดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะหันไปมองสภาพองค์ชีค

    พระมารดามีธุระอะไร ถึงได้เข้ามาหาลูกถึงนี่ พระองค์ถามขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน

    แม่ได้ข่าวว่าลูกรับนางข้าหลวงคนใหม่ เป็นหญิงต่างชาติ

    หญิงต่างชาติมาอยู่ในฮาเร็มของลูกก็เคยมีมาแล้ว ถ้าจะมีอีกคนก็ไม่เห็นแปลกพระองค์ลองหยั่งเชิงดูเล่นๆ เพราะจริงๆ แล้วไม่ได้จงใจที่จะรับกุลพัทธ์มาเป็นนางในฮาเร็ม เหมือนอย่างที่พระมารดากำลังคิด

    พระมารดา มูซาลี ทอดพระเนตรกหญิงสาวที่ยืนตัวเปียกอยู่ข้างๆ นางรู้มาว่า หญิงสาวคนนี้ไม่ยอมมาเป็นสาวในฮาเร็มของลูกชาย แต่มาทำงานเป็นกุ๊กอยู่ที่โรงแรม

    ลูกบังคับเธอไม่ได้นะ พระมารดา มูซาลีมองหญิงสาวข้างๆ ด้วยความสงสารจับใจ เธอตั้งใจมาทำงาน ไม่ได้มาเป็นหญิงในฮาเร็มเหมือนคนอื่นๆ ผู้หญิงในฮาเร็มของลูกชายเธออยู่สุขสบายก็จริง แต่จะสุขได้สักเท่าไหร่ เพราะพวกเธอจะไม่มีโอกาสได้รักใครอีกเลย เป็นการรอเวลาแห้งเหี่ยวเหมือนดอกไม้ที่รอวันโรยราเท่านั้น

    นอกเสียจากว่าลูกชายเธอจะยอมปิดฮาเร็ม พวกเธอถึงจะเป็นอิสระ เกิดเป็นสตรีก็โดนกดขี่มากพอแล้วยิ่งผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้มาทำงานต่างบ้านต่างเมือง แถมยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก คิดแล้วก็นึกโกรธลูกชายตัวเอง

    ลูกไม่เคยบังคับใคร องค์ชีคลุกจากอ่างทันที อย่างไม่อายสายตาใคร

    กุลพัทธ์ก้มหน้าหลบตาจากร่างกายเปลือยเปล่าขององค์ชีคแทบไม่ทัน แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะโต้ตอบกลับไปว่า

    ไม่จริงเพคะ เธอตอบกลับไป พร้อมสบพระเนตรพระมารดาที่มองเธอกลับมาอย่างเมตตา

    แม่ขอไว้สักคนนะพระองค์ พระมารดาตรัสขอร้อง แต่เหมือนบังคับอยู่ดี

    องค์ชีคฮัสมานมองคะเนเหตุการณ์ต่อไปอย่างชาญฉลาด ถ้าปล่อยกุลพัทธ์ให้พระมารดา พระองค์คงไม่มีโอกาสได้เจอหญิงสาวปากกล้าอีกเป็นแน่ เพราะพระมารดาต้องส่งเธอกลับประเทศอย่างที่เคยช่วยผู้หญิงบางคนที่พระองค์เคยรู้จัก ไม่ใช่ว่าในฮาเร็มของพระองค์จะไม่มีผู้หญิง แต่เธอเหล่านั้น กลับไม่ทำให้พระองค์รู้สึกเสน่หาได้เช่นนี้มาก่อน

    พระมารดากำลังคิดอะไร ถ้าลูกต้องการผู้หญิงสักคน ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบนี้ ที่ลูกต้องการก็แค่ให้เธอมาทำอาหารไทยให้ทาน พระมารดาก็ทรงทราบ ว่าลูกชอบอาหารไทยที่สุด พระองค์ยังตรัสเข้าข้างตัวเองหน้าตาเฉย

    องค์ชีคฮัสมาน แม่เมืองแห่งมูซาลี ทำเสียงแข็งขึ้นมาทันที เพราะต้องการความจริง แต่สิ่งที่ได้รับคืออาการนิ่งเฉยขององค์ฮัสมาน เธอรู้ว่างานของลูกชายเยอะ จนไม่อยากหาเรื่องปวดหัวมาให้เขา แค่เพียงผู้หญิงที่เขามีอยู่ในฮาเร็มก็มากพออยู่แล้ว ถ้าเพียงกุลพัทธ์ไม่ได้มาทำงานเป็นแม่ครัว เธอก็คงไม่รู้สึกสงสารเช่นที่เป็นอยู่

    พระมารดาหันไปทอดเนตรหญิงสาวร่างเล็กอย่างเอ็นดู เจ้ากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ให้ยาเนห์พาไปที่ห้องครัว

    กุลพัทธ์นั่งลงกราบเบื้องพระบาทของหญิงสูงวัย ความเมตตาที่ได้รับจากหญิงสูงศักดิ์คนนี้ มันทำให้เธอรู้ว่าโลกนี้ยังไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก

     

    องค์ชีคฮัสมานลงไปที่ห้องเสวย อาหารก็ถูกลำเรียงออกมาอย่างรู้เวลา แม้หน้าตาอาหารเช้าวันนี้ก็ยังเป็นอาหารประจำชาติของเขา แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้อารมณ์ของพระองค์ขุ่นมัวขึ้นมาอีก กลับดูอารมณ์ดีกว่าทุกวัน

    ดูจะเจริญอาหารนะลูกรัก พระมารดาเห็นลูกชายที่ทรงภาคภูมิใจ ด้วยที่เป็นชีคตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ราษฏรทุกคนก็เคารพรักพระองค์ เปรียบเสมือนเจ้าชีวิต แต่ถึงกระนั้นมีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียด

    มื้อเที่ยง ลูกอยากทานอาหารไทย พระมารดาช่วยจัดการให้ด้วย และฝากบอกเธอด้วยว่าลูกจะให้โอกาสอีกครั้ง ถ้าในอาหารยังมีเส้นผมอีก เธอต้องถูกลงโทษสิ้นสุดพระสุรเสียงที่ทรงอำนาจ พระองค์ก็เสด็จออกไปในทันที

    มะเยีย เจ้าไปแจ้งสิ่งที่องค์ชีคตรัสให้นางข้าหลวงคนใหม่ได้รับทราบ แล้วก็แนะนำนางด้วยพระมารดาหันไปตรัสกับข้าหลวงคนสนิทที่ดูแลองค์ชีคมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์และจงรักภักดีกับพระมารดามาตลอด

    ส่วนคาซิมไปดูซิว่าเธอได้รับความสะดวกสบายตามที่สมควรจะเป็นหรือเปล่าทั้งมะเยียและคาซิมก้มหัวน้อมรับคำสั่ง

    ดูเธอจะรั้นเอาเรื่องเหมือนกันนะเพคะ เห็นอาบียะบอกว่า เมื่อวานเกือบทำให้เขาหัวใจวายคาซิมเสริม

    อาจเป็นเพราะนางไม่ใช่คนอัฟฟาฮาน จึงไม่รู้ว่าพระองค์คือใคร แต่ผู้หญิงส่วนมากที่มาก็หวังเงินทองมหาศาลที่พระองค์ประทานให้ แค่เพียงตามใจพระองค์ แต่ผู้หญิงคนนี้ ดูจะมุ่งมั่นที่จะมาทำอาหาร ไม่ใช่มาเป็นของเล่นให้ลูกชายเรา พระมารดาทอดสายพระเนตรมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย การที่องค์ชีคไม่ยอมอภิเษกสมรสกับลูกเสนาบดีบางคน ที่เสนอบุตรสาวให้ ก็เพราะรักชีวิตโสด แม้ตอนเรียนอยู่อังกฤษ พระนางไปเยี่ยมที่โน่น ก็ยังไม่วายมีแหม่มสาวนอนอยู่ข้างๆ

     

    กุลพัทธ์กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องพร้อมยาเนห์ เธอไม่รู้ว่าองค์ชีคฮัสมานต้องการสิ่งใดจากเธอกันแน่ถ้าคิดว่าพระองค์กำลังหลงเสน่ห์คนอย่างเธอ ก็คงเป็นไปไม่ได้ในเมื่อ ในฮาเร็มของพระองค์ มีสาวสวยรอปรนนิบัติพระองค์อยู่มากมาย

    แต่ไม่ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร เธอก็จะไม่ยอมกลับเมืองไทยมือเปล่า โดยไม่ได้อะไรกลับไปเลยสักอย่าง ความใฝ่ฝันว่าจะกลับไปเป็นเชฟหญิงก็ต้องทำให้ได้ หรือแม้แต่บ้านเล็กๆ ที่เธอจะสร้างให้พ่อแม่และน้อง รวมไปถึงซุ้มไก่ชนของพ่อ

    กุลไม่เป็นไรใช่ไหมยาเนห์ถามอย่างเป็นห่วง

    ไม่เป็น กุลพัทธ์ตอบเพียงสั้นๆเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอต้องเจออะไรมาบ้าง

    ท่านมะเยียให้คนมาบอกว่ามื้อเที่ยงนี้กุลต้องโชว์ฝีมือให้เต็มที่ พระองค์ตรัสว่าจะให้โอกาสกุลเป็นครั้งสุดท้าย

    ใครกันท่านมะเยียเธอถามขึ้นอย่างงงๆ เพราะเมื่อเช้าเห็นแต่ท่านคาซิมที่คอยตามเสด็จพระมารดามูซาลี

    เป็นแม่นมขององค์ชีคและที่สำคัญเป็นคนสนิทของพระมารดายาเนห์ก้มกระซิบคล้ายกลัวใครได้ยิน

    ท่านมะเยียน่ากลัวขนาดที่ต้องกระซิบเลยเหรอสาวไทยกระซิบตาม

    ก็ประมาณหนึ่ง ไม่มีใครกล้าต่อปากต่อคำกับเธอไม่เหมือนท่านคาซิมที่ใจดีไม่มีถือสาพวกเราทำผิดนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่ว่าแต่ถ้าเป็นท่านมะเยียระเบียบจัด...ฮึ้ยเธอทำท่าขนพองสยองเกล้า

    น่ากลัวจังแต่ก็ขอบใจยาเนห์มากนะที่คอยช่วยเหลือฉันมาตลอดเธอส่งยิ้มให้เพื่อนต่างชาติ

    ไม่เป็นไร...ไปกันเถอะ

    สองสาวเดินตรงไปที่ห้องครัวผ่านทางเดินที่แสนคดเคี้ยว ทว่าความงดงามที่ปรากฏแก่สายตาของกุลพัทธ์ เห็นจะจริงอย่างที่องค์ชีคตรัสไว้ว่าผู้หญิงทุกคนยอมตามใจ เพราะดูแค่วังก็พอจะรู้ว่าโคตรอภิมหาเศรษฐีดีๆ นี้เอง

    ห้องครัวขนาดใหญ่ที่เธอเดินเข้ามาไม่ได้เล็กไปกว่าห้องครัวของโรงแรมเลยแม้แต่น้อยแตกต่างตรงที่ ห้องครัวที่นี่ไม่มีพ่อครัวเป็นผู้ชาย แม้สายตาที่มองจะไม่จิกกัดเหมือนในโรงแรม แต่เธอไม่อยากไว้ใจใครอีกครั้ง เหตุการณ์ที่โรงแรมทำให้รู้แล้วว่าจิตใจของคนช่างน่ากลัวที่สุด

    เธอคงรู้แล้วใช่ไหมว่าองค์ชีคทรงตรัสเช่นไรมะเยียเดินเข้ามาเตือนเธออีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าคำสั่งขององค์ชีคไม่ได้ตกหล่น

    ค่ะ เธอคะเนว่าผู้หญิงสูงวัยคนนี้ต้องเป็นท่านมะเยียแน่ๆ เพราะดูจากการนอบน้อมของคนในครัวคล้อยหลังมะเยีย เธอก็เริ่มต้นทำอาหารที่องค์ชีคฮัสมานต้องการเสวยในมื้อเที่ยงของวันนี้

     

    องค์ชีคฮัสมานทรงประทับอยู่ในห้องทรงงานรอคอยเวลาได้เจอหน้าคนอวดดีที่บังอาจปฎิเสธพระองค์  

    นาเซียร์ ใกล้เที่ยงหรือยัง พระองค์เงยพระพักตร์จากโต๊ะเป็นครั้งแรก

    ยังพระเจ้าค่ะนาเซียร์มององค์ชีคด้วยความสงสัย

    เมื่อเช้ารัฐมีราเนอะ เกิดแผ่นแผ่นดินไหว แล้วที่ให้ไปจัดการเรียบร้อยหรือยัง

    สะพานชำรุดต้องปิดถนนหลายสาย ประชาชนขาดการติดต่อจากโลกภายนอก 100หลังคาเรือน แต่กระหม่อมส่งเฮลิคอปเตอร์ไปแจกจ่ายอาหารตามที่พระองค์รับสั่งแล้วพระเจ้าค่ะอาบียะรายงานการทำงานที่องค์ชีคมอบหมายให้

    อืม พระองค์ตอบรับสั้นๆ และนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรในใจ

    มีอีกอย่าง สายของเรารายงานว่า พวกนักรบใต้ดิน กำลังเตรียมเสบียงอาหารจำนวนมาก แต่เราก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะพวกมันจ้างชาวบ้านขนไปส่งที่ตะเข็บชายแดนบริเวณเทือกเขาอัลมาห์ พวกเราลอบติดตามไป แต่พวกมันก็หายเข้าไปในป่าอย่างไร้ร่องรอยอาบียะยังทำหน้าที่ขุนพลคู่ใจองค์ชีคได้เป็นอย่างดี

    พวกมันฉลาดมากหาทางหนีที่ไล่ไว้อย่างดี เทือกเขาอัลมาห์ติดอ่าวเมนิสคงตามยากพอสมควร เอาเถอะ จับตาดูไว้มันเข้าได้ก็ต้องออกมาได้เช่นกัน ถ้าพวกมันยังอยู่อย่างสงบ ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องรบราฆ่าฟันแม้จะทรงเด็ดเดี่ยวเพียงไร แต่การล้มตายของประชาชนผู้บริสุทธิ์คือหายนะของบ้านเมือง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×