คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 50% ค่ะ
พระราชวังคุลาพแห่งอัฟฟาฮาน ที่กว้างใหญ่ที่สุดของโลก ประกอบด้วย ห้องต่างๆ 1500 ห้อง มีห้องจัดเลี้ยงที่จุคนได้ 3000 คน รวมทั้งสระว่ายน้ำอีก 3 แห่ง โรงรถที่จุรถได้จนนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะรถพอร์ช ที่องค์ชีคทรงโปรดปราน นอกจากนี้พระราชวังคุลาพ ยังเป็นเหมือนที่ทำการของคณะเสนาบดีและเป็นที่รับรองแขกบ้านแขกเมืองตามโอกาสอันควร
อัฟฟาฮานแบ่งออกเป็น 39 จังหวัด มีประชากรจำนวน 12 ล้านคน โดยใช้ภาษา เปอร์เซียเป็นภาษาราชการ มีพื้นที่ทางทิศตะวันออกเป็นฝั่งทะเลเขตน้ำอุ่นแถบอ่าวเปอร์เซีย มีแผ่นดินเป็นทะเลทรายจรดชายทะเลยาวเหยียดทางทิศตะวันตก ทางตอนใต้เป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีหิมะปกคลุมทางตอนเหนือของประเทศ
โต๊ะทำงานชุดใหญ่มีกองกระดาษมหาศาลวางอยู่เต็มพื้นที่จึงเป็นเหตุให้โต๊ะทำงานราคาแสนแพงดูด้อยลงไปในทันตา องค์ชีค ฮัสมาน กำลังทำงานอย่างคร่ำเคร่งโดยไม่ได้หยุดพักซึ่งตอนนี้ก็เลยเวลาเสวยมานานมากแล้วแต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับวรกายไปไหน
“องค์ชีค พระเจ้าค่ะ กระหม่อมอยากจะขอกราบเรียนว่าตอนนี้เวลา 8 นาฬิกา” อาบียะ องครักษ์อีกคนกล่าวเตือนอย่างเป็นห่วง เพราะเลยเวลาเสวยมากว่าชั่วโมง นี่ถ้าเขาไม่บอก พระองค์คงไม่ยอมเงยหน้าจากโต๊ะทำงานเป็นแน่
“แล้วไง” พระองค์ตรัสออกไป โดยไม่ได้เงยพระพักตร์จากโต๊ะทำงาน
“เชฟจากเมืองไทยมาถึงแล้ว และเริ่มงานวันนี้เป็นวันแรก” นาเซียร์เอ่ยออกมาเป็นครั้งแรกในรอบวัน ซึ่งนาเซียร์ก็เป็นอีกคนที่เป็นคนเงียบเฉยไม่พูดไม่จาถ้าไม่จำเป็น
“งั้นลองไปชิมฝีมือหน่อย” ร่างสูงสง่าลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วดำเนินออกไป ติดตามมาด้วยองครักษ์ทั้งสอง
โรงแรม มูซาลี ซาลาม โฮเทล เป็นโรงแรมที่ค่าห้องพักแพงลิบลิ่ว และจัดอยู่ในโรงแรมเจ็ดดาว ซึ่งมีไม่กี่โรงแรมในโลกที่จะได้ดาวมากขนาดนี้ มีห้องพัก 200 ห้องด้านหน้าติดทะเลสาบ ด้านหลังเป็นทะเลทราย ยามพระอาทิตย์ตกดิน จะเห็นสันทรายที่สูงที่สุดในโลก และมองไปไกลๆ ก็ยังมีสันทรายอีกนับร้อยตระหง่านให้เห็นความงดงามของเม็ดทราย
เมื่อคืนกุลพัทธ์นอนในห้องพักพนักงาน เธอโทษตัวเองที่ไม่ทันคิดว่าต้องค้นหาข้อมูลของประเทศนี้ ทำให้เธอไม่รู้รายละเอียดใดๆ เลย และไม่เคยคิดมาก่อนว่าประเทศที่อยู่แถบทะเลทรายจะมีอากาศในยามค่ำคืนหนาวเย็นเช่นนี้ ขณะนี้ฮีทเตอร์ในห้องพักของเธอกำลังทำงานอย่างหนัก หญิงสาวจากเมืองไทยพยายามข่มตาให้หลับโดยเร็ว เพื่อเพิ่มพลังในการเริ่มงานในเช้าวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นการเริ่มงานวันแรกของการใช้ชีวิตต่างถิ่น
นาฬิกาบอกเวลา หกโมงเช้าของอัฟฟาฮาน ประเทศไทยคงประมาณ เก้าโมงเช้า เธออาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินตรงไปที่โรงแรม มูซาลี ซาลาม หญิงสาวเดินตรงไปทางด้านหลังตามที่ป้ายเขียนบอกทางว่า มีไว้เฉพาะพนักงาน หญิงสาวมองเห็นความโอ่อ่าหรูหราถ้าตัดสินใจที่จะไม่มาที่นี่ ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นสิ่งสวยงามที่น่าประทับใจ
กุลพัทธ์ก้าวย่างเข้ามาภายในครัวก็เริ่มรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติของสายตาของเหล่าเพื่อนพนักงานมองมาที่เธอ ซึ่งผู้มาใหม่พยายามมองไปรอบๆ ครัว แล้วก็มั่นใจว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในครัวแห่งนี้
“สวัสดีค่ะ” กุลพัทธ์ทักทายเป็นภาษาอังกฤษ
เงียบ…
แล้วทุกคนต่างก็หันกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง โดยไม่คิดจะสนใจหญิงตรงหน้า
ฝ่ายคนถูกเมินก็ยืนหันซ้ายหันขวา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อนดี ความกดดันเกิดขึ้นและความคิดถึงบ้านเริ่มแทรกผ่านอากาศเข้าอย่างไม่ทันตั้งตัว
‘ฉันต้องอยู่ให้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาเงินเดือนมากมายขนาดนี้ได้อีกและที่สำคัญคือ ใบผ่านงาน’ เธอพยายามให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะเดินไปที่ป้ายบอกชื่อครัวที่เขียนว่า...ไทยฟู้ด
กุลพัทธ์มองดูห้องทำงานของเธอซึ่งดูก็รู้ว่าเป็นเครื่องครัวที่ซื้อมาใหม่ยังไม่ได้ผ่านการใช้งานเลยสักครั้ง ความใหม่ของอุปกรณ์บวกกับสดของผักที่วางเรียงอย่างเป็นระเบียบ ทำให้เธอนึกถึงเพื่อนร่วมงานใจดีที่อยู่เมืองไทย ไม่เคยมีสักครั้งจะรู้สึกว่าเวลาในการทำงานจะยาวนานเช่นอยู่ที่นี่ ในตอนนี้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่เชฟสาวก็ยังไม่ได้เริ่มงานอะไรเลย ได้แต่ตรวจดูของในตู้ว่ามีอะไรที่เธอจะพอนำมาแกะสลักได้บ้าง
“รับออเดอร์ด้วยครับ” และแล้วงานชิ้นแรกของเธอก็ปรากฏมีรายการอาหารส่งผ่านทางช่องเล็กๆ ที่ใช้รับส่งอาหารโดยเฉพาะ
‘แหมใครกัน สั่งอาหารเหมือนจะรู้เลยนะว่าฉันมาแล้ว’ เธอเริ่มทำอาหารตามที่ลูกค้าคนแรกในประเทศนี้สั่งอาหารไทย
ตามรายการอาหารที่สั่ง
- ข้าวสวยหอมมะลิ
- แกงเขียวหวานเนื้อ
- มัสมันไก่
- ต้มยำกุ้งแม่น้ำ
เชฟสาวเริ่มหุงข้าว พร้อมกับหันเนื้อสดเป็นชิ้นบางๆ สม่ำเสมอ ที่แช่อยู่ในตู้เย็นขนาดมหึมา เนื้อสดจัดวางเป็นระเบียบมีวันเดือนปีที่ส่ง ด้านข้างมีตู้เย็นอีกสองตู้ที่ใส่ผัก และผลไม้สด
หญิงสาวใช้เวลาพอสมควรในการจัดเตรียมอาหาร แม้ตอนแรกจะดูเงอะๆ เงิ่นๆ กับครัวใหม่ แต่ก็ใช้เวลาไม่นานในการทำความคุ้นเคย เพราะการทำอาหารมันอยู่ในสายเลือดของเธอเสียแล้ว
ทว่าขณะที่เธอกำลังจัดแต่งหัวจาน ชายร่างใหญ่ใบหน้าบึ้งตึง ก็เดินเข้ามาในครัว พร้อมกับยืนมองเธออยู่นานก่อนจะเอ่ยออกมาว่า
“ผู้หญิงอย่างเธอจะไปได้ซักกี่น้ำ ไม่กี่วันก็หนีกลับบ้านแล้ว งานแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ชาย เป็นผู้หญิงก็ควรอยู่บ้านเลี้ยงลูก” เขาเดินเข้าไปใกล้อาหารของเธอ แล้วยืนคนอาหารไปมาอยู่สักพัก ก่อนจะเดินออกไป แต่ก็ยังทันมองเห็นป้ายชื่อที่บอกให้รู้ว่าเขามีตำแหน่งเป็น EXECUTIVE CHEF นั้น ทำให้เธอต้องหุบปากเงียบรอเวลาที่บริกรจะนำอาหารออกไปเสิร์ฟ
อาบียะเดินเข้ามาจัดเตรียมความพร้อมอีกรอบ ก่อนอาหารจะวางลง
“พระกระยาหารพร้อมแล้วพระเจ้าค่ะ”
องค์ชีคฮัสมาน มองอาหารตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ พระองค์ทรงลองเสวยอาหารเป็นคำแรก แล้วแย้มโอษฐ์อย่างพอพระทัย แต่ผ่านไปไม่นานเสียงช้อนกระทบจานก็ดังขึ้น
“ไล่เชฟจากเมืองไทยออกเดี๋ยวนี้” รับสั่งจบก็ดำเนินออกไปจากห้องอาหารทันที
อาบียะรีบไปดูอาหารแล้วถึงกับผงะเมื่อเห็นเส้นผมลอยอยู่ในอาหาร นาเซียร์เห็นดังนั้นก็เดินเข้าไปในครัว เพื่อจัดการตามที่องค์ชีคฮัสมานสั่ง
นาเซียร์เข้าไปภายในครัว ด้วยสีหน้าที่ไม่มีใครคาดเดาอารมณ์ได้ เขายืนมองภายในครัว ก่อนจะตรงเข้ามาที่ครัวไทยฟู๊ด
“เธอเป็นใคร” นาเซียร์ถามอย่างแปลกใจ
“เป็นกุ๊ก” กุลพัทธ์ตามที่เธอคิด โดยไม่รู้ว่าจะยิ่งสร้างความโกรธให้กับชายผู้นี้
“ฉันให้เวลาเธอสามนาทีออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้” เขาตะโกนอย่างไม่ไว้หน้า
“ทำไมฉันต้องออก ก็ในเมื่อฉันเพิ่งเริ่มทำงานเป็นวันแรก”
“ใช่...เป็นวันแรกและวันสุดท้ายของเธอ ออกไป!” จากนั้นชายร่างสูงใหญ่คนนั้นก็เดินออกไปทันที โดยไม่ยอมรับฟังคำถาม ว่าเพราะอะไรถึงต้องไล่เธอออก รอบข้างมีสายตาสมน้ำหน้าของพวกกุ๊กในครัวที่ส่งตรงมาให้เธออย่างจงใจ
ความคิดเห็น