ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สุดรอยทรายฝากใจรัก

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 12

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 59


     

    ตอนที่ 12

           หลังอาหารมื้อค่ำขององค์ชีคหญิงสาวจัดเก็บข้าวของเรียบร้อยก็กลับเข้ามานอนในกระโจม เนื้อตัวที่ขะมุกขะมอมเหนียวเหนอะหนะด้วยเหงื่อไคล เส้นผมที่แม้จะมีฮิญาบบดบังก็ไม่วายมีเม็ดทรายเต็มพื้นที่ของศีรษะ

    ร่างเล็กนอนพลิกไปมาอยู่หลายรอบ ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นในทันที เธอเดินตรงไปยังกระเป๋าใบเล็กที่อาบียะนำมาให้ พอเปิดออกดูก็มีเพียงผ้า เช็ดหน้าผืนเล็กหนึ่งผืน แปรงสีฟัน ยาสีฟันและพวกยาจำเป็นที่เธออาจจะต้องใช้

    อดนึกแปลกใจว่า ทำไมไม่มีเสื้อผ้ามาให้เธอเปลี่ยนสักชิ้น หรือเขาจะชินชากับการที่ไม่ได้อาบน้ำก็อาจเป็นไปได้ แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ คิดได้แค่นี้ร่างกายก็ตอบสนองทันที

    เธอก็จัดการถือผ้าเช็ดหน้าติดมือออกไป แล้วยืนหันซ้ายหันขวา ก่อนจะเห็นว่าร้างผู้คน เพราะการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อย จึงทำให้ผู้คนพากันหลับใหลพักผ่อนเอาแรงไว้ในเช้าวันรุ่งขึ้น มีแต่ทหารเพียงสองคนที่ยืนเฝ้ากระ

    โจมขององค์ชีค

    หญิงสาวเดินตรงไปยังโอเอซิสที่ห่างออกไปไม่ไกล ซึ่งมีต้นไม้ต้นใหญ่ที่ช่วยกำบังสายตาผู้คนได้ เธอเดินลงไปในน้ำโดยไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออกแม้สักชิ้น มีเพียงฮิญาบและชาดอร์เท่านั้นที่เธอพอจะสละได้ ถ้าจะให้เธอไม่สวมอะไรเลยก็คงจะทำใจยาก ขนาดให้เธอใส่ชุดว่ายน้ำในที่สาธารณะยังไม่กล้า

    ขณะที่กุลพัทธ์กำลังดำผุดดำว่ายในสายน้ำเย็นใสสะอาดอย่างสบายใจ

    อยู่เฉยๆ ห้ามขยับเสียงกร้าวของชายหนุ่มนั้นทำให้เธอชะงักในทันที

    นาเซียร์หยิบเศษไม้แล้วเหวี่ยงไปสุดแรงพลางสายตาของเธอก็ไปสะดุดกับงูตัวใหญ่ที่กำลังตรงรี่มาที่เธอ แต่โชคดีได้เศษไม้ของนาเซียร์ช่วยสกัดกั้นทำให้งูเปลี่ยนทิศทาง

    ขอบคุณมากค่ะคุณนาเซียร์กุลพัทธ์ขึ้นจากน้ำด้วยเนื้อตัวที่เปียกชุ่มเสื้อผ้าลู่ลงแนบชิดลำตัวเผยให้เห็นเนื้อหนังของสาวรุ่น เมื่อถึงตัวเจ้าของเศษไม้เธอก็ฉีกยิ้มจริงใจให้โดยลืมมองดูสารรูปตัวเองว่าอยู่ในสภาพไหน

    แหม...เห็นหน้าดุๆ ก็ใจดีเหมือนกันน้า เธอชมเขาในใจ

    ไม่เป็นไรฉันแค่นอนไม่หลับ นาเซียร์ตอบเสียงเรียบ

    เกิดอะไรขึ้น สุรเสียงทรงอำนาจกังวานก้องฉุดให้ทั้งสองหันมอง

    ภาพที่เห็นคือหญิงสาวกำลังใกล้ชิดนาเซียร์ด้วยสภาพที่อวดทรวด ทรงองค์เอวชัดเจนแถมยังทำหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋อใส่องครักษ์ของพระองค์

    นาเซียร์ก้มหน้าถอยห่างอย่างรู้งาน มีแต่กุลพัทธ์ที่ยังมององค์ชีค อย่างไม่สะทกสะท้าน

    คุณนาเซียร์เข้ามาช่วยไล่งูให้เพคะเธอตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติ

    ลืมนึกถึงเสื้อผ้าที่ดูจะล่อแหลมของตัวเอง

    เธอบ้าหรือไง!” สิ้นสุรเสียงขององค์ชีค อาบียะก็วิ่งออกมาทันทีพร้อมทหารที่มีอาวุธครบมือตามมาอีกสองนาย

    องค์ชีคถอดเสื้อคลุมตัวโคร่งสวมให้เธอพร้อมสำรวจดูว่าพระองค์ได้ปกปิดทุกส่วนของเธอจนมิดชิด จากนั้นก็หันไปหาองครักษ์ที่ยืนอมยิ้มอยู่ไม่ห่าง เมื่อรับรู้ถึงสิ่งที่ทำให้องค์ชีคฮัสมานต้องส่งเสียงดังกังวานเช่นนี้

    หยุดยิ้มแล้วพาลูกน้องพวกนายกลับไปได้แล้วและนั่นก็เป็นรับสั่งที่อาบียะอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ แต่ถ้าทำเช่นนั้นเขาคงไม่ได้กลับวังคุลาพ อย่างแน่นอน

    นายไปวุ่นวายอะไรแถวนั้นวะนาเซียร์เขากล่าวถามในขณะที่เดินกลับที่พัก

    ไม่เห็นแปลกก็คนนอนไม่หลับเดินลาดตระเวนรอบก็เห็นว่างูมันกำลังจะสอยเธอ ก็แค่นั้น เขาตอบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

    แต่ฉันว่าองค์ชีคคงไม่คิดอย่างนาย เขาหันไปยิ้มให้ทางด้านหลังที่เดินจากมาเพราะไม่รู้ว่าป่านนี้กุลพัทธ์จะเป็นไงบ้าง

    กุลพัทธ์มององครักษ์ทั้งสองจนสุดตาก่อนจะหันกลับมาเห็นเนตรขวางๆ ขององค์ชีค และสิ่งนี้เองที่ทำให้เธอเข้าใจถึงสาเหตุของสุรเสียงที่ดังราวกับฟ้าจะถล่มหัวใจที่สั่นคลอนเป็นต้นทุนอยู่แล้วแต่ทว่าตอนนี้กำลังออกดอกเบ่งบานอยู่ภายในใจ

    เธอยิ้มอะไร คลุมดีๆ พระองค์กระชับเสื้อให้เธอแล้วก็รีบหันพระพักตร์หนี

    หญิงสาวจับเสื้อกระชับอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่สามารถจะหุบลงได้และความคิดเจ้าเล่ห์ก็เกิดขึ้น

    อุ๊ย! เสื้อหล่นเธอแกล้งชายที่ยืนหันหลังให้

    องค์ชีคหันขวับในทันทีเพราะคิดว่า ถ้าร่างบางๆ ของเธอออกมาอวดโฉมให้เห็นอีกครั้งพระองค์ไม่รับประกันว่าจะไม่รั้งเธอเข้ามากอดเพื่อดับความโหยหาของความเป็นชาย

    แต่แล้วสิ่งที่เห็นก็ทำให้องค์ชีคหน้าง้ำในทันที ก็เธอยืนยิ้มหน้าแป้นคงดีใจที่สามารถหลอกพระองค์ได้ เสื้อที่สวมให้ก็ยังอยู่เช่นเดิม

    ขอบพระทัยเพคะ...อย่าทำพระพักตร์แบบนั้น หม่อมฉันแค่ล้อเล่นนิดเดียวเองเธอส่งรอยยิ้มแต่พระองค์กลับเดินออกไปโดยไม่ยอมตรัสกับเธอสักคำ แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้วิ่งไปดักหน้าชายหนวดดก อย่าโกรธหม่อมฉันเลยเพคะ หญิงสาวส่งเสียงอ้อนอย่างที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน

    ถอยไป เธอต้องทำตามรับสั่งหลบให้พระองค์เดินนำหน้าและมีเธอเดินตามในระยะประชิด

    พระองค์โกรธกุลพัทธ์พูดขึ้นอีกครั้ง

    เปล่า

    ถ้าไม่โกรธทำไมต้องทำพระพักตร์แบบนี้

    แบบไหน

    ก็คิ้วกับจมูกจะติดกันอยู่แล้วเหลืออีกนิดเดียวเพคะ น้ำเสียงเล็กๆ ที่กระเซ้าพระองค์ทำให้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครายิ้มออกมาเป็นครั้งแรกในรอบวัน

    ฉันจะสั่งลงโทษเธอ

    เรื่องอะไรเพคะ...

    เธอโกหกฉัน พระราชาหนุ่มหันหน้าคนตัวเล็กพร้อมกับนึกต่อว่าเธอในใจ และให้ท่าผู้ชาย

    ไม่จำเป็นเพคะ เพราะทุกวันนี้หม่อมฉันก็เหมือนได้รับโทษอยู่แล้ว

    ฉันเพิ่งจะรู้ว่าการที่ให้เธอมาอยู่ใกล้ๆ มันทำให้เธอทรมาน

    ไม่ใช่อย่างนั้นเพคะ

    องค์ชีคไม่ได้รับสั่งสิ่งใดต่อจากนั้นทรงดำเนินออกจากโอเอซิสตรงไปที่กระโจมโดยไม่ตรัสใดๆ กับเธอ

    เช้ารุ่งขึ้นของการเดินทางสู่โครงการขุดเจาะน้ำมันขนาดยักษ์ที่สามารถเจาะน้ำมันดิบได้ถึง 400,000 บาร์เรลต่อวัน และเป็นผลผลิตทางทรัพยากรธรรมชาติอันมหาศาลที่เสนาบดีบางคนอยากครอบครอง

    เสนาบดีอานูเคยนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมอยู่หลายครั้ง เพื่อหวังให้องค์ชีคเห็นด้วย ถึงเรื่องที่จะเพิ่มกำลังการผลิต รวมไปถึงจับมือกับต่างชาติ เพื่อผูกขาดน้ำมันดิบที่ประเทศอัฟฟาฮานขุดเจาะได้

    แม้องค์ชีคฮัสมานจะเป็นผู้นำแห่งยุคสมัยใหม่ แต่การที่ต้องผลิตน้ำมันให้มากขึ้น ก็หมายถึงการใช้มากขึ้นตามจำนวนที่ผลิตได้ ส่งผลให้ทรัพยากรในประเทศของพระองค์หมดเร็วขึ้น พลังงานทดแทนก็ยังอยู่ในขั้นทดลอง พระองค์จึงเลือกที่จะมีความคิดแตกต่างจากเหล่าเสนาบดีที่หวังผลประโยชน์เพื่อตัวเอง โดยไม่ได้คิดถึงอนาคตข้างหน้าว่ารุ่นลูกรุ่นหลานจะเป็นยังไง ถ้าวันนี้ยังไม่คิดจะทำอะไรให้เพื่อพวกเขา

    อีกสองร้อยเมตรก็จะถึงพระเจ้าค่ะอาบียะกล่าวรายงาน

    อืมม์ พระองค์ไม่ถามสิ่งใด พระพักตร์ที่ตั้งตรงยังคงมุ่งไปเส้นทางด้านหน้า

    กุลพัทธ์เหลือบมองเสี้ยวพระพักตร์หลายต่อหลายครั้ง ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมองกลับเลยสักครั้ง

    ไม่รู้จะโกรธอะไรนักหนา

    คุณไปทำอะไรให้พระองค์ทรงเป็นเช่นนั้นอาบียะดึงบังเหียนชะลอให้อยู่ระหว่างอูฐของกลุพัทธ์แล้วกระซิบถามเธอเบาๆ

    เปล่าค่ะ

    แน่นะ อาบียะถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

    ก็แค่บอกว่า ทุกวันนี้ก็เท่ากับหม่อมฉันกำลังได้รับโทษ เท่านั้นจริงๆ นะคะกุลพัทธ์บอกตามความจริง

    ดีมาก และผมจะบอกคุณเอาไว้ ว่าคุณจะไม่มีวันลืมเลย เมื่อพระองค์ทรงกริ้วใครพูดจบเขาก็ดึงบังเหียน เพื่อให้อูฐเดินนำไป พลางคิดถึงตอนอยู่อังกฤษด้วยกันสามคน เพียงแค่นาเซียร์ไม่ยอมมาลงสนามแข่งฟุตบอลของมหาลัย ทั้งที่เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อม แต่นาเซียร์หายไปโดยไม่ยอมบอกกล่าว ซึ่งก็ทำให้พระองค์เงียบเฉยกับนาเซียร์ร่วมสามเดือน

    เมื่อถึงที่หมาย การทำงานก็เริ่มขึ้นในทันที องค์ชีคฮัสมานตรวจสอบระบบการขุดเจาะของเครื่องจักรและการทำงานที่เหน็ดเหนื่อยของผู้ควบคุม ทั้งยังต้องห่างจากคนที่รัก และเป็นเหตุผลอีกหนึ่งประการ ที่ทำให้พระองค์เสด็จมาที่นี่อยู่บ่อยครั้ง

    แม้ช่วงแรกพนักงานจะคิดว่าพระองค์เป็นวิศวกรธรรมดา แต่เมื่อองค์ชีคฮัสมานมาที่นี่บ่อยครั้งขึ้นความลับก็ไม่เป็นความลับสำหรับพวกเขาอีกต่อไป พระองค์ทรงทำให้ผู้ที่อยู่ภายใต้การบัญชาเคารพเทิดทูนได้ไม่ยาก

    พระองค์ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนเวลาล่วงเลยถึงวันสุดท้ายที่ต้องกลับวังคุลาพ แต่ถึงกระนั้นความเงียบงัน ระหว่างคนทั้งคู่ ยังคงปรากฏอยู่เช่นเดิม

    ถึงเวลาอาหารกลางวัน องค์ชีคก็ทรงมาประทับในกระโจมที่จัดไว้สำหรับพระองค์ การเสวยเป็นไปอย่างเงียบเชียบ โดยมีอาบียะยืนอยู่ไม่ห่าง

    อาหารถูกพระทัยไหมเพคะกุลพัทธ์ตัดสินใจถามขึ้น หลังจากพระองค์วางช้อนลง ซึ่งหมายถึงทรงเสวยเรียบร้อย

    ...ไม่มีคำตอบใดๆ จากพระองค์

    อาบียะมองเธออย่างเห็นใจ แต่กุลพัทธ์กลับไม่ยอมแพ้เดินตามองค์ชีคฮัสมานออกไป

    ยังไม่หายโกรธหม่อมฉันเหรอเพคะ

    คิดว่าฉันควรจะโกรธเธอเรื่องอะไร

    ก็... หญิงสาวไม่รู้จะอธิบายสาเหตุอันใด จึงได้แต่เงียบ องค์ชีคฮัสมานดำเนินออกไป โดยไม่หันกลับมามองเธอแม้แต่น้อย และมีเสียงของพระองค์ตะโกนให้ทุกคนเก็บของเตรียมเดินทางกลับ

    กุลพัทธ์เอ๊ย จะบ้าไปใหญ่แล้ว คิดว่าพระองค์จะมาคิดอะไรกับเธอกัน หญิงสาวเตือนสติตัวเองก่อนเก็บข้าวของตามที่พระองค์รับสั่ง

     

    หลังจากเดินกลับออกมาจากบริเวณบ่อขุดน้ำมันก็พักค้างคืนที่โอเอซิสอีกคืน ในช่วงเย็นเช่นนี้ ทหารบางคน และชาวเบดูอินนั่งพักเอาแรงกันอย่างผ่อนคลาย และเธอก็มีวิธีที่จะไม่ต้องมองเห็นองค์ชีคฮัสมานที่ยังคงมีพระพักตร์ถมึงทึง จึงเลือกที่จะเข้าไปสบทบกับพวกเขาแทน

    แม้ภาษาที่แตกต่างก็ไม่เป็นอุปสรรคในการสื่อสาร หัวข้อสนทนาคือการแลกเปลี่ยนวิธีการถนอมอาหารของชาวเบดูอิน และการถนอมอาหารในแบบไทย มีเสียงหัวเราะดังมาอย่างต่อเนื่อง

    ไม่น่าเชื่อว่าคุณลาจักจะรู้จักอาหารไทยด้วย ชาวเบดูอินในกลุ่มพูดคุยกับเธอด้วยภาษาอังกฤษที่แม้จะไม่ค่อยชัดเจน แต่ก็พอจะเข้าใจ ด้วยว่าชาวเบดูอินบางกลุ่มนั้นมีนักท่องเที่ยวจ้างให้นำทางสู่ดินแดนแห่งทะเลทราย

    บ่อยครั้ง จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะเข้าใจสิ่งที่เธอพูด แม้จะไม่ทั้งหมด

    คุณกุลพัทธ์ต้องทำงานที่นี่อีกนานไหมครับ ลาจักถามอย่างสุภาพ เพราะเขารู้สึกว่ายามที่ได้คุยกับเธอสบายใจอย่างบอกไม่ถูก หรืออาจจะเพราะเป็นคนชอบเรื่องอาหารเหมือนกันกระมัง

    องค์ชีคฮัสมานหันพระพักตร์ไปมองเสียงเจื้อยแจ้วที่พูดเป็นภาษาอังกฤษบ้าง และใช้ภาษามือบ้าง ทำให้นึกขัดพระทัยอย่างบอกไม่ถูก

    พระองค์พยายามจะหักห้ามพระทัยไม่ให้เข้าใกล้เธอ แต่การที่มีเธออยู่ใกล้กลับทรมานยิ่งกว่า

    อาบียะ

    ทรงต้องการสิ่งใดพระเจ้าค่ะน้ำเสียงฟังดูทะเล้นจนพระองค์หันไปมอง

    ไปเรียกเธอเข้ามานี่หน่อย

    ใครหรือพระเจ้าค่ะ

    ทรงรู้ว่าถูกแกล้ง จึงหันกลับไปส่งสายตาพิฆาตไปที่เพื่อนสนิทก่อนจะตรัสว่าไปเดี๋ยวนี้อย่าให้ฉันต้องลุกออกไปเอง

    อาบียะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่พระองค์เลือกที่จะยอมคุยกับเธอง่ายๆ แต่ก็หาใช่เรื่องที่เขาต้องกังวลใจเพราะถึงยังไงเขาก็จะคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ และจะไม่ยอมห่างไปไหนไกล คงไม่มีใครกล้าครหาองค์ชีคได้ จากนั้นเขาก็หายออกไป ก่อนจะกลับมาพร้อมกับกุลพัทธ์

    อาบียะ สุรเสียงข่มขวัญขององค์ชีคฮัสมาน ทำให้องครักษ์ต้องยอมออกไปแต่โดยดี แม้จะรู้ว่ามันไม่เป็นการดีที่จะปล่อยให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพัง แต่เมื่อเป็นความต้องการของพระองค์แล้ว เขาก็คงต้องเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้านนอกกระโจมแทน

    ดูเธอจะมีความสุขซะเหลือเกินนะสุรเสียงกล่าวกระทบอย่างเคืองๆ

    เพคะ กุลพัทธ์ตอบเพียงสั้นๆ แล้วก้มหน้านิ่ง มือเรียวที่กำลังจับชาดอร์อยู่นั้น สั่นจนไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งที่เธอพยายามบังคับร่างกายแล้ว แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นแม้แต่น้อย กลับยิ่งเพิ่มจังหวะการเต้นของหัวใจของเธอให้เร็วขึ้น...เร็วขึ้น

    ชีคหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยอารมณ์หลากหลาย พลางสังเกตมือของเธอกำลังสั่น หลายครั้งที่พระองค์ใกล้ชิดเธออย่างจาบจ้วง ร่ายกายของหญิงสาวดูจะสั่นๆ และตื่นตระหนก จนทรงรู้สึกได้ว่า ไม่น่าเป็นไปได้ว่าเธอจะมีสามีอย่างที่บอก

    รอยยิ้มมุมโอษฐ์เด่นชัดขึ้นจนกลายเป็นยิ้มพิมพ์ใจ

    เธอรู้หรือยังว่าทำอะไรผิด พระองค์ตรัสอย่างอารมณ์ดี

    ไม่ทราบเพคะ

    เธอมีอะไรที่ปกปิดฉันรึเปล่า

    มะ ไม่มีเพคะเสียงที่ตอบตะกุกตะกัก

    เธอรู้ใช่ไหม ถ้าโกหกจะเกิดอะไรขึ้นในประเทศของฉันพระองค์ตรัสด้วยสุรเสียงแข็งกร้าว เพราะอยากรู้ว่าเธอจะทำยังไงต่อไป

    ที่หม่อมฉันเดินทางมาไกลแสนไกล ก็เพื่อจะมาตามหาฝันไม่คิดว่าจะต้องมานั่งโกหกใครมือที่เคยสั่นกับนิ่งสนิทเพราะความขุ่นเคืองเข้ามาแทรก

    กุลพัทธ์เงยหน้าสบพระเนตรขององค์ชีคอย่างท้าทาย เพราะเหตุที่เธอไม่ใช่เบี้ยล่างของใคร ถึงเธอจะเป็นคนพลัดถิ่น ก็ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาข่มเหงอยู่ตลอดเวลา

    องค์ชีคฮัสมานยืนขึ้นเต็มความสูงพระหัตถ์ไขว้หลังโน้มเศียรให้อยู่ในระดับเดียวกันกับเธอ ก่อนจะตรัสว่า

    ฉันจะทำให้รู้ว่า ไม่มีใครโกหกฉันได้...กุลพัทธ์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×