คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 8
ตอนที่ 8
องค์ชีคฮัสมานตรงไปยังฮาเร็มที่ตั้งอยู่ตรงปีกซ้ายของห้องบรรทม พระเกศายาวหลุดลุ่ยออกมาเคลียบ่า ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม พร้อมกับพกพาอารมณ์โกรธกริ้วจนไม่สามารถทุเลาลงได้ เมื่อความเป็นชายได้ถูกปลุกเร้า จนพระองค์ต้องหาที่ระบาย
“เฮน่า” เสียงกัมปนาทของพระองค์ทำให้หญิงสาวต้องหันไปมอง พร้อมกับรอยยิ้มดีใจ ที่องค์ชีคเลือกที่จะมาหาเธอ
“พระองค์” หญิงสาวรีบตรงไปยังพระวรกาย แล้วดึงไปประทับที่เตียง ก่อนที่เธอจะซุกไซร้พระพักตร์ที่เต็มไปด้วยหนวดเครา “ทำไมพระพักตร์บึ้งจัง ใครทำอะไรไม่ถูกพระทัยหรือเพคะ” เฮน่าทำเสียงออดอ้อน
“ฉันไม่ดีตรงไหน” น้ำเสียงแข็งกร้าว และพระพักตร์เชิดตรง จนหญิงสาวต้องหยุดกิจกรรมทุกอย่าง
“ทุกสัมผัสในร่างกายของพระองค์ล้วนน่าหลงใหล โดยเฉพาะหนวดเคราที่ทำให้หม่อมฉันหลงเสน่ห์” เฮน่าเริ่มซุกไซ้จนพระองค์ปล่อยตามใจหญิงสาว ที่รู้อย่างช่ำชอง ว่าต้องเอาอกเอาใจพระองค์ยังไงต่อไปถึงจะถูกพระทัย
กุลพัทธ์เดินกระเผลกๆ ไปยังห้องของตัวเอง แม้ใบหน้าจะดูเรียบเฉย แต่ภายในใจกลับเจ็บปวด เมื่อนึกถึงภาพที่เธอถูกทิ้งไว้ลำพัง
เธอตะเกียกตะกายที่จะออกจากบริเวณอาณาเขตของเจ้าป่า เพราะไม่เคยคิดไว้ใจบารุดซ์สักนิด คมเขี้ยวอันเเหลมคมน่ากลัว ยังปรากฏให้เธอเห็นอยู่ตลอด เมื่อมันยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ถึงจะรู้ว่ามันไม่ทำอันตรายตัวเธอ แต่ขาที่เจ็บและบวมก็ไม่สามารถทำให้เธอขยับตัวไปไหนได้
แม้ในห้วงแห่งความกลัวยังเกาะกินใจ ยากที่จะหลุดออก แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่เธอมองเห็นก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับวูบไป
เมื่อเจ้าบารุดซ์หยุดมองเธอ แล้วเยื้องย่างเข้ามานอนอยู่ข้างๆ พร้อมกับเอาหัวอันใหญ่โตถูไปมาที่ไหล่ของเธอนั้น อาจจะเป็นมิตรภาพที่เพิ่งจะเกิดขึ้นระหว่างคนกับสัตว์ ซึ่งเธอไม่คิดว่าความมีน้ำใจของสัตว์อย่างเจ้าบารุดซ์จะมีอยู่ในพระทัยขององค์ชีค
กุลพัทธ์ล้มตัวลงนอน โดยไม่คิดจะเปิดไฟ
“กุล กุล” เสียงยาเนห์ดังอยู่ที่หน้าประตู
“ค่ะ” หญิงสาวค่อยๆ ลุกไปเปิดประตูให้
“เป็นไรมากไหม ไหนดูซิ” ยาเนห์ถลกชุดอันรุ่มร่ามของเธอขึ้น “เจ็บไหมไปนั่งเถอะ” ผู้มาใหม่ประคองกุลพัทธ์กลับไปที่เตียง
“ขอบ ใจนะ” ก้อนสะอื้น ทำให้เธอต้องหยุดพูด เมื่อความห่วงใยของยาเนห์ส่งทะลุผ่านเสื้อผ้าอาภรณ์ที่มิดชิด วัฒนธรรมที่แตกต่างหลายอย่างที่เธอและยาเนห์คิดไม่เหมือนกัน แต่ความจริงใจของเพื่อนสาวคนนี้ก็ยังมีให้เธอเต็มเปี่ยม
“กุล อย่าร้องไห้เลย” ยาเนห์กอดเธออย่างปลอบใจก่อนจะบอกว่า “ฉันเข้าใจนะว่าเธอรู้สึกยังไง ความโดดเดี่ยวที่ต้องมาอยู่ไกลบ้าน อาจจะทำให้เธอท้อ หรือแม้แต่ความเป็นอยู่ของที่นี่ เธออาจจะยังไม่ชิน แต่มีอย่างหนึ่งที่เธอน่าจะสบายใจได้ ก็คือ ฉันจะไม่ทิ้งเธอเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ยาเนห์มองเธอด้วยแววตาแห่งความจริงใจส่งให้กุลพัทธ์ จากนั้นสองสาวก็โผเข้ากอดกันด้วยความรู้สึกของมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นแม้จับต้องไม่ได้ แต่พวกเธอก็รู้สึกได้ด้วยหัวใจ
ห้องประชุมหรูหราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณเขตพระราชฐานชั้นนอก ทั้งห้องจัดเป็นโทนสีน้ำตาลประดับประดาด้วยแชนเดอเลียร์อันสวยหรู โต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดยาวพร้อม เก้าอี้ที่ทำมาเฉพาะของแต่ละบุคคล ผนังห้องด้านข้างสามารถใช้ระบบสัมผัสเปิดออกไปให้เห็นลานกว้างที่ใช้ตัดสินคดีร้ายแรง
องค์ชีคฮัสมานประทับที่หัวโต๊ะใบหน้ายังคงความเรียบเฉยไว้ได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ด้วยว่าชายชราด้านหน้าของพระองค์นั้น ล้วนเป็นเสนาบดีคนสนิทของพระบิดาที่สวรรคตไปเมื่อหลายปีก่อน แต่ความจงรักภักดีก็ยังมีมาถึงรุ่นลูกอย่างพระองค์
“มีรายงานมาว่า ทางตะเข็บชายแดนทางทิศเหนือของรัฐลาเดะ มีผู้ลี้ภัยอพยพมาจากประเทศเพื่อนบ้านกว่า 500 ร้อยชีวิตพระเจ้าค่ะ” เสนาบดีอานูกล่าว หลังจากอ่านรายงานที่เพิ่งส่งมาถึงตามขั้นตอนที่ถูกกำหนด “เราต้องขับไล่พวกมันออกจากแผ่นดินอัฟฟาฮานในทันที” สีหน้าของเสนาบดีท่านนี้บ่งบอกถึงความเอาจริงเอาจัง
‘ถ้าเราไล่เขาออกจากอัฟฟาฮาน แล้วพวกเขาจะเป็นยังไง ก็ในเมื่อเขาเสี่ยงตายลอยคออยู่ในทะเล เพื่อจะมาฝากชีวิตไว้บนดินแดนอัฟฟาฮานแห่งนี้’
ความคิดของพระองค์กลับไม่หยุดอยู่แค่ตรงนั้น ผู้นำประเทศยังโยงไปถึงหญิงสาวต่างบ้านต่างเมืองที่หัวใจของพระองค์ยังคงวนเวียนคิดถึงอยู่ตลอดแม้ในยามนี้
“จะดำเนินการเลยไหมพระเจ้าค่ะ” นาเซียร์ทวงถามทันทีหลังความเงียบได้ถูกคลอบคลุมด้วยองค์ชีค
พระองค์หันมองรอบห้องประชุมแล้วตรัสขึ้นว่า “ช่วยพวกเขาไว้ แล้วจัดเตรียมพื้นที่สำหรับผู้ลี้ภัยทั้งหมด”
“พระองค์” มีเสียงคัดค้านดังออกมาให้ได้ยิน แต่เมื่อสบพระเนตรที่แน่วแน่ขององค์ชีค ทุกคนต่างก็เงียบเสียงลงเพื่อรอฟังคำอธิบาย
“สิ่งที่เราทำอาจจะไม่ถูกใจใครหลายคน แต่พวกเขาก็เป็นคนเหมือนอย่างพวกเรา เพียงแต่เขาไม่มีโอกาสที่จะมีลมหายใจเป็นของตัวเอง เราหวังจะให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น จัดแบ่งพื้นที่ว่างให้พวกเขาได้อาศัยทำมาหากิน ท่านลองคิดดู ถ้าพวกเขาไม่เดือดร้อนสาหัสจริงๆ ก็คงไม่เสี่ยงตายลอยคอข้ามน้ำข้ามทะเลมาหลายกิโล เพื่อจะถูกส่งกลับไป”
ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรขึ้นอีก เพราะรู้ว่าการตัดสินใจขององค์ชีคฮัสมาน คือสิทธ์ขาดทุกอย่างในประเทศนี้
ถึงแม้องค์ชีคฮัสมานจะทรงครองราชย์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ก็ไม่เคยทำให้ราษฏรผิดหวัง พระองค์ดูแลราษฏรของพระองค์ด้วยความรักความห่วงใย ทรงวางแผนงานตั้งแต่ระบบสาธารณูปโภค การคมนาคม บ้านเรือนที่สามารถป้องกันแผ่นดินไหวได้ถึง 8 ริกเตอร์ พระองค์จะเสด็จขึ้นเหนือลงใต้ไปทุกทีที่ราษฎรเดือดร้อนด้วยเฮลิคอปเตอร์คู่ใจ และจะทรงขับเองทุกครั้ง โดยไม่ยอมให้ทหารต้องลำบาก จะไม่มีผู้ตามเสด็จมากมาย จะมีก็แค่เพียงองครักษ์คู่พระทัยทั้งสองเท่านั้น
“กระหม่อมขออาสาไปดูความเรียบร้อยให้พระเจ้าค่ะ” นาเซียร์เสนอตัว
“อืมม์” สิ้นพระสุรเสียงก็เป็นอันรู้กันว่าหมดหัวข้อในการประชุม
“ขาก็เจ็บแล้วยังให้คนไปตามมาทำงานอีก ใจร้ายที่สุด คนใจร้าย ห้องก็ใหญ่ขนาดนี้ทำวันเดียวเสร็จก็เก่งแล้ว เบื่อๆ” กุลพัทธ์พูดออกมาเป็นภาษาไทย พร้อมกับออกแรงลงไปบนพระที่ขององค์ชีค เพื่อระบายความคับแค้นใจ
“ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ใช่นะ...นะ...” หญิงสาวค่อยๆ หันไปตามเสียง แล้วก็อดใจหายไม่ได้ ว่าเสียงที่ได้ยินอาจจะทำให้เธอต้องเดือดร้อน
ความคิดเห็น