คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
เรือนไม้สีเบจลวดลายวิจิตรตั้งเด่นท่ามกลางดอกไม้นานาพันธุ์ที่กำลังเบ่งบานชูช่อรอผู้มาเยือน มีเส้นทางเล็กๆโรยด้วยหินสีขาวทอดยาวออกไปจนถึงตัวบ้านสไตล์คลาสิกหลังใหญ่ พื้นที่แห่งนี้เป็นเขตหวงห้ามขององค์ชีค ฮารัช ยูรูล วากัต สงวนไว้เพื่อหญิงอันเป็นที่รัก แม้เธอเป็นเพียงหญิงไร้ฐานันดรศักดิ์ แต่ความรักของท่านชีคนั้นมีให้เธอเพียงผู้เดียว
“น้ำผึ้งสดๆ ผสมเลมอนจากองค์ชีคเจ้าค่ะ” ข้าหลวงนางหนึ่งนำมาให้ถึงที่จากนั้นก็รีบเดินออกไปโดยไม่ทันรับคำขอบคุณจากเธอ
หญิงสาวค่อยๆ จิบที่ละนิด ที่ละนิด
เพล้ง!
แก้วชั้นดีล่วงหล่นแตกกระจาย ภาพเบื้องหน้าดูจะพร่าเรือนไปพร้อมๆกับความมืดมิดของดวงตะวัน
“ราเซียร่า!...” องครักษ์หนุ่มตะโกนด้วยความตกใจ เมื่อหญิงสาวล้มลงหมดสติอยู่เพียงลำพัง ก่อนหน้านี้มีนางข้าหลวงแจ้งว่าองค์ชีค ฮารัช ต้องการพบเขา ตอนนี้รออยู่ที่เรือนกลางสวน และนั้นก็ทำให้เขาต้องมาที่นี่ในเวลาโพล้เพล้เช่นนี้
บาเนสไม่เคยได้แตะต้องตัวเธอเพราะรู้ว่าความรักของเขาเป็นเพียงเม็ดทรายพัดผ่านเมื่อยามที่สายลมต้องการ องค์ชีค ฮารัชเปรียบเสมือนเจ้าชีวิตแค่เขาคิดก็ผิดมหันต์ แต่ในยามนี้ เกิดเรื่องร้ายแรงกับเธอจะให้เขานิ่งเฉยโดยไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ดูจะโหดร้ายเกิดไปสำหรับหัวใจของเขา
ผิวเนื้อของราเซียร่าที่เคยเป็นสีน้ำผึ้งเนียนสวยแต่บัดนี้แปลเปลี่ยนเป็นสีแดงตามเนื้อตัว บาเนส มองร่างบางอย่างหวงใยก่อนจะค่อยๆ อุ้มเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมอกกว้างเพื่อจะพาเธอไปรักษา จากนั้นเขาก็นำเรื่องกราบทูลเจ้าเหนือหัว
แต่ทว่า...
“บาเนส! ” และสุรเสียงนั้นเปลี่ยนชีวิต เขาและเธอไปตลอดการ
“จับพวกมันไปขังไว้ในคุกอารา”องค์ชีคฮารัชออกคำสั่งโดยไม่หันมองชายหญิงที่ทำเรื่องบัดสีกอดรัดกันอย่างไม่อายฟ้าดิน
และที่แห่งนี้ก็เป็นเขตห่วงห้ามแล้วทำไมบาเนสจริงเข้ามาในยามที่พระองค์ไม่อยู่ บ่อยครั้งนางข้าหลวงไปแจ้งให้ทรงทราบเรื่องบัดสีเหล่านี้แต่พระองค์ก็ยังเฉย แต่คราวนี้เมื่อได้เห็นกับตาทุกอย่างก็ไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ
หลายต่อหลายครั้งพระองค์เห็นสายตาขององครักษ์คู่กายแอบมอง ราเซียร่า แต่นั้นไม่ได้ทำให้พระองค์รู้สึกมากไปกว่าเห็นใจที่ไม่สามารถเสียสละเธอให้กับสหายรักอย่างบาเนสได้
หญิงที่พระองค์รักคือ ราเซียร่าและหญิงที่พระองค์จำต้องแต่งงานด้วยคือมูซาลีด้วยเหตุความเหมาะสมของสองตระกูล กระนั้นพระองค์ก็ยังมอบความรักให้ราเซียร่ามากมายเช่นเดิม แล้วเหตุใด คนทั้งคู่ซึ่งเป็นที่รักและไว้ใจกลับกระทำย่ำยีพระทัยของพระองค์ได้ถึงเพียงนี้
คุกอารา มืดมิดและอับชื้นกลิ่นสาปสางตลบอบอวลไปทั่วบริเวณบรรยากาศภายในยังคงเป็นสิ่งที่อยากหลีกหนี ผนังห้องทั้งสี่ด้านฉาบด้วยปูนเนื้อหยาบ ความสูงของห้องทำได้เพียงนั่งหรือขดตัว แต่มาถึงนาทีนี้ความโหดร้ายที่เธอได้รับประจักษ์แล้วว่าความอิจฉาริษยาไม่เคยปราณี ไม่เคยแบ่งชนชั้น มีเพียงจิตสำนึกในความเป็นคนที่มีอยู่เฉพาะบุคคลเท่านั้นที่จะทำให้ความดีนั้นยังคงอยู่
“ราเซียร่าไม่เป็นไรนะ”บาเนส ปลอบใจเมื่อหญิงสาวฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบ แม้อยู่คนละห้องได้ยินเพียงเสียงเพรียกที่ฝากผ่านสายลม แต่บาเนสก็ยังคงปลอบใจเธอ
“ฉันก็หวังให้เป็นอย่างนั้น ถ้าพรุ่งนี้เราจะไม่ถูกฆ่า” น้ำเสียงเธอคล้ายหมดอาลัยตายอยาก ดวงตาแสนสวยเหม่อลอยไร้จุดหมาย เธอไม่ได้เสียดายชีวิตแต่เสียดายที่จะต้องจากคนรักไปตลอดการ
“ฉันน่าจะรู้ว่ามีใครจ้องทำร้ายเธอ”เขาพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด
“ช่างเถอะ ไม่มีอะไรน่าห่วงอีกแล้วความรักที่องค์ชีคเคยมอบให้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับฉัน และไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมีลมหายใจต่อไปเมื่อไม่มีพระองค์”หญิงสาวลูบท้องน้อยๆ น้ำตาที่ไม่อยากจะให้ไหลกลับเอ่อล้นจนยากจะยับยั้ง
โชคชะตาขีดเส้นให้เธอได้รักเพียงเท่านี้ก็มากพอสำหรับสิ่งดีๆ ที่องค์ชีค ฮารัช มอบให้ตลอดมาและหวังว่าน้ำตาที่หลั่งไหลออกมา ณ ตอนนี้คงจะเพียงพอกับการลาจากเพื่อว่าในเช้าที่ต้องถูกลงทัณฑ์ องค์ชีคฮารัชจะได้เห็นแต่ความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ไม่เจ็บปวดเหมือนอย่างที่เธอกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ และนั่นจะทำให้องค์ชีคสามารถตัดสิ้นพระทัยปลิดชีพเธอได้ในทันที...ทุกอย่างก็เพื่อองค์ชีค
“ราเซียร่า” เขาพูดออกมาอย่างแผ่วเบาคล้ายตกใจที่เห็นหญิงผู้มีรักมั่งคงดังหินผาแม้ความตายจะพรากเธอไปก็ยังไม่วายหมดรักองค์ชีคผู้ยิ่งใหญ่ ขนาดผู้ชายอกสามศอกอย่างเขายังกลัวเมื่อนึกว่าตัวเองต้องตายในเช้าวันรุ่งขึ้น....
แสงตะวันยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางช่องเล็กๆ มีเสียงเดินของใครหลายคนดังเข้ามาใกล้ความหวังที่จะมีลมหายใจคงจะหมดสิ้น
องครักษ์อานูและ องครักษ์วายะ เป็นคนนำทางพวกเขาไปสู่ความตายสายตาของทั้งคู่ที่มองมาบอกให้รู้ว่าเขาไม่มีโอกาสรอด
“เอานี่” มีเสียงกระซิบพร้อมอะไรบางอย่างถูกส่งมาจากอานู เขารีบยัดกุญแจรถยนต์ใส่กระเป๋ากางเกงโดยไม่ทำตัวให้ผิดสังเกต
ลานกว้างบริเวณด้านหน้าคุกอาราถูกใช้อีกครั้งทั้งสองถูกมัดมือ นั่งคุกเขาโดยไม่มีใครพูดอันใด จนกระทั้งองค์ชีค ฮารัช เสด็จมาถึง แม้พระเนตรที่แข็งกร้าวมองหญิงคนรักแต่ในพระทัยกลับเจ็บปวดสุดแสนทรมาน เพราะต่อจากนาทีนี้ไปพระองค์จะเป็นคนสั่งปลิดชีพคนทั้งคู่
ดวงตาเรียวจ้องชายผู้เป็นที่รักไม่วางตาเพียงเพื่อจะได้เห็นพระพักตร์จนวินาทีสุดท้าย เธอไม่ร้องไห้ฟูมฟายขอชีวิต ไม่แม้แต่จะหลบสายพระเนตรที่มองลงมา แม้รู้อยู่ลึกๆ ว่าพระองค์คงต้องการให้ร้องขอ แต่นั้นไม่ใช่สำหรับเธอ
การร้องขอคือการแก้ตัว การร้องขอคือการนำความเสื่อมเสียมาสู่การเป็นผู้นำของประเทศ เพียงหนึ่งชีวิตของเธอแลกกับฐานบัลลังค์ที่มั่นคง เพราะไม่ว่าใครที่ทำผิดองค์ชีคก็ความเด็ดขาดเที่ยงธรรมสามารถสั่งฆ่าคนรักได้อย่างไม่รีรอถ้าเธอทำผิด
ราเซียร่ายิ้มให้องค์ชีค ฮารัช แต่ถ้าตาไม่ฟาด สายพระเนตรที่แข็งกร้าวดูเจ็บปวดและสลดลงเมื่อใกล้ถึงเวลา
เวลาที่บีบหัวใจใกล้เข้ามาทุกที องค์ชีคถอนหายใจออกมาก่อนจะแย้มโอษฐ์
ปัง ปัง ปัง
เสียงปืนปริศนาดังขึ้น เหล่าองครักษ์ต่างนำพาร่างของตัวเองบังวิถีกระสุนให้กับองค์ชีคก่อนจะพาหลบเข้าที่ปลอดภัย
“คงมีใครวางแผนช่วยพวกมัน” สุรเสียงแข็งกร้าวบอกให้รู้ว่ากำลังโกรธ
“กระหม่อมจะตามตัวให้เจอ”องครักษ์อานูเสนอตัว
องค์ชีคไม่ตรัสสิ่งใดทำเพียงดำเนินหายเข้าไปในห้องทรงพระอักษร เพื่อรอฟังรายงาน การหายตัวของนักโทษ ลึกๆ พระองค์รู้สึกดีพระทัยถ้าทำได้อยากให้เธอหายไปโดยไม่ได้รับอันตราย ไม่ผิดที่จะคิดเช่นนี้
ช่วงเวลาผ่านไปคล้ายกับว่าโลกกำลังหยุดหมุน แต่ละนาทีแห่งการรอคอยดูจะยาวนานจนน่าอึดอัด
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา”
เมื่อเจ้าของห้องอนุญาต องค์รักษ์อานูก็ก้าวเข้ามาในทันที
“มีคนช่วยจนหนีไปได้ แต่ไม่ต้องห่วงพวกมันคงเจอพายุทะเลทรายอย่างแน่นอน พรุ่งนี้กระหม่อมจะไปนำศพพวกมันกลับมาให้ได้พระเจ้าค่ะ”
“ไม่ต้อง” องค์ชีคโบกหัตถ์ไล่โดยไม่เงยพักตร์มององครักษ์แม้แต่น้อย
ประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับความร้าวรานที่โถมทับจนแน่นพระอุระ องค์ชีค ฮารัช หลับเนตรลง ไม่มีอีกแล้วรอยยิ้มละมุนที่ชวนให้หายเหน็ดเหนื่อย ต่อจากนี้ไปคงไม่มีเธอคอย อยู่เคียงข้างอีกแล้ว...
ความคิดเห็น