ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณหนูใจร้ายกับยัยนางเอก [-Yuri-]

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 50



    "
    อืมม...ปวดหัวจังเลย"  ผมสีดำขลับสะบัดไปมานิดๆ  หลังจากพยุงกายลุกขึ้นนั่ง    เธอจำได้ว่าเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย  และมีคนช่วยพยุงขึ้นมานอน   อีกทั้งยังช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ด้วย   แต่หลังจากนั้นก็จำได้รางๆ


    สายตาคมกริบจ้องไปยังคนที่นอนข้างเธอ  และหันแผ่นหลังอันบอบบางให้   สมองที่ถูกบรรจุอยู่ใต้เส้นผมสีดำสลวยเริ่มเรียบเรียงเหตุการณ์อย่างเป็นลำดับขั้น   และคนสุดท้ายที่เธอเห็นก่อนจะหลับก็คงเป็นคนคนนี้นี่เอง


    ขาเรียวยาวก้าวลงจากเตียงนอนแสนนุ่มอย่างเงียบกริบ   และเดินตรงเข้าห้องน้ำแต่ก็มิวายหันกลับมามองคนที่นอนหลับตา   เปลือกตาที่บวมเล็กน้อยเหมือนผ่านการร้องไห้มาทำให้นึกสะกิดในใจนิดๆว่าเมื่อคืนนี้เธอทำอะไรลงไปนะ
    ?   หลังจากสมองทบทวนถึงค่ำคืนแสนหวานของผู้เป็นพ่อและแม่คนใหม่ที่ได้ผ่านพ้นไป  คนที่จะต้องมาแทนที่คุณแม่ของเธอไม่ใช่ใคร  แต่คือมารดาของเด็กสาวผู้นี้   ความไม่พอใจเริ่มแทรกเข้ามาในความคิด 



    '
    อย่าเพิ่งสนใจดีกว่า'


    เธอเลือกจะระงับมันไว้ชั่วคราว



    สายน้ำอุ่นๆไหลผ่านชำระล้างร่างกายอย่างนุ่มนวล   และเปลี่ยนเป็นนอนแช่ในอ่างอาบน้ำแทน



    '
    ไม่มีวันที่เธอจะอยู่อย่างมีความสุขหรอก'


    เธอยังคงมีอคติ



    เหมือนความหนักในร่างกายมลายหายไปกับสายน้ำ   แขนเรียวยาวเอื้อมหยิบชุดคลุมมาสวมไว้พร้อมกับเดินเช็ดผมที่ซอยสไลด์เลยบ่ามาด้วย


    สาวร่างสูงกำลังใช้ความคิดว่าจะจัดการคนที่นอนหลับอย่างไรดี  แต่เมื่อเปิดประตูออกมาก็พบกับความว่างเปล่า



    '
    ไปไหนแล้วนะ  คิดว่าจะยังไม่ตื่นซะอีก'


    เธอแปลกใจเล็กๆ



    ประตูห้องถูกเปิดช้าๆ  สายตาคมนั้นปรากฏภาพสาวน้อยน่ารักที่ยังคงความสดใสไม่เปลี่ยนแปลง


    "
    อรุณสวัสดิ์จ้ะ   แต่งตัวเสร็จรึยังอั๊ต   ลงไปทานข้าวกันเถอะ"  เบลล์เอ่ยทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม  และอวดลักยิ้มข้างแก้มที่ดูสะดุดตา


    "
    ไม่เห็นรึไงว่ายังแต่งตัวไม่เสร็จน่ะ!  ชั้นไม่หิว   ใครหิวก็กินไปก่อนสิ  จะมารอชั้นทำไม"  สาวหน้าคมตวาดเสียงดังจนคนร่างเล็กหน้าเสียเล็กน้อย


    "
    ไม่เอาน่าอั๊ต   ไปทานสักหน่อยนะ   เดี๋ยวก็หิวหรอก"  น้ำเสียงเบลล์ยังเป็นห่วงเป็นใย


    "
    เธอนี่พูดไม่รู้เรื่องรึไง   ฉันไม่ชอบคนเซ้าซี้นะ"   เสียงนั้นเด็ดขาด


    ประตูห้องถูกปิดอย่างเบามือที่สุด   ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนล้า   ไม่ว่าเธอพยายามทำดีกับอีกฝ่ายสักเพียงใด  กลับไม่เคยแทรกซึมไปในใจได้เลยสักครั้ง   ได้แต่หวังว่าสักวันอัตติญาจะยอมรับในตัวเธอและแม่ได้มากกว่านี้


    ใจที่แข็งกระด้างอ่อนลงนิดๆเมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวเมื่อกี้   แต่ก็กลับมาแข็งดังเดิม 



    เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วเธอเปิดประตูออกไป  แต่กลับพบเด็กสาวนั่งขดตัวอยู่หน้าประตูอย่างเศร้าซึม


    "
    ทำไมมานั่งตรงนี้   รอทานข้าวไม่ใช่หรอ  ลงไปสิ"   สาวร่างสูงเดินนำลงไป   ก่อนจะตามมาด้วยรอยยิ้มของอีกฝ่ายที่เดินตามมาด้านหลัง


    "
    คุณพ่อไปไหน"  คนที่เดินนำถามห้วนๆ   เมื่อไม่เจอหน้าบิดาตั้งแต่ตื่นมา  เพราะตื่นสายและเวลาตอนนี้ก็10โมงเข้าไปแล้ว


    "
    ออกไปข้างนอกกับคุณแม่น่ะ"   เบลล์ตอบซื่อๆ


    อารมณ์เริ่มแปรเปลี่ยน   เหมือนกำลังถูกแบ่งความรักและความเอาใจใส่   ใบหน้าสวยเฉียบคมนั้นเริ่มบึ้งตึงและหันกลับมามองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังด้วยแววตาโกรธแค้น


    "
    ทำไมกัน   ชั้นไม่เข้าใจเลย   พวกเธอต้องการอะไรกันแน่   คิดจะแย่งคุณพ่อไปจากชั้นใช่มั้ย  ตอบมาสิ!ตอบ"   อารมณ์ของที่อัดแน่นเริ่มรุนแรงขึ้น   มือที่แข็งแรงบีบแขนร่างเล็กแรงขึ้นเรื่อยๆและเขย่าไปมาจนอีกฝ่ายทนความเจ็บปวดไม่ไหว


    "
    ไม่ใช่อย่างนั้นนะอั๊ต   เรากับแม่ไม่เคยคิดแบบนั้นเลย"  


    น้ำตาเม็ดใสพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่นั้น   เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่โกรธจนไม่ยอมฟังอะไรเลย


    "
    ไม่คิดแบบนั้น  แล้วแล้วเรื่องมันจะลงเอยแบบนี้มั้ย  เธอมันโกหก!!"  เสียงเข้มนั้นเพิ่มดีกรีความดังจนเหมือนตะโกนใส่หน้าสมาชิกคนใหม่ของครอบครัวอย่างไม่หยุดหย่อน


    "
    ปล่อยเรานะ   เราเจ็บ   ฮือๆ.."  เบลล์เริ่มร้องไห้หนักขึ้น     



    เสียงทะเลาะกันดังเสียจนคนที่ได้ยินต้องรีบออกมาดู  


    "
    ว๊าย! ไม่เอานะคะคุณหนู    ปล่อยคุณหนูเบลล์เถอะค่ะ   ป้าขอร้อง  นะคะ.."  ป้าแช่มสีหน้าตกใจ   รีบขอร้องเป็นพัลวัน  เมื่อเห็นอารมณ์ที่รุนแรงของคุณหนูสุดดื้อแบบนั้น  


    เมื่อได้สติ  ความโกรธที่มีเหมือนจะหยุดชะงัก  และปล่อยแขนที่แดงเป็นรอยบีบจากน้ำมือเธอเอง  และผลักร่างเล็กลงบนโซฟานุ่มอย่างไม่ใยดีท่ามกลางเสียงสะอื้นของเด็กสาวใสซื่อ


    "
    เป็นอะไรมากมั้ยคะคุณหนูเบลล์    หยุดร้องไห้เถอะนะคะ"   ป้าแช่มรีบยกแขนที่เป็นรอยแดงขึ้นมาดูและเบิกตากว้างอย่างตกใจ  พร้อมกับมองไปที่เด็กสาวอีกคนที่ยืนมองมาด้วยสายตาเย็นเฉียบอย่างอ้อนวอน


    "
    อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ   อยู่บ้านเดียวกันแล้ว"   หญิงวัยกลางคนเอ่ยขอร้อง   ความเกรงที่เป็นผู้ใหญ่กว่าทำให้สีหน้าเธออ่อนลง  รวมทั้งอารมณ์ก็ด้วย



    "
    ไม่มีอะไรแล้วค่ะป้า   เดี๋ยวอั๊ตจะทานข้าวแล้ว  ป้าไปทำงานต่อเถอะค่ะ"  เมื่อแน่ใจว่าคุณหนูคงไม่ทำอะไรต่ออีกแล้ว  ป้าแช่มจึงเดินกลับเข้าครัวไป


    "
    กินข้าวเถอะ   ฉันหิวแล้ว"  สิ้นเสียงนั้น  เด็กสาวร่างสูงจึงเดินนำไปที่โต๊ะอาหาร


    "
    ไม่เป็นไรหรอก   อั๊ตทานเถอะนะ   เราไม่หิว"   เบลล์พูดเสียงอ่อน   เพราะเหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้ทานอะไรไม่ลงแล้ว  และไม่กล้าจะสู้หน้าอีกฝ่ายได้อีก


    "
    อย่าขัดใจได้มั้ย!!   เธอต้องทานกับชั้นเดี๋ยวนี้"  เธอพูดอย่างเผด็จการ 



    เบลล์ไม่เข้าใจตัวเองว่าเหตุใดเธอถึงต้องยอมทนเป็นเบี้ยล่างรองรับอารมณ์คนตรงหน้าได้ตลอดโดยที่ไม่รู้สึกเกลียดเลย   คงเป็นเพราะเข้าใจว่าคนคนนี้คงจะรักผู้เป็นพ่อมาก  มากเสียจนกลัวทุกสิ่ง  เธอพยายามเข้าใจถึงขนาดนี้แล้วแต่ทำไมอีกฝ่ายกลับไม่ยอมเข้าใจเธอเลยสักนิด  คิดได้แต่นั้นเธอก็ต้องจำยอมเดินตามคนตัวสูงไปแต่โดยดี



    ...........................................



    "
    อ้าวคุณหนู   มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรคะ   เข้ามานั่งก่อนค่ะ"  ป้าแช่มเอ่ยเรียกเด็กสาวผมสีน้ำตาลเข้ามา  เมื่อเห็นเธอยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าห้องครัว  หน้าตาเธอดูหมองเศร้าอย่างเห็นได้ชัด


    "
    ป้าแช่มทำอะไรอยู่หรอคะ"  เบลล์ทักทายเรียบๆ  ด้วยน้ำเสียงอ่อนเบา  และค่อยๆหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้


    "
    ไม่ได้ทำอะไรแล้วค่ะ  ว่าแต่คุณหนูเถอะ   เกิดอะไรกันขึ้นหรอคะ  ถึงทะเลาะกันแบบนั้น" 
    หญิงวัยกลางคนถามด้วยความสงสัย  มือที่มีริ้วรอยเ***่ยวย่นเอื้อมมาจับแขนเล็กเรียวและถกแขนเสื้อขึ้น


    "
    ดูสิคะแดงไปหมดเลย   เจ็บมากมั้ยคะ"


    "
    เจ็บค่ะ"  เธอพูดด้วยน้ำตาคลอ  ร่างเล็กสะอื้นน้อยๆราวกับหวาดกลัว


    "
    เล่าให้ป้าฟังได้มั้ยคะ" 



    เรื่องราวต่างๆถูกถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวให้หญิงวัยกลางคนได้รับรู้และเธอเองก็เข้าใจเป็นอย่างดี  พร้อมกับปลอบใจเด็กสาวตัวเล็กให้คลายความกลัว


    "
    ป้าคิดแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้จนได้"  ป้าแช่มถอนหายใจเล็กน้อย  เหมือนชาชินกับเรื่องแบบนี้มานาน  ยิ่งทำให้เด็กสาวอยากรู้มากยิ่งขึ้น


    "
    อั๊ตเค้าเป็นแบบนี้มานานแล้วหรอคะป้า" 


    "
    ความจริงคุณหนูไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรหรอกนะคะ  แต่เพราะถูกเลี้ยงแบบตามใจมากเกินไปเลยเป็นแบบนี้แหละค่ะ" 


    "
    แต่ทำไมเค้าเข้าใจอะไรยากจังคะ   เหมือนกับจะกลัวว่าใครจะมาแย่งความรักคุณพ่อไปอย่างนั้นแหละ  ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย"


    "
    เพราะเธอรักคุณผู้หญิงมากไงคะ   เลยไม่ต้องการให้มีใครมาแทน   ป้ายังจำได้วันที่คุณแม่เธอเสียไป  วันนั้นมีการแสดงที่โรงเรียนคุณหนูตั้งใจฝึกซ้อมมาเป็นแรมเดือน  เพื่อหวังว่าคุณพ่อคุณแม่จะได้ไปชื่นชมในความสามารถ  แต่เรื่องที่ไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้นขณะขับรถกลับบ้านจากที่ทำงานเพื่อจะรีบไปให้ทันดูลูกสาวก็มาเกิดอุบัติเหตุซะก่อน  ยังโชคดีหน่อยที่คุณผู้ชายไม่ได้อยู่ด้วยตอนนั้น  ไม่งั้นป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าคุณหนูจะเป็นอย่างไรบ้าง"


    เรื่องราวสมัยก่อนลูกเล่าออกมาจากปากหญิงแม่บ้านผู้นี้ 



    "
    แต่เบลล์ยังยอมรับคุณอนันต์ได้เลยนะคะ  ทำไมเค้าไม่ยออมรับในตัวพวกเราบ้าง"  เธอยังมีคำถามอีกมากมายด้วยความอัดอั้น


    "
    เพราะคุณมลเธออบรมสั่งสอนคุณได้ดีกว่าคุณผู้ชายไงคะ   แต่ป้าเชื่อว่าสักวันคุณหนูต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แน่นอนค่ะ"  ป้าแช่มพูดอย่างมั่นใจ   ทำให้เด็กสาวคลายความสงสัยลงไปได้บ้างและเหมือนจะเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิม



    เธอเคยได้ยินคุณอนันต์เล่าเรื่องบุตรสาวให้ฟังบ้างเหมือนกัน  เขาเองไม่ค่อยมีเวลาให้มากนักเพราะชีวิตที่ผูกติดกับการงานนั่นเอง  แต่อัตติญาก็ไม่เคยเรียกร้องความรักหรือความสนใจเลยสักครั้งเพราะเข้าใจว่าเขาต้องทำงาน  แต่ถ้าเป็นเรื่องผู้หญิงที่เข้ามาเกาะแกะละก็  ความร้ายกาจที่ซ่อนอยู่จะแสดงออกมาทันที  เธอเองก็ได้แต่หวังว่าเมื่อไรกันที่บุคคลนี้จะยอมเปลี่ยนนิสัยหรือลดความแข็งกร้าวลงมาได้บ้าง  ก็คงได้แต่รอต่อไปแบบนี้โดยไม่รู้ว่าความอดทนที่มีจะถดถอยลงไปเมื่อไร





    ------------------------



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×