ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณหนูใจร้ายกับยัยนางเอก [-Yuri-]

    ลำดับตอนที่ #1 : ความรู้สึกเมื่อครั้งแรกพบ

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 50


    ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความโศกเศร้าเสียใจต่อการจากไปของ "ศิราภรณ์" บุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัว "ศิระธาดาพงศ์"  ผู้เป็นภรรยาของ "คุณอนันต์" และมารดาของ "อัตติญา" เด็กหญิงตัวน้อยวัย 5 ปี กำลังน่ารักน่าเอ็นดู  เธอจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ มันกะทันหันจนไม่มีใครคาดคิดมาก่อน  ยากแก่การทำใจต่อบุคคลสนิทและเหล่าญาติมิตรทั่วไปได้ 


    ภาพวันวานแห่งความสุขที่เคยมีกันพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก  บัดนี้คงเหลือเพียงความทรงจำที่ยังคงงดงาม  รอยยิ้มเสียงหัวเราะยังตราตรึงอยู่ใจจิตใจของเด็กน้อยไม่เสื่อมคลาย  ความรักที่มีต่อมารดาของเธอช่างมากมายมหาศาลนัก


    "
    คุณพ่อคะ  คุณแม่ไม่อยู่กับเราแล้วใช่มั้ยคะ  ฮือๆ"  เสียงใสสะอื้นยิ่งนัก  น้ำตาแห่งความเสียใจพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย  ผู้เป็นพ่อได้แต่ปลอบโยนลูกน้อยด้วยน้ำตาไม่ต่างกัน


    "
    อยู่สิลูก  คุณแม่อยู่ในใจเรานี่ไง  เงียบซะนะคนดีของพ่อ"  ฝ่ามือที่อบอุ่นลูบผมสีดำของลูกสาวอย่างอ่อนโยน  และกอดกระชับไว้ในอ้อมกอดอย่างหวงแหนเพราะ อัตติญา คือสิ่งมีค่าที่สุดที่เขาเหลืออยู่


    .............................................

      
    .............กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป  นำพาซึ่งความเปลี่ยนแปลงมาเสมอ ................


           เด็กน้อยไร้เดียงสาเติบโตขึ้นเป็นเด็กสาวแรกรุ่น  หน้าตาสวย น่ารัก  ในสายตาใครหลายคน   ความอ่อนแอในวันวานสลายไปหลังจากเกิดความเปลี่ยนแปลงในครั้งอดีต   ความแข็งแกร่งในจิตใจและร่างกายมีมากเหลือกำลัง  บุคลิกที่เงียบขรึมบวกกับท่าทางหยิ่งผยองดูจะเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเธอไปเสียแล้ว


            คุณอนันต์นักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบปี  ยามที่ไร้ภรรยาเคียงข้างกาย   เขามุ่งมั่นที่จะฝากชีวิตไว้กับงานและนางฟ้าตัวน้อยที่คอยบันดาลความสุขให้เสมอคือเด็กสาวผู้เป็นที่รักดั่งดวงใจนี่เอง   แต่มาดสุขุมลุ่มลึก  บวกกับความมั่งคั่งทางฐานะการเงินจึงมักมีสาวน้อยสาวใหญ่แวะเวียนเข้ามาในชีวิตตลอดเวลา  ต่างคนก็ทำเหมือนกับอยากเป็นแม่เลี้ยงคนใหม่ของลูกสาวเขา  แต่ก็จะถูกผู้เป็นลูกขัดขวางและหาทางกลั่นแกล้งต่างๆนาๆ  ด้วยความไม่พอใจและไม่ชอบหน้าผู้หญิงเหล่านั้น  จนไม่มีใครกล้ากลับมาวุ่นวายอีกเลย  แต่กระนั้นก็ยังมีแวะเวียนเข้ามาอีกเรื่อยๆ  และก็จบลงแบบนี้ทุกครั้งไป


            ยิ่งนานวันสิ่งที่เกาะกุมอยู่ภายในจิตใจกลับยิ่งชัดกระจ่างมากยิ่งขึ้น   คือ ความเหงา นั่นเอง

    ทำให้อยากหาใครมาเคียงข้าง   เติมเต็มในความสุขที่ขาดหายไป   โดยที่ อัตติญา  ไม่ได้รับรู้เลย

    เพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เขามีความสุขได้  แต่ด้วยความกลัวว่าบุตรสาวจะไม่ยอมรับ  เรื่องจึงถูกปกปิดมานาน  แต่อีกเพียงไม่กี่วัน  พิธีแต่งงานของเขาจะเริ่มขึ้นกับผู้หญิงอีกคนที่มีบางอย่างคล้ายกับภรรยาเก่าของเขาเอง  และก็มอบความรักให้ไม่ต่างกัน   เรื่องนี้จึงถูกเปิดเผย  เมื่อมั่นใจว่าระยะเวลาได้ดำเนินมาไกลเกินกว่าจะกลับไปจุดเริ่มต้นได้ง่ายๆ


    ..เขาตัดสินใจบอกกับผู้เป็นลูก..


    "
    อะไรนะคะคุณพ่อ  คุณพ่อจะแต่งงานใหม่   ทำไมอั๊ตไม่เห็นรู้เรื่องเลย   ทำไมต้องปิดบังกันด้วย   แล้วนี่คุณพ่อไม่รักคุณแม่แล้วใช่มั้ยคะ"  เป็นไปตามคาดที่อัตติญาต้องรับไม่ได้


    "
    ลูกต้องเข้าใจพ่อนะ   พ่อเองก็ไม่ได้มีเวลาให้ลูกมากนัก  แล้วลูกเองก็เริ่มโตแล้ว  พ่ออยากให้เขาช่วยดูแลลูกของพ่อด้วย  คุณมลเขาเป็นคนดี  เขาดูแลลูกของพ่อได้และลูกของเค้าก็เป็นเด็กดี  เขาน่าจะเป็นเพื่อนกับลูกได้เหมือนกัน" 


    คุณอนันต์พยายามอธิบาย  เมื่อเห็นลูกสาวจอมเอาแต่ใจไม่ยอมฟังท่าเดียว  แต่เมื่อได้ยินว่าผู้หญิงคนใหม่ของพ่อมีลูกอีกคนทำให้เธอชะงัก


    "
    อะไรนะคะคุณพ่อ   คุณพิมลวรรณนั่น...มีลูกด้วยหรอ"  เธอถามด้วยความแปลกใจ


    "
    ใช่!... ชื่อเบลล์   เขาอายุเท่ากับลูกนี่แหละ"


    "
    ต่อไปคุณพ่อก็คงจะสนใจแต่พวกเค้า  แล้วหนูล่ะคะ   คุณพ่อก็คงจะไม่สนใจอีกแล้วละสิ"  ผู้เป็นลูกพูดอย่างอัดอั้นเพราะความน้อยใจ  เมื่อนึกถึงปัญหาที่จะตามมา   ด้วยความกลัวว่าความรักที่เคยได้จะถูกแบ่งปันไปให้คนอื่น  ยิ่งทำให้เธอน้อยใจมากขึ้น


    "
    ไม่นะลูก!  พ่อไม่เคยคิดแบบนั้นเลย  ลูกเป็นคนที่พ่อรักมากที่สุด  ยังไงก็ไม่มีใครมาแทนลูกของพ่อได้  แต่พ่ออยากให้ลูกเข้าใจ  พวกเค้าไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ลูกคิดหรอกนะ  พ่อรับรองได้"

    เมื่อคำพูดที่ออกมาจากใจของผู้เป็นพ่อ  เธอเริ่มสัมผัสได้กับความกังวลใจ  และพยายามนึกถึงความรักที่พ่อเคยให้เสมอมา  กอปรด้วยเหตุผลต่างๆที่ผู้เป็นพ่อพยายามอธิบายให้เข้าใจ  เธอจึงเริ่มใจอ่อน


    "
    ถ้าเค้าเป็นคนดีอย่างที่คุณพ่อพูดจริงๆ   อั๊ตก็เข้าใจค่ะ"   น้ำเสียงที่แข็งกร้าวเริ่มอ่อนลง  เธอทรุดตัวลงนั่งข้างผู้เป็นพ่อและสวมกอดอย่างสำนึกผิด  มือที่อบอุ่นของคุณอนันต์ลูบเส้นผมสีดำขลับอย่างอ่อนโยน  ในใจผู้เป็นลูกพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกที่ทำให้บิดาไม่สบายใจไว้   ใบหน้าสวยเฉียบคมนั้นยิ้มใสๆ  พร้อมกับเสียงหัวเราะของสองพ่อลูกที่เปี่ยมไปด้วยความสุข


    ..........................................


    อัตติญา เรียนโรงเรียนสตรีแห่งหนึ่ง   ซึ่งเต็มไปด้วยเด็กสาวๆมากหน้าหลายตา  และเธอเองก็เป็นนักกีฬาคนเก่งของโรงเรียน   ไม่แปลกที่จะมีเด็กสาวหลายคนแอบชอบกันมากมาย  


    "
    ว่าไงนะอั๊ต  คุณพ่อเธอจะแต่งงานงั้นหรอ"  พิมถามด้วยความแปลกใจ


    "
    ใช่...เรากลัวนะพิม  กลัวว่าพ่อจะรักเราน้อยลงกว่าเดิม"  น้ำเสียงนั้นอ่อนล้าแสดงถึงความกลัว


    "
    เราคิดว่าไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนะ  มันไม่ใช่ในละครที่เธอชอบดูซะหน่อย  เค้าคงจะเป็นคนดีอย่างที่คุณพ่อเธอบอกก็ได้"  พิมพยายามพูดให้อั๊ตมองในแง่ดีมากขึ้น


    "
    แต่เราคงเข้ากับพวกเค้าไม่ได้หรอก  ยังไงเราก็ไม่ยอมแน่"  อัตติญาพูดอย่างเด็ดขาด

    แววตาของพิมเต็มไปด้วยความห่วงใยในตัวเพื่อนคนนี้มาก   มากจนเกินคำว่าเพื่อน  ในขณะที่อีกฝ่ายไม่เคยรู้เลย


    "
    เด็กคนนั้นใช่มั้ยคะคุณแม่   ลูกของคุณอนันต์"  เสียงใสของเด็กสาวผู้หนึ่งเอ่ยถามมารดา  เมื่อขับรถผ่านหน้าโรงเรียนสตรีแห่งนี้


    "
    ใช่แล้วลูก  อีกไม่นานลูกก็คงได้รู้จักกับเค้า"


    "
    เค้าสวย  แล้วก็น่ารักดีนะคะ   ดูสิคะคุณแม่! เด็กสาวๆรุมล้อมกันเพียบเลย"  ภาพที่เห็นคือเด็กสาวกลุ่มหนึ่งรายล้อมบุคคลระดับดาวเด่นของโรงเรียน  กิริยาท่าทางแสดงถึงความสนอกสนใจอย่างเห็นได้ชัด  แต่ดูท่าแล้วสาวสวยไม่มองหรือสนใจใครเลย  ท่าทางหยิ่งๆยิ่งทำให้คนแอบมองในรถสนใจอยู่เงียบๆ



    "
    อือ...แล้วอั๊ตเคยเห็นหน้าลูกของคุณแม่คนใหม่รึยัง"  พิมยังถามต่ออย่างสงสัย  เนื่องจากยังไม่ได้ยินสาวร่างสูงพูดถึงสมาชิกคนใหม่ของครอบครัวเลย


    "
    ยังไม่เคยหรอก  เราไม่อยากเจอพวกคนที่จะมาแย่งความรักคุณพ่อไปจากเรา"  แววตาที่ดูเศร้าและน่ากลัวเบือนหนีไปทางอื่น


    พิมบีบมือนิ่มของอั๊ตเบาๆ  เป็นเชิงปลอบใจ  และให้เห็นว่ายังมีเพื่อนที่ห่วงใยอยู่ตรงนี้ทั้งคน


    "
    ถ้าเค้าน่ารัก  แล้วก็ดีอย่างพิมก็คงจะดีสินะ"  อั๊ตพูดลอยๆ


    แต่หัวใจพิมกระตุกวาบ  เหมือนกับอยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง  แต่ยังไงคำว่าเพื่อนที่ยังคั่นกลางความสัมพันธ์และยังคงเหนียวแน่นเกินกว่าจะตัดให้ขาดเพื่อเปลี่ยนเป็นฐานะอื่น   ทำให้เธอได้แต่ข่มใจอย่างเจ็บปวด


    "
    เรากลับบ้านก่อนนะพิม   คุณพ่อมาแล้ว  พรุ่งนี้เจอกันนะ"  ก่อนจากไปจมูกโด่งของเพื่อนสาวยื่นมาสัมผัสแก้มใสของพิมเบาๆ  ก่อนจะหัวเราะและวิ่งหนีขึ้นรถยุโรปสีบรอนซ์คันนั้นไป   แต่คนที่ถูกหอมแก้มกลับตกใจจนพูดไม่ออกได้แต่ยืนอึ้งและอมยิ้มออกมา



    ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ตกอยู่ในสายตาของใครบางคนที่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ อย่างใจหาย  ความรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจทำให้สีหน้าหมองลงทันที 


    "
    แม่ซื้อของครบแล้ว  กลับบ้านกันดีกว่า"  ผู้เป็นมารดาเอื้อมมือมาเปิดประตูรถและแทรกตัวเข้ามาช้าๆ  แต่ต้องแปลกใจเมื่อเห็นสีหน้าลูกสาวดูเปลี่ยนไป


    "
    เป็นอะไรรึเปล่าเบลล์   สีหน้าไม่ดีเลย"  คุณพิมลวรรณถามด้วยความเป็นห่วง


    "
    ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ    เรากลับกันเถอะ"  เบลล์พูดตัดบท


     
    .................................



    "
    เลือกชุดที่จะใส่ได้รึยังอั๊ต  งานนี้ลูกพ่อต้องสวยกว่าใครน๊า"  คุณอนันต์พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม  วันที่รอคอยมานานใกล้มาถึงแล้ว  ใบหน้าสุขุมดูแช่มชื่นเป็นพิเศษ  ต่างจากบุตรสาวที่สีหน้าตรงกันข้ามกับผู้เป็นพ่อโดยสิ้นเชิง


    "
    คงจะไม่สวยเท่าเจ้าสาวของคุณพ่อหรอกค่ะ"  ผู้เป็นลูกยังคงประชดประชัน  ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของบิดาจางลงทันที


    "
    อั๊ต.. ฟังพ่อนะ    พ่อรู้ว่าลูกยังยอมรับคุณมลได้ไม่เต็มที่  แต่ยังไงเค้าก็กำลังจะได้ชื่อว่าเป็นแม่คนใหม่ของลูก   พ่ออยากให้ลูกทำตัวเป็นเด็กดี    เพื่อพ่อ...  ได้มั้ย"  คุณอนันต์ขอร้องจากใจ  ตลอดชีวิตสิ่งที่มีค่าที่สุดคือเด็กสาวแสนสวยคนนี้  คนที่เป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ  คอยบันดาลความสุขให้ตลอดมา  ทิฐิของผู้เป็นลูกเริ่มลดลงกว่าเดิมแต่ก็เป็นเพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้นเอง


            วันแต่งงานที่รอคอยมาถึง  เจ้าของงานดูมีความสุขที่สุดกับครอบครัวใหม่ที่จะสมบูรณ์  มีพร้อมหน้ากัน  พ่อ  แม่  ลูก  ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขสรรค์ของแขกเหรื่อที่มาในงาน   บ้านสีขาวหลังใหญ่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย สบายๆ  โดยเชิญแต่แขกที่รู้จักมักคุ้น  ต่างคนล้วนแสดงความยินดีกันถ้วนหน้า 


    คุณพิมลวรรณที่ดูสวยสมวัยในสายตาทุกคนกับชุดเจ้าสาวสีขาว  ตามด้วยบุตรสาววัยแรกรุ่นที่เดินมาเคียงข้างกัน  ในชุดราตรีสีชมพู  


    บัณฑิรา  หรือเบลล์เป็นลูกของเจ้าสาวในค่ำคืนนี้   เธอมีรูปร่างเล็ก  และส่วนสูงที่ต่ำกว่าอัตติญาเกือบคืบนึงพอดี  ใบหน้าเรียวสวยบวกกับดวงตาคู่โต  ฉายแววใสซื่อ  บริสุทธิ์  ให้ทุกคนล้วนเอ็นดู  ริมฝีปากจิ้มลิ้มอิ่มสวยยิ้มตลอดเวลา  อวดลักยิ้มข้างแก้มขวาให้โดดเด่นชวนมอง  เส้นผมสีน้ำตาลธรรมชาติยามต้องกับแสงไฟเป็นประกายสวยงาม  ในค่ำคืนนี้เธอแต่งหน้าอ่อนๆขับความสดใสให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น   เธอน่ารักไม่แพ้บุตรสาวของอนันต์เลย


    คุณอนันต์ดูมีความสุขที่สุดในรอบ12ปีที่ผ่านมา  เขารีบจูงแขนบุตรสาวจอมเอาแต่ใจมาด้วยซึ่งเธอก็ไม่เต็มใจนัก  แต่ด้วยความจำใจในที่สุดก็มายืนอยู่ต่อหน้าสมาชิกครอบครัวคนใหม่จนได้


    "
    คืนนี้คุณสวยมากเลยนะ  คุณมล"  เสียงทุ้มลึกเอ่ยชมจากใจจริง  


    "
    ขอบคุณค่ะ"  คุณพิมลวรรณเอ่ยอย่างเขินๆ   และส่งรอยยิ้มให้กับบุตรสาวของชายคนรัก


    "
    หนูอั๊ตสวยมากเลยนะคะ"  ผู้เป็นเจ้าสาวชมจากใจจริง  แววตาแสดงถึงความเอื้ออาทรไม่ได้เสแสร้ง


    "
    ขอบคุณค่ะ  คุณน้า"   อัตติญาพูดโดยไม่มองสองแม่ลูกเลยแม้แต่น้อย   ด้วยความไม่อยากใส่ใจทำให้มองไม่เห็นบัณฑิราที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังมารดาอย่างเขินอาย  เด็กสาวร่างสูงช่างแสดงกิริยาอาการไม่พึงใจอย่างเห็นได้ชัด  ทำให้ทั้งสองแม่ลูกหน้าเจื่อนลงทันที


    เมื่อเห็นบรรยากาศเริ่มตึงเครียดด้วยอารมณ์ของบุตรสาว   คุณอนันต์จึงรีบพาเจ้าสาวออกไปจากตรงนั้นทันทีที่มีเสียงเรียกของพิธีกร


    "
    อยู่กับเบลล์ก่อนนะอั๊ต   เดี๋ยวพ่อมา"



            เริ่มเข้าพิธี  คู่บ่าว-สาว  คือหลักสำคัญที่จะทำให้งานคืนนี้ผ่านไปได้ด้วยดี  ทั้งคู่จึงทำตามหน้าที่ของตนเอง  ทิ้งลูกสาวทั้งสองคนให้เผชิญหน้ากันตามลำพัง  แต่เด็กสาวร่างสูงไม่เคยแม้จะชายตามองสมาชิกคนใหม่เลยแม้แต่น้อย  บัณฑิราจึงต้องเป็นฝ่ายทักทายเสียเอง


    "
    ยินดีที่ได้รู้จักนะอั๊ต   คืนนี้เธอสวยมากเลยนะ"  เบลล์พูดอย่างเคอะเขิน และประหม่าเมื่อเห็นท่าทีหยิ่งผยองของคนตรงหน้า   แต่ความสวยของอัตติญานั้นไม่เป็นรองเธอเลยแม้แต่น้อย  ใบหน้าสวยเฉียบคม   ดวงตาเศร้าคู่นั้นช่างดึงดูดใจผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก  จมูกเรียวโด่งที่รับกับใบหน้าสวย   และริมฝีปากสีชมพูสดที่สวยเด่นที่สุด   เธออยู่ในชุดราตรีสีขาวที่ดูเหมือนจะเกิดมาเป็นเจ้าของมันจริงๆ  เพราะช่างเข้ากันอย่างหาที่เปรียบมิได้   ร่างสูงเพรียวที่ยังคงหันหลังให้อย่างไม่ใยดีตอบกลับมา


    "
    ขอบใจ!"  เสียงแข็งกร้าวกระแทกลงมาที่หัวใจดวงน้อยของผู้ถามอย่างให้แหลกเหลวไม่ให้เหลือชิ้นดี    สีหน้าเธอเริ่มเปลี่ยน   แววตาใสซื่อนั้นเริ่มตัดพ้อ


    บัณฑิรายื่นมือมาจับแขนเรียวของคนตรงหน้าไว้   เพียงต้องการให้หันมาคุยกันอย่างเป็นมิตร

    กิริยาไม่พอใจเริ่มแสดงออกมาจากคนที่ทีบุคลิกหยิ่งผยองนั้น  และรีบหันมามองเด็กสาวร่างเล็กด้วยดวงตาแข็งกร้าว


    "
    อะไรกันเนี่ยเธอ   อยู่ๆมาจับแข..."  น้ำเสียงเข้มชะงัก  แววตาตกตะลึงเมื่อเห็นอีกฝ่ายในระยะใกล้มาก   หัวใจเริ่มสั่นไหวๆน้อยๆแต่ก็รีบข่มไว้ใต้ใบหน้าที่เงียบขรึมทันที


    "
    อั๊ตไม่พอใจอะไรหรอ  หรือกลัวว่าเรากับแม่จะมาแย่งความรักของพ่อไปจากเธอ  เราอยากบอกนะว่าเราไม่เคยคิดแบบนั้นเลยจริงๆ"  อีกฝ่ายพยายามอธิบาย


    "
    ปล่อย!!"  แขนเรียวสะบัดออกจากการเกาะเกี่ยว  น้ำเสียงเด็ดขาดแบบนั้นทำให้เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้าเริ่มเกร็งและเกรงมากขึ้น


    "
    อย่ามายุ่งกับฉัน"   สายตาเฉียบคมที่บาดหัวใจอีกฝ่ายให้เจ็บปวดสะบัดหน้าหนี  และเดินเข้าไปในกลุ่มเพื่อนๆที่รออยู่  โดยไม่คิดจะสนใจสมาชิกใหม่เลยสักนิด  แต่แววตาใสซื่อนั้นยังคงทอดมองมาอย่างห่วงใยและอยู่ในแง่ดีเสมอ


    "
    คนนั้นใช่มั้ยอั๊ต    ลูกคุณพิมลวรรณน่ะ"   เพื่อนๆยังคงเฝ้าถาม


    "
    ใช่"  เธอตอบอย่างไม่สนใจ   และกระดกไวน์แดงเข้าปากสวยนั้นรวดเดียวแบบไม่พอใจนัก


    "
    เบาๆหน่อยสิอั๊ต   เดี๋ยวก็สำลักหรอก"  พิมยังเตือนอย่างห่วงใย


    "
    เรื่องของฉันน่า"


    "
    แต่เค้าน่ารักมากเลยเนอะ"  พิมยังชม  อั๊ตชะงักนิดๆกับความรู้สึกบางอย่างในใจ


    "
    น่ารักกว่าเรามั้ยล่ะพิม"  สาวร่างสูงเอ่ยถามอย่างต้องการคำตอบ


    "
    อั๊ตสวยนะ  แต่เบลล์ก็น่ารัก  ไม่รู้สิ  มันคนละแบบกัน"  พิมพูดออกมาตามตรง


    "
    แต่เราว่าพิมน่ารักกว่าน๊า"  อัตติญาพูดอย่างอารมณ์ดี  เมื่ออารมณ์ที่ผสมด้วยฤทธิ์แอลกอฮอร์ที่ดื่มเข้าไปเริ่มทำงาน  ใบหน้าสวยนั้นเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ 


    แขนเรียวค่อยๆโอบร่างบางของพิมไว้ในอ้อมกอดอย่างสนุก   ทำให้ใจคนถูกกอดเริ่มสั่นไหวมากยิ่งขึ้น 


    "
    เราว่าอั๊ตเมาแล้วนะ  ไปนอนมั้ย  เราจะพาไป"


    "
    อะไรกัน   แค่นี้ก็อายหรอพิม    เพื่อนกันกอดนิดกอดหน่อยจะเป็นไรไป  ใช่มั้ย..."   จมูกโด่งเริ่มซุกไซร้ที่แก้มของพิมอย่างสนุก  แต่หารู้ไม่ว่าใจของอีกฝ่ายเริ่มกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว   แต่เมื่อได้ยินคำว่า เพื่อน กลับฉุดรั้งสติให้รีบคืนมา


    เหตุการณ์ทั้งหมดรับรู้อยู่ในความคิดและสายตาของบัณฑิราตลอด   ไม่ต่างอะไรจากวันนั้นเลย   ยิ่งมองเท่าไรกลับยิ่งเจ็บใจหัวใจมากขึ้นเท่านั้น 


    ไวน์แดงขวดละแสนของคุณอนันต์หมดเกลี้ยงด้วยฝีมือบุตรสาว  และดูท่าตอนนี้คนดื่มเริ่มจะพยุงตัวไม่ไหวแล้ว  แม้แต่ควบคุมการทรงตัวให้เป็นปรกติก็ดูท่าจะยากเย็น


    "
    พอได้แล้วมั้งอั๊ต  ไปนอนเถอะนะ"   พิมปรามอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง


    "
    โอ๊ย... เราไม่ได้เมาซะหน่อยนะพิม  แค่ขวดเดียวเอง   ยังมีอีกตั้งหลายขวด  เดี๋ยวเราไปเอามาอีกก็ได้"  เสียงที่เคยเข้มขรึมดูอ้อแอ้และฟังไม่รู้เรื่อง


    "
    เอ่อ...เบลล์    ช่วยเราพยุงอั๊ตไปนอนหน่อยได้มั้ย   เราคนเดียวคงไม่ไหวแน่"   พิมเดินมาขอความช่วยเหลือจากคนที่ทำหน้าเศร้าๆ  เมื่อได้ยินแบบนั้นบัณฑิรารีบลุกจากเก้าอี้และเดินตรงไปหาสมาชิกครอบครัวคนใหม่ทันที



    ทั้งสองพยุงเด็กสาวร่างสูงขึ้นมานอนกันอย่างทุลักทุเล  เพราะฝ่ายที่เมาดูจะไม่ยอมท่าเดียว   เมื่อถึงห้องนอนแล้วพิมจึงขอตัวกลับก่อนทิ้งให้เบลล์อยู่กับคนไม่ได้สติเพียงสองคน


    "
    ลูกคนนี้นี่จริงๆเลย  ขอบใจหนูพิมมากนะ"  คุณอนันต์พูดอย่างอ่อนใจ   เอ่ยขอบคุณเมื่อพิมขอตัวกลับก่อน 



    ร่างเพรียวที่นอนเหยียดยาวไม่ได้สติ   ดิ้นไปมาเล็กน้อยและเข้าสู่ภวังค์


    "
    จริงๆเลยนะอั๊ต   เมาขนาดนี้แล้วยังจะดื่มต่ออีก"  เบลล์บ่นเบาๆอย่างอ่อนใจ  ขณะที่มือนั้นช่วยจัดคนที่หลับให้นอนในท่าสบาย


    เธอพลิกตัวคนที่นอนให้หันหลังออก  เพื่อจะเปลี่ยนชุดราตรีที่แสนอึดอัดให้เป็นชุดนอนผ้าบางเบา   มือนั้นรูดซิปออกช้าๆด้วยกลัวว่าคนที่หลับจะตื่น


    แผ่นหลังขาวนวลเนียนและสัมผัสได้ถึงไออุ่น  ทำให้เธออยากสัมผัสคนตรงหน้ามากแต่ก็พยายามข่มความรู้สึก  ก่อนจะพลิกตัวเอาด้านหน้าออกและเริ่มถอดส่วนบนออกอย่างนุ่มนวล  ร่องอกขาวอวบอิ่ม  ชวนให้เคลิบเคลิ้มยิ่งนัก    เธอหน้าแดงนิดๆและเบือนหน้าออกด้วยความเขินอาย


    "
    เธอจะทำอะไรน่ะ"  คนที่นอนอยู่ลุกพรวดขึ้นมา  จนน่าตกใจ 

    ความเหรอหราทำอะไรไม่ถูกทำให้ต้องหยุดชะงัก  และขยับหนีอีกฝ่ายด้วยความกลัว  และรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน


    "
    ปะ...เปล่านะ...เราแค่จะเปลี่ยนชุดให้  เท่านั้นเอง" 


    "
    หรือว่าเธอสนใจฉัน   ห๊ะ.."   แววตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นจ้องมา  จนเบลล์ต้องถอยหนี



    '
    ตุบ'


    แรงเหวี่ยงทำให้ร่างเล็กล้มลงราบกับเตียงและหมดทางหนี


    "
    อย่าคิดนะว่าจะแย่งความรักจากคุณพ่อไปได้น่ะ  ไม่มีทางหรอก   ชั้นเกลียดเธอ!!..รู้ไว้นะ" 

    ร่างสูงทาบทับลงไปบนตัวของเบลล์   ใบหน้าที่อยู่ห่างกันแค่คืบจนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นที่รุนแรงของทั้งสองฝ่าย   ผู้อยู่เบื้องล่างเริ่มกลัวมากขึ้นว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรกันแน่


    "
    ปล่อยเรานะอั๊ต  จะทำอะไรน่ะ"  แขนสองข้างของเบลล์ถูกตรึงไว้ด้วยกำลังแขนของอีกฝ่าย   ได้แค่เพียงดิ้นไปมาเพื่อให้พ้นจากกำลังมหาศาลนั้น   อีกฝ่ายเริ่มรุกร้ำมากยิ่งขึ้น


    ริมฝีปากสีชมพูสดกดทับลงบนเรียวปากสาวร่างเล็ก  เธอเบิกตากว้างอย่างตกใจ   เมื่อเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดแบบนี้  ใบหน้าสวยซุกลงไปที่ต้นคอแต่ก็หยุดเสียเฉยๆ


    "
    ............"  ความแปลกใจแทนที่ความกลัวและผลักร่างที่ทับอยู่ออกจากตัว   สัมผัสนั้นทำให้เธอตื่นกลัวและพยายามจะลุกหนี   แต่อีกใจกลับทิ้งคนที่นอนอยู่ไม่ลง


    "
    หลับแล้วหรอ   หวังว่าคราวนี้คงจะหลับจริงๆนะ"   เบลล์ถามเพื่อความแน่ใจ  ก่อนจะจัดร่างที่หลับสนิทให้นอนยังที่เดิม  และเฝ้ามองด้วยความน้อยใจ


    "
    อั๊ตเกลียดเราขนาดนั้นเลยหรอ"

     หยดน้ำใสๆเริ่มไหลรินออกมาจากดวงตากลมโตคู่นั้น   ต่อจากนี้ไปเธอควรจะทำตัวอย่างไรไม่ให้ถูกเกลียดมากกว่าเดิม   ความอัดอั้นเริ่มพรั่งพรูออกมราวกับอยากให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดนี้





    -------------------------------
    ----------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×