คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ความรู้สึกเมื่อครั้งแรกพบ
ภาพวันวานแห่งความสุขที่เคยมีกันพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก บัดนี้คงเหลือเพียงความทรงจำที่ยังคงงดงาม รอยยิ้มเสียงหัวเราะยังตราตรึงอยู่ใจจิตใจของเด็กน้อยไม่เสื่อมคลาย ความรักที่มีต่อมารดาของเธอช่างมากมายมหาศาลนัก
"คุณพ่อคะ คุณแม่ไม่อยู่กับเราแล้วใช่มั้ยคะ ฮือๆ" เสียงใสสะอื้นยิ่งนัก น้ำตาแห่งความเสียใจพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย ผู้เป็นพ่อได้แต่ปลอบโยนลูกน้อยด้วยน้ำตาไม่ต่างกัน
"อยู่สิลูก คุณแม่อยู่ในใจเรานี่ไง เงียบซะนะคนดีของพ่อ" ฝ่ามือที่อบอุ่นลูบผมสีดำของลูกสาวอย่างอ่อนโยน และกอดกระชับไว้ในอ้อมกอดอย่างหวงแหนเพราะ อัตติญา คือสิ่งมีค่าที่สุดที่เขาเหลืออยู่
.............................................
.............กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป นำพาซึ่งความเปลี่ยนแปลงมาเสมอ ................
เด็กน้อยไร้เดียงสาเติบโตขึ้นเป็นเด็กสาวแรกรุ่น หน้าตาสวย น่ารัก ในสายตาใครหลายคน ความอ่อนแอในวันวานสลายไปหลังจากเกิดความเปลี่ยนแปลงในครั้งอดีต ความแข็งแกร่งในจิตใจและร่างกายมีมากเหลือกำลัง บุคลิกที่เงียบขรึมบวกกับท่าทางหยิ่งผยองดูจะเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเธอไปเสียแล้ว
คุณอนันต์นักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบปี ยามที่ไร้ภรรยาเคียงข้างกาย เขามุ่งมั่นที่จะฝากชีวิตไว้กับงานและนางฟ้าตัวน้อยที่คอยบันดาลความสุขให้เสมอคือเด็กสาวผู้เป็นที่รักดั่งดวงใจนี่เอง แต่มาดสุขุมลุ่มลึก บวกกับความมั่งคั่งทางฐานะการเงินจึงมักมีสาวน้อยสาวใหญ่แวะเวียนเข้ามาในชีวิตตลอดเวลา ต่างคนก็ทำเหมือนกับอยากเป็นแม่เลี้ยงคนใหม่ของลูกสาวเขา แต่ก็จะถูกผู้เป็นลูกขัดขวางและหาทางกลั่นแกล้งต่างๆนาๆ ด้วยความไม่พอใจและไม่ชอบหน้าผู้หญิงเหล่านั้น จนไม่มีใครกล้ากลับมาวุ่นวายอีกเลย แต่กระนั้นก็ยังมีแวะเวียนเข้ามาอีกเรื่อยๆ และก็จบลงแบบนี้ทุกครั้งไป
ยิ่งนานวันสิ่งที่เกาะกุมอยู่ภายในจิตใจกลับยิ่งชัดกระจ่างมากยิ่งขึ้น คือ ความเหงา นั่นเอง
ทำให้อยากหาใครมาเคียงข้าง เติมเต็มในความสุขที่ขาดหายไป โดยที่ อัตติญา ไม่ได้รับรู้เลย
เพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เขามีความสุขได้ แต่ด้วยความกลัวว่าบุตรสาวจะไม่ยอมรับ เรื่องจึงถูกปกปิดมานาน แต่อีกเพียงไม่กี่วัน พิธีแต่งงานของเขาจะเริ่มขึ้นกับผู้หญิงอีกคนที่มีบางอย่างคล้ายกับภรรยาเก่าของเขาเอง และก็มอบความรักให้ไม่ต่างกัน เรื่องนี้จึงถูกเปิดเผย เมื่อมั่นใจว่าระยะเวลาได้ดำเนินมาไกลเกินกว่าจะกลับไปจุดเริ่มต้นได้ง่ายๆ
..เขาตัดสินใจบอกกับผู้เป็นลูก..
"อะไรนะคะคุณพ่อ คุณพ่อจะแต่งงานใหม่ ทำไมอั๊ตไม่เห็นรู้เรื่องเลย ทำไมต้องปิดบังกันด้วย แล้วนี่คุณพ่อไม่รักคุณแม่แล้วใช่มั้ยคะ" เป็นไปตามคาดที่อัตติญาต้องรับไม่ได้
"ลูกต้องเข้าใจพ่อนะ พ่อเองก็ไม่ได้มีเวลาให้ลูกมากนัก แล้วลูกเองก็เริ่มโตแล้ว พ่ออยากให้เขาช่วยดูแลลูกของพ่อด้วย คุณมลเขาเป็นคนดี เขาดูแลลูกของพ่อได้และลูกของเค้าก็เป็นเด็กดี เขาน่าจะเป็นเพื่อนกับลูกได้เหมือนกัน"
คุณอนันต์พยายามอธิบาย เมื่อเห็นลูกสาวจอมเอาแต่ใจไม่ยอมฟังท่าเดียว แต่เมื่อได้ยินว่าผู้หญิงคนใหม่ของพ่อมีลูกอีกคนทำให้เธอชะงัก
"อะไรนะคะคุณพ่อ คุณพิมลวรรณนั่น...มีลูกด้วยหรอ" เธอถามด้วยความแปลกใจ
"ใช่!... ชื่อเบลล์ เขาอายุเท่ากับลูกนี่แหละ"
"ต่อไปคุณพ่อก็คงจะสนใจแต่พวกเค้า แล้วหนูล่ะคะ คุณพ่อก็คงจะไม่สนใจอีกแล้วละสิ" ผู้เป็นลูกพูดอย่างอัดอั้นเพราะความน้อยใจ เมื่อนึกถึงปัญหาที่จะตามมา ด้วยความกลัวว่าความรักที่เคยได้จะถูกแบ่งปันไปให้คนอื่น ยิ่งทำให้เธอน้อยใจมากขึ้น
"ไม่นะลูก! พ่อไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ลูกเป็นคนที่พ่อรักมากที่สุด ยังไงก็ไม่มีใครมาแทนลูกของพ่อได้ แต่พ่ออยากให้ลูกเข้าใจ พวกเค้าไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ลูกคิดหรอกนะ พ่อรับรองได้"
เมื่อคำพูดที่ออกมาจากใจของผู้เป็นพ่อ เธอเริ่มสัมผัสได้กับความกังวลใจ และพยายามนึกถึงความรักที่พ่อเคยให้เสมอมา กอปรด้วยเหตุผลต่างๆที่ผู้เป็นพ่อพยายามอธิบายให้เข้าใจ เธอจึงเริ่มใจอ่อน
"ถ้าเค้าเป็นคนดีอย่างที่คุณพ่อพูดจริงๆ อั๊ตก็เข้าใจค่ะ" น้ำเสียงที่แข็งกร้าวเริ่มอ่อนลง เธอทรุดตัวลงนั่งข้างผู้เป็นพ่อและสวมกอดอย่างสำนึกผิด มือที่อบอุ่นของคุณอนันต์ลูบเส้นผมสีดำขลับอย่างอ่อนโยน ในใจผู้เป็นลูกพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกที่ทำให้บิดาไม่สบายใจไว้ ใบหน้าสวยเฉียบคมนั้นยิ้มใสๆ พร้อมกับเสียงหัวเราะของสองพ่อลูกที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
..........................................
อัตติญา เรียนโรงเรียนสตรีแห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยเด็กสาวๆมากหน้าหลายตา และเธอเองก็เป็นนักกีฬาคนเก่งของโรงเรียน ไม่แปลกที่จะมีเด็กสาวหลายคนแอบชอบกันมากมาย
"ว่าไงนะอั๊ต คุณพ่อเธอจะแต่งงานงั้นหรอ" พิมถามด้วยความแปลกใจ
"ใช่...เรากลัวนะพิม กลัวว่าพ่อจะรักเราน้อยลงกว่าเดิม" น้ำเสียงนั้นอ่อนล้าแสดงถึงความกลัว
"เราคิดว่าไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนะ มันไม่ใช่ในละครที่เธอชอบดูซะหน่อย เค้าคงจะเป็นคนดีอย่างที่คุณพ่อเธอบอกก็ได้" พิมพยายามพูดให้อั๊ตมองในแง่ดีมากขึ้น
"แต่เราคงเข้ากับพวกเค้าไม่ได้หรอก ยังไงเราก็ไม่ยอมแน่" อัตติญาพูดอย่างเด็ดขาด
แววตาของพิมเต็มไปด้วยความห่วงใยในตัวเพื่อนคนนี้มาก มากจนเกินคำว่าเพื่อน ในขณะที่อีกฝ่ายไม่เคยรู้เลย
"เด็กคนนั้นใช่มั้ยคะคุณแม่ ลูกของคุณอนันต์" เสียงใสของเด็กสาวผู้หนึ่งเอ่ยถามมารดา เมื่อขับรถผ่านหน้าโรงเรียนสตรีแห่งนี้
"ใช่แล้วลูก อีกไม่นานลูกก็คงได้รู้จักกับเค้า"
"เค้าสวย แล้วก็น่ารักดีนะคะ ดูสิคะคุณแม่! เด็กสาวๆรุมล้อมกันเพียบเลย" ภาพที่เห็นคือเด็กสาวกลุ่มหนึ่งรายล้อมบุคคลระดับดาวเด่นของโรงเรียน กิริยาท่าทางแสดงถึงความสนอกสนใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ดูท่าแล้วสาวสวยไม่มองหรือสนใจใครเลย ท่าทางหยิ่งๆยิ่งทำให้คนแอบมองในรถสนใจอยู่เงียบๆ
"อือ...แล้วอั๊ตเคยเห็นหน้าลูกของคุณแม่คนใหม่รึยัง" พิมยังถามต่ออย่างสงสัย เนื่องจากยังไม่ได้ยินสาวร่างสูงพูดถึงสมาชิกคนใหม่ของครอบครัวเลย
"ยังไม่เคยหรอก เราไม่อยากเจอพวกคนที่จะมาแย่งความรักคุณพ่อไปจากเรา" แววตาที่ดูเศร้าและน่ากลัวเบือนหนีไปทางอื่น
พิมบีบมือนิ่มของอั๊ตเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ และให้เห็นว่ายังมีเพื่อนที่ห่วงใยอยู่ตรงนี้ทั้งคน
"ถ้าเค้าน่ารัก แล้วก็ดีอย่างพิมก็คงจะดีสินะ" อั๊ตพูดลอยๆ
แต่หัวใจพิมกระตุกวาบ เหมือนกับอยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ยังไงคำว่าเพื่อนที่ยังคั่นกลางความสัมพันธ์และยังคงเหนียวแน่นเกินกว่าจะตัดให้ขาดเพื่อเปลี่ยนเป็นฐานะอื่น ทำให้เธอได้แต่ข่มใจอย่างเจ็บปวด
"เรากลับบ้านก่อนนะพิม คุณพ่อมาแล้ว พรุ่งนี้เจอกันนะ" ก่อนจากไปจมูกโด่งของเพื่อนสาวยื่นมาสัมผัสแก้มใสของพิมเบาๆ ก่อนจะหัวเราะและวิ่งหนีขึ้นรถยุโรปสีบรอนซ์คันนั้นไป แต่คนที่ถูกหอมแก้มกลับตกใจจนพูดไม่ออกได้แต่ยืนอึ้งและอมยิ้มออกมา
ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ตกอยู่ในสายตาของใครบางคนที่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ อย่างใจหาย ความรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจทำให้สีหน้าหมองลงทันที
"แม่ซื้อของครบแล้ว กลับบ้านกันดีกว่า" ผู้เป็นมารดาเอื้อมมือมาเปิดประตูรถและแทรกตัวเข้ามาช้าๆ แต่ต้องแปลกใจเมื่อเห็นสีหน้าลูกสาวดูเปลี่ยนไป
"เป็นอะไรรึเปล่าเบลล์ สีหน้าไม่ดีเลย" คุณพิมลวรรณถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เรากลับกันเถอะ" เบลล์พูดตัดบท
.................................
"เลือกชุดที่จะใส่ได้รึยังอั๊ต งานนี้ลูกพ่อต้องสวยกว่าใครน๊า" คุณอนันต์พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม วันที่รอคอยมานานใกล้มาถึงแล้ว ใบหน้าสุขุมดูแช่มชื่นเป็นพิเศษ ต่างจากบุตรสาวที่สีหน้าตรงกันข้ามกับผู้เป็นพ่อโดยสิ้นเชิง
"คงจะไม่สวยเท่าเจ้าสาวของคุณพ่อหรอกค่ะ" ผู้เป็นลูกยังคงประชดประชัน ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของบิดาจางลงทันที
"อั๊ต.. ฟังพ่อนะ พ่อรู้ว่าลูกยังยอมรับคุณมลได้ไม่เต็มที่ แต่ยังไงเค้าก็กำลังจะได้ชื่อว่าเป็นแม่คนใหม่ของลูก พ่ออยากให้ลูกทำตัวเป็นเด็กดี เพื่อพ่อ... ได้มั้ย" คุณอนันต์ขอร้องจากใจ ตลอดชีวิตสิ่งที่มีค่าที่สุดคือเด็กสาวแสนสวยคนนี้ คนที่เป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ คอยบันดาลความสุขให้ตลอดมา ทิฐิของผู้เป็นลูกเริ่มลดลงกว่าเดิมแต่ก็เป็นเพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้นเอง
วันแต่งงานที่รอคอยมาถึง เจ้าของงานดูมีความสุขที่สุดกับครอบครัวใหม่ที่จะสมบูรณ์ มีพร้อมหน้ากัน พ่อ แม่ ลูก ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขสรรค์ของแขกเหรื่อที่มาในงาน บ้านสีขาวหลังใหญ่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย สบายๆ โดยเชิญแต่แขกที่รู้จักมักคุ้น ต่างคนล้วนแสดงความยินดีกันถ้วนหน้า
คุณพิมลวรรณที่ดูสวยสมวัยในสายตาทุกคนกับชุดเจ้าสาวสีขาว ตามด้วยบุตรสาววัยแรกรุ่นที่เดินมาเคียงข้างกัน ในชุดราตรีสีชมพู
บัณฑิรา หรือเบลล์เป็นลูกของเจ้าสาวในค่ำคืนนี้ เธอมีรูปร่างเล็ก และส่วนสูงที่ต่ำกว่าอัตติญาเกือบคืบนึงพอดี ใบหน้าเรียวสวยบวกกับดวงตาคู่โต ฉายแววใสซื่อ บริสุทธิ์ ให้ทุกคนล้วนเอ็นดู ริมฝีปากจิ้มลิ้มอิ่มสวยยิ้มตลอดเวลา อวดลักยิ้มข้างแก้มขวาให้โดดเด่นชวนมอง เส้นผมสีน้ำตาลธรรมชาติยามต้องกับแสงไฟเป็นประกายสวยงาม ในค่ำคืนนี้เธอแต่งหน้าอ่อนๆขับความสดใสให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น เธอน่ารักไม่แพ้บุตรสาวของอนันต์เลย
คุณอนันต์ดูมีความสุขที่สุดในรอบ12ปีที่ผ่านมา เขารีบจูงแขนบุตรสาวจอมเอาแต่ใจมาด้วยซึ่งเธอก็ไม่เต็มใจนัก แต่ด้วยความจำใจในที่สุดก็มายืนอยู่ต่อหน้าสมาชิกครอบครัวคนใหม่จนได้
"คืนนี้คุณสวยมากเลยนะ คุณมล" เสียงทุ้มลึกเอ่ยชมจากใจจริง
"ขอบคุณค่ะ" คุณพิมลวรรณเอ่ยอย่างเขินๆ และส่งรอยยิ้มให้กับบุตรสาวของชายคนรัก
"หนูอั๊ตสวยมากเลยนะคะ" ผู้เป็นเจ้าสาวชมจากใจจริง แววตาแสดงถึงความเอื้ออาทรไม่ได้เสแสร้ง
"ขอบคุณค่ะ คุณน้า" อัตติญาพูดโดยไม่มองสองแม่ลูกเลยแม้แต่น้อย ด้วยความไม่อยากใส่ใจทำให้มองไม่เห็นบัณฑิราที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังมารดาอย่างเขินอาย เด็กสาวร่างสูงช่างแสดงกิริยาอาการไม่พึงใจอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ทั้งสองแม่ลูกหน้าเจื่อนลงทันที
เมื่อเห็นบรรยากาศเริ่มตึงเครียดด้วยอารมณ์ของบุตรสาว คุณอนันต์จึงรีบพาเจ้าสาวออกไปจากตรงนั้นทันทีที่มีเสียงเรียกของพิธีกร
"อยู่กับเบลล์ก่อนนะอั๊ต เดี๋ยวพ่อมา"
เริ่มเข้าพิธี คู่บ่าว-สาว คือหลักสำคัญที่จะทำให้งานคืนนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ทั้งคู่จึงทำตามหน้าที่ของตนเอง ทิ้งลูกสาวทั้งสองคนให้เผชิญหน้ากันตามลำพัง แต่เด็กสาวร่างสูงไม่เคยแม้จะชายตามองสมาชิกคนใหม่เลยแม้แต่น้อย บัณฑิราจึงต้องเป็นฝ่ายทักทายเสียเอง
"ยินดีที่ได้รู้จักนะอั๊ต คืนนี้เธอสวยมากเลยนะ" เบลล์พูดอย่างเคอะเขิน และประหม่าเมื่อเห็นท่าทีหยิ่งผยองของคนตรงหน้า แต่ความสวยของอัตติญานั้นไม่เป็นรองเธอเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าสวยเฉียบคม ดวงตาเศร้าคู่นั้นช่างดึงดูดใจผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก จมูกเรียวโด่งที่รับกับใบหน้าสวย และริมฝีปากสีชมพูสดที่สวยเด่นที่สุด เธออยู่ในชุดราตรีสีขาวที่ดูเหมือนจะเกิดมาเป็นเจ้าของมันจริงๆ เพราะช่างเข้ากันอย่างหาที่เปรียบมิได้ ร่างสูงเพรียวที่ยังคงหันหลังให้อย่างไม่ใยดีตอบกลับมา
"ขอบใจ!" เสียงแข็งกร้าวกระแทกลงมาที่หัวใจดวงน้อยของผู้ถามอย่างให้แหลกเหลวไม่ให้เหลือชิ้นดี สีหน้าเธอเริ่มเปลี่ยน แววตาใสซื่อนั้นเริ่มตัดพ้อ
บัณฑิรายื่นมือมาจับแขนเรียวของคนตรงหน้าไว้ เพียงต้องการให้หันมาคุยกันอย่างเป็นมิตร
กิริยาไม่พอใจเริ่มแสดงออกมาจากคนที่ทีบุคลิกหยิ่งผยองนั้น และรีบหันมามองเด็กสาวร่างเล็กด้วยดวงตาแข็งกร้าว
"อะไรกันเนี่ยเธอ อยู่ๆมาจับแข..." น้ำเสียงเข้มชะงัก แววตาตกตะลึงเมื่อเห็นอีกฝ่ายในระยะใกล้มาก หัวใจเริ่มสั่นไหวๆน้อยๆแต่ก็รีบข่มไว้ใต้ใบหน้าที่เงียบขรึมทันที
"อั๊ตไม่พอใจอะไรหรอ หรือกลัวว่าเรากับแม่จะมาแย่งความรักของพ่อไปจากเธอ เราอยากบอกนะว่าเราไม่เคยคิดแบบนั้นเลยจริงๆ" อีกฝ่ายพยายามอธิบาย
"ปล่อย!!" แขนเรียวสะบัดออกจากการเกาะเกี่ยว น้ำเสียงเด็ดขาดแบบนั้นทำให้เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้าเริ่มเกร็งและเกรงมากขึ้น
"อย่ามายุ่งกับฉัน" สายตาเฉียบคมที่บาดหัวใจอีกฝ่ายให้เจ็บปวดสะบัดหน้าหนี และเดินเข้าไปในกลุ่มเพื่อนๆที่รออยู่ โดยไม่คิดจะสนใจสมาชิกใหม่เลยสักนิด แต่แววตาใสซื่อนั้นยังคงทอดมองมาอย่างห่วงใยและอยู่ในแง่ดีเสมอ
"คนนั้นใช่มั้ยอั๊ต ลูกคุณพิมลวรรณน่ะ" เพื่อนๆยังคงเฝ้าถาม
"ใช่" เธอตอบอย่างไม่สนใจ และกระดกไวน์แดงเข้าปากสวยนั้นรวดเดียวแบบไม่พอใจนัก
"เบาๆหน่อยสิอั๊ต เดี๋ยวก็สำลักหรอก" พิมยังเตือนอย่างห่วงใย
"เรื่องของฉันน่า"
"แต่เค้าน่ารักมากเลยเนอะ" พิมยังชม อั๊ตชะงักนิดๆกับความรู้สึกบางอย่างในใจ
"น่ารักกว่าเรามั้ยล่ะพิม" สาวร่างสูงเอ่ยถามอย่างต้องการคำตอบ
"อั๊ตสวยนะ แต่เบลล์ก็น่ารัก ไม่รู้สิ มันคนละแบบกัน" พิมพูดออกมาตามตรง
"แต่เราว่าพิมน่ารักกว่าน๊า" อัตติญาพูดอย่างอารมณ์ดี เมื่ออารมณ์ที่ผสมด้วยฤทธิ์แอลกอฮอร์ที่ดื่มเข้าไปเริ่มทำงาน ใบหน้าสวยนั้นเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
แขนเรียวค่อยๆโอบร่างบางของพิมไว้ในอ้อมกอดอย่างสนุก ทำให้ใจคนถูกกอดเริ่มสั่นไหวมากยิ่งขึ้น
"เราว่าอั๊ตเมาแล้วนะ ไปนอนมั้ย เราจะพาไป"
"อะไรกัน แค่นี้ก็อายหรอพิม เพื่อนกันกอดนิดกอดหน่อยจะเป็นไรไป ใช่มั้ย..." จมูกโด่งเริ่มซุกไซร้ที่แก้มของพิมอย่างสนุก แต่หารู้ไม่ว่าใจของอีกฝ่ายเริ่มกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว แต่เมื่อได้ยินคำว่า เพื่อน กลับฉุดรั้งสติให้รีบคืนมา
เหตุการณ์ทั้งหมดรับรู้อยู่ในความคิดและสายตาของบัณฑิราตลอด ไม่ต่างอะไรจากวันนั้นเลย ยิ่งมองเท่าไรกลับยิ่งเจ็บใจหัวใจมากขึ้นเท่านั้น
ไวน์แดงขวดละแสนของคุณอนันต์หมดเกลี้ยงด้วยฝีมือบุตรสาว และดูท่าตอนนี้คนดื่มเริ่มจะพยุงตัวไม่ไหวแล้ว แม้แต่ควบคุมการทรงตัวให้เป็นปรกติก็ดูท่าจะยากเย็น
"พอได้แล้วมั้งอั๊ต ไปนอนเถอะนะ" พิมปรามอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง
"โอ๊ย... เราไม่ได้เมาซะหน่อยนะพิม แค่ขวดเดียวเอง ยังมีอีกตั้งหลายขวด เดี๋ยวเราไปเอามาอีกก็ได้" เสียงที่เคยเข้มขรึมดูอ้อแอ้และฟังไม่รู้เรื่อง
"เอ่อ...เบลล์ ช่วยเราพยุงอั๊ตไปนอนหน่อยได้มั้ย เราคนเดียวคงไม่ไหวแน่" พิมเดินมาขอความช่วยเหลือจากคนที่ทำหน้าเศร้าๆ เมื่อได้ยินแบบนั้นบัณฑิรารีบลุกจากเก้าอี้และเดินตรงไปหาสมาชิกครอบครัวคนใหม่ทันที
ทั้งสองพยุงเด็กสาวร่างสูงขึ้นมานอนกันอย่างทุลักทุเล เพราะฝ่ายที่เมาดูจะไม่ยอมท่าเดียว เมื่อถึงห้องนอนแล้วพิมจึงขอตัวกลับก่อนทิ้งให้เบลล์อยู่กับคนไม่ได้สติเพียงสองคน
"ลูกคนนี้นี่จริงๆเลย ขอบใจหนูพิมมากนะ" คุณอนันต์พูดอย่างอ่อนใจ เอ่ยขอบคุณเมื่อพิมขอตัวกลับก่อน
ร่างเพรียวที่นอนเหยียดยาวไม่ได้สติ ดิ้นไปมาเล็กน้อยและเข้าสู่ภวังค์
"จริงๆเลยนะอั๊ต เมาขนาดนี้แล้วยังจะดื่มต่ออีก" เบลล์บ่นเบาๆอย่างอ่อนใจ ขณะที่มือนั้นช่วยจัดคนที่หลับให้นอนในท่าสบาย
เธอพลิกตัวคนที่นอนให้หันหลังออก เพื่อจะเปลี่ยนชุดราตรีที่แสนอึดอัดให้เป็นชุดนอนผ้าบางเบา มือนั้นรูดซิปออกช้าๆด้วยกลัวว่าคนที่หลับจะตื่น
แผ่นหลังขาวนวลเนียนและสัมผัสได้ถึงไออุ่น ทำให้เธออยากสัมผัสคนตรงหน้ามากแต่ก็พยายามข่มความรู้สึก ก่อนจะพลิกตัวเอาด้านหน้าออกและเริ่มถอดส่วนบนออกอย่างนุ่มนวล ร่องอกขาวอวบอิ่ม ชวนให้เคลิบเคลิ้มยิ่งนัก เธอหน้าแดงนิดๆและเบือนหน้าออกด้วยความเขินอาย
"เธอจะทำอะไรน่ะ" คนที่นอนอยู่ลุกพรวดขึ้นมา จนน่าตกใจ
ความเหรอหราทำอะไรไม่ถูกทำให้ต้องหยุดชะงัก และขยับหนีอีกฝ่ายด้วยความกลัว และรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
"ปะ...เปล่านะ...เราแค่จะเปลี่ยนชุดให้ เท่านั้นเอง"
"หรือว่าเธอสนใจฉัน ห๊ะ.." แววตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นจ้องมา จนเบลล์ต้องถอยหนี
'ตุบ'
แรงเหวี่ยงทำให้ร่างเล็กล้มลงราบกับเตียงและหมดทางหนี
"อย่าคิดนะว่าจะแย่งความรักจากคุณพ่อไปได้น่ะ ไม่มีทางหรอก ชั้นเกลียดเธอ!!..รู้ไว้นะ"
ร่างสูงทาบทับลงไปบนตัวของเบลล์ ใบหน้าที่อยู่ห่างกันแค่คืบจนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นที่รุนแรงของทั้งสองฝ่าย ผู้อยู่เบื้องล่างเริ่มกลัวมากขึ้นว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรกันแน่
"ปล่อยเรานะอั๊ต จะทำอะไรน่ะ" แขนสองข้างของเบลล์ถูกตรึงไว้ด้วยกำลังแขนของอีกฝ่าย ได้แค่เพียงดิ้นไปมาเพื่อให้พ้นจากกำลังมหาศาลนั้น อีกฝ่ายเริ่มรุกร้ำมากยิ่งขึ้น
ริมฝีปากสีชมพูสดกดทับลงบนเรียวปากสาวร่างเล็ก เธอเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดแบบนี้ ใบหน้าสวยซุกลงไปที่ต้นคอแต่ก็หยุดเสียเฉยๆ
"............" ความแปลกใจแทนที่ความกลัวและผลักร่างที่ทับอยู่ออกจากตัว สัมผัสนั้นทำให้เธอตื่นกลัวและพยายามจะลุกหนี แต่อีกใจกลับทิ้งคนที่นอนอยู่ไม่ลง
"หลับแล้วหรอ หวังว่าคราวนี้คงจะหลับจริงๆนะ" เบลล์ถามเพื่อความแน่ใจ ก่อนจะจัดร่างที่หลับสนิทให้นอนยังที่เดิม และเฝ้ามองด้วยความน้อยใจ
"อั๊ตเกลียดเราขนาดนั้นเลยหรอ"
หยดน้ำใสๆเริ่มไหลรินออกมาจากดวงตากลมโตคู่นั้น ต่อจากนี้ไปเธอควรจะทำตัวอย่างไรไม่ให้ถูกเกลียดมากกว่าเดิม ความอัดอั้นเริ่มพรั่งพรูออกมราวกับอยากให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดนี้
-------------------------------
----------------------------------------
ความคิดเห็น