คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8 : สิ่งที่อยู่ก้นบึ้งในหัวใจ (2.2) [100%]
ตอนที่ 8
ผมตั้งใจเอาที่อยู่ของสำนักหมอผีมาอวดมิยองและคิมแต่ผลไม่ได้เป็นไปตามคาดเมื่อผมไม่พบใครเลยนอกเสียจากความว่างเปล่าในห้องเรียน... ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีอบรมพิเศษนักเรียนชั้นม.6ต้องเข้าร่วมอบรมทุกคน ผมจึงรีบบึ่งไปยังห้องประชุมใหญ่ทันที...
ผมเข้าไปนั่งที่โต๊ะว่างที่อยู่หน้าสุดก่อนจะพบว่าคนที่นั่งข้างๆคือคิม ผมยิ้มให้หนึ่งทีก่อนจะกระซิบบอกเรื่องหมอผีที่หาไว้
“ได้แล้วหรอ?” คิมถามผมเบาๆ ซึ่งผมก็พยักหน้าตอบ
“ฉันต้องบอกให้มิยองรู้”
“มิยองไม่มาไม่รู้เป็นอะไร” คิมบอก
“อ้าวหรอ? เสียดายจัง ฉันอุตส่าห์ตั้งใจบอกมิยองคนแรกเลยนะ”
“อาจเพราะเรื่องครอบครัวของเธอก็ได้นะ” คิมแสดงความคิดเห็น ผมคิดตามแต่คิดว่าไม่น่าเกี่ยวข้อง
ก่อนที่พวกเราทั้งหมดจะต้องสนอกสนใจไปที่หน้าห้องประชุมที่กำลังฉายภาพวิดีทัศน์ประกอบสื่อการอบรม แต่ก็รู้นะว่าผมน่ะเด็กหลังห้องจะให้มาสนใจเรื่องพวกนี้คงไม่มีทาง ระหว่างที่วิทยากรพูดๆไป สอมงผมก็คิดอะไรไปเรื่อย...จู่ๆผมก็คิดถึงเรื่องมิยองขึ้นมาซะงั้นล่ะ
มิยอง สาวสวยน่ารักเพื่อนสุดหวงของยัยคิม ผมคุยกับเธอครั้งแรกเมื่อตอนที่ไปหลีเธอจนเกิดศึกน้ำลายกับยัยคิม ต้นเหตุของการสลับร่าง!
ก่อนที่ผมจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเธอก็ตอนนั้นสินะ ตอนที่พิมมี่ชวนไปดูร้องเพลงของเธอที่ผับ แล้วผมก็บังเอิญเจอกับมิยอง...มิยองที่หน้าตาตื่นและเพิ่งกลับมาจากงานศพ...งานศพ?...เดี๋ยวนะ วันนั้นที่ผมเห็นเธอ...
เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงเดฟสีเดียวกัน กับหมวกแก๊ปสีดำลายธงชาติสหรัฐฯ
เดี๋ยวสิ! นั่นมันมิยองนี่นา!!! ย่านนั้นมันย่านผับที่เราเพิ่งไปกันนี่ แล้วคนร้ายในข่าวนั้น อย่าบอกนะว่าคือ...
“ม่ายยยยยยยยยยยยย!!!” ผมตะโกนออกมาอย่างรับไม่ได้ ก่อนที่ทั้งห้องประชุมจะเงียบสงัด หันมามองที่ต้นเสียงซึ่งก็คือผมเป็นตาเดียว ยัยคิมถอกผมเบาก่อนจะเหน็บว่า
“เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ยาหมดฤทธิ์รึไง?” ผมหน้าเหวอ มองไปรอบๆข้างก่อนจะยกมือไหวืขอโทษไปทั่ว ก่อนที่การบรรยายจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง
“คนร้ายที่กรีดป้ายน่ะ...ฉันคิดว่า...คือมิยอง!” ผมกระซิบบอกคิมเบาๆ คิมดูตกใจไม่น้อยก่อนจะปฏิเสธ
“เป็นไปไม่ได้ คนอย่างมิยองน่ะหรอจะเป็นคนร้ายแล้วอีกอย่างมิยองจะทำไปเพื่ออะไรในเมื่อนั่นมันบริษัทพ่อของเธอนะ”
“แต่ในข่าวก็บอกไม่ใช่หรอว่าแถวนั้นมันย่านผับที่เราไปมา อีกอย่างวันเวลาก็ตรงกัน...แล้วชุดคนร้ายในข่าวก็เหมือนกับ...” พูดไม่ทันจบ ยัยคิมก็ยกมือขึ้นให้หยุด
“ในบอกเหตุผลมาซิ ทำไมมิยองต้องทำแบบนั้นด้วย?”คิมย้อนถามเสียงแข็ง
“เธอเป็นเพื่อนสนิทกับมิยองเธอน่าจะรู้อะไรบ้างสิ...เธออาจมีปัญหากับครอบครัวก็ได้” “ไม่มีนะ...”
“เราควรไปถามมิยอง เราควรจะให้เธอเปิดใจ” ผมเสนอ
หลังจากการอบรมอันน่าเบื่อจบลงผมกับคิมก็ตัดสินใจจะไปหามิยองที่บ้านกันทันทีเพราะว่ามิยองไม่รับโทรศัพท์ พอโทรเข้าเบอร์บ้านจึงได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
“ฉันไม่เคยรู้เลยว่ามิยองอยากเรียนด้านศิลปะ...ฉันนึกว่าเธออยากเป็นหมอมาตั้งนาน” คิมบอกเศร้าๆ
“อย่าว่าแต่เธอเลย ขนาดครอบครัวของมิยองก็ยังไม่รู้เพิ่งมารู้เมื่อวานเหมือนกันนั่นแหละ” ผมปลอบก่อนที่เราจะเรียกแท็กซี่ไปบ้านมิยอง
“ฉันได้ยินเรื่องมิยองมา พวกนายจะไปหาเธอที่บ้านใช่หรือเปล่า? ให้ฉันไปด้วย” ว่าแล้วก็ไม่รอคำตอบยอลที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมา รีบก้าวขึ้นรถไปอย่างถือวิสาสะ ผมจะอ้าปากค้านแต่คิมไม่อยากใส่ใจผลักผมเข้าไปในรถ
แม่ของมิยองเปิดประตูต้อนรับพวกเราที่มาเยี่ยมมิยอง โดยแม่ขึ้นไปเรียกมิยอง พอมิยองรู้ว่าพวกเรามาก็ชวนให้ไปคุยที่ห้องนอน ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเมื่อเห็นว่าสีหน้าลูกสาวดูดีขึ้น
“เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับเธอบ้างแต่เธอโอเคนะ?” คิมถามอย่างห่วงใย มิยองหยักหน้าแต่สีหน้ายังเศร้าๆอยู่
“เธอน่าจะลองคุยกับพ่อเธอดีๆนะ ท่านอาจจะเข้าใจ” คิมเสนอ มิยองส่ายหน้า
“พ่อไม่มีทางยอมหรอก...ฉันรู้ดี”
“คือว่า...เรามีอีกเรื่องนึงอยากจะถามน่ะ” คิมเริ่มเปิดประเด็น ก่อนจะอึกอักไม่กล้าถาม ส่งสายตาให้ผมช่วยพูดอีกแรง
“เรื่องคนร้ายที่กรีดป้ายน่ะ...เธอรู้มั้ยว่ามันเป็นใคร?” คิมสังเกตมิยองทันที มิยองหลบตาก่อนจะปฏิเสธ
“ฉันไม่รู้”
“คือว่าเราไม่ได้จะปรักปรำหรอกแต่เราคิดว่า...” คิมกำลังจะถามถึงจุดนั้นจู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“คุณหนูคะ...คุณพ่อกลับมาแล้วค่ะ ต้องการให้คุณหนูลงไปพบ ท่านมีเรื่องจะพูดด้วยน่ะค่ะ” ป้าแม่บ้านบอกเสียงสุภาพ
“............” ไม่มีคำตอบจากปากมิยอง เธอหน้าเศร้าอีกครั้งก่อนจะบอกให้พวกเรารออยู่ข้างบนก่อน พวกเราก็ได้แต่พยักหน้ารับทราบ
เมื่อเธอเดินออกไป สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นหมวกแก๊ปเจ้าปัญหาที่ทำให้เราเชื่อว่าเป็นของของคนร้าย
“หมวกใบนั้น” ผมสะกิดคิมก่อนจะชี้ไปที่หมวกต้นเหตุ
“แต่ใครก็มีได้” คิมแย้ง
ก่อนที่จะมาหาหลักฐานกันต่อ เสียงจากข้างล่างที่ฟังดูเหมือนเสียงคนทะเลาะกันก็ดังขึ้น จนพวกเราตัดสินใจแอบไปดูที่เชิงบันได
“นี่ลูกคิดจะลองดีกับพ่อใช่มั้ย?!” มาร์ถามเสียงแข็งอย่างเกรี้ยวกราด มิยองจ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัว
“ค่ะ...ชีวิตหนู หนุจตะไม่ยอมให้ใครมาขีดเส้นแบ่งชะตาของหนูเด็ดขาด หนูเลือกทางเดินชีวิตที่หนูรักได้แล้ว พ่ออย่ามาห้ามหนูเลยจะดีกว่า”
“แกคิดจะฝันลมๆแล้งๆไปอีกนานแค่ไหน...แกรู้มั้ยว่าแกหาอะไรไม่ได้เลยกับอาชีพที่แกเพ้อเจ้ออยู่ แกจะไปหาเงินที่ไหนมาเลี้ยงปากท้องของตัวเอง”
“หนูไม่ทำให้ตัวเองลำบากหรอกค่ะ...หนูจะหารายได้จากการวาดรูป เปิดแกลรอลี่ของหนู...” มิยองเถียง
พวกผมแอบมองอย่างระทึก เกือบลืมหายใจ ไม่เคยเห็นมิยองเป็นแบบนี้มาก่อน
“พออายใช่มั้ยคะ? ที่ลูกสาวของพ่อจะต้องไปกัดก้อนเกลือกิน ในขณะที่พ่อรวยล้นฟ้า พ่อไม่ได้ห่วงหนูจริงหรอกที่พ่อทำไปเพราะพ่อเห็นแก่หน้าของตัวเอง พ่อไม่เคยแคร์ความรู้สึกหนูเลย!” มิยองโพล่งระบายทั้งน้ำตา
เพี๊ยะ!
ใบหน้าเรียวของมิยองถูกผู้เป็นบิดาตบหน้าหัน มิยองหน้าชา ตัวสั่นเทิ้ม ท่ามกลางผู้เป็นแม่ที่ยืนปิดปากอย่างตกใจก่อนจะเข้าไปห้าม
“อย่าทำอะไรลูกเลยนะคะคุณ...คุยกันดีๆเถอะ”
“ก็ดูลูกสาวตัวดีของคุณสิ จองหองพองขนใหญ่แล้ว!”
“ถ้างั้นพ่อก็ต้องทนกับความอับอายหน่อยนะคะ...ว่าคนร้ายที่กรีดป้ายโฆษณาของพ่อตัวเองก็คือลูกสาวของพ่อนั่นแหละ!” มิยองโพล่งออกไปอย่างสะใจแต่ก็ปวดใจไปคราวเดียวกันที่ต้องพูดออกไปแบบนั้น
มาร์เหมือนถูกตบหน้า หน้าชาแทบไปไม่ถูก
“แกว่าอะไรนะ? คนร้าย...คือแกหรอ” มาร์ถามเสียงอ่อนลง
“ใช่ค่ะ! จับหนูเลยสิคะ...พ่อจะได้ไม่ต้องมาทนเห็นหน้าหนูอีกไง”
“มิยอง!” แม่ก็ตกใจไม่แพ้กัน มิยองปาดน้ำตาก่อนจะบอก
“หนูคิดจะไปมอบตัวกับตำรวจพรุ่งนี้เช้า อยากสั่งเสียอะไรกันหน่อยมั้ยคะ?” มิยองควบคุมตัวเองไม่อยู่พูดออกมาเหมือนคนเสียสติ มาร์สบตาลูกสาวก่อนจะมองลงไปให้ลึกถึงสิ่งต่างๆในนัยตาของเธอ
ความเจ็บปวด ท้อแท้ สิ้นหวังและเสียใจ ของลูก เหมือนเป็นมีดที่ทิ่มแทงดวงใจของคนเป็นพ่อแม่เสียยิ่งกว่าอะไร
เขาทำร้ายจิตใจลูกสาวถึงเพียงนี้เลยหรือ?
นี่คือสายตาที่แสดงออกออกมาของมาร์ที่พวกผมเห็น ก่อนที่มิยองจะเป็นลมล้มพับลงไป
ก่อนที่มิยองจะถูกพยุงขึ้นมาบนห้องนอน ซึ่งมีแม่ของเธอคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ แม่พวกผมอย่างรอให้เอฟื้นขึ้นมาก่อน แต่เพราะสถานการณ์ที่ตึงเครยดเกินไป แม่เลยขอให้พวกผมกลับกันไปก่อนอย่างเสียไม่ได้...
คิมที่เห็นเหตุการณ์มาโดยตลอดพลางร้องไห้ตามอย่างสงสารและเห็นใจ โดยมีมียอลกุมมือปลอบโยนอยู่ตลอดเวลา...
ตอนที่ 7- 8 มันดราม่าไปหน่อยนะคะ -..-
แต่ตอนต่อๆไปจะกลับมากุ๊กกิ๊กกันเหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะ
สปอยตอนที่ 9 :: หลังจากที่จุน คิมได้ที่อยู่ของสำนักหมอผี พวกเขาและมิยองก็ได้บุกไปลองวิชากันถึงที่ โดยมียอลแอบสะกดรอยตามไปติดๆ
อยากรู้ว่าพวกเขาจะกลับคืนร่างเดิมได้มั้ย? ไปติดตามกันอนหน้านะจ๊ะ
ความคิดเห็น