ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Switch สลับขั้วมาลุ้นรัก

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8 : สิ่งที่อยู่ก้นบึ้งในหัวใจ (2.2) [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 55


    BA B O!


    ตอนที่ 8

                   

                    ผมตั้งใจเอาที่อยู่ของสำนักหมอผีมาอวดมิยองและคิมแต่ผลไม่ได้เป็นไปตามคาดเมื่อผมไม่พบใครเลยนอกเสียจากความว่างเปล่าในห้องเรียน... ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีอบรมพิเศษนักเรียนชั้นม.6ต้องเข้าร่วมอบรมทุกคน ผมจึงรีบบึ่งไปยังห้องประชุมใหญ่ทันที...

                ผมเข้าไปนั่งที่โต๊ะว่างที่อยู่หน้าสุดก่อนจะพบว่าคนที่นั่งข้างๆคือคิม ผมยิ้มให้หนึ่งทีก่อนจะกระซิบบอกเรื่องหมอผีที่หาไว้

                “ได้แล้วหรอ?” คิมถามผมเบาๆ ซึ่งผมก็พยักหน้าตอบ

                “ฉันต้องบอกให้มิยองรู้”

                “มิยองไม่มาไม่รู้เป็นอะไร” คิมบอก

                “อ้าวหรอ? เสียดายจัง ฉันอุตส่าห์ตั้งใจบอกมิยองคนแรกเลยนะ”

                “อาจเพราะเรื่องครอบครัวของเธอก็ได้นะ” คิมแสดงความคิดเห็น ผมคิดตามแต่คิดว่าไม่น่าเกี่ยวข้อง

                ก่อนที่พวกเราทั้งหมดจะต้องสนอกสนใจไปที่หน้าห้องประชุมที่กำลังฉายภาพวิดีทัศน์ประกอบสื่อการอบรม แต่ก็รู้นะว่าผมน่ะเด็กหลังห้องจะให้มาสนใจเรื่องพวกนี้คงไม่มีทาง ระหว่างที่วิทยากรพูดๆไป สอมงผมก็คิดอะไรไปเรื่อย...จู่ๆผมก็คิดถึงเรื่องมิยองขึ้นมาซะงั้นล่ะ

                มิยอง สาวสวยน่ารักเพื่อนสุดหวงของยัยคิม ผมคุยกับเธอครั้งแรกเมื่อตอนที่ไปหลีเธอจนเกิดศึกน้ำลายกับยัยคิม ต้นเหตุของการสลับร่าง!

              ก่อนที่ผมจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเธอก็ตอนนั้นสินะ ตอนที่พิมมี่ชวนไปดูร้องเพลงของเธอที่ผับ แล้วผมก็บังเอิญเจอกับมิยอง...มิยองที่หน้าตาตื่นและเพิ่งกลับมาจากงานศพ...งานศพ?...เดี๋ยวนะ วันนั้นที่ผมเห็นเธอ...

     

    เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงเดฟสีเดียวกัน กับหมวกแก๊ปสีดำลายธงชาติสหรัฐฯ

     

    เดี๋ยวสิ! นั่นมันมิยองนี่นา!!! ย่านนั้นมันย่านผับที่เราเพิ่งไปกันนี่ แล้วคนร้ายในข่าวนั้น อย่าบอกนะว่าคือ...

    “ม่ายยยยยยยยยยยยย!!!” ผมตะโกนออกมาอย่างรับไม่ได้ ก่อนที่ทั้งห้องประชุมจะเงียบสงัด หันมามองที่ต้นเสียงซึ่งก็คือผมเป็นตาเดียว ยัยคิมถอกผมเบาก่อนจะเหน็บว่า

    “เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ยาหมดฤทธิ์รึไง?” ผมหน้าเหวอ มองไปรอบๆข้างก่อนจะยกมือไหวืขอโทษไปทั่ว ก่อนที่การบรรยายจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง

    “คนร้ายที่กรีดป้ายน่ะ...ฉันคิดว่า...คือมิยอง!” ผมกระซิบบอกคิมเบาๆ คิมดูตกใจไม่น้อยก่อนจะปฏิเสธ

    “เป็นไปไม่ได้ คนอย่างมิยองน่ะหรอจะเป็นคนร้ายแล้วอีกอย่างมิยองจะทำไปเพื่ออะไรในเมื่อนั่นมันบริษัทพ่อของเธอนะ”

    “แต่ในข่าวก็บอกไม่ใช่หรอว่าแถวนั้นมันย่านผับที่เราไปมา อีกอย่างวันเวลาก็ตรงกัน...แล้วชุดคนร้ายในข่าวก็เหมือนกับ...” พูดไม่ทันจบ ยัยคิมก็ยกมือขึ้นให้หยุด

    “ในบอกเหตุผลมาซิ ทำไมมิยองต้องทำแบบนั้นด้วย?”คิมย้อนถามเสียงแข็ง

    “เธอเป็นเพื่อนสนิทกับมิยองเธอน่าจะรู้อะไรบ้างสิ...เธออาจมีปัญหากับครอบครัวก็ได้”         “ไม่มีนะ...”

    “เราควรไปถามมิยอง เราควรจะให้เธอเปิดใจ” ผมเสนอ

     

    หลังจากการอบรมอันน่าเบื่อจบลงผมกับคิมก็ตัดสินใจจะไปหามิยองที่บ้านกันทันทีเพราะว่ามิยองไม่รับโทรศัพท์ พอโทรเข้าเบอร์บ้านจึงได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

    “ฉันไม่เคยรู้เลยว่ามิยองอยากเรียนด้านศิลปะ...ฉันนึกว่าเธออยากเป็นหมอมาตั้งนาน” คิมบอกเศร้าๆ

    “อย่าว่าแต่เธอเลย ขนาดครอบครัวของมิยองก็ยังไม่รู้เพิ่งมารู้เมื่อวานเหมือนกันนั่นแหละ” ผมปลอบก่อนที่เราจะเรียกแท็กซี่ไปบ้านมิยอง

    “ฉันได้ยินเรื่องมิยองมา พวกนายจะไปหาเธอที่บ้านใช่หรือเปล่า? ให้ฉันไปด้วย” ว่าแล้วก็ไม่รอคำตอบยอลที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมา รีบก้าวขึ้นรถไปอย่างถือวิสาสะ ผมจะอ้าปากค้านแต่คิมไม่อยากใส่ใจผลักผมเข้าไปในรถ



    แม่ของมิยองเปิดประตูต้อนรับพวกเราที่มาเยี่ยมมิยอง โดยแม่ขึ้นไปเรียกมิยอง พอมิยองรู้ว่าพวกเรามาก็ชวนให้ไปคุยที่ห้องนอน ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเมื่อเห็นว่าสีหน้าลูกสาวดูดีขึ้น

    “เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับเธอบ้างแต่เธอโอเคนะ?” คิมถามอย่างห่วงใย มิยองหยักหน้าแต่สีหน้ายังเศร้าๆอยู่

    “เธอน่าจะลองคุยกับพ่อเธอดีๆนะ ท่านอาจจะเข้าใจ” คิมเสนอ มิยองส่ายหน้า

    “พ่อไม่มีทางยอมหรอก...ฉันรู้ดี”

    “คือว่า...เรามีอีกเรื่องนึงอยากจะถามน่ะ” คิมเริ่มเปิดประเด็น ก่อนจะอึกอักไม่กล้าถาม ส่งสายตาให้ผมช่วยพูดอีกแรง

    “เรื่องคนร้ายที่กรีดป้ายน่ะ...เธอรู้มั้ยว่ามันเป็นใคร?” คิมสังเกตมิยองทันที มิยองหลบตาก่อนจะปฏิเสธ

    “ฉันไม่รู้”

    “คือว่าเราไม่ได้จะปรักปรำหรอกแต่เราคิดว่า...” คิมกำลังจะถามถึงจุดนั้นจู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

    “คุณหนูคะ...คุณพ่อกลับมาแล้วค่ะ ต้องการให้คุณหนูลงไปพบ ท่านมีเรื่องจะพูดด้วยน่ะค่ะ” ป้าแม่บ้านบอกเสียงสุภาพ

    “............” ไม่มีคำตอบจากปากมิยอง เธอหน้าเศร้าอีกครั้งก่อนจะบอกให้พวกเรารออยู่ข้างบนก่อน พวกเราก็ได้แต่พยักหน้ารับทราบ

    เมื่อเธอเดินออกไป สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นหมวกแก๊ปเจ้าปัญหาที่ทำให้เราเชื่อว่าเป็นของของคนร้าย

    “หมวกใบนั้น” ผมสะกิดคิมก่อนจะชี้ไปที่หมวกต้นเหตุ

    “แต่ใครก็มีได้” คิมแย้ง

    ก่อนที่จะมาหาหลักฐานกันต่อ เสียงจากข้างล่างที่ฟังดูเหมือนเสียงคนทะเลาะกันก็ดังขึ้น จนพวกเราตัดสินใจแอบไปดูที่เชิงบันได

    “นี่ลูกคิดจะลองดีกับพ่อใช่มั้ย?!” มาร์ถามเสียงแข็งอย่างเกรี้ยวกราด มิยองจ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัว

    “ค่ะ...ชีวิตหนู หนุจตะไม่ยอมให้ใครมาขีดเส้นแบ่งชะตาของหนูเด็ดขาด หนูเลือกทางเดินชีวิตที่หนูรักได้แล้ว พ่ออย่ามาห้ามหนูเลยจะดีกว่า”

    “แกคิดจะฝันลมๆแล้งๆไปอีกนานแค่ไหน...แกรู้มั้ยว่าแกหาอะไรไม่ได้เลยกับอาชีพที่แกเพ้อเจ้ออยู่ แกจะไปหาเงินที่ไหนมาเลี้ยงปากท้องของตัวเอง”


    “หนูไม่ทำให้ตัวเองลำบากหรอกค่ะ...หนูจะหารายได้จากการวาดรูป เปิดแกลรอลี่ของหนู...” มิยองเถียง

    พวกผมแอบมองอย่างระทึก เกือบลืมหายใจ ไม่เคยเห็นมิยองเป็นแบบนี้มาก่อน

    “พออายใช่มั้ยคะ? ที่ลูกสาวของพ่อจะต้องไปกัดก้อนเกลือกิน ในขณะที่พ่อรวยล้นฟ้า พ่อไม่ได้ห่วงหนูจริงหรอกที่พ่อทำไปเพราะพ่อเห็นแก่หน้าของตัวเอง พ่อไม่เคยแคร์ความรู้สึกหนูเลย!” มิยองโพล่งระบายทั้งน้ำตา

    เพี๊ยะ!

    ใบหน้าเรียวของมิยองถูกผู้เป็นบิดาตบหน้าหัน มิยองหน้าชา ตัวสั่นเทิ้ม ท่ามกลางผู้เป็นแม่ที่ยืนปิดปากอย่างตกใจก่อนจะเข้าไปห้าม

    “อย่าทำอะไรลูกเลยนะคะคุณ...คุยกันดีๆเถอะ”

    “ก็ดูลูกสาวตัวดีของคุณสิ จองหองพองขนใหญ่แล้ว!


    “ถ้างั้นพ่อก็ต้องทนกับความอับอายหน่อยนะคะ...ว่าคนร้ายที่กรีดป้ายโฆษณาของพ่อตัวเองก็คือลูกสาวของพ่อนั่นแหละ! มิยองโพล่งออกไปอย่างสะใจแต่ก็ปวดใจไปคราวเดียวกันที่ต้องพูดออกไปแบบนั้น

    มาร์เหมือนถูกตบหน้า หน้าชาแทบไปไม่ถูก

    “แกว่าอะไรนะ? คนร้าย...คือแกหรอ” มาร์ถามเสียงอ่อนลง

    “ใช่ค่ะ! จับหนูเลยสิคะ...พ่อจะได้ไม่ต้องมาทนเห็นหน้าหนูอีกไง”


    “มิยอง!” แม่ก็ตกใจไม่แพ้กัน มิยองปาดน้ำตาก่อนจะบอก

    “หนูคิดจะไปมอบตัวกับตำรวจพรุ่งนี้เช้า อยากสั่งเสียอะไรกันหน่อยมั้ยคะ?” มิยองควบคุมตัวเองไม่อยู่พูดออกมาเหมือนคนเสียสติ มาร์สบตาลูกสาวก่อนจะมองลงไปให้ลึกถึงสิ่งต่างๆในนัยตาของเธอ

    ความเจ็บปวด ท้อแท้ สิ้นหวังและเสียใจ ของลูก เหมือนเป็นมีดที่ทิ่มแทงดวงใจของคนเป็นพ่อแม่เสียยิ่งกว่าอะไร


    เขาทำร้ายจิตใจลูกสาวถึงเพียงนี้เลยหรือ?

    นี่คือสายตาที่แสดงออกออกมาของมาร์ที่พวกผมเห็น ก่อนที่มิยองจะเป็นลมล้มพับลงไป 


    ก่อนที่มิยองจะถูกพยุงขึ้นมาบนห้องนอน ซึ่งมีแม่ของเธอคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ แม่พวกผมอย่างรอให้เอฟื้นขึ้นมาก่อน แต่เพราะสถานการณ์ที่ตึงเครยดเกินไป แม่เลยขอให้พวกผมกลับกันไปก่อนอย่างเสียไม่ได้...

    คิมที่เห็นเหตุการณ์มาโดยตลอดพลางร้องไห้ตามอย่างสงสารและเห็นใจ โดยมีมียอลกุมมือปลอบโยนอยู่ตลอดเวลา...
     



    ตอนที่ 7- 8 มันดราม่าไปหน่อยนะคะ -..-

    แต่ตอนต่อๆไปจะกลับมากุ๊กกิ๊กกันเหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะ

     

    สปอยตอนที่ 9 :: หลังจากที่จุน คิมได้ที่อยู่ของสำนักหมอผี พวกเขาและมิยองก็ได้บุกไปลองวิชากันถึงที่ โดยมียอลแอบสะกดรอยตามไปติดๆ
    อยากรู้ว่าพวกเขาจะกลับคืนร่างเดิมได้มั้ย? ไปติดตามกันอนหน้านะจ๊ะ




     

     



     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×