คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 : สิ่งที่อยู่ก้นบึ้งในหัวใจ (1) [100%]
นอกจากสายตาจะไม่ละไปจากยอลแล้ว หัวใจเจ้ากรรมยังมันสั่นตุ้มๆต่อมๆเป็นจังหวะกลองสามช่าอีกด้วย ก่อนที่ยอลจะขมวดคิ้วเล็กน้อยเอ่ยถามขึ้นมา
“ทำไมใจเต้นแรงจัง?” ฉันสะอึกไม่คิดว่าเขาจะรู้สึกถึงจังหวะหัวใจของฉัน ก่อนที่ฉันจะบ่ายเบี่ยงพร้อมยันตัวเองออกจากอ้อมกอดเขา
“เปล่าซะหน่อย...ฉันแค่เหนื่อย” ยอลส่งยิ้มมานิดๆเหมือนจะบอกว่านายไม่เนียนเอาซะเลย
“แล้วนี่นายจะรีบไปไหนกัน?”
“เอ๊ะ?! อ๋อ...คือว่าฉันจะรีบไปเรียนไง” ฉันโกหกไป ยิ่งทำให้ยอลขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
“เรียนหรอ? อย่านายเนี่ยนะ?”
“ย๊าาาา!” ฉันแกล้งคำรามออกมาให้เขาเลิกซักไซ้และสงสัยเสียทีและก็ได้ผลเขาจ๋อยไปก่อนจะไม่กล้าถามอะไรฉันอีกเลย
ระหว่างที่เราสองคนเดินไปตามทางเพื่อมุ่งหน้าไปห้องเรียนจู่ๆก็มียัยหน้าขาวที่ไหนก็ไม่รู้เขามากรีดร้องวี้ดว้ายเข้ามากระโจนใส่ฉัน
ตุ้บ!
ฉันอ้าปากจะโวยวายแต่ก็ไม่ทันปากเจ้าหล่อนที่ไวกว่า ฉันเซถลาไปชนกำแพง มันเจ็บนะยัยบ้านี่!
” หล่อนพูดพลางทุบฉันอย่างหนัก ฉันก็ได้แต่ปัดป้อง ส่วนยอลก็ยืนมองอย่างงงๆ “พี่จุนคนบ้า คนบ้าๆๆๆๆ!
” ฉันตะคอกถามหล่อนเสียงดังหลังจากที่ฉันผลักหล่อนออกไปได้ หล่อนทำหน้าอึ้งๆอย่างตกใจ ก่อนจะปรับโหมดอารมณ์เปลี่ยนเป็นหน้าเศร้าๆเหมือนจะร้องไห้ “เป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย!
ร้องทำไมวะ? “พี่จุนตะคอกใส่ฉันหรอ?” ว่าแล้วน้ำใสๆก็ระเบิดออกมาจากดวงตากลมโตของหล่อน ฉันอึ้งเลยวินาทีนั้นอ่ะ เฮ้ย!
“นี่เธอ!” ฉันจับแขนเธอเขย่าเล็กน้อยจะบอกให้เธอหยุดแต่เธอกลับยิ่งแผดเสียงร้องดังขึ้นๆจนคนรอบข้างหันมามองเป็นตาเดียว
“หยุดร้องก่อน หยุดร้อง...โอ๊ย! ขอร้องล่ะหยุดร้องซะทีถอะ” ฉันยกมือขึ้นมาไหว้ขอร้องเจ้าหล่อนที่งอแงเป็นเด็กโดนขัดใจไปได้
“ฮือ...ฮือ...” เจ้าหล่อนกระซิกๆ
“เธอเป็นอะไรของเธอเนี่ย?” ฉันถามอย่างอดไม่ได้
“ก็พี่จุนผิดสัญญากับพิมก่อนนี่นา...ฮือ...”
“ผิดสัญญา? ฉันไปสัญญาอะไรกับเธอ” ฉันถามเสียงแข็งอย่างลืมตัว จนยัยพิมเริ่มร้องไห้หนักขึ้นอีก(ครั้ง)
“โอเคๆ...ใจเย็นๆ” ฉันปลอบแต่ยัยพิมไม่สนใจ ยอลซึ่งหลบมาอยู่ข้างหลังพิมได้บุ้ยใบ้ให้ฉันเข้าไปกอดปลอบซะ
ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงดี คนก็เริ่มมองและซุบซิบนินทากันเสียงดังแข่งกับเสียงร้องไห้ ฉันเลยต้องตามน้ำเขาไปกอดปลอบเบาๆ จนพิมเริ่มหยุดร้องไห้
ฉันเริ่มทนกับสายตารุมทึ้งฉันของคนรอบข้างไม่ไหว เลยพาพิมออกไปคุยที่อื่น ก่อนที่พิมจะโผเข้ามากอดอย่างลูกแมวต้องการความรัก
“พี่จุนน่ะใจร้าย...สัญญาว่าจะไปดูพิมร้องเพลง แล้วทำไมไม่ยอมมา...รู้มั้ย?ว่าพิมรอพี่อยู่คนเดียวนะ”
“เอ่อ...พี่ขอโทษ” ฉันไม่รู้จะอธิบายกับเธอยังไง เลยต้องเข้าสู้โหมดคำตอบแสนเบสิก = =;;
“พี่ไปไหนมา?” พิมดันตัวเองออกมาก่อนจะมองตาอย่างต้องการคำตอบ ฉันล่ะกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ฉันไม่รู้จะตอบยังไง ถ้าเกิดตอบผิดขึ้นมาให้พิมต้องสงสัยและซักถามอีก คงเป็นเรื่องบานปลายน่าดู ฉันจึงส่งสายตาไปเว้าวอนขอให้ยอลช่วย ซึ่งเขาก็รับรู้และเต็มใจช่วยอย่างเต็มที่
“พิมมี่! ...คือว่าเมื่อวันนั้นจุนไปกับพี่เองล่ะ ขอโทษด้วยนะ...คือพี่ให้จุนไปช่วยขนของหน่อยน่ะเลยไม่ได้ไปหาพิม”
พิมมองยอลอย่างค้อนๆแต่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยจุนก็ไปกับเพื่อน ไม่ได้ไปกับผู้หญิงอื่น พิมส่งยิ้มหวานมาให้ฉันก่อนจะควงแขนฉันพร้อมกับมากระซิบข้างหูฉัน
“วันศุกร์นี้พี่ต้องมาให้ได้นะ...ถ้าคราวนี้พี่ไม่มาล่ะก็...พี่-ตาย-แน่!” หล่อนย้ำประโยคหลังอย่างเอาจริง ฉันขนลุก สยองไปตามๆกัน ก่อนจะยิ้มแห้งๆ พยักหน้ารับปากไปอย่างตัดปัญหา
ณ บ้านเลขที่ 918 บ้านของมิยอง...
มิยองสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งทีก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านของตนเอง
"คุณหนูกลับมาแล้วหรอคะ?" คุณป้าแม่บ้านวัยกลางคนส่งเสียงพร้อมรอยยิ้มทักทายคุณหนูน้อยของหล่อน มิยองไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มบางๆตอบรับเท่านั้น
“คุณพ่อรออยู่น่ะค่ะ” ป้าแม่บ้านบอกขัดขึ้นมาก่อนเมื่อเห็นว่ามิยองเตรียมขึ้นข้างบนบ้าน
มิยองชะงัก สีหน้าบอกถึงความเบื่อหน่ายและอมทุกข์ จนป้าแม่บ้านสังเกตเห็น
“คุณหนู”
“หนูไม่เป็นไรค่ะป้าอบ” มิยองบอกไปอย่างนั้น ทั้งที่ในใจแทบอยากจะถอยหนี
มิยองเข้าไปหา มาร์ คุณพ่อของเธอที่ห้องทำงานด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของหล่อน
“เป็นยังไงบ้าง? วันนี้เรียนเหนื่อยมั้ย?” คุณพ่อถามเสียงเรียบเหมือนทุกครั้ง
มิยองลอบแสยะยิ้มอย่างน่าสมเพช เขาไม่ได้ห่วงอย่างที่ปากบอกหรอก ทุกอย่างมันก็แค่เกมของพ่อเท่านั้น
“ก็ดีค่ะ” หญิงสาวบอกปดทั้งๆที่ความจริงหล่อนแทบตาย
“เทอมนี้สำคัญพ่อไม่อยากให้ลูกพลาดกับเทอมนี้” พ่อเงยหน้าขึ้นมาสบตาเหมือนกดดันไปในตัว มิยองจ้องตอบนิ่งๆไม่สะทกสะท้าน
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับสั้นๆก่อนจะเสมองไปทางอื่น พ่อดูเหมือนจะรู้ว่าลูกสาวไม่ค่อยพอใจเขาเท่าไรจึงไล่หล่อนไปอ่านหนังสือ มิยองจึงลุกขึ้นออกไปทันที
อีกครั้งที่หล่อนรู้สึกถึงความน่าเบื่อและความน่าสมเพช ที่ห้องนอนสีชมพูสไตล์วินเทจที่ป้าอบจัดเตรียมไว้ให้อย่างภูมิใจและเชื่อว่ามันเหมาะกับคุณหนูของป้าที่สุด ทุกสิ่งไม่ได้มาจากความชอบ ความต้องการของตัวหล่อนเลย คนอื่นต่างห่างที่ชอบมัน ที่อยากให้เป็นอย่างที่พวกเขาต้องการ
ชีวิตของเธอเหมือนนกน้อยในกรงทอง สุขสบายแต่ไร้ความสุข...
เวลา 22.00 นาฬิกา
ถนนแสงสียามค่ำคืน คนชุดดำปิดบังตัวอย่างมิดชิดเดินไปตามถนนคนเดินยามค่ำคืนอย่างไร้พิรุธ แต่ทว่ามือที่สวมถุงมือดำนั้นกำลังหยิบคัตเตอร์ออกมาแล้วไปหยุดที่ป้ายโฆษณาของบริษัทเงินทุนอย่างSouth se-coin ก่อนจะลงมือกรีดใบโบชัวร์อย่างคั่งแค้น ท่ามกลางสายตาของคนที่เดินผ่านไปมาที่พากันตกใจในพฤติกรรมของคนชุดดำปริศนานี้ ก่อนที่เขาจะมองผลงานตนเองอย่างพอใจ แล้วเดินหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย…
รุ่งเช้า
ข่าวการถูกคนปริศนาทำลายป้ายโฆษณาของบริษัทเงินทุนนี้ได้ถึงหูของมาร์ซึ่งเป็นประธานบริษัทดังกล่าว เขาถึงกับลมออกหูประกาศให้จับตัวมันมาให้ได้ พร้อมกับสงสัยว่าใครกันที่ทำเช่นนี้
โต๊ะอาหารในยามเช้าจึงเต็มไปด้วยความตึงเครียดและอึดอัด เพราะประมุขใหญ่อารมณ์เสียจนทุกคนต่างเกรงกลัว ยกเว้นมิยองที่ไม่สนใจ ไม่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นนเดียวกินอาหารอย่างปกติ จนมาร์เห็นแล้วขวางหูขวางตา ที่ลูกสาวคไม่เดือดเนื้อร้อนใจบ้างเลย ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย มาร์จึงลุกขึ้นออกไปทันที
มิยองเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองตามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะกลับมากินอาหารต่อ ผู้เป็นมารดามองมิยองอย่างหนักใจก่อนจะลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่แพ้กัน...
ความคิดเห็น