ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Switch สลับขั้วมาลุ้นรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : OMG!!! [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 55


    ข้างบนไอคอนเว็บ Free Lines - Working In Backgroundข้างบนเม้า
    © Tenpoints ! ข้างบนเป็นโค้ด  

    ตอนที่ 2

     Tumblr-girl-black-and-white-shirt_large

                    แสงสว่างวาบทำให้ฉันเลือกที่จะกลับหลังหันให้กับมัน ความมืดคงเป็นทางเดียวที่จะทำให้ฉันรอดพ้นจากความสว่าง ฉันตัดสินเดินไปยังความมืด โดยไม่หันกลับไปมองอีกด้าน หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังของฉันได้สะท้อนเงาท่ามกลางแสงสว่างของตัวฉันอีกคนอยู่ในนั้น ฉันเลือกจะเดินจากมันไปเอง โดยไม่ได้เอ็ดใจแต่อย่างไร...

     

                    ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ สิ่งแรกที่ฉันเห็นก็คือฝ้าเพดานสีขาวมีรอยหยดน้ำอยู่สีน้ำตาลๆเกาะอยู่ ฉันรู้สึกไม่ชินกับสิ่งที่ได้พบเห็น ฉันลอบมองต่ำลงมายังปลายเตียงที่ฉันกำลังนอนอยู่  เตียงลักษณะนี้มันคุ้นๆนะเหมือนเตียงนอนคนไข้ในโรงพยาบาล ก่อนที่ฉันจะหายสงสัยเมื่อฉันเห็นนางพยาบาลคนหนึ่งเดินผ่านเตียงฉันไป ก่อนที่ฉันจะละความสนใจจากนางพยาบาลคนนั้น เมื่อฉันได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

                    “ฟื้นแล้วหรอ?” เสียงนุ่มลึกของผู้ชายดังขึ้นมาข้างๆหูฉัน เสียงใครกันนะ ฉันไม่คุ้นเลย ว่าแล้วก็หันขวับไปยังต้นเสียง

                    “นาย!” ฉันอุทานด้วยความตกใจ นายที่ฉันเรียกไม่ใช่ใครนอกจาก ยอลเพื่อนร่วมห้องของฉันมาตั้งแต่อยู่   ม.ปลาย ฉันไม่เคยคุยกับเขา อย่างมากก็พูดกันเรื่องงาน

                    “เป็นยังไงบ้าง โอคะใช่มั้ย?” เขาถามฉันอีก ดูสีหน้าและน้ำเสียงของเขามันบ่งบอกว่าเขาเป็นห่วงฉันมากแค่ไหน อะไรกันล่ะเนี่ย? ทำไมต้องแสดงออกขนาดนั้นด้วยล่ะ?

                    “ฉันโอเค..ว่าแต่นายเถอะ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?” ฉันถามออกไปตามใจนึก เขาขมวดคิ้วงงๆกับคำถาม

                    “ก็นายสลบไปก่อนถูกส่งมาโรงพยาบาล ฉันเป็นห่วงก็เลยมาเฝ้าไง”

                    สต็อป!!! เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้นี้เขาเรียกฉันว่าอะไรนะ? นาย หรอ? เฮอะ! จะมาแซวฉันว่าเป็นทอมเหมือนเพื่อนของแกใช่มั้ยยะ!!!!

     

                    “ช่างเป็นการทักทายที่ดีนะ!” ฉันประชดเขาหนึ่งที ก่อนจะหันหน้ากลับมาที่เดิมอย่างไร้อารมณ์

                    “อะไรหรอ?...ว่าแต่เป็นไงบ้างล่ะ ตอนที่ชนน่ะ” เขาเปลี่ยนเรื่องทันที

                    “ไม่รู้สึกอะไร...นอกากแรงที่ปะทะเข้ามา...แล้วฉันก็เห็นแสง...ทำไมฉันต้องบอกนายด้วยเนี่ย”

                    “ดีแล้วที่นายไม่ได้เป็นอะไร หมอบอกว่าพอนายฟื้นก็กลับบ้านได้ ตอนนี้คุณแม่นายกำลังมา รอเดี๋ยวแล้วกัน” เขาบอกอย่างโล่งอก

                    แต่ที่ฉันฟังไม่ผิดเขาบอกฉันว่ายังไงนะ แม่จะมาหรอ? แค่ฉันสลบไปเนี่ยนะ ขนาดฉันขาหักแม่ฉันยังไม่มาสนใจเลย แล้วเรื่องแค่นี้แม่จะถ่อมาจากแคนาดาเลยงั้นหรอ!!!

                    “ฉันว่านายคงเข้าใจผิดแล้วล่ะ แม่ฉันน่ะหรอจะมา...ฉันจะไปจ่ายเงิน แล้วจะออกจากโรงพยาบาล” ว่าแล้วฉันก็ลุกลงจากเตียงโดยไม่ฟังคำคัดค้านจากยอลที่ห้ามไม่ให้ไปเพราะต้องรอแม่ที่เขาอ้างนั่นเอง

                    “อย่า-ขวาง!!” ฉันขู่เสียงแข็งก่อนจะสะบัดก้นเดินออกไปอย่างหญิงถึก ยอลหน้าเหวอไปก่อนจะรวบรวมสติกลับมารีบตามฉันออกไป

                    ฉันหลบไปอีกมุมหนึ่งเพื่อไม่ให้ยอลตามมาได้ ฉันค่อนข้างเซ็งๆนิดหน่อยที่ต้องมาเข้าโรงพยาบาลเพราะนายสะดือจุ่นนั่น ว่าไปแล้วฉันก็ยังไม่รู้ว่าตกลงใครชนะกันแน่ ระหว่างที่ในหัวกำลังครุ่นคิดเรื่องราวต่างๆ ฉันก็เดินสวนกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งคลับคล้ายคลับคลาหน้าคุ้นๆ

                    ฉันหยุดเดินก่อนที่จะหันหลังกลับไปมอง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็หันกลับมามองฉันเหมือนกัน

                    แต่สิ่งที่ฉันเห็นก็คือ...

     

     

     

                    ตัว-ฉัน-เอง!!!

                    โอ้มายก็อด! นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย? ฉันมีฝาแฝดด้วยหรอ เฮือกกกกกก~~

                    ไม่เพียงแต่ฉันที่อึ้งและตะลึงเท่านั้น หญิงแฝดที่หน้าเหมือนฉันก็ตะลึงจังงันเช่นกัน หล่อนค่อยๆอ้าปากค้างเมื่อเบิ่งตาเห็นฉัน ก็คงไม่แปลกหรอก ขนาดฉันยังเหวอรับประทานเลย หล่อนก็คงเหมือนกับฉัน

                    “นั่นมัน...ฉันนี่นา” หญิงแฝดอุทานเสียงหลง ฉันกระพริบตาถี่ๆเรียกสติที่กระเจิงกลับคืนมา แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลสักเท่าไหร่ หล่อนก้าวเท้าตรงมาที่ฉันที่ยืนนิ่งราวกับถูกเสกด้วยมนตรา ก่อนจะยกมือเรียวบางขึ้นมาสัมผัสบนใบหน้าของฉัน เหมือนจะพิสูจน์ให้แน่ใจว่าใช่ตัวหล่อนจริงๆหรือเปล่า?

     

     

    “โอ้โนว...ไม่จริงหรอกใช่มั้ย?” หล่อนถามฉันเสียงหลง ดูเหมือนหล่อนจะช็อกยิ่งกว่าฉันเสียอีก

                    “ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน” ฉันตอบหล่อนไปเสียงแหบแห้ง ก่อนที่พวกเราพร้อมใจกันหันหลังไปยังลิฟต์ที่เปิดออก พวกเรามองไปที่กระจกในตัวลิฟต์ ก่อนจะอึ้ง ช็อก เต็มไปด้วยความสับสน ที่กำลังถาโถมเข้ามา

                    ฉันไม่ยอมให้ความสับสนตีกันวุ่นวายในหัวของฉัน ฉันลองพิสูจน์โดยยกมือข้างขวาขึ้นมาแต่สิ่งที่ฉันเห็นก็คือมือขวาที่สะท้อนภาพให้ฉันเห็นแต่มันไม่ใช่มือของฉัน มันเป็นมือของนายจุน!!!

                    ฉันหันไปมองคนข้างๆของฉันที่ยืนอึ้งอยู่ ฉันมองดูตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมลอบมองข้างๆ โดยหวังจะให้เห็นนายจุนแอบหลบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่สิ่งที่พบมีเพียงหญิงสาวที่หน้าเหมือนฉันอยู่ข้างๆกายเพียงเท่านั้น

                    ฉันวางมือไปสัมผัสบนไหล่บางของหญิงสาวฝาแฝด แล้วรอลุ้นภาพที่เห็นในกระจกเงานั้น

                    ภาพนั้นมันแสดงออกว่า นายจุนกำลังวางมือบนไหล่คนที่หน้าเหมือนฉัน ไม่ใช่สิ นายจุนกำลังวางมือบนไหล่ของตัวฉันเอง!!

                    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!” ฉันกรีดร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ ฉันรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

                    “ฉันไม่ได้ฝันใช่มั้ย?” คนหน้าเหมือนฉันถามขึ้นอย่างคนเพ้อๆ ก่อนจะจับมือของฉันฟาดลงบนแก้มบางของเจ้าตัว เหมือนพิสูจน์ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง
     

    โอ้ยยยย!” เสียงเจ้าหล่อนร้องลั่นเมื่อสัมผัสถึงความเจ็บที่แก้มนวลขาวอมชมพู หล่อนก็คงไม่ได้ฝันไปเหมือนกัน

                    “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมฉันถึงมาอยู่ในร่างของเธอ” หล่อนถามเสียงหลง

                    “แสดงว่าฉันอยู่ในร่างของนายจุนหรอ? เธอจะบอกอย่างนั้นใช่หรือเปล่า” ฉันพยายามทำความเข้าใจอะไรๆที่เกิดขึ้น

                    “ฉันคิดว่านั่นเป็นร่างของฉัน และสิ่งที่เธอพูด ฉันคิดว่าร่างที่ฉันอยู่คือร่างของเธอ” นายจุนในร่างของฉันเพยายามอธิบายให้ฉันฟัง

                    “ขอบใจนะแต่ไม่ได้ช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาเลย” ฉันพูดไปลอยๆเหมือนคนสติไม่อยู่กับร่องกับรอย

                    จะให้มีสติได้ยังไงเมื่ออยู่ในสถานการณ์บ้าๆแบบนี้

     

     

     

    “ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม????????” จุนโวยวายถามหาเหตุผล ใครมันจะไปรู้ยะ!

                    “ฉันว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติไปแน่เลย...เราต้องไปหาหมอ ให้หมออธิบาย” ว่าแล้วฉันก็ลากนายจุนในร่างของฉันตรงดิ่งไปยังห้องตรวจทันที

     

                    ด้วยความใจร้อนของฉันและนายจุน ทำให้พวกเราโผงผางบุกเข้าไปหายังห้องตรวจ ก่อนจะถามกึ่งโวยวายไปในตัวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

                    “หมอมันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา...ทำไมฉันกับนายนี่ถึงสลับร่างกันได้?” ฉันถามอย่างใจร้อน ส่วนคุณหมอก็งงๆที่จู่ๆยัยบ้าที่ไหนมาถามในเรื่องที่ปัญญาอ่อนแบบนี้

                    “เอ่อ...หมอไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร? คุณบอกว่าอะไรนะ? สลับร่างกันหรอ? ...คุณคิดจะมาอำหมอหรอ?” คุณหมอส่ายหัวกับเรื่องหลอกเด็กที่ฉันบอกไป แต่สำหรับฉันไม่ใช่เรื่องตลกนะคุณหมอ! ฉันซีเรียสนะโว้ยยยย!!!

                    “หมอ!!!” คราวนี้นายจุนโพล่งออกมาเสียงแข็งบ้าง หมอสะดุ้งก่อนจะเริ่มหวั่นๆนายจุนในร่างของฉัน ที่ดูแล้วค่อนข้างจะขัดกับบุคลิกนิดหน่อย(มั้ง?)
     

     

                    “หมอต้องจัดการทำให้เราสลับร่างคืนนะหมอ! ผมอยู่ในร่างยัยนี่ไม่ได้!” จุนโวยวายเหมือนจะขยะแขยงร่างของที่เข้าสิงอยู่ -..-

                    ฉันหน้าตึงขึ้นมาอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก นี่นายมองร่างฉันเป็นอะไรยะ? เป็นเศษผักที่นายเขี่ยทิ้งหรือไง!

                    “แล้วนึกว่าฉันอยากอยู่ร่างของนายรึไง นึกว่าหล่อตายอ่ะ!” ฉันประชดอย่างอดไม่ได้ ก็มันจริงนี่นา!!! ฮึ่มมม;P

                    “อ้าว! พูดงี้ก็สวยดิยัยทอม!” จุนเริ่มเถียงบ้าง มาเลย เอาเลย!

                    “ทำไมไอ้ตุ๊ด!!!” ฉันไม่ยอมแพ้หรอก

                    ในขณะที่เรากำลังมีปากเสียงกันอยู่ คุณหมอก็ทำหน้างงๆ มองฉันและไอ้ตุ๊ดสลับกัน ในหัวเต็มไปด้วยคำถามและความสงสัย ก่อนที่คุณหมอจะทนไม่ไหวสงบสงครามน้ำลายลง

                    “นี่พวกคุณ! ถ้าจะไปทะเลาะกันก็ช่วยทะเลาะที่อื่นด้วย หมอต้องทำงานนะคุณ” หมอของขึ้น ฉันกับนายจุนเลยต้องสงบศึกชั่วคราว

                    “ไม่ได้นะหมอ ฉันต้องกลับร่างเดิมของฉันก่อน” ฉันค้าน หมอกุมขมับบอกอย่างเหนื่อยๆ

                    “หมอได้ตรวจร่างกายของพวกคุณแล้วนะ พวกคุณไม่มีอะไรผิดปกติ  คุณก็แค่ฟกช้ำดำเขียวกันเท่านั้น หมอว่าพวกคุณคงสับสนอยู่นะ” หมอสรุปอย่างตัดบท ก่อนจะผายมือเชิญฉันและจุนออกไป ฉันจะอ้าปากเถียง พอเห็นบุรุษพยาบาลอีกสองสามคนเข้ามาหมายจะลากออกจากห้องทันทีที่ฉันพูดขึ้น ฉันจึงได้แต่ฮึดฮัดต้องออกไปแต่โดยดี...

     

     

     

     

    หลังจากออกจากห้องหมอ ฉันกับนายจุนก็ต้องมานั่งกลุ้มใจกับทางที่จะกลับคืนร่างเดิม...

                    “แล้วจะเอายังไงต่อล่ะ” ฉันถามเสียงเนือยๆอย่างเหนื่อยๆ

                    “ไม่รู้” คำตอบเสียงห้วน

                    “ไม่รู้ไม่ได้นะ ฉันจะอยู่ร่างของนายได้ยังไงกัน ฉันก็มีเรื่องให้ทำเยอะแยะ” ฉันโวยวายอย่างหัวเสีย

                    “แล้วจะให้ทำยังไงเล่า?! มันก็ต้องอยู่อ่ะ จนกว่าจะหาทางออกได้”

                    “แล้วฉันต้องอยู่บ้านนาย ใช้ร่างนาย เป็นตัวของนายเนี่ยนะ?”

                    “ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นนั่นแหละ = =” หน้าของเขาเรียบนิ่ง เหมือนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แต่ฉันมี!

                    “แม้แต่...ตอนอาบน้ำด้วยหรอ?” พอพูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็หน้าแดงขึ้นมา ส่วนเขาก็ตาลุกวาวเหมือนนึกขึ้นได้

                    “เฮ้ย!!!” เราทั้งสองพร้อมใจกันอุทานพร้อมกัน

                    ก่อนที่พวกเราจะต้องเตรียมใจยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างจำใจ ฉันต้องอยู่ในร่างผู้ชายอย่างนายจุน โอ้!!! ตาฉันคงเป็นกุ้งยิง อี๋~~~~~!!!!!!!!

    ท่ามกลางบทสนทนาอันน่าประหลาดของทั้งคู่ ได้มีบุคคลที่สามได้ยินได้ฟังเต็มสองรูหู เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งทีjได้ยิน แต่พอคิดไปคิดมา อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ถ้ามี..........

     


     

     

                    ปาปิก้า << ไม่เกี่ยว =..=

     

           จบแล้วค่ะตอนที่ 2  

    ก็รู้กันแล้วเนอะว่าสลับร่างกันแล้ว

    ตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร อย่าลืมติดตามนะคะ

    แล้วก็บุคคลที่สามจะเป็นใคร พอเดาออกมั้ยเอ่ย? ฮี่ฮี่XD

     


    Rules or not?






     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×