ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมชีวิต พลิกชะตาโลก ออนไลน์

    ลำดับตอนที่ #2 : นายขนมต้ม พระศรีอริยะไตย เริ่มเรียนวิชา (1)

    • อัปเดตล่าสุด 22 มิ.ย. 57


       ไคตื่นมาอีกที เมื่อได้ยินเสียงของพี่ขนมต้ม ปลุกให้ตื่นตอนเช้าตรู่นั่นเอง
     "ตื่น แล้วพี่ รอเดี๋ยวนะผมแก้เชือกก่อน  แล้วจะลงไปหา" ไคพูดพลางแก้เชือกที่ผูกตนกับต้นไม้ออก แล้วลงมาจากต้นไม้ สักครู่ต่อมา ไคก็มานั่ง ที่ใกล้กับขนมต้ม นั่งปิ้งเนื้อเสือสมิงตากแห้งย่างอยู่ แล้วถามว่า
      "พี่เห็นตอนที่พี่เขาใหญ่สู้กะกระหังไหม  โหดสุดยอดมากเลยพี่ พี่เขาใหญ่ตัวโตยังกะช้าง สู้กับกระหังได้ทั้งอึดทั้งทน สุดยอดมากเลยพี่ ผมนะดูไปลุ้นระทึกไป ทั้งกลัวด้วย แล้ว พี่เขาใหญ่ไปไหนแล้วละ" พูดเสร็จพลางหันซ้ายหันขวามองหาพี่เขาใหญ่ไปด้วย แต่ก็ไม่เห็นเลย
      "เฮ้ย ตื่นมายังไม่ทันล้างหน้าเลย พูดชะข้าตอบ ไม่ทันเลย เออข้าเห็น เสียงดังขนาดนั้น ไม่ตื่นก็ไม่ใช่คนแล้วโว้ย ข้าบอกเอ็งแล้ว ว่าพี่เขาเก่ง พี่เขาหมดหน้าที่แล้วก็ต้องให้พี่เขาพักเอาแรงบ้างสิวะ  ข้าเก็บไว้ที่ย่ามแล้ว  เดี๋ยวคืนนี้จะให้พี่แกเฝ้าให้อีกคืนก็จะถึงหมู่บ้านแล้ว" ขนมต้มบอก "เอานี้ ของกินเช้านี้ รีบๆกินจะได้รีบๆไป ข้าคิดถึงแม้ยอดยาหยีของข้าจะแย่อยู่แล้ว" แล้วยื่นเนื้อตากแห้งที่พึ่งย่างสุกใหม่ๆให้ไคกิน 
       เมื่อทั้งคู่กินเสร็จแล้ว ก็ได้ออกเดินทางกันต่อไป ครั้งนี้ไคต้องวิ่งตามเลยทีเดียวเพราะขนมต้มเดินเร็วมาก และไม่มีท่าทางเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด ไคจากทีแรกวิ่งแบบวิ่งจ๊อกกิ้ง หลังๆมาต้องเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ตามพี่เขาทัน โชคดีที่เขาไม่ได้อ่อนแออย่างที่ขนมต้มเข้าใจ เพราะไคนั้นออกกำลังกายกับพ่อเขาบ่อยๆ เรื่องวิ่งแค่ 30 - 40 กิโลเมตร เขาเคยวิ่งมาแล้วที่โลกจริง (เนื่องจากไม่มีงานทำ เขาและพ่อของเขา เลยต้องหาเงิน จากการแข่งขันกีฬา ต่าง ๆ บ้าง ถ้าอยากได้เงิน ซื้อสิ่งอำนายความสะดวกอย่างอื่นนอกจากที่รัฐบาลจัดให้ ซึ่งกีฬาวิ่งมาราธอน ก็เป็น 1 ในกีฬาที่ 2 พ่อลูก กวาดรางวัลมานักต่อนักแล้ว) แต่เนื่องจากเมื่อวาน เขาไม่คุ้ยชินกับอากาศและแรงดึงดูดของโลกใหม่ จึงทำให้เหนื่อยเร็วนั้นเอง 
       วิ่งมาได้ประมาณ 30 กิโล ก็ได้เวลาพักพอดี ยังดีที่ระหว่างทางมีโรงน้ำชา อยู่ด้วย ไม่งั้นพี่ขนมต้มคงไม่หยุดง่าย ๆ แต่เพราะมีคนทักพี่แกและชวนให้ดื่มชาแก้หายเหนื่อยก่อน พี่แกเลยต้องพัก เพราะเป็นผู้อัธยาศัยดี เลยต้องหยุดพักอีกอย่างจะได้สอบถามเถ้าแก่โรงน้ำชาด้วยว่าจะต้องการของป่า อะไรไหมเพื่อไว้คราวหลัง พี่เขาลงจากหมู่บ้านมาจะได้หามาขายให้ได้เพราะเป็นลูกค้าขาประจำกันมาก่อน
        เถ้าแก่โรงน้ำชา เป็นคนจีน อพยพมาเพราะบ้านเมืองแกเกิดสงครามขึ้น ทำให้หากินลำบาก แกเล่าให้คนนั้นคนนี้ ที่มานั่งกินน้ำชา ที่โรงน้ำชาของแกว่า
        "อั๊ว มาจากแคว้นจกก๊ก ที่เมืองอั๊ว เกิดสงครามท่านเล่าปี  ท่านโจโฉ ต่อสู้กัน ยังมีอีกหลายแคว้น แยกตัวมา ต่อสู้กันจนอั๊วเองก็งงๆ ไม่รู้จะไปแคว้นไหนดี อั๊วเลยพาอา หมวยล่องเรือมา ตามแม่น้ำใหญ่ กะไว้ว่าจะไปตายเอาดาบหน้า แล้วเกิดพายุใหญ่พัดอั๊ว มาถึงที่ประเทศนี้แหละ เลยอาศัยว่าพอมีความรู้เรื่องค้าขายอยู่บ้าง จึงมาตั้งโรงน้ำชานี้แหละ พึงมาตั้งได้แค่สองปีเอง เลยยังไม่ใหญ่โตเท่าไหร่" แกก็ร่ายยาว ไปของแก โดยเอาเรื่องประวัติวีระบุรุษคนนั้นคนนี้มาพูดให้ลูกค้าแกฟัง  จะได้ไม่เบื่อ มาฟังเรื่องเล่าของแกบ่อยๆ
       ไคนั่งฟังแกเล่าจนเพลินไปเหมือนกัน ทำให้หายเหนื่อยไปได้เลยแหละ  แล้วก็มีสาวคนหนึ่งมาเติมน้ำชาและขนมขบเคี้ยวให้แก่ลูกค้า (ซึ่งก็คืออาหมวย ที่เถ้าแก่ พูดถึงนั้นเอง) อาหมวย เป็นลูกของเถ้าแก่กิมคัง ชื่อว่ากิมลั่ง แต่เถ้าแก่จะเรียกว่า อาหมวย ๆ ตลอด กิมลั่งเป็นสาวสวย หน้าตาจัดว่าเป็นนางงามประจำหมู่บ้านได้สบายๆ แต่ติดที่ว่า เป็นคนพูดไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเป็นใบ้นะแต่พูดไม่ได้เพราะ เกิดมานั้นตอนเล็ก ก็พูดจาฉะฉานดี แต่มีวันหนึ่ง อาหมวยไปพบคนไม่ดีเข้า เขาต้องการได้อาหมวยเป็นภริยา แต่อาหมวยไม่ยอมเขาเลยสาปให้อาหมวยพูดไม่ได้ จนกว่าเขาจะตายคำสาปถึงจะหลุดพ้น แล้วเขาก็จากไป แต่นั้นมาอาหมวยก็พูดไม่ได้ เถ้าแก่ไม่รู้จะทำไง ได้แต่หวังในใจว่าคนๆนั้นจะมีคนไปฆ่าให้ตายเร็วๆ  แกถึงกับประกาศเลยว่าถ้าชายใดทำให้อาหมวยพูดได้ แกจะยกเป็นเจ้าสาวฟรีๆ ไม่เอาสักแดงเลย 
       ไคฟังเรื่องของอาหมวยแล้ว ก็คิดในใจว่า ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นคนของโลกอื่นเขาอาจจะ ช่วยไปฆ่าชายคนนั้นก็ได้ (แล้วจะไปฆ่าที่ไหนละหว่า ไม่รู้ทั้งชื่อ ทั้งที่อยู่ อยู่ประเทศนี้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย)
       พอพักหายเหนื่อยกันแล้ว ก็ออกเดินทางอีกครั้ง การเดินทางครั้งนี้ไคแทบจะไม่ได้เดินเลย ต้องวิ่งตลอด พอตกค่ำ ก็พักผ่อน เหมือนครั้งที่แล้ว แต่คืนนี้ดีหน่อยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตื่นมาก็เดินทางต่ออีกครั้ง ประมานเที่ยงกว่าๆ ก็เห็นหมู่บ้าน ก่อนเข้าไปหมู่บ้าน ขนมต้มรีบพาไคไปหาหลวงพ่อที่วัดทันที และฝากไคไว้กับหลวงพ่อ โดยยังไม่ได้แน่ะนำอะไรเลย ก็เอาหนังเสือให้ไค แล้วตนเองก็รีบลาไปหาช่อมะขามทันที เพราะหลวงพ่อยังไม่ออกจากการนั่งวิปัสสนา นั่นเอง
     
       


    ------------------

    มือใหม่หัดแต่ง น้อมรับคำติชมจากนักอ่านทุกท่าน ทั้งนักอ่านเงา และนักอ่านไม่เงานะครับ

     

    ชัย. 
      
          

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×