คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 06 : กำลังขาดความมั่นใจ
6
เช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นอีกครั้งหนึ่งภายในห้องพักที่ไม่ได้ใหญ่และแคบจนเกินไปของอีทึก ร่างบอบบางของนางฟ้ากำลังหลับสนิทอยู่ในห้วงนิทรา อาจเป็นเพราะความเหนื่อยที่สะสมมาตลอดทั้งวันของเมื่อวานหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้กันแน่ที่ทำให้คนขยันอย่างอีทึกนอนเลยเวลาเรียนยามเช้าไปได้มากขนาดนี้
แสงแดดจากดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ ทอประกายเข้ามารบกวนคนตาสวยที่นอนอยู่จนต้องจำใจตื่นอย่างช่วยไม่ได้ เปลือกตาบางค่อยๆ กระพริบลืมขึ้นเพื่อปรับทัศนียภาพรอบตัว
สายแล้ว! ได้เพียงแค่คิดอยู่ในใจ หากแต่ก็ไม่อาจลุกขึ้นได้อย่างที่ต้องการนัก เพราะตอนนี้อีทึกรู้สึกหน่วงๆ ไปทุกส่วนของร่างกายซะจริงๆ
นั่งปรับตัวอยู่ครู่นึงก็ค่อยๆ พาตัวเองไปยังห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายให้สดชื่นเพื่อออกไปเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่นอนคิดมาตลอดทั้งคืน
ลองมาเจอกันหน่อยนะ....น้องชายของพี่
ฮยอคแจที่วันนี้ตื่นเช้าขึ้นมาเป็นพิเศษยกยิ้มทักทายกับบรรดานางพยาบาลที่เข้ามาทำการตรวจเช็คบางอย่างของนายใหญ่อย่างสดใส ผิดกับผู้เป็นแม่ที่ยามนี้รู้สึกเมื่อยล้าไปหมด เพราะสองแม่ลูกได้นอนเฝ้ายองฮวาตลอดทั้งคืนที่ห้องพักพิเศษสำหรับญาติ ที่เตียงทั้งแข็ง แถมผ้าห่มก็ไม่อบอุ่นอีกด้วย
“เดี๋ยวผมกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเรียนก่อนนะครับ” หญิงสาวพยักหน้ารับน้อยๆ อย่างงัวเงีย เด็กหนุ่มเห็นแบบนั้นจึงก้มลงหอมแก้มเฮยาแล้วผละออกมาส่งยิ้มให้ก่อนออกไป
บางทีเธอเองก็รู้สึกสงสารลูกชายคนเดียวอยู่ไม่น้อยที่ต้องให้ฮยอคแจเกิดมาด้อยกว่าคนอื่น แต่ก็แน่ล่ะ ใครจะไปยอมอยู่อย่างแบบคนอดอยากกัน จากไอ้เด็กฮยอคแจเด็กข้างถนนเนื้อตัวมอมแมมที่มีแม่เป็นโสเภณี ตอนนี้ได้กลายเป็นคุณหนูฮยอคแจผู้สูงส่งมีพ่อเป็นถึงเศรษฐีระดับพันล้านแถมอีกไม่นานก็จะมีว่าที่คู่หมั้นที่สมน้ำสมเนื้อกับฐานะกันอีก
แค่คิดถึงมรดกและทรัพย์สินที่จะได้จากผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีใหม่ ทั้งเนื้อทั้งตัวเธอก็เต้นราวกับเจ้าเข้าไปด้วยความดีใจแล้ว
ถึงตอนนี้ลีเฮยาก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีอะไรที่เธอไม่สามารถจะทำได้ เวลานี้ก็รอเพียงให้ลูกชายที่น่ารักแต่งงานกับฮันคยองซะที ทุกๆ อย่างของตระกูลปาร์คและตระกูลหานก็จะได้ตกมาเป็นของเธอซะ
ทางด้านฮยอคแจที่เดินออกมาด้วยความชื่นบานจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่แสนหวานก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อเจอกับอีทึก..พี่ชายที่ฮยอคแจเรียกตั้งแต่อายุได้ 7 ขวบ
ดวงตาเรียวเล็กจ้องมองอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสา อีทึกเองก็มองน้องชายต่างสายเลือดอย่างเงียบสงบจนทำให้เด็กอย่างฮยอคแจแอบรู้สึกเกร็งๆ ขึ้นมาเหมือนกัน เพราะตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเจออีทึกโหมดนี้เลยสักครั้ง
“หยุดใส่หน้ากากได้แล้ว! เรามีเรื่องต้องคุยกันสักหน่อยนะฮยอคแจ...คนดี” ยิ้มม..คนหน้าหวานฉีกยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน หากแต่น้ำเสียงที่ใช้ออกจะติดเรียบไปสักหน่อย ไม่รอให้อีกคนได้ทันหนี อีทึกก็คว้าข้อมือน้องชายไว้ พลางลากให้เดินตามมา เหมือนกับที่ฮยอคแจเคยทำไม่มีผิด
“นี่! ช่วยด้วยสิ” ร่างเล็กหันไปเรียกบรรดาการ์ดให้เข้ามาช่วย อีทึกไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านเลยแม้แต่นิดเดียว กลับกันยังรู้สึกขันเด็กน้อยคนนี้อีกตังหาก
ลืมอะไรไปรึเปล่านะฮยอคแจ ว่าอีทึกเองก็เป็นถึงคุณหนูของตระกูลปาร์คเชียวนะ หรือว่าอยู่บน กองเงินกองทองของพ่อเขามากเกินไปถึงทำให้เด็กนี่คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของทุกอย่างเลยรึไงกัน! แถมยังไม่มีเขาคอยอยู่ให้รกหูรกตาอีก แบบนี้สองแม่ลูกนี่คงจะพลาญไม่เลือกเลยล่ะสิท่า
“อ่ะ เอ่ออ..คือว่า”
“คืออะไร บอกให้เข้ามาช่วยไง เห็นมั้ยว่าฉันโดนลากอยู่น่ะ! หรืออยากตกงานกันใช่มั้ยห๊า!”
“นี่เด็กน้อย...ลืมอะไรไปรึเปล่าว่าพี่น่ะ ปาร์ค จองซูเชียวนะ” คนตาสวยหันกลับมากระซิบเสียงแผ่วข้างใบหูของคนที่ยามนี้รู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน ไม่เหลือคราบของนักแสดงมืออาชีพแบบเมื่อคืนเลยสักนิด และคำพูดเตือนสตินี้เองก็ทำให้ฮยอคแจสำนึกได้ว่าคนที่ลากเขาอยู่นี้คือคุณหนูตระกูลปาร์ค แล้วไอ้พวกการ์ดโง่ๆ พวกนั้นจะกล้าทำอะไรได้
“พ่ะ..พี่อีทึก”
“ว่าไง”
“...พี่อีทึก จะทำอะไร”
“เปล่า...แค่อยากจะบอกอะไรนิดหน่อย ….”
ร่างโปร่งบางของคนสวยกอดก่ายฮันคยองไว้แน่น ดวงตาคู่โตกวาดมองใบหน้าของผู้เป็นที่รักอย่างละเอียดเงียบๆ คนเดียว ความรู้สึกดีใจตีขึ้นจนแทบจะทำอะไรไม่ถูก เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเจออีกคนที่ยังนอนอยู่ด้วยกันจนถึงเช้า
ฮันคยองค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เมื่อรู้สึกว่ามีคนจ้องมองอยู่ และเขาก็พบกับสายตาที่เต็มไปด้วยความรักของคิมฮีชอลอีกแล้ว ... สายตาที่ฮันคยองพยายามละเลยมาตลอด
“กี่โมงแล้ว” และก็เป็นฮันคยองอีกเช่นกันที่ทำลายความเงียบนั้น พลางดันร่างให้ลุกขึ้นนั่ง ยีผมตัวเองไปมาเล็กน้อย
“จะเที่ยงแล้วล่ะ” เสียงแหบพร่าน้อยๆ เอ่ยขึ้นพร้อมกับแขนเรียวที่กระหวัดโอบเอวของอีกคนไว้อย่างหลวมๆ
“ฉัน...ดีใจมากเลยนะ” ฮีชอลพูดออกมาอีกครั้ง และคำพูดนี้เองก็ทำให้เจ้าของร่างสูงไม่ค่อยเข้าใจนักกับสิ่งที่อีกคนบอก
คุณรู้อะไรรึเปล่า? … ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมตื่นขึ้นมาแล้วเจอความรักอยู่ในอ้อมแขน
เพราะทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมา ฮันคยองไม่มีทางอยู่ข้างกายเขาหรอกนะ
“งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ ต้องไปเยี่ยมคุณลุงที่โรงพยาบาล”
และสุดท้าย ฮันคยองก็ทำร้ายหัวใจของคิมฮีชอลอีกแล้วล่ะ
อีทึกเดินออกมาจากสวนหย่อมของโรงพยาบาล ขาเรียวเดินตรงไปยังห้องไอซียูที่มีพ่อของเขานอนไม่ได้สติอยู่ ทิ้งให้น้องชายที่น่ารักต้องรู้สึกหวาดระแวงกับคำพูดของเขาไม่น้อยเลยทีเดียว
เรียวปากอิ่มส่งยิ้มหวานทักทายคนงานประจำตระกูลไม่ขาดสาย ซึ่งก็ทำให้ผู้ได้รับรอยยิ้มรู้สึกปลื้มไม่น้อยที่ได้เจอกับคุณหนูของตัวเองอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันมาเป็นเวลานาน
คุณหนูอีทึก ยังไงก็ยังคงเป็นนางฟ้าของทุกคนอยู่วันยังค่ำอยู่ดี
แต่แล้วดวงตาของอีทึกก็ต้องสะดุดลงเมื่อเจอกับเฮยาที่กำลังวางมาดเป็นคุณนายของบ้านอย่างไม่เกรงใจคนเก่าคนแก่เลยสักนิด เสียงออกคำสั่งของหล่อนดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออีทึกก้าวเข้าไปหาอย่างช้าๆ
“ไม่ใช่ตัวนี้! อีกตัวนึง หึ่ยย! โง่! ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจสักคนเลย!!”
“คุณน้าครับ” คนที่กำลังโวยวายรีบหันกลับมามองทันทีที่ได้ยินเสียงของร่างบาง ปากร้ายที่เมื่อกี้ยังคงใส่อารมณ์กับคนของเขาปิดสนิท แถมยังปั้นหน้าเก่งยิ้มเอ็นดูให้อีก
“อ่าว...คุณหนูอีทึก มาเยี่ยมคุณพ่อหรอค่ะ มาค่ะๆ เดี๋ยวน้าพาเข้าไปนะ”
“คุณน้าเข้าไปก่อนเถอะครับ ผมมีเรื่องต้องคุยกับคนของผมสักหน่อย” เฮยายิ้มเจื่อนเมื่อเจอคำพูดที่แสดงถึงอำนาจและฐานะของคนตาสวย หญิงสาวจึงได้เดินออกไป
อีทึกหันมามองหน้ามิยอง แม่บ้านประจำตระกูลที่คุ้นเคยดี หญิงชรายิ้มออกมาอย่างดีใจ เมื่อได้พบกับคุณหนูผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนรับใช้ทุกคน
“คุณหนู…สบายดีใช่มั้ยค่ะ เมื่อไหร่จะกลับมาอยู่กับคุณพ่อสักทีล่ะค่ะ”
“โอ๋ อย่าพึ่งร้องไห้สิครับคุณป้า”
“ก็ป้าไม่ได้เจอหน้าคุณหนูนานแล้วนี่ค่ะ”
“งั้น..ไว้อีทึกจะมาเยี่ยมบ่อยๆ นะ ต้องไปเยี่ยมคุณพ่อก่อนแล้ว”
“ค่ะ”
“ซะ .. ซีวอน!” เสียงเล็กร้องอย่างตกใจ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับเพื่อนต่างคณะรูปหล่อที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ครับ” ฮยอคแจกรอกตาไปมาเล็กน้อยอย่างครุ่นขึ้น ก่อนที่จะเอ่ยชวนซีวอนให้ทำตามความต้องการของตัวเองอย่างขัดไม่ได้ “พาไปที่เงียบๆ หน่อยสิ” ซีวอนเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย และสุดท้ายก็ได้คำตอบน่ารักๆ จากคนตัวขาวกว่า
“กำลังขาดความมั่นใจน่ะ”
เมื่อฮันคยองอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาจัดการเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย โดยมีฮีชอลมองตามอยู่บนเตียงนุ่มเงียบๆ ดวงตาคู่โตค่อยๆ ปิดลงทีล่ะน้อย เหมือนกับไม่อยากมองภาพที่ต้องเห็นอีกคนทิ้งเขาไปอย่างเย็นชา บางทีฮีชอลก็รู้สึกขอบคุณฮันคยองที่ปกติหายออกไปจากอ้อมแขนเขาในยามที่หลับ เพราะมันรู้สึกทรมานน้อยกว่าที่เป็นตอนนี้เยอะเลยล่ะ
“ฮีชอล ฉันวางเงินไว้บนโต๊ะกินข้าวนี่นะ ไปก่อนนะครับคนสวย”
อีกแล้ว….ฮันคยองทำให้เขารู้สึกเหมือนอีตัวขึ้นเข้าไปทุกวัน
เงิน…เพราะเงินนี่ใช่มั้ยที่เป็นต้นเหตุของทุกอย่าง
ถ้าฉันไม่อยากได้เงิน แต่อยากได้หัวใจนาย มันต้องทำยังไงล่ะ?
ตอนนี้เป็นเวลาอาหารกลางวันของคนป่วยจอมวุ่นวายอย่างลีซองมิน และก็อีกตามเคย ซองมินยังคงผู้ป่วยจอมปัญหาของเหล่านางพยาบาลเสมอ
“ไม่เอา! ซองมินไม่กิน!!” นั่นปะไร ดื้อด้วยเสียงดังๆ แบบนั้นไม่พอ เพราะเดี๋ยวนี้ซองมินได้เรียนรู้ออปชั่นเพิ่มเติมจากคุณหมอคยูฮยอนโดยการปัดช้อนอาหารออกจนหกเลอะเทอะไปหมด
“ซองมินนน” เสียงนิ่มทุ้มถูกลากให้ยาวขึ้นหลอกล่อคนป่วยหน้าตาน่ารักให้หันไปมอง
“หมออออออ!!” คยูฮยอนแอบถอนใจเหนื่อยอ่อน หากแต่ก็ก้าวเท้าเข้าไปภายในห้องพิเศษของซองมินอยู่ดี คนป่วยที่ดูงอแงจนนางพยาบาลทั้งหลายเอาอกเอาใจไม่ถูกยิ้มร่าถูกใจ เมื่อได้เจอหน้าคนที่ตัวเองคุ้นเคย
ในขณะที่คนป่วยเริงร่า แต่คุณหมอกลับรู้สึกเพลียจะตายห่าอยู่แล้ว โจวคยูฮยอนพึ่งนอนไปได้ไม่ถึง 5 ชั่วโมงก็ถูกปลุกขึ้นมาด้วยเสียงโทรศัพท์ของโรงพยาบาลที่โทรมาแจ้งว่าคนไข้พิเศษของเขาโวยวายหนักมาก ที่สำคัญวันนี้มันเป็นวันหยุดของเขาวันเดียวในรอบอาทิตย์เชียวนะเว้ย!
“กินข้าวดีๆ ซะ แล้วกินยาด้วย เข้าใจมั้ย?” ใช้มือจับแก้มนิ่มๆ ของอีกคนแล้วลูบไปมาเบาๆ เหมือนหลอกล่อเด็กตัวเล็กๆ หากแต่มันกลับได้ผลกับคนดื้อดึงแบบลีซองมินนักล่ะ ร่างเล็กพยักหน้าขึ้นลง ก่อนที่จะอ้าปากยอมทานข้าวแต่โดยดี
ภารกิจ..สำเร็จ!
แต่ยังไม่ทันจะหันหลังกลับก็ถูกขัดขึ้นด้วยเสียงของคนป่วยอีกครั้ง “หมอ! ไปไหน!!”
ร่างสูงยกมือขึ้นกุมขมับอย่างอดกลั้น ก่อนจะค่อยๆ หันไปมองหน้าคนตัวเล็กที่เริ่มเบะปากน้อยๆ เป็นสัญญาณเตือนว่า หากไม่ยอมกลับเข้าไปได้มีเขื่อนน้ำตาแตกแน่ “ครับบบ”
“หมอจะทิ้งซองมิน!” อืมม เอาเข้าไป! บางทีคยูฮยอนก็เคยคิดว่า คิดถูกหรือผิดที่ยอมเป็นหมอประจำตัวลีซองมิน
“ไม่ทิ้งหรอกหน่า”
“โกหก!!”
“ครับ!”
“หมออ่า!!”
“ซอง มิน”
“หม่ำๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องดุเลย หมอใจร้าย หมอไม่รักซองมิน หมอจะทิ้งซองมิน งอนหมอโว้ยยย!!” คยูฮยอนมองคนไข้ของเขาที่สะบัดหน้าหนี พลางรับข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ โดยไม่หันมามองเขาเลยแม้แต่น้อย อยากงอนก็งอนไป ตอนนี้เขาง่วงฉิบหาย ตกลงกูเป็นหมอหรือเห็นห่าไรว่ะเนี่ย??
แต่ถึงยังไง ลีซองมินเวอร์ชั่นอาละวาดก็ดีกว่าเวอร์ชั่นดราม่าแบบเมื่อคืนล่ะกัน
เพราะ โจวคยูฮยอนรู้สึกใจหายทุกครั้งที่เห็นคนน่ารักนั่งเหม่อลอยพร้อมกับน้ำตานองหน้า
กลับมาอีกครั้ง! อัพต้อนรับเดือนใหม่ของปี เอ็นซีตอนที่แล้วมันไม่ได้ยาวมากมายอะไรนะค่ะ (เพราะพ่อพระเอกของเราเค้าแอบเหนื่อยนิดหน่อย) ตอนนี้บ้านใครน้ำท่วมก็สู้ๆ นะค่ะ (รู้ว่าแค่คำพูดมันพูดง่าย) อย่าพึ่งท้อถอย เดี๋ยวพอน้ำลดอะไรๆ มันก็ต้องดีขึ้นค่ะ!
ตอนหน้าเจอกันวันหวยออกเพราะตอนนี้คิดว่า(แค่คิดนะ - -) จะอัพวันหวยออกแล้วกัน 55555 ตอนที่แล้วคนแต่งดราม่า(มาก!) เรื่องเม้นบอกแล้วว่าช่างหัวแม่งมัน! กูไม่อยากจะสนใจแล้ว แต่ถ้าหน้าด้าน(แบบที่บอกไว้)ก็จะหน้าด้านกลับเหมือนกัน
ใครที่ขอเอ็นซีแล้วไม่ได้ ก็รู้ตัวไว้ด้วยนะค่ะว่าคุณไม่เคยเม้นเลย เม้นมันแค่ตอนนั้นตอนเดียวจริงๆ
+ หากใครเคยเม้นแล้วไม่ได้ แจ้งอีกรอบนะค่ะ เพราะตอนส่งนี่ก็ไล่แบบมึนๆ และที่สำคัญ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ
สุดท้าย! เกิงของเราเค้าไม่ได้ไม่หวั่นไหวหรือแอบมีใจให้คุณฮีหรอกนะ! (อ่านดีๆ แล้วกัน มีคำใบ้ให้แล้ว) ส่วนฮยอคแจนั้นจะร้ายต่อยังไงก็ติดตาม ส่วนคุณหนูอีทึกจะร้ายสู้น้องชาย(ต่างสายเลือด)ได้รึเปล่า? ก็คอยลุ้นดูนะค่ะ ตอนหน้าฮันทึกจะเริ่มโผล่ออกมามากว่านี้ แต่เป็นแบบไหนก็ติดตามมมม!
ประกาศตัวโต โต โต
11.11.11 ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด จะเปิดฟิคเรื่องใหม่นะค่ะ! โปรดติดตามด้วย
คิเฮ คยูมิน จ้าาา!
ความคิดเห็น