คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 02 : หน้ากาก ... เปลี่ยนแปลง
2
ณ บ้านตระกูลปาร์ค
ฮยอคแจที่พึ่งกลับมาถึงบ้านเดินตรงเข้าไปหาผู้เป็นแม่ทันที ใบหน้าใสยิ้มหวานให้พร้อมกับก้มลงหอมแก้มฟอดใหญ่ ออดอ้อนได้น่ารักจนผู้เป็นแม่อดไม่ได้ที่จะเค้นคลึงแก้มนิ่มนั่นให้หายหมั้นเขี้ยว
“อ๊าาา คุณแม่ครับ”
“ว่าไงล่ะ? คบกับพี่ฮันคยองไปถึงไหนแล้ว” ลีเฮยาเอ่ยถามผู้เป็นลูกชายอย่างสนใจ เพราะเธอต้องการที่จะทำให้ลูกนั้นมีความสุขมากที่สุดกับคนที่คู่ควร และคนๆ นั้นที่หล่อนเลือกก็คือ ฮันคยอง
“ก็....เอ่ออ ผม..” คนตัวเล็กอ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี เฮยาที่รอฟังคำตอบทำหน้ายุ่งอย่างไม่พอใจ ก่อนที่เอ่ยขัดขึ้น “บอกมาตามตรง ห้ามโกหกแม่ ชอบพี่เขารึเปล่า?”
“ก็...ชอบครับ”
ลี ฮยอคแจรู้นะ ว่าตัวเองกำลังจะเป็นคนเลวที่ตอบแบบนี้
“รักมั้ย?”
“ค่ คะ ครับ”
ลี ฮยอคแจ ก็รู้อีกนั่นล่ะว่าตัวเองเลวมากที่ตอบแบบนี้ออกไป
“งั้นก็ดี จะได้หมั้นๆ กันได้สักที ครอบครัวของเราจะได้เป็นแผ่นเดียวกันกับตระกูลฮัน”
“แต่ว่า...พี่อีทึกล่ะครับ”
“ถ้าลูกรักพี่เขา ก็ไม่ต้องสนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น อีทึกมันไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ของเราสักหน่อย อีกอย่างสองคนนั้นก็เลิกกันแล้ว ฮยอคแจของแม่ไม่ได้ทำบาปสักหน่อย”
“แต่ว่าคุณแม่ ทำแบบนี้จะดีหรอ”
“มันต้องดีสิ เพื่อตัวของลูกเองนะฮยอคแจ และเพื่อครอบครัวของเรา”
ใช่ เพื่อตัวของเขาเอง!
ฮยอคแจเดินเลี่ยงออกมาทันทีที่ผู้เป็นแม่บอกให้ไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าว ใบหน้าเนียนฉายแววความไม่สบายใจเอาไว้ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเหยียดยิ้มไม่เหลือแววของคนที่ทำหน้าเสียใจเมื่อสักครู่เลยสักนิด
ฮยอคแจไม่ได้ร้ายหรอกนะ
ก็แค่ใช้ความสามารถของตัวเองให้เป็นประโยชน์
ถึงจะร้ายจะเลวแล้วได้ครอบครองมันก็คุ้มอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ?
ช่วงเวลาเย็นของอีทึกคือเวลาแห่งการพักผ่อนอีกเล็กน้อยก่อนที่จะต้องทำงานอีกหลายชั่วโมง ร่างบางเลือกที่จะออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ เป็นประจำพร้อมซื้อของกินง่ายๆ มาทานรองท้อง
อีทึกปล่อยให้สายลมอ่อนๆ ยามเย็นพัดผ่านร่างไป พยายามทำให้รู้สึกเหมือนว่ามันคือสิ่งที่สามารถพัดพาความเศร้าให้ออกไปได้ และพยายามที่จะกดความรู้สึกเศร้าให้ได้ว่าเมื่อก่อนเขากับฮันคยองเคยมีเวลาดีๆ ด้วยกันที่สวนสาธารณะแบบนี้กันแค่ไหน
คนตัวเล็กนั่งมองผู้คนมากมายที่ผ่านไปมา บ้างก็วิ่งออกกำลังกาย บ้างก็พาลูกหลานมาเล่นเครื่องเล่น ซึ่งไอ้การดูเด็กตัวน้อยๆ เล่นกันอย่างสนุกสนานเนี่ยล่ะ คือสิ่งที่เขาชอบมากที่สุด ถึงแม้บางทีจะเกิดอาการอยากเข้าไปอุ้มเด็กน้อยที่หกล้มร้องไห้ขึ้นมาปลอบก็เถอะ แต่ก็ไม่สามารถทำได้จริงๆ แค่ปลอบและเช็ดน้ำตาให้ตัวเองเขายังไม่ทำเลย แล้วจะให้ไปปลอบและเช็ดน้ำตาให้ใครที่ไหนกัน
เพราะอีทึกน่ะ รอให้ฮันคยองกลับมาเช็ดน้ำตาให้อยู่
เพราะอีทึกน่ะ ไม่ยอมเจ็บแบบนี้ไปจนตายหรอก
“โอ๊ะ!” เสียงที่ดังขึ้นจากคนตัวเล็กเรียกให้ร่างสูงหันมาสนใจได้ไม่ยาก ฮันคยองรีบวิ่งมาดูอีกคนด้วยความเป็นห่วงทันทีที่คนน่ารักทำเรื่องเจ็บตัวอีกจนได้
อีทึกมักซุ่มซ่ามแบบนี้เสมอนั่นล่ะ แต่นี่ก็คือเสน่ห์แสนน่ารักอย่างหนึ่งที่ทำให้เขารักอีทึกมากกว่าใครๆ
“ฟู่วววว~ หายแล้วครับนางฟ้า” ฮันคยองเป่าลมไปบริเวณหัวเข่าที่ร่างบางกระแทกเข้าอย่างจังกับขาโต๊ะ ตาคมทอดมองอีกคนอย่างอ่อนโยนพร้อมกับยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นคนรักหันมาทำหน้าเบะใส่ ให้ตายเหอะ! ถ้าอีทึกจะน่ารักขนานี้น่ะนะ
“เจ็บ...ไม่เห็นหายเลย ฮันโกหก” เป็นอีกครั้งที่ทำให้ฮันคยองยิ้มกว้างมากกว่าเดิมกับคำพูดของอีทึก ใบหน้าคมก้มลงไปใช้ริมฝีปากประทับร่องรอยความอบอุ่นเนิ่นนานไว้บริเวณที่อีกคนบาดเจ็บ ซึ่งการกระทำแสนหวานนี่ก็ทำให้ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อได้ดีเชียวล่ะ
ฮันคยองเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะประกบริมฝีปากของตนเองเข้ากับร่างบอบบางของนางฟ้าของเขาอีกรอบก่อนที่จะผละออกมา “ทีนี้ก็หายแล้วใช่มั้ยครับ”
ใช่ หาย...ความรู้สึกเจ็บมันหายเป็นปลิทิ้งไปเลยล่ะ เพราะตอนนี้น่ะหัวใจของอีทึกเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
อีทึกหลุดเข้าไปจมอยู่กับอดีตเพราะเสียงร้องไห้ดังจ้าของเด็กน้อยที่เล่นซนจนได้แผลบริเวณหัวเข่าเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา รู้ตัวดีว่าไม่ควรคิดเรื่องเก่าๆ ให้เจ็บใจเล่น
อีกแล้ว กี่ครั้งแล้วที่ไม่ว่าต่อให้จะทำยังไงก็ไม่เคยลบภาพของวันวานออกไปได้สักที ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ทั้งๆ ที่อยากจะลืม แต่ยิ่งกลับจดจำได้แม่นขึ้นซะอย่างนั้น และก็เป็นอีทึกเองที่รู้สึกเศร้าอยู่คนเดียวใช่รึเปล่า การถูกคนรักทิ้งน่ะ มันทรมานมากๆ จนไม่สามารถระบายออกมาได้หมดหรอกนะ
ถ้าไม่มียัยแม่เลี้ยงนั่นเข้ามาป่านนี้เขาก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้
เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียว! และเพราะเหตุผลนี้อีทึกจึงโกรธเกลียดฮยอคแจไม่ลงเลยล่ะ
เพราะฮยอคแจคือน้องที่เขารักมากที่สุด
นอกจากเสียว่าฮยอคแจจะเป็นเด็กไม่ดีเท่านั้น!
เพราะอีทึกเกลียดคนไม่ดี เกลียดคนเลว!
혹시 너 별 별 별 이유로 나를 슬프게 하면
너의 눈을 따갑게 할 거야
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเรียกให้คนที่นอนหลับแล้วอย่างฮีชอลต้องลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้จะหงุดหงิดไม่น้อยที่พึ่งนอนไปได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม แต่ชื่อบนหน้าจอของฮันคยองก็เรียกความสนใจได้มากจนหายง่วงเชียวล่ะ ... คังอิน
คงไม่ต้องเสียเวลาเดาให้ยากว่าคังอินนั้นโทรมาเพื่ออะไร นอกจากชวนฮันคยองไปเที่ยว และแน่นอนว่าเขาเองก็ไปด้วย
ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าฮีชอลน่ะ ชอบดื่มขนาดไหน ไม่รอให้ปลายสายเงียบไปก่อน มือเรียวก็รีบเขย่าร่างของคนที่นอนข้างกันทันที
“นี่ฮันคยอง คังอินจะคุยด้วยน่ะ” ร่างสูงพยักหน้าทั้งที่ยังไม่เปิดเปลือกตาพร้อมกับรับโทรศัพท์มือถือจากฮีชอลมา
“ว่าไงว่ะ”
“เฮ้ย! ไอ้ฮันกูจะชวนมึงมาเที่ยวที่ผับน่ะ มานะเว้ยยย!” คำชวนที่ดังขึ้นทำให้ฮันคยองต้องเหลือบไปมองเวลาไม่ได้
“ตอนห้าทุ่มเนี่ยนะ”
“เออสิ! เร็วๆ ด้วยพวกกูรออยู่ แค่นี้นะ” ยังไม่ทันที่จะได้ปฎิเสธ ไอ้เพื่อนตัวดีก็ดันชิ่งวางสายไปซะก่อน ให้มันได้แบบนี้สิ! พึ่งจะนอนได้ไม่นานเท่าไหร่ก็ต้องออกไปข้างนอกอีกแล้วหรอเนี่ย!
“ฮันคยองง~ ไปกันเถอะนะ ยังไงพรุ่งนี้ก็วันหยุด” ใบหน้าสวยเอนลงซบกับไหล่หนาอย่างออดอ้อนโดยไม่ลืมที่จะยกเหตุผลขึ้นมาอ้าง
“ก็ได้ๆ งั้นแต่งตัวซะสิ”
ภายในสถานที่ที่ผู้คนมากมายเรียกว่า ผับ’ นั้น แสงไฟหลากสีต่างแข่งกันกระพริบสาดส่องไปทั่วบริเวณเหมือนกระตุ้นให้เหล่าขาแด๊นซ์ทั้งหลายวาดลีลาบนฟอร์ได้มันยิ่งขึ้นพร้อมกับเสียงดนตรีที่ดังเป็นจังหวะเร้าใจ กลิ่นของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่คละคลุ้งไปทั่วทุกอณูชวนมึนหัวไม่น้อย แต่คงไม่ใช่สำหรับสองร่างที่พึ่งเข้ามาใหม่
ดวงตาคมมองหาเหล่าเพื่อนตัวดีที่เป็นคนโทรชักชวน ข้างกายนั้นมีร่างของฮีชอลยืนเกาะไม่ห่าง คังอินที่รออยู่เมื่อเห็นฮันคยองก็รีบพาาร่างหนาๆ ของตัวเองมาหาทันที
“เฮ้ย!มาๆ ทางนี้เว้ย” ร่างหนาเดินนำทางไปยังโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ แต่ก็ไม่วายส่งสายตาเจ้าชู้ไปทั่ว
“ฮีชอล! มาๆ นั่งนี่เลย” ทันทีที่มาถึง คนสวยก็ถูกเรียกโดยเพื่อนสนิทอย่างจองโมที่นั่งดื่มอยู่ก่อนแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสองคนนี้เข้าขาได้ดีกันแค่ไหน
“นึกยังไงถึงชวนมาว่ะเนี่ย” ร่างสูงเอ่ยถามพลางหันไปมองบรรยากาศโดยรอบที่คึกครืนอยู่ตลอดเวลา อาจเป็นเพราะพักหลังมานี้ฮันคยองไม่ได้เข้ามาเหยียบที่นี่เท่าไหร่นัก เลยรู้สึกตื่นตัวอยู่ไม่น้อยกับสิ่งที่เปลี่ยนไป
“เออหน่า ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก แค่หาคนมานั่งให้ครบ 7 คนก็พอ”
“เห็นพวกกูเป็นห่าอะไรเนี่ย ทำไมว่ะ!? 7 คนแล้วลด 50% รึไง”
“แหม่! ไอ้เหี้ยนี่ก็เล่นตัว มึงก็บอกมันไปซะสิว่าถ้ามาครบ 7 คนแล้วนั่งแดกนานขนาดนี้ก็จะได้บาร์เทนเนอร์คนสวยมานั่งด้วยชั่วโมงนึง”
“บาร์เทนเนอร์!? นี่มึงเปลี่ยนรสนิยมแล้วหรอ”
“เอออออ สวยเหี้ยๆ ขนาดนั้นไม่คว้าไว้ก็ควายแล้ว”
ร่างบอบบางของอีทึกยืนอยู่บริเวณเค้าท์เตอร์เครื่องดื่ม ดวงตาคู่หวานจ้องมองไปยังออร์เดอร์ที่ถูกแปะไว้ ก่อนที่จะลงมือทำอย่างคล่องแคล่ว โดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าถูกจับจ้องด้วยแววตาหื่นกระหายของเหล่านักเที่ยวยามราตรีขนาดไหน
“อีทึก” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นด้านหน้าเรียกให้เจ้าของชื่อต้องเงยหน้าขึ้นทั้งที่กำลังผสมเครื่องดื่มอยู่แท้ๆ และแน่นอนว่าเขาต้องฉีกยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างมีมารยาทของผู้ให้บริการที่ดี
“อ่าว...นึกว่าใคร”
“ขอ บลู มาการิต้าหน่อยนะ”
“ได้เลยคยูฮยอน เสริฟถึงโต๊ะใช่มั้ย?”
“แน่นอนครับ คนสวย” พูดจบก็ไม่ลืมที่จะส่งจูบน้อยๆ ให้กับคนที่กำลังทำงานอยู่อย่างทะเล้น ซึ่งนั่นก็ทำให้อีทึกหัวเราะได้กับท่าทางแบบนั้นของแขกประจำที่นับวันจะยิ่งสนิทกันมากขึ้น
ร่างบางไม่รอช้าให้เสียเวลาทำงานไปมากกว่านี้ มือบางก็จัดการทำตามออร์เดอร์อย่างรวดเร็ว และเมื่อทำ บลู มาการิต้าของคยูฮยอนเสร็จ เจ้าตัวก็เดินออกไปหาแขกประจำของตัวเองทันที
“บลู มาการิต้าครับคุณลูกค้า” เสียงหวานเอ่ยเย้าแหย่อีกคนที่นั่งมองเขาอยู่ไม่วางตา คยูฮยอนพยักหน้ารับพร้อมกับตบเข้าที่น่าตักเป็นเชิงให้อีกคนนั่งลงมา ซึ่งอีทึกก็ไม่เคยคิดที่จะปฎิเสธอยู่แล้ว เพราะเจ้าตัวคิดเสมอนั่นล่ะว่านี่คือ งาน และเขาก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด
“ว่าไงอีกล่ะ ฉันมีงานต้องทำอีกนะคยูฮยอน”
“โหยยย อีทึก นานๆ ทีจะได้เจอหน้านะเนี่ย”
“ทำเป็นพูดดี ก็เจออยู่ทุกคืนเนี่ย”
“ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง”
“โอเคๆ เอาแก้มมาสิ” สิ้นเสียงเท่านั้นล่ะ คยูฮยอนก็ยื่นใบหน้าหล่อๆ มาใกล้กับอีทึกที่นั่งอยู่บนตักทันที ใบหน้าหวานก้มลงหอมแก้มอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นไปทำงานต่อ โดยไม่สนใจกับเสียงโอยครวญของอีกคน
และการกระทำทั้งหมดของคนทั้งคู่ก็อยู่ในสายตาของฮันคยองและคังอินที่ชี้ให้เพื่อนดูหน้าตาของบาร์เทนเนอร์ที่ว่าตลอดเวลา
“นั่นล่ะ อีทึกบาร์เทนเนอร์ที่นี่ เป็นไงล่ะ เร่าร้อน เซ็กซี่ เด็ดสัสๆอ่ะ!” ร่างหนาพูดขึ้น โดยที่ไม่ได้มองสีหน้าของร่างสูงเลยสักนิด
“อีทึก..” ฮันคยองพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะขอตัวไปเข้าห้องน้ำอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
ฮันคยองที่เดินมาที่ห้องน้ำรู้สึกโหวงๆ ในใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อได้พบกับคนที่คิดว่าไม่น่าจะมาเจอในที่แห่งนี้ คนที่เขาเห็นใช่อีทึกแน่หรอ นางฟ้าของเขาไม่ใช่คนแบบนี้สักหน่อย อีทึกไม่มีวันทำงานแบบนี้เด็ดขาด! ต่อให้เป็นเรื่องจริง ฮันคยองก็ไม่มีทางข่มใจทนเห็นภาพเหล่านั้นได้แน่ๆ
แต่ดูเหมือนว่าเวลาที่คนเราพยายามจะข่มเก็บความรู้สึกเอาไว้
สิ่งนั้นที่พยายามจะกดให้ลึกเข้าไปที่สุดในใจก็เริ่มปะทุขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
หรือนี่...อาจจะเป็นแบบทดสอบสำหรับคนแก่ตัวแบบเขากันนะ
ใช้เวลาสักพักเพื่อล้างหน้าให้สร่างความมึนจากฤทธิ์ของเครื่องดื่ม ร่างสูงของฮันคยองก็เตรียมที่จะเปิดประตูห้องน้ำเพื่อออกไปนั่งที่กับบรรดาเพื่อนๆ ทั้งหลายที่รออยู่ แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างเขาสักนิดเพราะเมื่อดึงประตูบานใหญ่เปิดนั้นก็ดันมีร่างของใครอีกคนลื่นมาชนกับเขาซะเต็มแรง
ฮันคยองรู้สึกว่าคนที่ใช้แขนเกี่ยวคอเข้ากันล้มไว้นั้นตัวเล็กและบอบบางแค่ไหน ยิ่งมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผสมกับแอลกอฮอล์นิดๆ ด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้อยากรู้จักมากขึ้น แต่ก็คิดได้ไม่นานก็มีแรงขยับเล็กน้อยเกิดขึ้นที่บ่าแกร่งเมื่อร่างของคนๆ นั้นผละออกไป
“ขอโทษนะครับเพราะผมไม่ระวัง เลยทำให้คุ คะ / ฮันคยอง”
มาแล้นน น! ผู้ชายสองคนนั้นก็คือ คังอิน และ คยูฮยอน ฮิ้ววว~ อ่านแล้วอย่าพึ่งเกิดอาการอิจฉาอีทึกนะค่ะ 5555
คนที่เกิงเจอนั่นใคร๊ ?? อ่ะ คึ อ่ะ คึ ถ้าอ่านแล้ว งง รอตอนหน้าได้เลยค่ะ ถ้าเม้นกันเยอะๆ ให้ชื่นใจนิ้วมันก็พร้อมรัวแป้นพิมพ์เสมอนั่นล่ะ! แต่ตอนนี้ความคึกคะนองเริ่มหาย แงงออ TT กับเม้นจริงๆ
เม้นกันหน่อยสิค่ะTT เรื่องนี้ด่วนสรุปอะไรไม่ได้จริงๆ นะเออ!
ตอนหน้า ... ตัวละครเพิ่ม (อีกแล้ว!) คราวหน้า 3 คน 3 สไตล์
คนแรกออกแนวใสๆ (หรออ ?) อืมมม ใบ้ว่าคือคนที่ คยูดูแลล~
คนที่สองและสาม อันนี้ต้องติดตามนะค่ะ แต่บอกได้ว่าคำเดียวว่า คู่นี้เราแพคเกตมาเป็นคู่รัก 129 เลขใครว่ะ ?
รู้สึกตัวเองสปอยฟิคเยอะจริงจัง แม่ยกฮยอคตอนหน้าไม่ต้องน้อยใจ เด็กโอโม่ของเราออกแน่ค่ะ ส่วนคิมฮีคนสวยนั้นไม่ต้องห่วง ฟิคเรื่องนี้ทุกตัวละครเด่นหมด
อ้อ! เรื่องที่ถามไปเกี่ยวกับการอัพฟิค อันนี้ก็ขอบคุณสำหรับหลายๆ เสียงที่สนใจช่วงพล่ามของเรานะค่ะ
แต่หลังจากที่คิดๆ ดูแล้ว คือขออัพตามอารมณ์ดีกว่า (เอาไงแน่เนี่ย ?) เพราะตอนนี้ก็เปิดเทอมแล้วด้วย
แต่จะพยายามอัพบ่อยๆ แล้วกันเนอะ >w<
สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่สนใจฟิคเรื่องนี้มากๆ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นดีๆ คนแอด คนโหวต
คนแอดเยอะมากกก ปลื้มนะค่ะ แต่! ทำไมคนที่เม้นมักไม่ใช่คนที่แอด? (อันนี้สงสัยอยู่นะ 5555)
หรือคนที่แอดรอให้ลงตอนเยอะๆ ก่อนหรอค่ะ? อ่าา ช่างเถอะ เม้นไม่เม้นมันบังคับไม่ได้อยู่แล้วเนอะ
แต่ถ้าเจอแจ็คพอตอะไรบางอย่างนี่ก็ไม่ง้อนะ
เข้าเรื่องนิดนึงสำหรับแบนเนอร์ รีดเดอร์ที่น่ารักทุกคนคิดว่ามันโอเคมั้ยค่ะ ? = =
ยังไงก็ ฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยนะจ๊ะ แล้วเจอกันกับอีกที่เหลือในเร็ววัน
+ อยากจะบอกว่าเรื่องนี้มันดำเนินมาใกล้กับฉากเรทแล้ว(อะไรว่ะ ลงไม่ถึง 5 ตอนเลยนะโว้ย : คนอ่าน)
+ ใครอยากจะเม้าท์กับเราก็นี่เลย แอดมา 555 (ไม่ค่อยจะแจก - - ) chadliia@hotmail.comชอบอ่านเม้น(ยาวๆ)นะค่ะ -))
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านมากๆ เลยนะค่ะ >w<
ความคิดเห็น