ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SENSITIVE อย่ามาเล่นกับหัวใจฉัน'

    ลำดับตอนที่ #3 : ★ SENSITIVE II

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 54


    SENSITIVE II
    chackmate story and present update 18.03.2011 03:15 AM
    Thank to theme ;
    Qreaz. 10


     


               ตอนเช้า....

                            อรุณสวัสเนป ! ^0^/’

     

                            ‘อ่อ~ อรุณสวัสดิ์ - -/’

     

                            ‘ไปโรงเรียนพร้อมกันมั๊ย ?’

     

                            ‘ไม่ล่ะ - -’ (วิ่งหนีขึ้นรถ)

     

                            ‘-[]-’

     

                พักเที่ยง.....

                            ‘ไปกินข้าวกันเถอะเนป ^-^/’

     

                            ‘ไม่อ่ะ ฉันไม่หิว (- -)/

     

                            ‘ไม่ได้นะ ลงเร็ว ลงไปกินข้าว~’ (ฉุดแขน)

     

                            ก็บอกไงว่าฉันไม่หิว ( _ _) Zzz’ (ฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วแกล้งหลับ)

     

                            ‘T[]T’

     

     

                เลิกเรียน....

                            เนปจูน~ วันนี้กลับบ้านด้วยกันนะ ^^’

     

                            ...... (ก้มหน้าก้มตาเก็บกระเป๋า)

     

                            เดี๋ยวฉันคุยกะพี่เวสต์ให้เอง กลับพร้อมกันเถอะนะ~ เดี๋ยวพาไปเลี้ยงไอติม > <’

     

                            ‘......(เดินหนี)

     

                            ‘นะๆ เดี๋ยวเลี้ยงพิซซ่าด้วย !’ (เดินตาม)

     

                            ...... (สาวเท้าเร็วขึ้น เปลี่ยนเป็นวิ่ง)

     

                            เนป! เธอจะวิ่งหนีฉันทำไม ?’ (วิ่งตาม)

     

                            เลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว !’ (วิ่งหนีขึ้นรถ)

     

                            เนปจูน ! T[]T’

     

                ..... และนี่คือเหตุการณ์ที่เกิดกับฉันเป็นประจำทุกวันรวมเป็นเวลาสองสัปดาห์นับตั้งแต่ที่นายเคนจิยะย้ายเข้ามาเรียนที่เซนต์เซซาเรีย และย้ายมาอยู่ข้างบ้านฉันชีวิตฉันก็หาความสงบสุขแทบไม่ได้ นอกจากฉันจะต้องระวังตัวจากนายเคนจิที่คอยตามหลอกตามหลอน ฉันยังต้องคอยระวังตัวจากเหล่าแฟนคลับของนายเคนจิยะ ผ่านไปแค่สองสัปดาห์แฟนคลับหมอนี่เต็มโรงเรียนไปหมด วันแรกก็เริ่มจากห้องฉัน วันต่อมาก็เริ่มระบาดไปห้องอื่น วันถัดไปก็กรี๊ดกันทั้งชั้นปี พอมารู้ตัวอีกทีแฟนคลับหมอนี่ก็ยั้วเยี้ย(?) เต็มโรงเรียนไปหมด

                พวกผู้ชายก็เริ่มทำสีผมแปลกๆ ตามนายเคนจิยะไล่ไปตั้งแต่สีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง แถมชมพูไปอีกหนึ่งสี ทรงผมประหลาดๆ ก็ตามมาอีกมากมาย พวกผู้หญิงพอเห็นพวกผู้ชายทำสีผมแปลกๆ ก็บ้าจี้ไปทำมั่ง ไม่เว้นแม้แต่ซีนัสที่ลากฉันเข้าร้านทำผม ซีนัสจัดการเปลี่ยนสีผมเป็นสีบลอนด์สว่างแล้วทำไฮไลท์สีดำ แน่นอน
    ! ยัยซีนัสไม่ลืมที่จะเผื่อแผ่ความประหลาดมาให้ฉัน T[]T ผมยาวตรงสีน้ำตาลเข้มถูกตัดเป็นทรงขั้นบันไดก่อนจะย้อนให้กลายเป็นสีดำสนิท แถมด้วยไฮไลท์สีเหลืองทองที่ปลายขั้นบันได ดูแล้วเหมือนกับตัวประหลาดที่พึ่งหลุดมาจากโลกอนาคต ประกอบกับโรงเรียนฉันไม่ค่อยเคร่งครัดเรื่องทรงผมมากนักจึงไม่แปลกที่หลายๆ คนจะกล้าไปทำสีผมแปลกๆ มาแบบนั้น

     

                วันนี้เป็นวันเสาร์และแน่นอนตอนนี้ฉันกำลังนอนกลิ้งอยู่บนเตียง อ๊ะๆ อย่ามองแบบนั่นนะ ฉันอาบน้ำเรียบร้อยแล้วนะ แต่แค่ไม่อยากลงไปข้างล่าง เพราะเดี๋ยวอีกซักพักนายเคนจิจะมาเป็นลูกชายแม่ฉัน มาทุกวัน... ยิ่งเสาร์อาทิตย์นี่บ้านฉันกลายเป็นของหมอนั่นไปเลยแหละ - -; พ่อกับแม่ฉันนี่รักนายเคนจิมากกว่าฉันอีก พอฉันเข้าไปช่วยแม่อบเค้กซักหน่อยแม่ก็เอาฉันไปเปรียบเทียบกับหมอนั่น! ใช่สิ! ฉันมันทำอาหารไม่เป็น งานบ้านงานเรือนไม่เก่ง ! พอจะหนีไปช่วยพ่อดูสวนซักหน่อย พ่อก็เอาแต่ชมนายเคนจิ เคนจิแรงดีอย่างโน้นอย่างนี้…. กุหลาบต้นนั่นเคนจิเค้าเอามาให้พ่อ.... เท่านั้นไม่พอ หมอนั่นไปประจบพี่ชายฉันอีก เชอะ! -^- ไปรักหมอนั่นให้หมดเลย ! ฮึ่ย! ว่าแล้วก็โทรหาซีนัสดีกว่า

     

                ฉันพลิกตัวไปคว้าไอโฟนสี่สีขาวที่วางอยู่โต๊ะโคมไฟข้างเตียง ไล่นิ้วเรียวหาเบอร์เพื่อนรักในลิสต์ แล้วโทรออกอย่างว่องไวต่อสายอยู่ซักครู่ก็ติด ก่อนที่เจ้าตัวจะกดรับแล้วกรอกเสียงมาไม่รอให้ฉันทักทาย

     

                “[ฮัลโหล่ววว. โทรมาแต่เช้ามีอะไรรึเปล่าย่ะ ?]” เช้าบ้าอะไรของแกว่ะซีนัส - -; อีกสิบนาทีสิบโมงเช้า เจริญเถอะ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปไหน?

     

                “เช้าบ้านแกสิซีนัส แกดูนาฬิกาบ้างรึเปล่า? อีกสิบนาทีจะสิบโมงเช้าแล้ว -[]-” ฉันพลิกตัวกลับมานอนหงายในท่าเดิมและที่เดิม ก่อนจะเปิดสปีกเกอร์โฟนวางไอโฟนไว้ข้างตัว แล้วคว้าตุ๊กตาอียอร์ตัวยักษ์ขึ้นมากอด -3-

     

                “[อ่อ โทษที -.-]” ซีนัสพูดเหมือนขอไปที “[แล้ววันนี้สุดหล่อของฉันไม่มาสิงบ้านเธอแล้วเหรอย่ะ ?]”

     

                “ไม่รู้ ฉันไม่ยังไม่ได้ไปข้างล่าง แต่ถึงเขามาก็ชั่งเขา ฉันไม่ได้สนฉันพูดด้วยน้ำเสียงขอไปที อุตห่าส์โทรหาเผื่อจะมีเรื่องเมาท์แก้เบื่อ แต่นี่ยิ่งช่วยทำให้ฉัยเซงมากขึ้นกว่าเดิม - -

     

                “[แหม. มั่นใจเหรอย่ะว่าไม่แคร์ ที่แกวิ่งหนีเขา คอยหลบหน้าเนี่ยไม่ใช่เพราะกลัวใจตัวเองหรอกเหรอจ๊ะ ? ฮึ ?]” จู่ๆ หัวใจฉันก็เริ่มเต้นแรง เลือดสูบฉีดไปทั่วใบหน้า ฉันเอาฝ่ามือมาแนบแก้ม เอ่ออ.. ร้อนใช้ได้เลยนี่ -///-

               

                “ไร้สาระฉันปรับเสียงให้เป็นปกติ ฉันแค่ไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเข้ามาวุ่นวายต่างหาก แล้วตานั่นก็จุ้นอย่างกันอะไรดี เกาะแน่นเหนียวหนึบยังกะปลิง -^-”

     

                “[โถ่ๆ ให้มันจริงเหอะเนปจูน แล้วนี่แกทำอะไรอยู่? ว๊าย ! ทำอะไรน่ะ -////-]” เสียงช่วงท้ายประโยคดูเบาลง ตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิกคักของใครบางคน

     

                นอนกลิ้งบนเตียง อยากลงไปชงกาแฟจังเลย T^T” เกือบสองอาทิตย์แล้วที่ฉันไม่ได้ลงมือชงกาแฟสด กลิ่นหอมเมล็ดกาแฟคั่วใหม่คือสิ่งที่ฉันรักมากที่สุด อ่อ! บ้านฉันเป็นเจ้าของไร่กาแฟ กับธุรกิจเกี่ยวกับเมล็ดกาแฟส่งออก เห็นอย่างนี้ฉันน่ะบาริสต้ามือหนึ่งของบ้านเชียวนะ (ยังไม่กล้าไปเทียบฝีมือกับบาริสต้ามือฉมังในบริษัทของพ่อ - -‘เดี๋ยวหน้าแหก) เริ่มแรกที่คุณปู่ริเริ่มที่ทำธุรกิจไร่กาแฟ คุณปู่ท่านลงปลูกเองที่ไร่ พ่อเล่าให้ฟังว่าตอนเด็กพ่อไปปลูกกาแฟกับคุณปู่ที่สวนอยู่จันทบุรี จนกระทั่งคุณปู่เสียพ่อก็เริ่มสานงานไร่กาแฟต่อ จนเดี๋ยวนี้ไร่ของคุณปู่และพ่อกลายเป็นแหล่งผลิตและแปรรูปเมล็ดกาแฟส่งออกรายใหญ่ของไทย - - ‘ฟังดูจะเวอร์แต่มันก็คลาสสิคดีใช่มั๊ยล่ะ?

     

                ตอนแรกคุณพ่อก็เปิดธุรกิจร้านกาแฟที่มีแฟรนชายน์อยู่ทั่วประเทศ พ่อไปเจอกับแม่ในโรงเรียนสอนทำอาหาร พ่อไปลงสมัครเรียนทำขนม ส่วนแม่ก็ไปเรียนทำเค้กเพื่อเปิดร้านเบเกอร์รี่ สุดท้ายก็ลงเอยกันจนมีฉันกับพี่เวสต์ พ่อถ่ายทอดวิชาปลูกกาแฟ ดูแลไร่ และชงกาแฟให้ฉันแบบหมดเปลือก และแม่ก็สอนพี่เวสต์อบเค้กจนพี่เวสต์แทบจะอบเค้กเป็นงานอดิเรก พี่เวสต์ทำเหมือนการอบเค้กเป็นเรื่องง่าย ต่างกับฉันที่การอบเค้กเป็นเหมือนหายนะของชีวิต TT___TT

     

                “[แกก็ขอพ่อแกเปิดร้าน คอฟฟี่ช็อปสิ แกได้ชงกาแฟจนมือหงิกแน่ แกเป็นบาริสต้าให้พี่เวสเป็นคนอบเค้ก พี่น้องช่วยกันทำงาน >.< น่ารักออกแก เดี๋ยวฉันจะไปเป็นพนักงานเสิร์ฟ]” ฉันลองนึกภาพตามในใจ ฉันใส่ชุดพนักงานกำลังชงกาแฟให้ลูกค้า ด้านหลังเป็นครัวที่เชื่อมกับหน้าร้านด้วยช่องเล็กๆ เห็นพี่เวสต์กำลังตั้งใจอบเค้ก ลูกค้าในร้านมีมากหน้าหลายตา ยัยซีนัสวิ่งเสิร์ฟกาแฟและของว่างให้ลูกค้า จะว่าไปก็เป็นความคิดที่ดีนะ แต่ปัญหาก็คือ พี่ฉันน่ะตามตัวยากแถมชอบหายเข้ากลีบเมฆไปมีเรื่องบ่อยๆ แล้วถึงฉันจะรักการชงกาแฟก็จริง แต่จะให้ไปยืนขาแข็งเป็นบาริสต้าหลังเคาเตอร์ทั้งวันก็ไม่ไหวหรอก T^T

     

                ความคิดแกดีเลิศ ฉันรักการชงกาแฟก็จริง แต่ฝีมือฉันยังไม่ถึงขั้นนั้น แล้วไหนจะพี่เวสต์อีก แกก็รู้ว่าพี่ฉันชอบหายเข้ากลับเมฆ เปิดร้านไปได้เจ๋งแน่แก - -” ฉันเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำ ตะกี้ฉันได้ยินเสียงรถเข้ามาจอด สงสัยนายเคนจิคงพาแม่ฉันออกไปช้อปมาแน่ๆ =3=

     

                “[ฮ่าๆ เอาเถอะๆ แกก็ลองเก็บไปคิดดูแล้วกัน ถ้าพี่เวสต์ไม่เข้าครัวอบเค้กให้ร้านแก แกก็ลองมองหาคนใกล้ตัวแถวนั้นดูสิ ได้ข่าวว่ากำลังฝึกปรือวิชาอบเค้กระดับเทพกะแม่แกนี่ : )]”

     

                หยุดความคิดนั่นไปได้เลย แกเลิกคิดอะไรฟุ้งซ่านได้ล่ะ

     

                “[อย่ามาเปลี่ยนประเด็นนะแก ฉันไม่ได้ฟุ้งซ่าน แกต่างหากที่ฟุ้งซ่าน ฉันไม่เชื่อแกหรอก ให้เดาตอนนี้ในหัวแกคงมีภาพแกกำลังชงกาแฟแล้วเคนจิคุงก็กำลังอบเค้กอยู่หลังร้าน ฉันรู้นะ ฮ่าๆๆๆ. ^o^]” ยัยซีนัสหัวเราะคิกคักเหมือนกับพอใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดออกมามาก เออ! ยอมรับก็ได้ว่าฉันก็คิดอย่างที่ยัยนั่นบอก แต่แค่ลองนึกภาพดูเฉยๆ แค่ลองนึกดู ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้นจริงๆ

     

                เออ ฉันคิดอย่างที่แกพูดนั่นแหละ แต่ฉันแค่....ฉันหยุดชะงักเพราะเสียงเคาะประตู แค่นี้ก่อนนะซีนัส เดี๋ยวโทรหาใหม่ก่อนจะลุกจากเตียงโดยคว้าไอโฟนมาถือไว้ในมือโดยที่ไม่ลืมบอกลาซีนัสแล้วกดวางสาย แล้วโยนกลับไปที่เตียง

     

                ฉันลุกไปส่องกระจกที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อดูความเรียบร้อย ไม่มีเสียงขานจากบุคคลที่อยู่ข้างนอก ก่อนที่จะก้าวไปเปิดประตูไม้สีขาวอย่างราวเร็ว ดวงตาคมสวยที่ยิ้มจนไม่เห็นนัยน์ตา รอยยิ้มสดใสกับฟันขาวสะอาดเรียงสวย ปรากฏอยู่ตรงหน้าฉัน.... ผู้ชายที่ฉันพยายามหนีมาเกือบสองอาทิตย์  ….เคนจิ....

     

                อรุณสวัสดิ์เนป ^[++]^ ฉันพึ่งอบเค้กเสร็จ ลงไปชิมให้หน่อยสิ

     

                .... เอาอีกแล้วสิใจฉัน….

     

                ....ไม่เคยฟังคำสั่งกับบ้างเลยสินะ....

     

                .....ไอ้หัวใจบ้าๆ ดวงนี้....

     

                ....มาสั่นอะไรกับรอยยิ้มสดใสของผู้ชายคนนี้กันเล่า....





     





                สิบนาทีต่อมา...

                และแล้วฉันก็เคลิ้มกับรอยยิ้มของหมอนั่นจนลงมาข้างล่างจนได้ - -‘อันที่จริงหมอนั่นไม่ได้ลงมืออบเค้กเลยแม้แต่น้อย ความจริงเป็นเค้กที่พี่เวสต์อบไว้ คุณแม่จึงจับมาเรียงชั้นและให้นายเคนจิแต่งหน้าเท่านั้น อืม..เค้กสตอว์เบอรี่ครีมสดหวานๆ ต้องทานกับเอสเพรสโซ่ขมๆ เท่านั้น

     

                ว่าแล้วฉันก็ใช้แก้วช็อตตวงผงกาแฟบดสำเร็จใส่แก้วกาแฟ ก่อนจะริมน้ำกาแฟจากการ้อนที่มีน้ำกาแฟบรรจุอยู่ภายในประมาณสองในสามของแก้ว ทำอย่างนี้ซ้ำๆ จนได้กาแฟทั้งหมดสี่แก้ว อันที่จริงฉันไม่ค่อยชอบเอสเพรสโซ่เท่าไหร่เพราะมันขม แต่ถ้าจะกินกับเค้กสตอว์เบอรี่ครีมสดต้องเป็นเอสเพรสโซ่เท่านั้น

     

                หอมจังเลย ฝ่ามือเย็นของเคนจิแตะที่เอวของฉันเบาๆ ก่อนที่จะยื่นหน้ามาทำจมูกบานสูดกลิ่นหอมของกาแฟ ทำเอาฉันผละออกแทบไม่ทัน -////- เอ๊ะหมอนี่จะเอายังไงกับฉันเนี้ย L

     

                “ทำบ้าอะไรของนาย -///-” ฉันผละออกมาห่างซะสามวาได้ ก่อนจะกอดอกถามอย่างเอาเรื่อง แต่ดูท่าว่านายเคนจิจะไม่ได้สนใจอะไรฉันเลย T^T สนใจฉันหน่อยเซ้!

     

                แล้วเธอชงทำไมเยอะแยะเนี้ย ? กินกันอยู่แค่สองคน -^-” ดุเหมือนฉันจะได้คำตอบช็อคโลก แค่..สองคน ? แล้วพ่อกับแม่ล่ะ ! อย่าบอกนะว่าตอนนี้ทั้งบ้านเหลือฉันกับหมอนี่แค่สองคนน่ะ !

     

                “แล้วพ่อกับแม่ฉันล่ะ ! นี่ อย่าเดินหนีฉันนะ !!” ฉันได้กระแทกเท้าปึงปังเดินตามเคนจิออกไปเท่านั้น TT^TT พ่อกับแม่ทิ้งฉันไว้กับหมอนี่ได้ยังไง !

     

                นั่งก่อนเดี๋ยวฉันจะบอกเคนจิวางแก้วกาแฟลงบนโซฟาทันทีที่เดินมาถึงห้องนั่งเล่น ก่อนจะทิ้งตัวนั่งไขว่ห้างหยิบรีโมทเปิดทีวีอย่างถือวิสาสะ ย๊า! นี่มันบ้านนายรึไงย่ะ !

     

                “นี่มันบ้านฉันนะย่ะ ! อย่าถือวิสาสะเปิดอะไรไปทั่วสิฉันเปิดเข้าไปแย่งรีโมทจากในมือเคนจิก่อนจะปิดทีวีทันที เคนจิจิ๊จ๊ะเล็กน้อยแต่ก็ลุกขึ้นมาแย่งรีโมทแล้วดึงฉันให้นั่งลงที่โซฟาข้างตัวเขา ก่อนจะหยิบเค้กสตอว์เบอรรี่ครีมสดที่ตัดแบ่งเป็นชิ้นรูปสามเหลี่ยมวางบนจานอย่างสวยงามขึ้นมาตรงหน้า ก่อนที่ฉันจะรับมาแบบงงๆ เคนจิขยี้ผมฉันเบาๆ แล้วหันไปสนใจสาวสวยที่กำลังสอนวิธีการทำอาหารในทีวีต่อ

     

                นี่นาย พ่อกับแม่ฉันไปไหนฉันวางจานเค้กลงบนตักก่อนจะหันไปถาม และแล้วก็เหมือนเดิม หมอนนี่ไม่ยอมตอบฉัน เอาแต่สนใจทีวี ! เฮ้! มองกันบ้างเซ้ !

     

                “ทำอะไรของน่ะเนป - -?เคนจิหันมามองหน้าฉันตอนที่ฉันเอามือโบกไปมาตรงหน้าเขา เพื่อเรียกร้องความสนใจ ? T^T ก็หมอนี่ไม่สนคำถามที่แนพูดเลยนี่ !

     

                “โอเค เข้าประเด็นล่ะเปลี่ยนยกจานเค้กขึ้นก่อนจะเป็นเป็นนั่งขัดสมาธิเข้าหาเคนจิ แต่ก็ไม่วายตัดเค้กเข้าปาก อ้อกะแอ้อั๋นไอไอ๋ ?

     

                กินเค้กให้หมดแล้วค่อยถามได้มั๊ย คุณลุงกะคุณป้าออกไปช้อปปิ้งกันเคนจิหันไปสนใจทีวีต่อ ฉันเลยตอบแทนด้วยการเหยียดขาออกไปเขี่ยๆ ต้นขาของเคนจิ หึหึได้ผล ! หมอนั่นสนใจฉันล่ะ

     

                จะยั่วฉันหรอ ? ^0^”

     

                “=[]=!!!” ขอเวลาฉันอึ้งสามวิ ก่อนที่ฉันจะยันหมอนั่นเข้าให้โครมนึง ! “ไอ้บ้า ! นายก็หัดฟังที่คนอื่นเค้าพูดมั่งเซ้ ! J”

     

                “ว่ามาที่รักว่ามา *0*”

     

                “ใครที่รักนายไอ้บ้า ! แล้วเสียงจอดรถเมื่อเช้าหล่ะ ? ฉันได้ยินนะฉันชักเท้ากลับมานั่งในท่าขัดสมาธิดังเดิม เคนจิทำเสียงจิ๊จ๊ะก่อนจะลูบผมสีทองสว่างให้ตั้งชันเป็นนกหัวขวาน - -'

     

                อ่อ ~ ฉันออกไปเอารถที่บ้านฉันเข้ามาจอดบ้านเธอหน่ะเคนจิตอบแบบไม่มองหน้าฉันก่อนจะเขมือบเค้กคำสุดท้ายแล้วอัดเอสเพรสโซ่ตามเข้าไป หมอนี่ไม่มีศิลปะในการกินเค้กกับกาแฟจริงๆ - -+

     

                “บ้านนายเค้าให้กินกันแบบนั่นสิ เค้าต้องกินแบบนี้ฉันหยิบเค้กขึ้นมาตัดเป็นคำเล็กๆ ตัดแบ่งเค้กเป็นคำเล็ก แล้วเอาเข้าปาก ห้ามเคี้ยวนะ ปล่อยให้ครีมสดน่ะค่อยๆ ละลายแล้วค่อยเคี้ยว จากนั่นก็จิบกาแฟเอสเพรสโซ่ขมๆ เข้าไปแบบนี้ฉันยกแก้วเอสเพรสโซ่อุ่นๆ ขึ้นมาจิบ เป็นตัวอย่าง แบบนี้สิถึงจะได้รสของครีมสดของเค้ก รสหวานของครีมที่ยังคงหลงเหลือเล็กน้อยผสมเข้ากับรสขมของกาแฟ มันเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีมาก !

     

                “แล้วมันต่างกับการกินปกติยังไง ? ก็กินเค้กแล้วก็จิบกาแฟเหมือนกันฉันทำท่าจะเถียงแต่ถูกมือหนามาปิดปาดไว้ซะก่อน พอละ ฉันขี้เกียจเถียงกะเธอล่ะ ไปเล่นกะพลูโตดีกว่า

     

                เคนจิลุกจากโซฟาไปหาเจ้าพลุโต ลูกหมาพันธุ์พันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ที่เพื่อนพ่อพึ่งให้มา มันเป็นไซบีเรียนฮัสกี้พันธุ์แท้ ตาซ้ายของมันเป็นสีทอง แต่ตาขวาของมันเป็นสีฟ้าใส ตัวอ้วนกลมขนนิ่มฟูสีขาวล้วน น่ารักซะไม่มี >w<

     

                “เห้ย ! พลูโต!” ฉันหันไปตามเสียงของเคนจิ และฉันก็พบว่า....ไปเล่นอะไรมาเนี้ย แล้วในปากน่ะอะไร ?เจ้าพลูโตที่มีสภาพมอมแมมเหมือนลูกหมาตกโคลนคายสิ่งมีชีวิตตัวเขียวๆ ที่อยู่ในปากออกมาบนพรม มันดิ้นไปดิ้นมาซักพักก่อนที่ของเหลวสีเขียวขุ่นจะไหลออกมาจากตัวของมัน

     

                “เห้ย! / กรี๊ด!” ฉันกระโจนขึ้นยืนบนโซฟาพร้อมๆกับเคนจิที่วิ่งขึ้นมาเกาะฉันอย่างรวดเร็ว ฮือๆ หนอนอ่ะหนอน ! เจ้าพลูโตมันคาบหนอนเข้ามาในบ้าน ! ToT

     

                “ฮือ! นายเคนจิ เอามันออกป๊ายยยย !” ฉันจิกเล็บที่อกนายเคนจิ ฉันได้แต่หลับหูหลับตาพูด T T ฉันไม่ชอบหนอนนน

     

                โฮ่ง !”

                “นี่ เนปจูนเคนจิเรียกชื่อฉันเบาๆ ก่อนที่ฉันจะโผกอดเขาแน่นขึ้นไปอีก แล้วพร่ำถามถึงไอ้ตัวเขียวเจ้าปัญหา T^T

     

                “มันไปรึยังเคนจิมันไปรึยัง ? ToT”

     

                “ลืมตาขึ้น โอเคมั๊ย ? มันไปแล้วๆเคนจิลูบหัวฉันเบาๆ ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น จมูกฉันอยู่ติดกับอกกว้าง กลิ่นน้ำหอมเหมือนเค้กที่พึ่งอบเสร็จ ฉันมองไปรอบๆ ตัวเพื่อความแน่ใจ มือสองข้างวางทาบอยู่บนอก สองแขนกำยำที่โอบล้อมรอบตัว โอเค...ได้ข้อสรุปแล้ว

     

                ฉันรีบผละออกจากเคนจิทันที แต่เพราะทั้งฉันและเคนจิยืนอยู่บนโซฟา การเคลื่อนไหวของฉันจึงมีผลกับการทรงตัวของเคนจิ แต่ก็เป็นเหมือนอย่างที่คุณคิด ตอนนี้เคนจิล้มทับฉันอยู่

     

                อ่า. โทษที คือว่า. เคนจิเกิดอาการติดอ่าง แต่ฉันสิใบ้กิน T^T ทั้งฉันและเคนจิก็ได้แต่อ้ำอึ้ง สุดท้ายก็เป็นฉันที่ผลักเคนจิออกแล้วยันตัวขึ้นนั่งกอดเข่าบนโซฟา เคนจิเกาหัวแก้เก้อแล้วเดินออกไปหยิบไม้กวาดกับที่ตักผงมาตัดการซากศพของหนอนตัวที่เจ้าพลูโตคาบเข้ามา ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะนั่งอยู่ทำไมเลยลุกไปอุ้มเจ้าพลูโตออกไปที่สวนหน้าบ้าน เอาล่ะ มาอาบน้ำกันพลูโต!!

     

                ฉันลากอ่างอาบน้ำของพลูโตออกมาที่พื้นโล่งแถวโรงรถ อันที่จริงมันก็เหมือนอ่างอาบน้ำของเด็กเล็กทั่วไปนั่นแหละ แต่ฉันไปซื้อมาไว้หลังจากที่พาเจ้าพลูโตเข้าไปอาบน้ำในบ้านแล้วมันวิ่งป่วนจนห้องน้ำเละ = =’ สุดท้ายก็ต้องไปซื้ออ่างอาบน้ำแล้วพามันออกมาอาบนอกบ้านแบบนี้แหละ

     

                นั่งรอในอ่างนะ เดี๋ยวแม่ไปเอาสายยางเดี๋ยวฉันวางพลูโตลงในอ่างเปล่าที่ไม่มีน้ำแล้วหันไปชี้หน้าแล้วบอกให้รอ พลูโตจ้องฉันด้วยตาสีฟ้าและเหลืองทองเหมือนเข้าใจ ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไปเอาตะกร้าอุปกรณ์อาบน้ำของพลูโตที่อยู่ในบ้านแล้วก็ไม่ลืมต่อสายยางเข้ากับก๊อกหน้าข้างบ้าน.... อ้าว ? ใครมาต่อสายยางล่ะ ?

     

                ฮ่าๆ สกปกมอมแมมเชียวนะ คราวหน้าคราวหลังก็อย่าไปคาบอะไรสุ่มสี่สุ่มห้ามาอีกล่ะ เดี๋ยวฉันกับเจ้านายแกจะหัวใจวายตายซะก่อน เข้าใจใช่มั๊ย?

     

                เคนจิกำลังฉีดน้ำจากสายยางใส่พลูโต และเล่นกันอย่างสนุกสนาน พลูโตกระโดดไปมาในอ่างอาบน้ำเล็กๆ เพื่อจะงับปลายสายยางที่มีน้ำไหลออกมา เคนจิหัวเราะอย่างมีความสุข ดูเหมือนว่าทั้งเคนจิกับพลูโตจะเข้ากันได้ดี

     

                นานแล้วที่ฉันไม่เห็นพลูโตเล่นสนุกแบบนี้ ปกติฉันก็เอาแต่ปล่อยให้มันเล่นอยู่แต่ในบ้าน มีบ้างที่พาออกไปเดินเล่นแต่ก็แค่แปปเดี๋ยวเพราะฉันเหนื่อย แต่พอพลูโตอยู่กับเคนจิ เหมือนกับว่าเคนจิเข้าใจจิตใจของพลูโตและสามารถเป็นเพื่อนเล่นกับพลูโตได้ ดูๆ ไปแล้วเหมือนพ่อกับลูกเลยเน๊อะ L

     

                “อ้าว ? ยืนอะไรอยู่ตรงนั่นล่ะเนปจูน

     

                โฮ่ง โฮ่ง !”

     

                ดูเหมือนทั้งคนและหมาจะสามัคคีกันมาก เคนจิโบกมือเรียกฉันหย่อยๆ ไม่ต่างกับพลูโตที่เห่าเรียกฉัน นี่ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั๊ย ? ฉันเห็นพลูโตยิ้มด้วยล่ะ - -?

     

                ยังยืนนิ่งอยู่อีก เอามานี่เลยมาเคนจิลุกขึ้นมาแย่งตะกร้าอุปกรณ์อาบน้ำของพลูโตไปจากมือฉันแล้วจูงมือฉันเข้าไปหาพลูโตที่รออยู่...

     

                .....ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมามือมาสู่หัวใจ....

     

                .....รอยยิ้มสดใสที่กำลังมอบให้ฉัน....

     

                …..ความสุขแบบนี้ มันมาจากไหนกันนะ.....








    คุยกันซักนิด <3
    อัพครบ 100 % แล้ววว มาแบบห่วยๆ มีให้กรี๊ดเล็กน้อยถึงปานกลาง 555.
    หายไปแบบชนิดที่โคตรนาน - -; น้อบรับผิดค่ะ ไม่มีคำแก้ตัวหรืออธิบายอะไรใดๆ ทั้งสิ้น
    ที่ไม่ยอมอัพเป็นเพราะความขี้เกียจ ที่เข้าใส้จนขึ้นสมองกลับลงฝ่าเท้าอยู่สามตลบ ?
    พาสนี้ก็มาง่ายๆ ด้วยความขี้เกียจ นั่งๆ อยู่เพ้อเห็นน้องน้องจองถึงกับรีบมาอัพ 555.
    มาจะกล่าวบทไปถึง white snow. ปาล์มขอดองเรื่องนั่นถาวรนะค่ะ (โดนตบ)
    ขอโทษที่ปาล์มบอกให้รอ อยากจะแต่งแต่มันไปไม่เป็นแล้วจริงๆ ตันแบบโคตรตัน
    รีไรท์เปลี่ยนพลีอตแล้วมันไปไม่ไหว คือจะว่าไปที่ไม่ไหวเพราะว่าเราไม่อยากจะแต่งด้วย
    มันจึงไปไม่รอด ขอโทษละน้อบรับผิดแต่โดยดีค่ะ
    ต่อไปนี้ปาล์มจะอัพ sensitive แบบจริงจัง จะทุ่มทั้งชีวิตที่มีเพื่อเรื่องนี้ ทิ้งทวนชีวิตม.ต้น
    555555555555

    ปล. ตายอย่างสงบด้วยโบนัส.. หกห่ออุ่นทำเลือดลาก หล่อมว๊ากหุ่นก็เฟิร์ม -..-




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×