ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โชคชะตา เวลา และความรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 49


     " เมษาจ๊ะ เกาะมือแม่ไว้ซิ  เดี๋ยวหลงทางแม่ไม่รู้ด้วยนะ "


    " ค่ะแม่ "  เด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมต้น  ตอบผู้เป็นแม่  พร้อมกับเข้ามา ใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อที่จะจับมือ  ส่วนสายตาของเธอนั้นก็ยังคงมองนั่นมองนี่ตลอดทาง  และแม้ว่าผู้คนมากกมายจะเดินเบียดเสียดเที่ยวงานประจำปีของมหาลัย  ซึ่งถูกจัดขึ้นในช่วงใกล้ๆกับวันวาเลนไทล์ของทุกปี  แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอหงุดหงิดอย่างใดทั้งคู่เดินไปเรื่องๆจนมาถึงบริเวณที่ตั้งของร้านต้นไม้โดยเฉพาะแม่ของเธอก็ปล่อยให้ไปเดินเล่นแถวนี้  เด็กสาวจึงเดินไปร้านนี้ที ร้านนั้นที           รวมไปถึงสายตาและใบหน้าที่หันซ้ายหันขวามองแต่ร้านค้า            จนไม่ได้สังเกตคนที่เดินสวนมาว่ากำลังจะชนกันในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า


    ' พลั่ก '  ทั่งคู่เซทันที    แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายหญิงจะเซมากกว่า  เพราะเธอล้มลงไปนั่งกับพื้น


    " ขอโทษนะครับ " ใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามเข้ามาพูดใกล้เธอ  จนแทบจะชิดติดกันก็ว่าได้  ด้วยความห่วงใย  พร้อมกับยื่นมือมาให้เพื่อพยุงตัวลุกขึ้น


    " ขอบคุณค่ะ " เสียงเล็กๆของเด็กสาวพูดด้วยความเขินอาย  ก็ตอนนี้ใบหน้าเขาอยู่ใกล้เธอมาก  นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองมาราวกับจะดูดกลืนเธอเข้าไปในดวงตา  ทำให้เด็กสาวไม่กล้าที่จะมองหน้า  และเมื่อแขนของเธอถูกดึงขึ้นมาด้วยแรงของเขา ยิ่งทำให้ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นไปอีก


    " ไม่เป็นไรนะครับ " ฝ่ายชายถาม พลางมองเด็กสาวตรงหน้า  ที่ตอนนี้ลุกขึ้นได้แล้ว  ส่งยิ้มมาให้


    " อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  เมษาต้องขอโทษด้วยนะคะ  ที่เดินไม่ทันระวัง " เด็กสาวตอบ


    ทางด้านฝ่ายชายนั้น  สติของเขาตอนนี้  หลุดไปกับรอยยิ้มเมื่อครู่  ยิ้มที่เด็กสาวยิ้มให้  ทำให้หัวใจเขาเต้นแปลกๆ  สติก็เหมือนจะเลือนรางหายไป  ดวงตากลมโตที่มองมาอย่างไร้เดียงสา  บวกกับขนตาที่งอนยาวได้รูป  สะกดให้เขานิ่ง  จนไม่ได้ยินคำถามที่ตอบกลับมา  เขารู้แต่เพียงว่าตอนนี้เหมือนกับเวลาทั้งหมดกำลังหยุดนิ่ง  กระทั่งเสียงผู้หญิงวัยกลางคนเรียกว่า
    ' เมษา ' เขาถึงได้รู้สึกตัว


    " เอ่อ... เมษาขอตัวก่อนนะคะ " เด็กสาวบอกลา ฝ่ายชายอย่างงงๆ ที่ยืนจ้องมายังเธอ  ไม่แม้แต่จะกระพริบตา


    " ครับ " เขาวิ่งออกไปทันทีเมื่อพูดจบประโยค  คล้ายกับว่า  ตัวเองเป็นผู้ร้ายกระทำความผิด  กำลังหนีการจับกุม  
    ภาพการกระทำของฝ่ายชาย  ทำให้เด็กสาวหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้ตัว  สร้างความแปลกใจให้กับผู้เป็นแม่  ที่กำลังเดินเข้ามาหาลูกสาว


    " หัวเราะอะไรเหรอลูก  ท่าทางมีความสุขจังเลยนะ " หญิงวัยกลางคนถามลูกสาวที่ยังคงหัวเราะไม่เลิก


    " ก็ตลกอะไรนิดหน่อยค่ะแม่  ว่าแต่แม่ซื้อต้นไม้เสร็จแล้วเหรอคะ  ทำไมเร็วจัง"

    " จ๊ะ แล้วผู้ชายที่ยืนคุยกับลูกไปใหนแล้วล่ะ  เพื่อนลูกเหรอ " ผู้เป็นแม่ถามอย่างสงสัยที่ลูกสาวตัวเองยืนคุยกับเด็กผู้ชายในชุดมัธยมปลาย  ทั้งๆที่โรงเรียนของลูกสาวเธอนั้นมีแค่ม.ต้นเท่านั้น


    " เปล่าหรอกค่ะ แม่ หนูไม่รู้จักหรอก  ที่ยืนคุยกันก็เพราะว่าหนูไปเดินชนเขานี่แหล่ะค่ะ "

    " ตายแล้ว!!! เมษา แม่นึกว่าลูกจะเลิกนิสัยซุ่มซ่ามไปแล้วเสียอีก  ไม่กี่เดือนก็จะขึ้นม.ปลายแล้วนะลูก "
    ผู้เป็นแม่แกล้งร้องออกมาด้วยความตกใจ


    " แม่...ก็  หนูไม่ได้ล้มทุกวันซักหน่อย  แค่วันเว้นวันเอง "

    คำตอบที่ลูกสาวตอบออกมา  ทำให้เธอดีดหน้าผากเบาๆ  เด็กสาวจึงได้แต่ทำแก้มป่องตลอดทางที่เดิน


    " เฮ้ คุณสน เป็นอะไรหรือเปล่า " คนข้างๆที่เดินมาด้วยร้องทัก  เมื่อเห็นว่าเพื่อนของตัวเองนั้นอยู่ดีๆก็เงียบผิดปกติ  ทั้งที่ก่อนหน้านี้เดินพูดมาตลอดทาง  ตั้งแต่ประตูทางเข้า  จนเกือบจะสุดประตูออกอีกด้านหนึ่งของ
    มหาลัย


    " เปล่านี่ " ฝ่ายที่ถูกถามตอบกลับไป  แต่สมองเขายังคงนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่


    " คุณติดใจเด็กคนเมื่อกี้เหรอ  ผมเห็นคุณจ้องตาแทบจะทะลุ  นี่ถ้าพวกคุณเป็นปลากัดล่ะก็  ผมว่าฝ่ายนั้นตั้งท้องชัวร์ " คนข้างๆร้องแซวอย่างอารมณ์ดี  ก่อนจะวิ่งตรงไปยังร้านหอยทอดข้างหน้า  แต่ก็ไม่พ้นเมื่อฝ่ามือของคนที่ถูกกล่าวหายื่นเข้ามาจับไหล่เอาไว้


    " ปอนด์ แกเองก็จ้องเขาเหมือนกัน "

    คำพูดที่ออกมาจากปากเพื่อนเขา  เล่นเอาคนถูกเรียกว่า ' ปอนด์ '  ใจหายวาบ  ถอนหายใจออกมา  กับการรอดตัวจากฝ่ามืออันโหดร้ายที่เขามักโดนประจำ  ยามแซวคนข้างๆ


    " แต่ผมก็ไม่ได้จ้องแบบคุณนี่  อีกอย่างน้องเขาน่ารัก  ผมก็จ้องเป็นธรรมดา  คุณนี่ซิแปลก  ก็ทุกทีเห็นมองแต่ผู้ชาย " ปอนด์แซวออกไปอย่างลืมตัว  แล้วก็ได้รับแรงจากฝ่ามือของสนอย่างไม่ทันตั้งตัวด้วยเช่นกัน


    " เฮ้ย โทษทีลืมตัว นี่ผมเผลอตีปังปอนด์อีกแล้วเหรอเนี่ย " สนพูดคล้ายกับว่าเขาลืมตัวจริงๆ


    " คุณสนผมบอกกี่ครั้งแล้ว ว่าผมชื่อปอนด์  ไม่ใช่ปังปอนด์  คุณนี่แย่จริงๆ " ปอนด์ทำหน้าบึ้งเมื่อพูดจบ  จนคนที่ชื่อว่า ' สน '  ต้องเอ่ยปาก  บอกจะเลี้ยงหอยทอด  เขาจึงกลับมายิ้มตามเดิม  หากเป็นยิ้มที่เหมือนกับวางแผนการณ์เอาไว้ล่วงหน้า


    " แผนสูง จริงนะ "  สนเอ่ยอย่างรู้ทัน  เพราะยังไงเขาเองก็กะจะเลี้ยงอยู่แล้ว  เป็นการฉลองก่อนจะประกาศผลเอ็นทรานส์ (.... ยังไม่รู้เลยจะติดอ่ะเปล่า.... )

    จากนั้นทั้งคู่ ก็เดินไปยังร้านหอยทอด  โดยที่คนหนึ่งดีใจที่เพื่อนเลี้ยงหอยทอด  ส่วนอีกคนหนึ่งว้าวุ่นกับหัวใจตนเอง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×