คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6 น้องสาวคนสำคัญ (100%)
6
น้องสาวคนสำคัญ
ตอนนี้ผมกลับมาถึงบ้านแล้ว นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ตรงโซฟา ไม่ได้เข้าไปช่วยไอ้เจที่ร้านด้วยซ้ำ ไม่ได้อยากกลับหรอกครับ แต่ถูกไล่ออกมา ดีจริง ๆ ผมก็มีโมเมนต์นี้งั้นเหรอ? ปกติถูกรั้งให้อยู่ด้วยตลอด คงมีแค่คนเดียวนี้ละมั้งที่ไล่ผมเก่งน่ะ
“หึ!” ได้แต่นอนหลับตาแล้วอมยิ้มให้กับตัวเอง ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เลย
ตุบ!
เต็ม ๆ จุกฉิบหาย พอลืมตาก็เห็นไอ้เจยืนกอดอกจ้องหน้าผมอยู่
“ไหนบอกไม่กลับบ้าน” ผ่อนลมหายใจหนัก ๆ ออกมาแทนพลางปรายตาไปมองทางพี่ชาย
“ถูกไล่กลับมา”
“ฮ่า ๆ ไม่ผิดหวังที่สอนมาดี”
“มึงสอนอะไรทับทิม” รีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งเลยทีเดียว ไอ้เจเลยเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ พร้อมคำตอบ
“อย่าวิ่งตามมึงมากจนเกินไป ถึงเวลาที่มึงต้องวิ่งตามบ้างแล้ว ถ้าสำคัญจริง ๆ คนอย่างมึงไม่มีทางปล่อยให้หายไปแน่นอน”
“ไอ้...”
“อย่านะครับ นี่กูช่วยมึงอยู่นะ” ชี้นิ้วมาทางผมเพื่อข่มขู่อีกต่างหาก ผมมองหน้าไอ้เจนิ่ง ๆ ก่อนจะเบือหน้าออกไปมองด้านนอกต่อ
“วันนี้เจอพ่อทับทิมกับครอบครัวใหม่ที่ห้างด้วย... กูพยายามกันไม่ให้เห็นแล้วแท้ ๆ แต่ก็ยังมีบางจังหวะที่หันไปเจออีกจนได้” เสียงไอ้เจเงียบไป พวกผมแค่มองหน้ากันเท่านั้น
“ตอนนี้ทับทิมเหมือนตัวคนเดียวแล้ว กูหวังว่ามึงจะดูแลน้องให้ดีที่สุดนะ”
“อืม”
“งั้นกูไปนอนก่อนละกัน มีหมาบางตัวไม่ยอมไปช่วยเก็บร้าน”
“สัส!” เสียงหัวเราะดังลั่นบ้านเลยครับ ดีนะที่พ่อกับแม่หลับไปแล้ว ไม่งั้นคงตกใจแย่
ผมทิ้งตัวลงนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่นานก่อนจะลุกเดินกลับขึ้นห้อง อาบน้ำเข้านอน ช่วงนี้กลายเป็นเด็กดีโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน แต่ใจก็รู้สึกว่าสนุกจนอิ่มตัวแล้วแหละครับ ถ้ายังทำตัวแบบเมื่อสามปีก่อนอีก ผมก็คงเสียความรู้สึกที่มีค่ามาก ๆ ไปแน่นอน...
๐๐๐๐๐
ขยันออกจากบ้านตั้งแต่เช้า วันนี้ตั้งใจจะพาทับทิมไปซื้อของสำหรับเที่ยวทะเลพรุ่งนี้ ตื่นก่อนไอ้เจอีกครับ เดี๋ยวมันคงโทรมาบ่นอีกนั่นแหละ
ก๊อก ก๊อก
เคาะรัว ๆ รีบเดินเข้ามาตอนที่มีคนออกจากหอ เมื่อวานก็มาแล้ว คนดูแลหอเลยจำได้ หันมายิ้มให้แทน มาถึงหน้าห้องก็เคาะอยู่นานมากกว่าทับทิมจะออกมาเปิด
“พี่เจิ้น ทำไมมาแต่เช้าเลยล่ะคะ” ทับทิมเพิ่งตื่นครับ ชุดนอนสีชมพูเชียว หัวยังฟูอยู่เลย
“จะมารับไปซื้อของ”
“หนูไม่ต้องซื้ออะไรแล้วนะคะ” ขมวดคิ้วสงสัยไปด้วย “เข้ามาก่อนก็ได้ค่ะ” นึกว่าจะไม่ชวนผมเข้าห้องซะแล้วครับ ทับทิมเดินไปจัดเตียงนอนก่อนจะเปิดม่านที่หน้าต่าง แล้วเดินกลับมาหาผมที่ยืนอยู่
“นั่งที่เตียงก็ได้ค่ะ” ผมพยักหน้าให้ก่อนจะถอดเสื้อแจ็กเกตออกแล้วเดินไปนั่งปลายเตียง “หนูขออาบน้ำก่อนนะคะ”
“พี่ลงไปรอข้างล่างละกัน” ผมก็ยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่นะ เข้าห้องลูกสาวเขาบ่อย ๆ ไม่ดีหรอกครับ
“ค่ะ”
ยิ้มกว้างเชียว ผมยิ้มตอบกลับให้ทับทิมก่อนจะหยิบเสื้อแจ็กเกตแล้วเดินออกจากห้องลงมารอข้างล่างแทน เพราะมีโต๊ะหินอ่อนให้นั่งรออยู่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดเล่นเกม แต่กลับต้องเปลี่ยนเป็นกดรับสายไอ้เจแทน
“ฮะ...”
(แต่เช้าเลยนะมึง)
โทรมาด่าครับ
“ฝากร้านด้วยนะครับพี่ชาย”
(จะพาน้องไปไหนอีก หน้าพ่อกับแม่มึงก็ไม่รอเจอ ออกจากบ้านคนแรกเลย)
“ซื้อของใช้จำเป็น พรุ่งนี้กูจะพาทับทิมไปเที่ยวทะเล”
(หือ?)
“วันเกิดหลินน่ะ”
(ปฏิเสธมาสามปี ทำไมปีนี้ถึงอยากไป)
“มึงเองไม่ใช่เหรอที่บอกให้กูดูแลทับทิมให้ดีที่สุด กูก็จะชัดเจนให้มากที่สุดด้วยเหมือนกัน และแน่นอนว่ากูรู้จักตัวเองดีที่สุด มันเลยเดินย่ำอยู่ที่เดิม... จนกว่าจะถึงเวลา”
(กูหวังว่ามึงจะไม่สติหลุดซะก่อนนะ ฮ่า ๆ)
“เออ แค่นี้แหละ ทับทิมลงมาแล้ว”
หันไปเห็นพอดีเลยรีบพูดตัดบทก่อนจะกดวางสาย ทับทิมเดินออกมาผมเลยลุกขึ้นยืนพลางใช้สายตามองสำรวจการแต่งตัวของน้องไปด้วย วันนี้เตรียมพร้อมเชียวครับ เพราะใส่กางเกงขายาวออกมาแทน ค่อยน่าพอใจหน่อย
“มองอะไรคะ วันนี้หนูเตรียมพร้อมแล้วค่ะ” พูดออกมายิ้ม ๆ ท่าทางเหมือนสะใจมากที่ตามผมทัน ไม่ได้ถูกแกล้งอย่างเมื่อวานอีก
“ปล่อยผมทำไม” อันนี้ไม่เรียบร้อยครับ
ผมทับทิมยาวถึงกลางหลัง เส้นผมหยิกเป็นลอนเชียว ถ้าจำไม่ผิดน้าส้มไม่ได้ผมหยิกนะหรือไปเสริมสวยมา โตเป็นสาวอย่างที่เจ้าตัวพูดเอาไว้จริง ๆ นั่นแหละ แต่ผมกลับอยากให้ทับทิมเป็นเด็กเหมือนอย่างเมื่อก่อนมากกว่า และที่เด่นกว่าเส้นผมกับหน้ากลม ๆ แก้มเยอะ ๆ คือกิ๊บรูปหัวหมูสีชมพูนี่แหละ
“ปิดแก้มค่ะ” ผมยิ้มพลางส่ายหน้าไปมาแทน ก่อนจะหมุนตัวเดินนำไปที่รถ ตอนออกจากบ้านหยิบหมวกกันน็อคใบของไอ้เจมาด้วย แต่ผมจะใส่เองครับ ให้ทับทิมใส่ใบของผมแทน
“เอากิ๊บออกก่อน เดี๋ยวเจ็บ” คนตรงหน้าทำตามที่บอกก่อนจะเอาใส่ไว้ในกระเป๋า ผมเลยขยับเข้าไปใส่หมวกกันน็อคให้ทับทิม ของผู้ชายใบใหญ่พอสมควร
“หนัก…” บ่นทันที
“เดี๋ยวพาไปซื้อใบใหม่ เผื่อจำเป็นต้องใช้บ่อย ๆ” ยิ้มตาแทบปิดเชียวครับ พอใส่ให้น้องเสร็จก็หยิบมาใส่ให้ตัวเองบ้างก่อนจะขึ้นคร่อมรถ “ขึ้นได้ไหม”
“ค่ะ” ทับทิมไม่ได้เตี้ยขนาดนั้น แถมยังใส่กางเกงมาอีก พอขึ้นมานั่งซ้อนท้ายรถเสร็จ ผมก็สตาร์ทรถขับออกมาทันที
วันนี้จะพาไปซื้อพวกเสื้อผ้าเพราะผมจะขับบิ๊กไบค์ไป ทะเลที่หลินจะไปคงไม่พ้นที่เดิม ๆ อย่างทุกปีนั่นแหละครับ เพราะครอบครัวของเธอมีรีสอร์ตอยู่ที่หัวหิน อันดับแรกของวันนี้คือพาไปซื้อหมวกกันน็อคใบใหม่ก่อนเลย ถ้าจะให้ใส่ใบนี้ตะลอนทั้งวันมีหวังบ่นไม่หยุดแน่นอน
ผมพามาร้านประจำครับ เฮียเจ้าของร้านรู้จักกับไอ้เจ ปกติก็สั่งของที่ร้านเฮียตลอด แต่วันนี้อยากพามาเลือกเองมากกว่า กลัวซื้อให้แล้วไม่ถูกใจ จอดรถและรอให้ทับทิมก้าวขาลงก่อน ถึงจะลงตามพลางหมุนตัวไปทางทับทิมเพื่อจะถอดหมวกกันน็อคออกให้ ผมยุ่งเชียวครับ
“เอากิ๊บมา เดี๋ยวพี่ติดให้” มองหน้าผมงง ๆ แต่ก็ยอมทำตาม ช่วยจัดระเบียบเส้นผมก่อนจะติดกิ๊บให้แล้วถอดหมวกกันน็อคใบของตัวเองออกบ้าง
“พามาที่นี่ทำไมคะ”
“ซื้อหมวกกันน็อคใบใหม่”
“แต่หนูไม่มีรถนะคะ”
“แล้วไง” ไม่สนใจอีกครับก่อนจะจับมือพาเดินเข้าไปในร้าน
“อ้าวเจิ้น วันนี้มาเองเลยเหรอ แล้วนั่นพาสาวน้อยที่ไหนมาด้วยเนี่ย” เฮียหันมาเห็นพอดี เลยทักขึ้นก่อนจะปรายตาไปมองทางทับทิมด้วย
“น้องสาวครับ”
“หืม? ถ้าเฮียจำไม่ผิด ไม่มีน้องสาวไม่ใช่เหรอ มีแค่พี่ชาย” เฮียถามกลับยิ้ม ๆ แต่สายตาไม่ยอมละไปจากใบหน้าของทับทิมเลย
“พูดมากไปนะครับเฮีย เดี๋ยวผมก็ไปร้านอื่นซะหรอก”
“ฮ่า ๆ โอเค อยากได้อะไรก็ไปเลือกเอาเลย” หันกลับมามองหน้าทับทิม มองผมหน้านิ่งเชียวครับ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาจนผมจับมือพาเดินเข้าไปเลือกหมวกกันน็อคข้างใน
“เอาแบบเต็มใบนะ อยากได้สีไหนก็เลือกมา โซนนี้เป็นของผู้หญิงทั้งหมด” ทับทิมหันมามองหน้าผมก่อนจะพยักหน้าให้แล้วเดินไปเลือกดู แต่เหมือนไม่ได้ตั้งใจจะเลือกสักเท่าไหร่ เดินไปแล้วหยิบใบสีดำมาส่งให้ผมแทน “ใบนี้แน่นะ”
“ค่ะ”
สงสัยจะเผลอฆ่าตัวเองไปซะแล้ว เพราะท่าทางยิ้ม ๆ ก่อนหน้านี้หายไปหมด ตั้งแต่ที่ผมบอกเฮียว่าน้องสาว เหมือนไปตอกย้ำทับทิมเข้าอย่างจัง
“แค่นี้เหรอ” เฮียเงยหน้าขึ้นมาถามทันทีที่เห็นผมวางหมวกกันน็อคลงตรงหน้า
“ครับ” พยักหน้าให้ก่อนจะคิดเงิน ส่วนทับทิมตอนนี้เดินหนีออกไปข้างนอกแล้ว
“งอนปะนั่น ก่อนหน้านี้ยังยิ้มอยู่เลย หรือเฮียพูดอะไรผิดไป”
“เฮียพูดไม่ผิดหรอก ผมแหละพูดผิด” ตอบกลับเฮียก่อนจะจ่ายเงินและหยิบหมวกกันน็อคมาถือเอาไว้ “งั้นผมไปก่อนนะเฮีย ไว้จะมาอุดหนุนใหม่”
“เออ ๆ แต่คนนี้น่ารักนะ น้องสาวจริงเหรอ?” ยังไม่วายพูดแซวขึ้นมาอีก
“ตอนนี้ยังเป็นแค่น้องสาวคนสำคัญมาก ๆ แต่ต่อไปอาจจะเป็นมากกว่านั้นก็ได้นะครับ” ตอบกลับเฮียก่อนจะเดินออกไปหาทับทิมข้างนอก ผมพูดความจริงและรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ไม่อยากรุกหนักจนเกินไป เดี๋ยวลูกหมูจะตกใจครับ
ผมรีบเดินตามออกมา เห็นทับทิมยืนคุยโทรศัพท์อยู่ หน้าตายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวครับ พอเหลือบสายตามาเห็นผมก็รีบกดวางสายไปแทน จนผมต้องผ่อนลมหายใจหนัก ๆ ออกมาทันที
“ใส่ใบใหม่ไปเลยละกัน” ผมบอกก่อนจะยื่นให้ ทับทิมเลยยื่นมือมารับไปใส่ ตอนแรกคิดว่าจะใส่ไม่เป็นซะอีก แต่คงจำมาจากก่อนหน้านี้หรือไม่ไอ้เจก็สอนไปแล้ว หมั่นไส้!
“จะไปไหนต่อคะ”
“ไม่รู้!” ตอบได้แค่นี้แหละเพราะหงุดหงิดอยู่ ทับทิมเลยมุ่ยปากใส่ผม
ผมเลิกสนใจสีหน้าของน้องก่อนจะเดินไปนั่งคร่อมรถ รอจนใครอีกคนเดินตามมานั่งซ้อนท้ายถึงได้ขับออกมาจากร้านของเฮีย หงุดหงิดจนไม่อยากพาไปไหนต่อนอกจากพากลับมาส่งที่หอ
ยอมรับว่าทำตัวเหมือนเด็ก ก็คนมันอารมณ์เสียนี่หว่า... พอทับทิมลงจากรถก็ถอดหมวกกันน็อคยื่นมาให้ผมด้วย
“เก็บไว้ที่นี่แหละ”
“อ๋อ…” ทับทิมพูดแค่นี้ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าหอ แต่ผมกลับรั้งเอาไว้ซะก่อน
“เดี๋ยว!”
“คะ... กรี๊ด!” ถึงกับตกใจเพราะผมลงจากรถแล้วยื่นแขนข้างหนึ่งไปคว้าเอวน้องเข้ามาสวมกอดเอาไว้หลวม ๆ บริเวณนี้ไม่มีคนครับ แต่มีกล้องวงจรปิดอยู่ “พะ… พี่เจิ้น”
“ก่อนออกจากบ้านพรุ่งนี้พี่จะโทรหาอีกที ค้างสองคืนนะ”
“คะ? ค่ะ” สีหน้าสงสัยเชียว
ที่กอดไม่ใช่อะไรหรอก ผมแค่อยากรู้ว่าตัวแค่ไหน จะได้ไปซื้อเสื้อการ์ดให้ถูก ก่อนหน้านี้อารมณ์เสียจนไม่อยากพาไปแล้วต้องมาลำบากวกรถกลับไปแถวร้านเฮียอีก แต่คงไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมสักเท่าไหร่
สรุปผมเสียเวลาตัวเองไปเกือบสามชั่วโมงกว่าจะซื้อของเซฟตี้อย่างอื่นให้ทับทิมครบแล้วกลับมาที่ร้านกาแฟ คนเยอะเชียว มาถึงก็เดินเข้าไปข้างใน ไอ้เจหันมามองยกใหญ่เลย แต่ยังไม่ได้ถามอะไรเพราะชงน้ำอยู่
“เป็นไร”
“เปล่า”
“คิดว่ากูเดาไม่ออกงี้เหรอ ตอนออกจากบ้านคงดี๊ด๊าเหมือนลูกหมาได้ออกไปวิ่งเล่น พอกลับมากลายเป็นหมาหงอยซะงั้น แถมกลับเร็วกว่าปกติอีก ต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน” ผมถึงกับปรายตาขึ้นไปมองหน้าไอ้เจเลยทีเดียว เปรียบซะผมกลายเป็นลูกหมาเลยครับ “หึ!”
“เหอะ!”
ผมไม่อยากเสวนากับมันอีกเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นแทน ปล่อยให้มันขายน้ำไปนั่นแหละครับ นั่งเล่นเกมให้สบายอารมณ์ดีกว่า
Rrrr
ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงโทรศัพท์จากหลินอีกแล้ว ช่วงนี้ดูยุ่งวุ่นวายกับผมมาก ปล่อยให้ดังอยู่อย่างนั้นแหละ เพราะผมไม่อยากกดรับสาย
“ยืมโทรศัพท์หน่อย”
“ทำไมไม่รับสาย” หันมามองหน้าผมพร้อมคำถามก่อนจะยื่นเครื่องของตัวเองมาให้
“หลินโทรมา ไม่อยากรับ” ไอ้เจยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เครื่องของมันผมก็กดห้ามรบกวนเอาไว้ก่อนจะนั่งเล่นเกมแทน
โทรศัพท์ผมดังต่ออีกสองสายก็เงียบไป สงสัยเลิกพยายามที่จะโทรแล้ว ส่วนผมก็นั่งเล่นเกมจากเครื่องของไอ้เจจนแบตหมดเลยทีเดียว มันบ่นใหญ่ แต่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากหยิบไปชาร์จ ผมเลยลุกไปยืนขายน้ำแทน
“รับอะไรดีครับ” ลูกค้ามาพอดี ตอนแรกไม่เห็นหน้าหรอก พอก้มลงมาเท่านั้นแหละ ถึงกับขมวดคิ้วทันที ผู้หญิงคนนี้หน้าคุ้น ๆ แฮะ
“ชาเขียวค่ะ” ผมพยักหน้ารับหันมาสนใจของตรงหน้าที่ต้องทำแทน “หน้าพี่คุ้น ๆ นะคะ”
“มุขจีบหนุ่มหรือเปล่าครับ”
“พี่เป็นคนตลกจังเลยนะคะ” ผมไม่ได้ตอบกลับอะไรนอกจากยิ้มออกมาเท่านั้น ยืนชงน้ำชาเขียวให้เสร็จก็ยื่นออกไปให้ก่อนจะรับเงินมา
“ไอ้เจิ้น กูจะ...” ไอ้เจถึงกับค้างไปเลยทีเดียว เพราะมันหันมาเห็นลูกค้าที่ยืนอยู่
“อะไร”
“เปล่า แค่จะบอกว่าโทรศัพท์มึงดังอีกแล้ว ช่วยไปรับสักทีเถอะ”
“เออ!” ผมเดินเลี่ยงออกมาหยิบโทรศัพท์ แต่มันไม่ได้มีสายโทรเข้ามาอย่างที่ไอ้เจบอก มีแค่สายไม่ได้รับก่อนหน้านี้ของหลินเท่านั้น
ผมยืนรออยู่ตรงนี้ครู่หนึ่ง ไอ้เจก็เดินมาหาพลางยกยิ้มตรงมุมปาก
“ขอบคุณกูด้วยครับ"
“สัส!”
“คนนี้ใช่ลูกอีกคนของพ่อทับทิมหรือเปล่า” ไอ้เจก็คิดเหมือนผมก่อนหน้านี้นั่นแหละ ไม่รู้บังเอิญหรือตั้งใจกันแน่
“อืม”
“ทำไมมาแถวนี้ได้วะ”
“แล้วกูจะไปถามใคร”
“ดูเหมือนสนใจมึงนะ”
“กูไม่ได้สนใจซะอย่าง”
“ตราบใดที่สถานะของมึงยังหาความชัดเจนไม่ได้ คงมีอีกหลายเรื่องยุ่ง ๆ ตามมา” ทั้งเตือนและข่มขู่ไปในตัว ผมไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นต้องการอะไร แต่ไม่ได้หวังดีกับทับทิมแน่นอน “มึงตกลงอะไรกับพ่อ”
“คิดให้ดี รอให้แน่ใจ เพราะอะไรที่ทำพลาดไปแล้วกลับไปแก้ไขไม่ได้อีก”
“อีกนานแค่ไหน”
“ไม่นานหรอก...”
“ระวังน้องจะถอยซะก่อน”
“ตอนนี้กูถึงตามหวงเหมือนหมาอยู่นี่ไง”
“ฮ่า ๆ น้องกู กัดตัวเองก็เป็น” หัวเราะชอบใจใหญ่เลยครับก่อนจะเดินออกไปดูหน้าร้านต่อ ผมเลยนั่งเซ็งอยู่หลังร้านแทนจนโทรศัพท์มีสายโทรเข้ามาอีกแล้ว เป็นหลินอีกนั่นแหละ ครั้งนี้ผมกดรับ
“ฮัลโหล”
(หลินกวนหรือเปล่า ก่อนหน้านี้โทรไปเจิ้นไม่รับสายน่ะ)
“ตอนนี้ว่างแล้ว หลินมีอะไรหรือเปล่า”
(หลินจะโทรมาถามเรื่องห้องพักน่ะ เจิ้นจะนอนรวมกับพวกเป้ไหม หรือยังไงดี หลินจะได้จัดการให้ก่อน)
“ขอห้องแยกละกัน”
(โอเค ไปที่รีสอร์ตเหมือนเดิมนะ)
“อืม ไว้เจอกันที่รีสอร์ตเลยละกัน”
(แล้ว...)
“แค่นี้ก่อนนะหลิน เจมาตามแล้ว”
(อ๋อ อืม ๆ ไว้เจอกันนะ)
เฮ้อ!
เป็นคนหล่อมันหนักใจแบบนี้นี่เอง คนที่อยากให้โทรกลับไม่โทรมา ไลน์ก็ไม่มีสักข้อความ หรือบล็อกผมไปซะทุกทางแล้ว น่าโมโหจริง ๆ เลย
สามทุ่มกลับมาถึงบ้าน ช่วงนี้แทบไม่ได้เจอพ่อกับแม่เลย ยกเว้นวันหยุด เพราะต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ แถมเวลายังไม่ตรงกันอีก กลับมาถึงก็ทิ้งตัวลงนอนตรงโซฟาแทน ยังไม่อยากขึ้นห้อง
"เป็นไร"
"เป็นคนหล่อ" ไอ้เจถึงกับกลอกตามองบนใส่ผมเลยทีเดียว ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ
"มึงก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะเจิ้น จะทำอะไรก็คิดให้ดี ๆ เพราะน้องไม่ได้รู้ใจมึงไปซะทุกอย่างหรอก" ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากขยับตัวลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปมองทางไอ้เจแทน "กูไปนอนก่อนนะ มึงก็นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ไปทะเลไม่ใช่เหรอ"
"อืม"
ผมมองตามไอ้เจจนลับสายตาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เบอร์ทับทิมก็มี แต่ไม่เคยโทรหาเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ด้วยว่าบล็อกเบอร์ผมหรือเปล่า
ตู๊ด ๆ
เพลินไปหน่อย เผลอกดไปโดนซะงั้น และดันโทรติดด้วย จนได้ยินเสียงปลายสายดังขึ้นมา
(สวัสดีค่ะ)
"ทำอะไรอยู่"
(จัดกระเป๋าเพิ่งเสร็จค่ะ กำลังจะนอนแล้ว)
"อืม งั้นนอนเถอะ พรุ่งนี้ก่อนออกจากบ้านพี่จะโทรหาอีกที"
(หนูต้องตื่นกี่โมงคะ)
"ตี 5 ก็ได้นะ กว่าพี่จะไปถึงอีก"
(ค่ะ งั้นหนูนอนแล้วนะ ฝันดีค่ะ)
"ฝันดีครับ" กดวางสายจากทับทิมนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม? แต่พอได้ปล่อยวางแล้วทำอะไรตามความรู้สึกของตัวเอง มันก็มีความสุขเหมือนกันแฮะ
ความคิดเห็น