ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักคุณ..หมดใจ

    ลำดับตอนที่ #5 : แล้วก็ได้พบกัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 133
      0
      6 ม.ค. 49

    ตอนที่ 5 แล้วก็ได้พบกัน



    หลังจากที่เด็กสาวเดินจากไปแล้ว เจยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะอย่างโดดเดี่ยว แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอ้างว้างหรือเงียบเหงา เพราะในคลับเปิดเพลงรักหวานซึ่งขับกล่อมเบาๆ ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ส่วนที่ผนังทุกด้านก็ยังมีภาพศิลป์ทั้งแบบเหมือนจริงและแอบสแตรกประดับอยู่หลายภาพ แต่ละภาพล้วนสวยงามและแสดงถึงอารมณ์ของผู้สร้างสรรมันได้อย่างลึกซึ้ง



    เขาชื่นชมอย่างเพลิดเพลิน สายตาพอดีไล่ไปที่มุมล่างด้านขวาของภาพ เห็นลายเซ็นตวัดสวยพอจะเดาออกว่าเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษสองตัว ซึ่งคงจะเป็นชื่อย่อของผู้เป็นเจ้าของ



    “DD…หรือว่ามาจาก ‘ดวงเมือง..เดชานนท์’ ”



    เจคิดได้แบบนั้นแล้วก็เผลอยิ้มออกมาจนได้ สายตาเลยต้องจับจ้องอยู่ที่ภาพวาดใกล้ๆตัวอย่างพินิจพิจารณาเพิ่มขึ้น



    ภาพที่ชายหนุ่มกำลังจ้องมองอยู่นี้พอดีเป็นภาพที่ใส่กรอบไม้สลักที่สวยที่สุดในร้าน ในภาพมีคนคู่หนึ่งยืนหันหลังให้ คนทางซ้ายเป็นผู้หญิงผมสีน้ำตาลแดงยาวสลวย ใส่ชุดกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อน ส่วนคนด้านขวาเป็นชายหนุ่มตัวสูงในชุดตำรวจเต็มยศ ทั้งสองกำลังยืนจูงมือกัน และเหม่อมองออกไปเบื้องหน้า ซึ่งเป็นทะเลสีฟ้าสวยใสและกว้างไกลสุดตา แต่ทว่าท้องฟ้าเบื้องบนกลับกลายเป็นมืดครึ้ม ราวกับว่ากำลังจะเกิดพายุใหญ่และไร้ซึ่งแสงสว่างแม้จากดวงจันทร์หรือดวงดาว แต่ทั้งสองคนยังคงยืนอยู่ด้วยกันอย่างสงบ ยืนอยู่เคียงข้างกันและถ่ายทอดความรู้สึกผ่านสัมผัสจากมือของกันและกัน



    เจรู้สึกบอกไม่ถูกเมื่อมองภาพนี้ ทั้งประทับใจ ทั้งหดหู่ และเกิดความรู้สึกแปลกๆเมื่อคิดได้ว่าผู้ชายในรูปอาจจะเป็นคนที่ตนแอบหลงรักอยู่ก็เป็นได้ เขาอยากรู้เหลือเกินว่าตอนที่วาดรูปนี้ คนวาดมีความรู้สึกอย่างไร ในเมื่อลายเส้นและสีที่ระบายอยู่บนร่างคนทั้งสองนั้นอ่อนโยนนุ่มนวล ตรงข้ามกับแรงกดหนักๆสีดำมืดของพู่กันที่แสดงออกถึงอารมณ์อันมืดมน โกรธ และแค้นเคือง ซึ่งระบายอยู่บนท้องฟ้าดำมืดนั้น …



    และเขาคงจะได้คิดอะไรเพลินเพลิดเกี่ยวกับรูปภาพนี้ไปอีกนานถ้าไม่บังเอิญมีใครคนหนึ่งที่ถือวิสาสะนั่งลงตรงหน้าเขา……



    ++++++++++++



    อีกด้านหนึ่งของคลับใหญ่ บนโต๊ะรับรองพิเศษ…



    ดวงเมืองกำลังนั่งพูดคุยอยู่กับนายตำรวจเพื่อนสนิทเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความลับของทางราชการ มีทั้งเรื่องเล็กที่แทบจะไร้ความสำคัญจนถึงเรื่องใหญ่ ขนาดที่ว่าจะกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ที่ทำให้ผู้คนต้องตื่นตะลึงทีเดียว



    ด้านข้างของทั้งสองมีชายหนุ่มหน้าสวยอีกคนซึ่งกำลังนั่งจิบเบียร์ด้วยความเซ็งสุดขีด ก็เมื่อคนเป็นศัลยแพทย์ต้องมานั่งฟังเรื่องบ้านๆเมืองๆ ที่หนักหนาสาหัสอยู่เกือบสองชั่วโมงแบบนี้ เป็นใครก็คงต้องเริ่มวิตกจริตบ้างแล้ว พอดีกับเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่เป็นคนคุ้นเคยยกเบียร์มาเติมให้ เขาเลยได้โอกาสแอบแว่บออกมาพร้อมหล่อน…เพราะหนีเข้าไปนั่งพัก (หู) ในห้องพักหลังคลับท่าจะดีกว่านั่งทรมาน (หู) อยู่ตรงนี้แน่นอน…



    เมื่อหมอดลเข้ามานั่งในห้องพักแล้วก็ต้องถอนหายใจยาวเพราะสามารถหลุดพ้นมาจากคนบ้าการเมืองสองคนนั่นได้ ทำเอาเหล่าบริกรทั้งหนุ่มสาวพากันหัวเราะขำ ทุกคนที่นี่ล้วนคุ้นเคยกับหมอหนุ่มคนนี้ดีเพราะเป็นคนรักของวรวุตเพื่อนที่สนิทที่สุดของผู้เป็นเจ้านาย ซึ่งทำให้เขาสามารถเข้านอกออกในภายในคลับได้จนกลายเป็นเรื่องปกติ



    “โอ๊ย!!..เบื่อๆ วันหลังฉันไม่มาอีกแล้ว” หมอหน้าสวยบ่น พร้อมกับกระแทกแก้วเบียร์กับโต๊ะเบาๆด้วยอารมณ์เซ็งๆ



    “แหม..คุณดลคะ หนูนึกว่าคุณจะชินแล้วซะอีก” เด็กสาวหัวเราะ



    “ไอ้ที่ชินมันก็ชินหรอก ก็ใครใช้ให้วุตเป็นเพื่อนกับคุณเมืองเจ้านายเราล่ะ โอ๊ย..คู่นี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย คุยกันทีไรเหมือนสร้างโลกส่วนตัวกันสองคน ทิ้งฉันเฉยเลย คอยดูนะ..ถ้าฉันหาคู่หูได้เมื่อไหร่จะทิ้งพวกเขาบ้าง” ว่าแล้วก็ยกเบียร์ขึ้นกระดกแก้เซ็งต่อไปจนหมดแก้ว



    แก้วรีบเติมเบียร์เอาใจให้หมอหนุ่มอย่างรวดเร็ว แล้วรีบคว้ากระดาษกับปากกามารอทันที



    “เอ่อ..คุณดลคะ..หนูมีเรื่องอยากให้ช่วยค่ะ”



    ดลวางแก้วเบียร์ลง หันมาถาม “อะไรเหรอแก้ว..หรือว่าที่บ้านมีใครป่วย”



    “ไม่มีค่ะ ไม่มี..เอ่อ..แบบว่า..คือหนู..” เธออ้ำอึ้ง



    “มีอะไรก็บอกมาเถอะ ถ้าฉันช่วยได้ฉันจะช่วย”



    แก้วทำท่าดีใจ “จริงนะคะคุณดล!!”



    “อืม..ถ้าไม่เกินกำลังนะ” ดลยกเบียร์ขึ้นดื่มอีก



    “ไม่เกินแน่ค่ะ..” แล้วบริกรสาวก็ยื่นกระดาษกับปากกาให้คนตรงหน้า “หนูอยากได้เบอร์โทรส่วนตัวของคุณเมืองค่ะ”



    คำขอของเด็กสาวทำเอาหมอหนุ่มสำลักเบียร์ทันที แก้วรีบยื่นกระดาษทิชชูให้ด้วยความตกใจ



    “จะเอาไปทำอะไร..แก้วก็รู้นี่ว่าคุณเมืองเขาหวงเบอร์ส่วนตัวนี้แค่ไหน รู้กันไม่กี่คนหรอก”



    “ก็พอดี..แบบว่ามีลูกค้าคนนึงเขาอยากได้น่ะค่ะ” เด็กสาวยิ้มแห้งๆ



    “อ๋อ..ให้ทิปด้วยล่ะสิ” หมอหนุ่มยิ้มรู้ทัน



    “ก็ทำนองนั้นค่ะ..แต่คุณดลคะ..คุณลูกค้าคนนี้หล่อมากๆเลย ตอนแรกหนูคิดว่าไม่มีใครหล่อเท่าคุณดลแล้วนะคะ แต่ว่าคุณลูกค้าคนนี้นี่หล่อพอๆกับคุณดลเลยค่ะ”



    ดลยิ้มเขิน “เข้าใจชมนะเรา..ว่าแต่ลูกค้าคนนี้เขาจะเอาไปทำอะไรล่ะ..”



    “เอ..ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ” แก้วนิ่งคิด “คุณเจไม่ได้บอกด้วยสิ” เธอเอ่ยพึมพำเบาๆ



    หมอหนุ่มสะดุดชื่อเข้าทันที “คุณเจที่บอกนี่ใช่คุณเจตราหรือเปล่าแก้ว”



    แก้วพยักหน้ารับ “คุณดลรู้จักคุณเจด้วยเหรอค่ะ”



    “ก็เพื่อนกันน่ะ ไหนๆนั่งอยู่ตรงไหน พาฉันไปหน่อย”



    แก้วจึงพาภูวดลเดินเข้าไปยังโต๊ะเล็กๆริมห้อง หมอหนุ่มเห็นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะและมีสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาคู่สวยนั้นก็กำลังจ้องมองคู่สนทนาที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกันด้วยความเย็นชา



    “อ้าว..คุณเจพาเพื่อนมาด้วยเหรอ” ดลถามเด็กสาว



    แก้วทำหน้างง “ไม่นะคะ..คุณเจมาคนเดียว”



    “อ๋อ..งั้นคงเป็นพวกไร้มารยาทสินะ..เดี๋ยวฉันเข้าไปคุยเอง แก้วไปทำงานต่อเถอะ”



    บริกรสาวรับคำเบาๆแล้วจึงเดินจากไป ส่วนหมอหนุ่มก็รีบเดินเข้าไปหาเพื่อนใหม่อย่างรวดเร็ว พร้อมกับตะโกนเรียกเสียงดังจนคนเกือบทั้งคลับหันมามอง



    “เฮ้!!..เจที่รัก..ผมมาแล้ว”



    เจหันมามองตามเสียง เมื่อเห็นว่าคนที่มาเป็นใครเขาก็ฉีกยิ้มสวยหวานที่สุดให้ ทำเอาหมอหนุ่มหัวใจเต้นแรงเอาง่ายๆ แถมยังนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะรีบเรียกสติกลับมา



    “ดล...” เจเรียก พลางส่งสายตาขอความช่วยเหลือ



    “ที่รัก..คอยนานไหมครับ นี่ผมรีบสุดๆเลยนะ”



    แล้วหมอหนุ่มก็เดินเข้ามาหอมแก้มขาวๆของคนที่ถูกเรียกว่าเป็นที่รักทันที ทำเอาคนโดนหอมนั่งตัวแข็ง ตาค้างไปเลย



    “อ้าว..แล้วนี่ใครล่ะเนี่ย?”



    ดลหันไปมองคนที่ไม่ได้รับเชิญที่นั่งอึ้งอยู่ฝั่งตรงข้าม (เอ็งก็ไม่ได้รับเชิญเหมือนกันแหละ) ด้วยสายตายียวนกวนบาทาเต็มที่



    “นี่คุณศักดิ์ครับ..เป็นสถาปนิกใหญ่อยู่บริษัท xxx …คุณศักดิ์ครับ..นี่คุณดล..เอ่อ..คน..คนรักของผมเอง” เจก็เลยเล่นไปตามบทของเพื่อนต่อไป แถมทำสีหน้าจริงจังมากๆทำเอาคุณศักดิ์หน้าเจื่อนไปทันที



    “แฟนเหรอครับ..แหมแฟนคุณเจสวยเหมือนคุณเจเลยนะครับเนี่ย ผมเลยรู้สึกว่าคุณสองคนไม่ค่อยเหมาะกันเท่าไหร่ เอ..นี่ผมคิดมากไปหรือเปล่านะเนี่ย”



    เกียรติศักดิ์หัวเราะเย้ยๆ ทำเอาหมอศัลยมือหนึ่งที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ..ในสมองคิดถึงมีดผ่าตัดประจำตัวขึ้นมาทันที เพราะถ้าพกมาด้วยก็จะเอามาผ่าหมาออกจากปากของอีกฝ่าย ส่วนตัวต้นเหตุก็ได้แต่นั่งมองคนทั้งสองไปๆมาๆ แบบไม่รู้จะห้ามยังไง



    “นั่นสิครับ..ใครๆก็ชอบพูดแบบนี้บ่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราสองคนน่ะรักกันม๊ากมาก..ถึงได้ชอบมีพวกไอ้หัวงู (เน้นเป็นพิเศษ) ไม่ดูตาม้าตาเรือ ชอบมาเกาะแกะแฟนชาวบ้านเขาบ่อยๆ สงสัยว่าคงหาใครไม่ได้แล้วเลยต้องมายุ่งกับของคนอื่น…ไอ้พวกเนี้ย..น่าจะเอามีดผ่าตัดมาผ่าดูสมองหน่อยว่าข้างในทำด้วยอะไร ถึงได้ไม่ค่อยมีหัวคิดเท่าไหร่ คุณว่าจริงไหมคุณศักดิ์ ..อ้อ!! ..ลืมบอกไป ผมเป็นศัลยแพทย์อยู่โรงบาล xx ถ้าคุณไม่สบายล่ะก็ไปหาผมได้นะ ผมยินดี๊ ยินดีรักษาให้ฟรีเลย”



    แล้วหมอดลก็ส่งสายตาพิฆาตปานคมมีดมาให้ เล่นเอาอีกฝ่ายสยิวกิ้ว หน้าซีดไปทันที ส่วนเจก็อึ้ง ทึ่ง เสียว คิดภาพตาม แต่ในใจก็อดชื่นชม (ฝีปาก) เพื่อนตนไม่ได้ที่โต้ตอบได้สุดแสบ เจ็บถึงทรวง อันตรงข้ามกับหน้าตาแบบสิ้นเชิง



    “เอ้อ..เอ่อ..โอ๊ะ..พอดีผมมีธุระต่อ งั้นต้องขอตัวก่อนนะครับคุณเจ..แล้วพบกันใหม่นะครับ”



    แล้วหนุ่มผู้โชคร้าย (ที่ดันมาเจอหมอโหด) ก็จรลีจากไปในทันที เจจึงยิ้มส่งให้แบบจริงใจ



    “ครับ..แล้วพบกันใหม่”



    จนเมื่อทั้งสองอยู่ตามลำพังแล้ว เจจึงเอ่ยขอบคุณเพื่อนที่ช่วยไล่บุคคลไม่พึงประสงค์ แต่ก็โดนดลส่งสายตาเคืองๆมาให้



    “นี่คุณยังส่งยิ้มให้มันอีกเหรอ เดี๋ยวมันก็ตามไปจีบถึงบ้านหรอก”



    “โธ่ดล..ก็ผมไม่อยากเสียมารยาทนี่นา” เจเอ่ยยิ้มๆ



    “อ๋อ..ตกลงผมเป็นคนเสียมารยาทใช่ไหม”



    “ไม่ใช่ๆ ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณที่ช่วยไล่ให้ ผมชักรำคาญเขาอยู่เหมือนกัน” เจตอบ



    “ไม่ชอบก็ไล่ๆเขาไปเลย ไม่ต้องเกรงใจหรอก..เออ..ผมก็ลืมไปว่าเจเป็นนักธุรกิจ ทำอะไรก็ต้องรักษาน้ำใจคน ต้องมองการณ์ไกลไว้ก่อน”



    เจเพียงแต่ยิ้ม ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ



    “แต่คุณควรระวังเรื่องรอยยิ้มธุรกิจหน่อยนะ ผมล่ะไม่แปลกใจเลยที่คุณเป็นนักธุรกิจดาวรุ่งน่ะ แค่ส่งยิ้มหวานเยิ้มให้..รับรองบรรดาคู่ค้าหรือพวกคู่แข่งธุรกิจใจอ่อนยวบกันหมด ถ้าผมเป็นผู้ชาย (อ้าว..แล้วตอนนี้ไม่ได้เป็นอยู่หรอกเร๊อะ) ก็คงต้องหลงเสน่ห์แน่ๆเลย”



    “พูดแบบนี้ผมเขินแย่เลย แต่ก็ดีใจนะ ก็ถ้าดลยังหลงเสน่ห์ผม อีกคนก็คงพอมีโอกาสหลงบ้างล่ะหน่า”



    “ยิ้มให้เมืองเขาบ่อยๆสิ เวลาเจยิ้มแล้วดูดีมากเลย เมืองเขาต้องชอบแน่ๆ”



    เจเอ่ยขอบคุณ ใบหน้าขาวแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย



    “ได้ยินว่าเจขอเบอร์เมืองเหรอ” ดลถาม



    “อืม..ก็แค่ลองขอจากพนักงานดู ผมอยากได้ยินเสียงเขา แล้วก็อยากโทรไปคุยด้วย”



    “ถ้าเป็นเจล่ะก็ผมจดให้เลย แต่อย่าบอกนะว่าผมให้ เดี๋ยวเขาโกรธตาย”



    เจรับคำเป็นมั่นเหมาะ ดลจึงหยิบปากกามาจดเบอร์มือถือแล้วยื่นให้ เจรีบรับมาจดๆจ้องๆตัวเลขในเศษกระดาษที่อยู่ในมือ เบอร์โทรเก้าหลักก็ถูกจดจำเอาไว้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ก่อนจะถูกเก็บไว้ในอกเสื้ออย่างทะนุถนอม



    “แล้วนี่ทำไมไม่เข้าไปหาเมืองล่ะ..เขานั่งคุยกับวุตอยู่ตรงโน้นแน่ะ เดี๋ยวผมพาไป”



    เจสั่นศีรษะเบาๆปฏิเสธคำชวน “ไม่ดีกว่าครับ วันนี้ผมอยากนั่งพักผ่อนมากกว่า ขอแค่เห็นหน้าเขาก็พอ”



    “ดูหน้าซีดๆเหนื่อยๆนะ มีอะไรหรือเปล่า”



    วิญญาณคนเป็นหมอเข้าสิงทันที ดลรีบจับมือจับแขนของอีกฝ่าย รู้สึกตัวรุมๆอยู่บ้างจริงๆ



    “ไม่มีอะไรหรอกดล พอดีเกิดเรื่องที่บริษัทนิดหน่อย แล้วช่วงนี้ก็งานยุ่งมาก”



    “แต่รู้สึกจะเริ่มเป็นไข้แล้วนะ..ต้องกินยากันไว้แล้วพักผ่อนมากๆ …อ้อ!!...ต้องทำใจหน่อยนะที่คบผมเป็นเพื่อนเนี่ย เพราะผมไม่ชอบให้เพื่อนล้มหมอนนอนโรงพยาบาลเด็ดขาด”



    เจหัวเราะ “ทราบแล้วครับคุณหมอดล กลับไปผมจะกินยาแล้วนอนเลย”



    “ทำแบบนั้นยังไม่พอหรอก ผมรู้..ที่เจมาที่นี่เพราะอยากได้ยา (ใจ) ช่วยเติมพลังจากใครบางคนน่ะ มาเถอะ..จะช้าอยู่ทำไม..ไปหาเขากันเลย”



    ดลรีบลุกจากเก้าอี้ แล้วลากอีกฝ่ายออกจากโต๊ะ



    “อย่าเลยดล..ผมขอเห็นหน้าเขาก็พอนะ วันนี้ผมเหนื่อย..อยากกลับบ้านแล้วล่ะ”



    เจอ้อนวอน แต่ใจหนึ่งก็อยากเข้าไปคุยกับ ‘เขา’ คนนั้นอยู่เหมือนกัน แต่วันนี้ก็เพลียมากจริงๆ แถมงานก็ค้างไว้ตั้งแต่บ่ายแล้วด้วย



    หมอดลหันมามองเจอยู่ครู่หนึ่ง เห็นความอิดโรยอ่อนล้าในแววตาก็อดสงสารไม่ได้ เขาจึงพยักหน้ารับ



    “ก็ได้ๆ..ผมก็อยากให้กลับไปนอนพักเหมือนกัน งั้นเราไปแอบดูเขาแทนก็แล้วกัน เสร็จแล้วผมจะไปส่งที่รถนะ”



    เจเอ่ยขอบคุณเบาๆ แล้วรีบก้าวตามหลังร่างเล็กไปติดๆ ส่วนหัวใจดวงน้อยก็เริ่มเต้นระทึกขึ้นอีกครั้ง



    แต่ทว่า..อยู่ๆคนที่เดินอยู่เบื้องหน้าก็หยุดชะงักไปซะเฉยๆทำเอาคนที่เดินตามหลังหยุดตามแทบไม่ทันจนเกือบจะชน เจจึงรู้ได้ว่าเกิดเรื่องไม่ธรรมดาขึ้นแล้ว จึงรีบเบี่ยงตัวออกมาเพื่อหันมามองคนข้างหน้า ก็พบว่าที่เบื้องหน้าของหมอหนุ่มนั้นมีชายหนุ่มกลุ่มใหญ่ท่าทางวางก้ามเกเร กำลังล้อมเป็นกรอบเข้ามาหาเขาทั้งสอง นัยน์ตาเยิ้มปนหื่นกระหายด้วยฤทธิ์น้ำเมาหลายคู่จับจ้องทั้งสองไม่วางตา



    หนึ่งในนั้นถือโอกาสยื่นมือมาหมายจะจับใบหน้าสวยหวานของหมอหนุ่ม แต่ร่างเล็กก็ปัดมันออกไปอย่างแรง นัยน์ตาโตแข็งกร้าวขึ้น



    “ถอยไป!!” ดลตะโกนลั่น



    “โอ๊ย..ดุซะด้วย น้องสาว..อ๊ะ..ไม่ใช่ๆ น้องชาย..จะรีบไปไหนกันจ๊ะ มาคุยกับพวกพี่ๆก่อนดีกว่านะ”



    แล้วพวกขี้เมากลุ่มใหญ่ก็เขยิบเข้ามาหาสองหนุ่มใกล้เข้าๆ ทำให้สองหนุ่มต้องถอยหลังกลับไปก้าวหนึ่ง



    “ฉันบอกให้ถอยไปไง เมาแล้วก็อยู่เฉยๆ อย่ามายุ่งกับชาวบ้านเดี๋ยวก็ตายไม่รู้ตัวหรอก!!”



    ดลโต้ตอบกลับไป แต่คนพวกนี้ก็ได้แต่หัวเราะกันไปมาเท่านั้น ส่วนลูกค้าในคลับก็เริ่มหันมามองตามเสียงกันบ้างแล้ว บางคนก็รู้สึกสงสาร (ปนเสียดาย) สองหนุ่มแต่ก็จนใจที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ แต่บางคนก็อยากเห็นเรื่องสนุกๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า…



    “หน้าตาออกจะน่ารักแต่ปากร้ายชะมัดเลย แบบนี้ต้องหาอะไรมาหยุดปากซะแล้ว”



    ชายหนุ่มท่าทางเมาได้ที่คนหนึ่งเดินโซเซเข้ามาหาร่างเล็ก พยายามเข้ามาลวนลามแถมยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาหวังจะได้จูบจริงๆ



    เจเห็นเพื่อนของตนยังยืนนิ่ง เลยรีบกระชากร่างเล็กออกไปทางด้านข้าง หลบไปได้หวุดหวิด



    “ดล เป็นอะไรหรือเปล่า!!” เขาถาม



    ดลส่ายหน้า คิ้วเรียวยังขมวดจนผูกโบว์ “ขอโทษนะเจที่พาคุณมาเจอเรื่องบ้าๆแบบนี้อีก”



    เจรีบบอกไม่เป็นไร เขาดันร่างเล็กให้หลบไปด้านหลัง ก่อนจะหันมาผลักร่างโซเซของชายหนุ่มขี้เมาคนนั้นออกไปให้พ้นทาง



    “กรุณาถอยออกไปด้วย พวกคุณคงไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจใช่ไหม” เจเอ่ยเสียงเรียบๆแต่เย็นชา



    “เฮ้ยๆ..ดูดิ..คนนี้ก็สวยดีว่ะ คนสวยเขาว่าจะแจ้งตำรวจมาจับพวกเราด้วย วิ้ดวิ้ว….”



    สภาพก็ยังคงเป็นเช่นเดิม คือไม่มีใครยอมฟังคำเตือน เจเองก็ชักจะเริ่มหมดความอดทนแล้ว



    “ไปนอนกับพี่ไหมน้อง พี่น่ะเก่งนะ..รับรองน้องจะติดใจ”



    เจส่งยิ้ม “ไม่ล่ะ..ไอ้วิปริต!!”



    แล้วมือสวยๆก็ยกขึ้นฟาดเข้าที่ใบหน้าหยาบกร้านของอีกฝ่ายไปแบบเต็มๆจนหน้าหัน และฟันกระทบริมฝีปากจนแตกเลือดไหลเป็นทาง เหตุการณ์เกิดขึ้นกระทันหันทำเอาคนทั้งคลับรวมทั้งร่างเล็กที่อยู่ด้านหลังมองร่างโปร่งแบบทึ่งๆ ระคนเป็นห่วงในสวัสดิภาพ



    เอก..บริกรหนุ่มผู้มีหน้าที่อีกอย่างหนึ่งก็คือการควบคุมดูแลความสงบภายในคลับเห็นท่าไม่ดี..หนึ่งนั้นเพราะพวกขี้เมามีมาก ถ้าเกิดเรื่องขึ้นคงลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ สองก็คือหนึ่งในสองหนุ่มโชคร้ายคือคนรักของเพื่อนเจ้านาย ถ้าเพื่อนเจ้านายหรือก็คือคุณวุตมาเห็นเข้าล่ะก็มีหวังคลับเละแน่ๆ



    เขารีบหันไปกระซิบอะไรบางอย่างกับบริกรหนุ่มคนสนิทอีกคน แล้วบริกรคนนั้นก็รีบเดินออกไปทันที ส่วนตัวเองก็ยืนมองดูเหตุการณ์เงียบๆไปก่อน



    “มึง!!..มึงตบกู!!”



    คนโดนตบลูบเบาๆไปที่ใบหน้าด้านซ้ายของตนเพราะรู้สึกแสบๆชาๆ เขาทำท่าจะเข้ามาประทุษร้ายคนตบแต่ก็หยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นมือที่ทำร้ายตนเมื่อครู่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพูดอะไรบางอย่าง



    “ฮัลโหล..สวัสดีครับ นั่นสารวัตรพิชัยหรือเปล่า นี่ผมเจตรานะครับ”



    “ครับ ผมสบายดีมากเลยแต่ว่าตอนนี้ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่..ผมคิดว่าคุณคงช่วยผมได้แน่”



    “อ๋อ..ก็พอดีมีพวกขี้เมาสามสี่คนคิดจะทำร้ายผมกับเพื่อนน่ะครับ ผมเองก็ลำบากใจมากที่พวกเขาไม่ยอมฟังคำเตือนของผมเลย” พูดจบก็ทำหน้าเศร้า



    “ก็แถวๆท้องที่ของคุณเลยครับ คลับ xx น่ะ”



    “ครับ..ช่วยหน่อยนะครับ อ้อ..ผมไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ คุณช่วยมาด้วยตัวเองดีกว่าครับ เอาลูกน้องมาสองสามคนก็พอ เพราะเดี๋ยวลูกค้าที่นี่เขาแตกตื่นกันหมด”



    “ครับๆ แล้วผมจะรอคุณนะ ขอบคุณมากเลยครับที่ช่วยแล้วผมจะเลี้ยงข้าวตอบแทนวันหลัง..”



    “..แล้วพบกันครับ..”



    เจกดตัดสายด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยดังเดิม “เอาล่ะ..อีกไม่เกินสิบนาที สารวัตรพิชัยก็จะมาแล้ว พวกคุณยังคิดจะมีเรื่องอีกไหม”



    “สะ..สา..ระวัตร พิ..พิชัย!!” ชายร่างเตี้ยหนึ่งในบรรดาขี้เมาตะโกนขึ้น “เวรแล้ว!!..โจทก์เก่ากู..กูไปก่อนดีกว่า”



    หนึ่งคนสลายตัวไปเรียบร้อย ส่วนอีกหลายคนก็หน้าตาเลิกลั่กเต็มที่ ส่วนใหญ่ก็คิดจะสลายตัวก่อนที่ตำรวจจะมา แต่คนโดนตบยังไม่คิดจากไปง่ายๆ เขาเดินเข้ามาหาร่างโปร่งแบบไม่เกรงกลัว มือกร้านกระชากคอเสื้อเชิ๊ตขาวของอีกฝ่ายอย่างแรงจนผู้เป็นเจ้าของเซถลาไปตามแรงดึง



    “กูไม่กลัว!!..โดนจับก็โดนจับ แต่ก่อนพวกมันจะมา มึงเสร็จกูก่อนแน่!!”



    ชายหนุ่มเงื้อกำปั้นขึ้นสูงโดยความโกรธสุดขีด แต่ก่อนที่หมัดของตนจะได้ทำร้ายคนที่ต้องการ แขนแข็งแกร่งข้างหนึ่งจากเบื้องหลังก็เข้ามาคว้าเอาไว้ได้ทัน ส่วนอีกข้างก็เข้าล็อคคอเอาไว้จนแน่น



    “ถ้าไม่กลัวตาย ก็ลองขยับดูสิ”



    แล้วเสียงทุ้มนุ่มหูทว่าเรียบเย็นของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น!!..เรียบเย็น..จนน่ากลัว!!



    ++++++++++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×