ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักคุณ..หมดใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : คลับ..แห่งรัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 112
      0
      6 ม.ค. 49

    ตอนที่ 4 คลับ..แห่งรัก



    ภายในห้องนอนสีฟ้าครามติดห้องทำงาน เตียงใหญ่ขาวสะอาดกลางห้องมีร่างโปร่งของผู้เป็นเจ้าของนอนหลับสนิทอยู่ เปลือกตาบางที่ปิดสนิทบวมช้ำและยังคงมีหยาดน้ำตาคลอขัง ใบหน้าที่เคยสวยใสกลับซีดเซียวจนน่าตกใจ ข้างเตียงยังมีบุคคลใกล้ชิดสามคนนั่งมองด้วยความห่วงใย



    “ดูท่าทางคงจะหลับยาว พวกเราออกไปข้างนอกดีกว่า”



    ภากรเอ่ยขึ้นเบาๆ เขาเอื้อมมือไปสะกิดเลขาหนุ่มอีกคนที่กำลังเหม่อมองคนบนเตียงด้วยความห่วงใย



    “ไปเถอะวัฒน์”



    “โธ่เอ๊ย..คุณเจของฉัน ถ้าฉันมีแรงมากกว่านี้เรื่องบ้าๆแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่” วัฒน์บอกหน้าเศร้า



    “ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกนะวัฒน์.. ถ้าจะโทษก็ต้องโทษไอ้ท่านรองทุเรศนั่น เพราะฉันปล่อยให้เขาเข้าไปในห้องคุณเจแท้ๆ” เลขาสาวรำพึงบ้าง



    “เรื่องมันผ่านไปแล้วอย่าไปพูดถึงมันเลย ยังไงก็ถือว่าโชคดีที่ช่วยคุณเจไว้ทัน เอาล่ะ..พวกเราออกไปเคลียร์งานที่ค้างกันต่อดีกว่า”



    ภากรเดินไปที่หน้าประตูห้องควานหากุญแจ แล้วเรียกเพื่อนเลขาทั้งสองให้ออกจากห้อง ทั้งสองคนพยักหน้ารับ แล้วเดินตามออกไปอย่างว่าง่าย



    ++++++++++++++++



    ตอนนี้เวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมงแล้ว จากท้องฟ้าใสกระจ่างเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีเทาครึ้ม ดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างเจิดจ้าค่อยๆหายลับไปจากขอบฟ้า ความมืดเริ่มโรยตัวเข้ามาแทนที่ในเวลาหนึ่งทุ่มตรง



    เปลือกตาบางเปิดขึ้นช้าๆ เจ้าของกะพริบขึ้นลงหลายๆครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง



    ร่างโปร่งสั่นศีรษะไล่ความมึนงงเล็กน้อย แล้วคิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมา



    “เกือบไปแล้วสิเรา..ท่าจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ซะแล้ว”



    เจบ่นพึมพำเมื่อนึกถึงเรื่องที่น้องเขยตนได้กระทำไว้ สายตาพลันเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่เข็มสั้นอยู่ที่เลขเจ็ดและเข็มยาวอยู่ที่เลขสิบสอง สมองเริ่มสั่งการทันที



    “ตายละวา!! ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย”



    ร่างโปร่งกระโดดโหยงเหยงคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำทันที และเพียงสิบนาที ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตตัวใหม่สีขาวสะอาด กับกางเกงสแล็คดำ ที่เป็นเอกลักษณ์ก็ยืนเรียบร้อยอยู่หน้ากระจกใหญ่



    “อ่า..ตาบวม..หน้าซีด..หัวยุ่งเป็นรังนก หมดหล่อเลยเรา”



    ว่าแล้วก็เอาแป้งมาโปะๆที่หน้าตัวเอง นิ้วเรียวเสยผมไปแบบลวกๆ ทำให้สภาพหน้าตาเริ่มดูดีขึ้นเล็กน้อย



    “เอาน่า..เข้าไปในคลับแล้วก็มืดๆ เขาคงไม่สังเกตหรอก”



    เจสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง แล้วคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ภายในที่คุ้นเคย



    “ฮัลโหล..คุณกรเหรอ ผมเจนะครับ”



    แว่วเสียงจากปลายสายตอบกลับมา “อ้าว..ตื่นแล้วหรือครับ เป็นยังไงบ้าง รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ”



    “ผมไม่เป็นไร แค่ตกใจนิดหน่อย” แล้วคนเป็นเจ้านายก็หัวเราะกลบเกลื่อน “ว่าแต่..ภูมิยังอยู่ในห้องหรือเปล่าครับ”



    “ไม่แล้วครับ ท่านรองคงจะกลัวเลยแอบหนีออกไปก่อนที่พวกผมจะกลับไปทัน” ปลายเสียงส่งเสียงไม่ค่อยพอใจนัก “ผมพังประตูแรงไปหน่อยที่ล็อคเลยเสียน่ะครับ”



    “ไม่เป็นไร เขาออกไปก็ดีแล้ว” เจนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง



    “แล้ว..คุณเจจะเอาเรื่องหรือเปล่าครับ” กรถาม



    “ไม่ครับ..ถึงยังไงเขาก็เป็นน้องเขย ผมคิดว่าเขาคงไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนั้น แล้วอีกอย่างผมก็ไม่อยากทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ด้วย เดี๋ยวจะกระทบถึงชื่อเสียงบริษัท”



    “คุณก็เป็นแบบนี้ทุกที..”



    เจหัวเราะ “ยังไงก็ต้องขอบคุณพวกคุณทั้งสามมากเลยที่ช่วยผมไว้”



    “เป็นหน้าที่ของพวกเราครับ..แล้วนี่คุณเจจะกลับบ้านหรือว่าจะนอนค้างที่นี่ครับ”



    “วันนี้ผมกะว่าจะนอนค้างที่นี่ ยังไงก่อนที่คุณจะกลับช่วยรวบรวมงานของวันนี้มาไว้ที่โต๊ะของผมด้วยนะครับ แล้วก็ช่วงค่ำนี้ผมไม่อยู่จะกลับมาอีกทีก็คงซักเที่ยงคืน ถ้ามีงานอะไรเร่งด่วนจากต่างประเทศก็โทรตามผมได้เลย”



    “ยังจะออกไปข้างนอกอีกเหรอครับ ผมว่านอนพักอยู่ที่ห้องดีกว่า คุณเจมีธุระอะไรก็สั่งผมหรือไม่ก็วัฒน์ไปก็ได้”



    “ธุระส่วนตัวที่ผมจะต้องไปด้วยตัวเองน่ะ คุณไม่ต้องห่วง ผมสบายดีแล้ว”



    “ธุระที่ชื่อดวงเมืองเหรอครับ”



    โอ๊ะ..คำถามตรงมากๆ จนเจเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว



    “ก็ผมขอไว้ตั้งแต่เช้าแล้วนี่ครับ” เขาตอบ



    “คร้าบ..คร้าบ.. ท่านประธานขอร้องทั้งที ลูกน้องก็ต้องทำตามอยู่แล้ว แต่ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรตามผม โส หรือวัฒน์ได้เลยนะครับ”



    “คร้าบ..คร้าบ.. เข้าใจแล้วคุณเลขาขี้ห่วง..งั้นผมออกไปก่อนนะ”



    “ครับ โชคดีครับ”



    “ขอบคุณ”



    เจกดตัดสายแล้วรีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วตามหัวใจของตนที่ตอนนี้ล่องลอยไปหาคนที่อยู่คลับใหญ่แล้ว



    ++++++++++++++++++



    บริเวณลานจอดรถหน้าคลับที่ใหญ่ที่สุด บนถนนสายหลักกลางตัวเมือง รถหรูหราราคาแพงหลายสิบคันจอดเรียงรายเป็นระเบียบเรียบร้อย หนึ่งในนั้นเป็นเบนซ์สีดำสนิทคันใหญ่ที่จอดนิ่งสนิทอยู่นาน เด็กโบกรถประจำลานแอบมองเจ้าของรถที่ยังไม่ยอมลงมาด้วยความสงสัย เลยเอื้อมมือไปเคาะกระจกเบาๆ



    “คุณครับ..คุณครับ เป็นอะไรหรือเปล่า”



    เห็นเจ้าของรถสะดุ้งขึ้นนิดๆก่อนจะลดกระจกลง เผยให้เห็นใบหน้าขาวใส ที่ดูหวานๆคล้ายดาราวัยรุ่นในละคร ริมฝีปากได้รูปเผยรอยยิ้มสวย



    “ขอโทษที ถามอะไรหน่อยได้ไหม”



    เด็กโบกรถที่แอบจ้องคนสวยอยู่นาน พยักหน้ารับคำ “มีอะไรครับ หรือว่าอยากจะเปลี่ยนที่จอดรถใหม่”



    “ไม่ใช่ๆ คืออยากถามว่าคลับนี้เป็นของคุณดวงเมืองใช่หรือเปล่า”



    “ใช่ครับ” เด็กหนุ่มตอบ



    “เอ่อ..แล้ว..วันนี้คุณดวงเมืองเข้ามาที่คลับไหม”



    “อ๋อ..คุณคงเป็นเพื่อนของคุณเมือง คุณเมืองอยู่ในคลับตั้งแต่เย็นแล้วครับ ท่าทางเหมือนรอใครอยู่ เห็นเดินไปเดินมา คุณเข้าไปก็เจอเองแหละครับ”



    เจรู้สึกว่าแก้มตัวเองร้อนขึ้นมานิดๆ ทันทีที่ได้ยินคำตอบ ….



    ….ไม่หรอกน่า..อย่าเข้าข้างตัวเองสิ..เขาไม่ได้รอเราหรอก…รอดลกับคุณวุตมากกว่า…



    “งั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว..ขอบใจมาก”



    เจหยิบแบงค์ร้อยออกมายื่นให้เด็กโบกรถ แล้วสูดหายใจลึกๆสร้างความมั่นใจ ก่อนจะก้าวเข้าคลับไปด้วยหัวใจที่เต้นระทึก



    ชายหนุ่มดวงหน้าใสสะอาด เรือนผมสั้นพลิ้วอ่อนนุ่ม มีรอยยิ้มสวยประดับน้อยๆบนเรียวปาก เรือนร่างเพรียวในชุดสุภาพสุดๆ นั้นทำให้ดูเด่นสะดุดตามากเมื่อรอบข้างเต็มไปด้วยบรรดานักเที่ยวกลางคืนที่แต่งตัวเลิศหรูหรือไม่ก็หลุดโลก รอบคลับที่กว้างขวางหรูหรามีบรรดาหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อยโชว์เนื้อหนังเดินไปมาให้ขวักไขว่ บ้างส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้ บ้างแกล้งเดินเฉียดเข้ามาใกล้เพื่อหาโอกาสพูดคุย แต่ก็ไม่ทำให้ชายหนุ่มรูปงามนี้หันมามองเลยแม้แต่น้อย



    “ขอโทษครับ กี่ที่ดีครับ” บริกรในชุดสูทสุภาพเอ่ยถาม



    “มาคนเดียวครับ..เอ่อ..ไม่ทราบว่าคุณเมืองอยู่หรือเปล่า” เจถาม



    “มาหาคุณเมืองหรือครับ..เห็นนั่งคุยอยู่กับเพื่อนทางนู้น เดี๋ยวผมจะพาไปนะครับ” บริกรหนุ่มทำท่าจะเดินไปแต่ร่างโปร่งก็รั้งไว้ได้ทัน



    “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากรบกวน เดี๋ยวผมนั่งรอแถวนี้ดีกว่า”



    บริกรหนุ่มมีท่าทีสงสัยอยู่บ้างแต่ด้วยหน้าที่ที่ไม่อยากให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีจึงยิ้มรับ



    “แล้วปกติคุณเมืองเขาจะอยู่ที่คลับนี่ตลอดเลยหรือเปล่าครับ คือผมเพิ่งรู้จักคุณเมืองเมื่อวานนี้เอง เลยอยากจะทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้” เจถามต่อ สายตาพยายามมองหาร่างสูงของใครบางคนอยู่เรื่อยๆ



    “คุณเมืองมาที่นี่ทุกวันแหละครับ ทุกทีก็จะต้องคอยรับแขกสำคัญอยู่ที่เคาท์เตอร์เสมอ เอาอย่างนี้สิครับ เดี๋ยวผมจะจัดที่นั่งที่สามารถมองเห็นเคาท์เตอร์ได้ชัดๆ ถ้าคุณเมืองกลับมาที่เคาท์เตอร์คุณจะได้เข้าไปคุยได้เลย”



    เจพยักหน้ารับด้วยความพอใจ บริกรใจดีจึงพาชายหนุ่มไปนั่งที่โต๊ะเล็กๆริมห้องที่สามารถมองเห็นเคาท์เตอร์ใหญ่กลางห้องได้อย่างชัดเจน



    “ขอบคุณมากครับ แล้วก็ขอกาแฟดำที่นึงด้วย”



    บริกรหนุ่มทำหน้าแปลกใจเต็มที่ “กาแฟดำ..หรือครับ..”



    “ใช่ครับ..หรือว่าที่นี่ไม่มี..”



    “เอ่อ..มีครับมี เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ”



    ว่าแล้วบริกรหนุ่มก็รีบเดินกลับไปหลังคลับทันที พอจดออเดอร์เสร็จบรรดาบริกรคนอื่นๆทั้งหนุ่มทั้งสาวก็วิ่งเข้ามาละล่ำละลักถามกันเซ็งเซ่ไปหมด



    “พี่เอกๆ ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นใครเหรอ!! เนี่ยพี่รู้มั๊ย แขกโต๊ะหนูนะมองไม่วางตาเลย เขาบอกว่าถ้าหนูขอเบอร์มาได้จะให้ทิปตั้งพันนึงแน่ะ” บริกรสาวหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งรีบบอก



    “โต๊ะของผมก็เหมือนกันพี่ ตั้งแต่คุณคนนั้นเดินเข้ามาก็มองกันตาเยิ้มเลย แต่ผมเห็นเขาแต่งตัวธรรมด๊าธรรมดา แถมเรียบร้อยซะขนาดนั้นก็เลยงงๆอยู่เหมือนกันว่าหลุดมาจากไหน” บริกรหนุ่มอีกคนหนึ่งรีบบอกบ้าง



    “เฮ้ยๆ..ใจเย็นๆ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันแหละว่าเป็นใคร แต่เห็นถามหาคุณเมือง พอฉันบอกว่าจะพาไปหาแกก็รีบปฏิเสธทันที สงสัยคงเป็นพวกอยากตีสนิทกับคนใหญ่คนโตล่ะมั้งหรือไม่ก็อยากมาขอความช่วยเหลือจากคุณเมืองแต่ไม่กล้า ก็เจ้านายเราเขาใช่ย่อยนี่นา”



    “จริงเหรอพี่ แบบนี้หนูก็อดได้ทิปน่ะสิ โธ่!!..เสียดายตั้งพัน” บริกรสาวทำตาละห้อย



    เอกส่งยิ้มเอ็นดูให้เด็กสาว “อยากได้เบอร์เขาก็ไปขอตรงๆเลยสิ ไม่เห็นยาก ..แต่เอ..ฉันรู้สึกคุ้นหน้าเขายังไงก็ไม่รู้สิ..เหมือนเคยเห็นที่ไหนน้า?”



    “ผมก็รู้สึกคุ้นๆเหมือนกัน สงสัยคงเป็นดาราใหม่มั้ง ดูอายุน้อยอยู่เลย”



    “ฉันก็ว่างั้น แถมท่าทางจะอ่อนต่อโลกด้วย เพราะเขาสั่งกาแฟดำว่ะ สั่งเครื่องดื่มได้ไม่เข้ากับหน้าตาเลย”

    บริกรหนุ่มนามเอกเลยแอบมองไปที่ชายหนุ่มผู้เป็น talk of the club ด้วยความสงสัยอีกครั้ง หารู้ไม่ว่าคนที่ตัวเองสงสัยนั้นคือนักธุรกิจที่รวยล้นฟ้า เป็นคนใหญ่คนโตของจริง และก็เป็นผู้นำทางด้านธุรกิจส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศ เรียกได้ว่าเป็นคนสำคัญสุดๆพอๆกับนักการเมืองบางคนเลยด้วยซ้ำ (เอ็งเวอร์ไปหรือเปล่าไอ้คนเขียน) ไม่แปลกเลยที่คนทั่วไปจะคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นพิเศษ (อันเนื่องมาจากการออกทีวีบ่อยๆนั่นเอง) และกาแฟดำก็เป็นเครื่องดื่มที่คนสำคัญของประเทศคนนี้ชอบที่สุด



    “ถ้างั้นเดี๋ยวหนูยกกาแฟไปให้เขาเองพี่เอก”



    “เออ..พยายามขอเบอร์ให้ได้ล่ะ”



    บริกรสาวชูนิ้วโป้งให้ด้วยความมั่นใจเต็มที่ “เชื่อมือแก้วได้เลยพี่”



    แล้วบริกรสาวนามแก้วก็ยกกาแฟดำหอมกรุ่น เดินเข้าไปที่โต๊ะเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เด็กสาวมีหน้าตาจิ้มลิ้ม เพราะมีใบหน้ากลมและเวลายิ้มมีลักยิ้มสองข้าง เมื่อเดินมาถึงโต๊ะ เธอก็ฉีกยิ้มให้กับเจเต็มที่



    “กาแฟดำมาแล้วค่ะ”



    แก้ววางถ้วยกาแฟลงเบาๆ สายตาแอบพิจารณาชายหนุ่มไม่วางตา



    โห!!..จะว่าหล่อก็หล่อมากๆ..จะว่าสวยก็สวยสุดๆไปเลย หน้าตาดีจัง ขนตาก็ย้าวยาว อื้อหืม!!..ผมพลิ้วเชียวน่าจับน่าลูบจัง ว้าย!!...ตาก็ส๊วยสวย ปากก็บางเชียว



    “ขอบคุณครับ”



    โอ้!! กรี๊ดด..เสียงก็โคตรเพราะเลย



    “เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณ แล้ว..หน้าผมมีอะไรเหรอ”



    เจถามเมื่อเห็นบริกรสาวจ้องเขาไม่วางตา แล้วยืนนิ่งไม่ยอมพูด แม้เขาจะไม่ชอบให้ใครมาจ้องมองแต่เพราะเห็นรอยยิ้มน่ารักๆก็เลยโกรธไม่ลง



    “ไม่มีอะไรค่ะ ไม่มีอะไร..เพราะว่าคุณหล่อมาก หนูเลยเผลอจ้องเพลินไปหน่อย คุณเป็นดาราเหรอค่ะ”



    ชายหนุ่มหัวเราะ “ขอบคุณครับที่ชม แต่ผมไม่ได้เป็นดาราหรอก ผมทำธุรกิจส่วนตัวน่ะ”



    “งั้นเหรอค่ะ น่าเสียดายจัง หนูนึกว่าคุณเป็นดาราหน้าใหม่ซะอีก” แก้วส่งยิ้มอายๆให้ “หนูชื่อแก้วค่ะเป็นพนักงานชั่วคราวอยู่ที่นี่ แล้วคุณล่ะค่ะ”



    “เจตราครับ เรียกผมว่าเจก็ได้”



    “ค่ะคุณเจ..”



    เจส่งยิ้มให้ สายตาเหลือบไปเห็นในมือของเด็กสาวมีกระดาษกับปากกาอยู่



    “คิดว่าผมเป็นดาราแล้วจะมาขอลายเซ็นเหรอครับ”



    “ไม่ใช่หรอกค่ะ นี่คุณเจไม่รู้ตัวหรอกหรือค่ะว่าตั้งแต่คุณเดินเข้ามาในคลับเรา ใครๆก็พากันสนอกสนใจคุณทั้งนั้นเลย”



    “งั้นเหรอครับ ผมไม่รู้ตัวเลย”



    “คือว่าจริงๆแล้วหนูน่ะถูกลูกค้ากลุ้มโน้นส่งมาน่ะค่ะ พวกเขาอยากได้เบอร์โทรของคุณค่ะ”



    “เสียใจด้วยครับ ผมคงให้ไม่ได้จริงๆ ขอโทษ..ที่ทำให้คุณอดได้ทิปจากโต๊ะโน้นนะครับ”



    เจตอบแบบไม่ต้องคิด และยังส่งยิ้มอ่อนโยนให้เด็กสาว แถมไม่มีทีท่าโกรธเคือง ซ้ำท่าทางในการนั่งจิบกาแฟสบายๆก็เล่นเอาแก้วไม่กล้าเอ่ยปากขออีก



    “ขอโทษด้วยค่ะ หนูไม่น่ารบกวนคุณเลย” เธอทำตาละห้อย คอตก (เพราะอดทิปจริงๆอ่ะ) ทำท่าจะเดินกลับไป



    “เดี๋ยวครับ..ถึงไม่ได้ทิปจากโต๊ะโน้น แต่จากโต๊ะนี้ก็ไม่แน่นะ”



    อ่ะนะ..คนบริการ (อ่านดีๆจ๊ะ หมายถึง คนที่มีอาชีพบริการผู้อื่น ^^) หูไวตาไวเสมอ จากตาละห้อย คอตก ก็กลายเป็นตาเป็นประกายปิ๊งๆ คอตั้งขึ้นมาทันที



    “มีอะไรให้หนูช่วยหรือคะคุณเจ”



    “ก็เหมือนกับที่แก้วกำลังทำอยู่นี่ไงล่ะ ผมอยากได้เบอร์โทรของใครบางคน ขอเบอร์มือถือส่วนตัวเลยนะ ถ้าหามาได้จริงๆ ผมจะทิปให้”



    เจกำลังเริ่มต่อรองธุรกิจอันเป็นของถนัด และกำลังเริ่มลงทุนในโครงการแห่งความรัก ซึ่งใช้หัวใจทั้งดวงของตนเป็นต้นทุน และผลตอบแทนที่ต้องการมากที่สุดก็คือความรักหมดทั้งใจจากใครบางคน..เพียงคนเดียวที่ต้องการ



    “คุณเจต้องการเบอร์ของใครเหรอค่ะ”



    มือขาววางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ นัยน์ตาคู่สวยเป็นประกายหวานซึ้ง ริมฝีปากได้รูปขยับเบาๆเรียกชื่อชื่อหนึ่งออกมา ชื่อที่ทำให้แก้วยืนนิ่งอึ้งไปนาน



    “ดวงเมือง เดชานนท์”





    ///////////////////////// TBC ////////////////////////////



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×