ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Past way

    ลำดับตอนที่ #2 : แผ่วหวาน

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 48


    ตอนที่ 2

        

        ภายในห้องพักพนักงานของคลับ  เคนกำลังนั่งร้องโอดโอยและดิ้นหนีไปมาเมื่อแผลสดบนใบหน้าถูกทาด้วยสำลีชุบทิงเทอร์ในมือของมิจังเจ้าของคลับ  ส่วนทัตสึมิก็กำลังนั่งจ้องเจ้าเด็กแสบที่ตอนนี้หน้าตาบูดบึ้งจนแก้มป่อง  แถมจ้องตากลับแบบไม่ยอมแพ้

        “ว่าไงเรา  มาเดินทำอะไรแถวนี้ดึกๆดื่นๆ รู้มั๊ยว่ามันอันตราย”   เขาถาม

        “ยุ่งไรด้วย  คนไม่รู้จักบุญคุณ  ทำคุณบูชาโทษชัดๆ”  หน้ากลมๆเชิดใส่

        นั่น..เอากับเขาสิ..แน่ใจหรือว่าเป็นคำพูดของเด็กอายุสิบขวบ  ทัตสิมึชักฉุนขึ้นมาตะหงิดๆ

        “ไอ้หนู..จะมากไปแล้วมั้งเรา  ตัวแค่นี้ทำเป็นพูดดี  เดี๋ยวเถอะ”  

        “ทำไม!! ผู้ใหญ่คิดรังแกเด็กเหรอ  คิดว่าสู้เป็นคนเดียวหรือไง  มาเลย..เข้ามา  อ้อ!..แล้วก็อย่าเรียกฉันว่าไอ้หนู..คนเขามีพ่อมีแม่ที่ตั้งชื่อมาให้เรียก  จำใส่สมองกลวงๆของนายเลยว่าฉันชื่อมิเนรุ..มิ-เน-รุ  จำไว้“  

    แล้วร่างเล็กๆนั้นก็ลุกขึ้นยืนกอดอกนิ่ง  นัยน์ตากลมจ้องอีกฝ่ายแบบเอาเรื่องสุดๆ

        พอฟังจบ  ทัตสึมิก็ทำตาโตแบบทึ่งๆ.. โอ้โห..เป็นชุดเลย เกือบฟังไม่ทัน  นี่ประธานหนุ่มสุดหล่อ เอซาว่า ทัตสึมิ ที่มีแต่คนเกรงกลัวเกรงใจ  ต้องมานั่งนิ่งอึ้งฟังคำด่าของเด็กตัวกะเปี๊ยกเนี่ยนะ  

        “เป็นไงท่านประธานใหญ่ อึ้งไปเลยล่ะสิ”  เคนส่งเสียงเยาะเย้ยมาพร้อมกับหัวเราะลั่นแต่ดันกระเทือนแผลเลยเปลี่ยนเป็นร้องโอดโอยแทน

        “เด็กนรก!!..ถ้าฉันมีน้องแบบนี้นะจะตีให้ก้นลายเลย..นี่น้องยังขนาดนี้ อยากรู้นักว่าพี่ชายจะขนาดไหน”

        แล้วทัตสึมิก็ทำท่าปวดหัว  และส่ายหน้าแบบเอือมระอาขอยอมแพ้  ทำเอาเพื่อนรักหัวเราะขำกับท่าทางของอีกฝ่าย  นี่ถ้าคนในโรงเรียนมาเห็นประธานใหญ่ผู้เคร่งขรึมเย็นชา มาเถียงแพ้เด็กแบบนี้  ภาพพจน์สวยหรูที่อุตส่าห์สร้างมาคงพังทลายหมดแน่

        “ไม่หรอกจ๊ะ ทัตสึคุง  ตัวพี่น่ะออกจะดี๊ดี  น่ารัก  แต่คนน้องสิ..แสบสันต์อย่าบอกใคร  ใช่ไหมจ๊ะ มิเนรุคุง”

        มิจังเจ้าของคลับหันมาบอกเด็กหนุ่มทั้งสองพลางเก็บกล่องยา  เธอหันมายิ้มหวานให้เจ้าหนูน้อย  

        “มิจังรู้สึกเจ้าหนูนี่ด้วยเหรอ”

        “รู้จักสิ  ก็มิเนรุเป็นน้องชายของนักดนตรีคนใหม่ที่ฉันเคยบอกทัตสึคุงไงล่ะ  นี่คงจะมารับพี่ชายล่ะสิ”

        มิเนรุพยักหน้ารับ  พอดีกับที่บานประตูห้องเปิดออก  แล้วร่างบางผู้เป็นพี่ชายก็เดินลิ่วเข้ามาแบบไม่มองใคร  สองมือเอื้อมไปกอดน้องชายสุดที่รักด้วยความเป็นห่วง  หารู้ไม่ว่ามีใครคนหนึ่งมองตนจนตาค้างตัวแข็งไปแล้ว

    “มิเนรุเป็นอะไรหรือเปล่า  มีคนไปบอกพี่ว่าเราไปก่อเรื่องข้างนอกมา”

    ไม่พูดเปล่า  มือเรียวจับนู่นจับนี่ของอีกฝ่าย  คนเป็นน้องได้แต่ยิ้มแห้งๆ  

    “ไม่เป็นไรฮะ สบายมาก”

    “วันหลังไม่ต้องมารับพี่แล้วนะ  พี่กลับบ้านคนเดียวได้”

    “ไม่ได้ๆ  ยังไงผมก็ต้องมารับ  แถวนี้ยิ่งมีพวกไว้ใจไม่ได้เยอะอยู่ด้วย”



    แล้วเจ้าหนูก็ส่งสายตาพิฆาตให้กับทัตสึมิ  ทำให้คาโอรุมองตาม  จึงเพิ่งรู้ตัวว่าในห้องยังมีคนอื่นอยู่ด้วย  แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมากนัก เพียงมองผ่านไปครั้งเท่านั้น  ทว่าคนเป็นน้องก็รีบดึงพี่ชายลงมาใกล้ๆแล้วแอบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง  ..แต่ดูท่าจะใส่สีตีไข่ลงไปเยอะเพราะพอฟังจบ คนพี่ก็มองคู่กรณีของน้องชายด้วยสายตาขุ่นๆ

    “พูดอย่างกับว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆจะช่วยอะไรได้งั้นแหละ  เด็กชัดๆ”

        ทัตสึมิชักเริ่มหมั่นไส้เจ้าเด็กแสบนี่ขึ้นมาจนได้  หนอย..มาหาว่าเราไว้ใจไม่ได้.. อีกอย่างเขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิดๆด้วย ก็เพราะคนที่อยากจะให้สนใจกลับมองตัวเขาผ่านไปแบบนั้น  อะไรกัน..เขาไม่มีอะไรดึงดูดเลยหรือไงนะ..

        “เงียบไปเลย  ใครขอความเห็นนาย  คนในครอบครัวเขากำลังคุยกัน  คนนอกอย่าส-อ-ด”  เจ้าหนูพูดด้วยใบหน้ากวนๆ

        ทัตสึมิอึ้งไปอีกรอบ  ส่วนมิจังเจ้าของคลับกับเคนพยายามกลั้นหัวเราะกันเต็มที่

    “โอ๊ย!!..ทนไม่ไหวแล้ว  นี่..”  ทัตสึมิหันไปหาคาโอรุ   “สั่งสอนน้องนายบ้างนะ  เด็กอะไรวะพูดมากชิบ”

    นัยน์ตาสวยแข็งกร้าวขึ้นมาทันที   “ก่อนที่จะว่าคนอื่น หัดดูตัวเองหน่อยนะ  น้องฉันเกี่ยวอะไรกับนาย”

        “โอ้โห..พี่น้องเหมือนกันชะมัด”

        “นี่นาย!!…”

        มิจังเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเข้าห้าม ก่อนเกิดมวยสด  ส่วนเคนยังไม่ยอมหยุดหัวเราะ  หญิงสาวเลยได้แต่ทำตาเขียวใส่    

    “เอาล่ะๆ..เรื่องนิดเดียวเอง  ว่าแต่ทัตสึคุง  วันนี้ทำไมพูดมากจังเลย”

        “ก็ไม่มีอะไรนี่..พอดีอารมณ์เริ่มดีขึ้นมากะทันหัน”

        นัยน์ตาสีเข้มยังแอบมองคนพี่อยู่เป็นระยะๆ  พอเจ้าตัวรู้สึก  เขาก็แกล้งเสหลบไป

        “แล้วไอ้เคน มันเป็นไงบ้าง”

        “ไม่เป็นไรหรอก ฉันทำแผลให้เรียบร้อยแล้ว  แต่วันหลังก็ระวังหน่อย..จะจีบสาวทั้งทีก็ดูหน่อยว่าเขามากับใคร  ฉันไม่อยากให้มีเรื่องหน้าคลับของฉันหรอกนะจ๊ะหนุ่มๆ”

        เคนพยักหน้ายอมรับผิดพร้อมกับฝืนยิ้มเจื่อน

        “อ้อ..คาโอรุจัง  ใกล้เวลาแล้วนะจ๊ะ  ออกไปแสดงฝีมือซักสองสามเพลง  พอจบแล้วก็กลับบ้านได้เลยนะ  เดี๋ยวมิเนรุจะอยู่รอไม่ไหว”

        คาโอรุรับคำ แล้วเดินไปหยิบไวโอลินสุดรัก  สั่งอะไรกับคนเป็นน้องสองสามคำ  เห็นเจ้าหนูพยักหน้าอือๆ  เสร็จแล้วก็เดินออกจากห้องไป  ก่อนปิดประตูยังแอบส่งสายตาไม่เป็นมิตรมาให้ทัตสึมิ…ทัตสึมิเห็นแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้

    “ถูกใจเหรอ ทัตสึคุง”   มิจังถามเย้า

    “อืม..เคยเห็นเขาที่โรงเรียนน่ะ  สีไวโอลินเพราะเชียว”  

    ร่างสูงตอบยิ้มๆ  ใช่แล้ว..คาโอรุ..ก็คือคนที่บรรเลงเพลงอันแสนไพเราะนั่น  ไม่คิดเลยว่าจะเจอกันที่นี่..นี่ถ้าไม่เจอเจ้าเด็กแสบ ก็คงไม่รู้จักกันแน่…ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย…คิดแล้วก็หันไปมองหาร่างเล็กๆทันที

        “อยู่นี่..”



        เจ้าตัวเล็กแอบมายืนฟังผู้ใหญ่คุยกันอยู่ตั้งนานสองนานแล้ว  แถมได้ยินชัดเต็มสองรูหูเลย  ไอ้บ้านี่มันเล็งพี่เขาอยู่  ฝันไปเถอะแก..ข้ามศพช้านนไปก่อนเฟ้ย.. พี่ข้าใครอย่าแตะ

        “แอบฟังคนอื่นคุยกัน  ไม่ดีรู้เปล่า”  

    ทัตสึมิหันไปแหย่  อดเอ็นดูไม่ได้เหมือนกันเมื่อเห็นแก้มป่องๆนั้น  อีกอย่างพอพิจารณาเจ้าเด็กนี่ถึงได้รู้ความแตกต่างระหว่างคนพี่กับคนน้อง เพราะนัยน์ตาคู่กลมนี้นั้นแฝงความดื้อรั้นและไม่ยอมใคร แตกต่างกับพี่ชายที่มีนัยน์ตาสวยดูหวานซึ้ง  แต่ดูยังไงๆหน้าตาก็ถอดพิมพ์เดียวกันมาชัดๆ  เห็นแล้วก็คิดถึงคนพี่ขึ้นมาทันที

    เจ้าหนูทำตาขวางใส่   “แอบนินทาคนอื่นก็ไม่ดีเหมือนกันนั่นแหละ  รู้นะคิดไรอยู่  ฝันไปเถอะ”

    “คิดอา-ราย”

    “ก็ที่คิดอยู่นั่นแหละ  พี่ฉันไม่ตาต่ำมองนายหรอก  อย่าหวังซะให้ยาก”

    “เด็กนรก..คอยดูไปแล้วกัน  พี่นายเป็นแฟนฉันเมื่อไหร่  จะยุให้ทิ้งนายมาอยู่กับฉัน”

    “ไม่มีวันนั้นหรอก  ผู้ใหญ่นรก”

    “หนอย..บังอาจมาว่าฉันเหรอ”

    “ก็นายมาเรียกฉันว่าเด็กนรกก่อนนี่”

    “ก็นายมันเด็กนรกจริงๆนี่”

    “นายก็ผู้ใหญ่นรกเหมือนกันแหละ”

    “ฉันชื่อเอซาว่า  ทัตสึมิ  ฉันมีชื่อ ก็เรียกซะ แล้วอีกอย่าง ปีนี้ฉันอายุ 18 มากกว่านายตั้ง 8 ปี พูดจาให้มันมีสัมมาคารวะซะมั่ง”

    “อ้าว..ฉันก็มีชื่อเหมือนกันทำไมไม่เรียกบ้างล่ะ..บอกไปตั้งหลายครั้งแล้วด้วย..อีกอย่างสัมมาคารวะน่ะเขามีไว้ใช้สำหรับคนที่มีมารยาท  ไอ้คนไม่มีมารยาทน่ะ ไม่ต้องมีหรอก  รู้ไว้ซะ..ผู้ใหญ่นรก”

    “ไอ้เด็ก…ฮึ่ม!!..โว้ยยย!!”

    แล้วสงครามน้ำลายระหว่างประธานสุดหล่อกับเด็กจอมแสบก็ดำเนินต่อไปอีกนาน  แต่ดูท่าคนที่อายุน้อยกว่าจะเป็นฝ่ายชนะเพราะกำลังยักคิ้วยักไหล่ล้อเลียนอีกฝ่ายแถมเผยรอยยิ้มอันแสนจะกวนส้น…ส่วนอีกคนก็กัดฟันกรอดๆ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง หมดสภาพประธานหนุ่มผู้เคร่งขรึมไปเลย   มิจังกับเคนได้แต่ส่ายหน้าปลงๆ แล้วแอบหนีออกจากห้องไปเงียบๆ ปล่อยให้สองคนทะเลาะกันไปให้พอใจ  



    ++++++++++++++++++++++++++



        เที่ยงคืนแล้ว..หลังจากที่ทำงานเสร็จ  คาโอรุก็รีบมาเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที  เสร็จแล้วก็กลับมาที่ห้องพักเพื่อมารับน้องชาย  แต่พอเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้เขาแอบขำ  ก็เพราะหนึ่งเด็กหนึ่งผู้ใหญ่นอนหลับนิ่งแล้วทั้งคู่   ร่างสูงนอนเหยียดยาวบนโซฟากว้าง ในอ้อมกอดมีเด็กชายตัวเล็กๆนอนซุกอยู่อย่างสบาย

        “เจอหน้ากันก็ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย  ทีแบบนี้ล่ะสามัคคีกันหลับเชียว”

        คาโอรุได้โอกาสแอบมองใบหน้าคมที่หลับสบาย  เขารู้สึกคุ้นๆกับใบหน้านี้ยังไงบอกไม่ถูก  เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน  ตอนหลับก็ดูเคร่งขรึมดีออก  แต่เดี๋ยวพอตื่นมา ปากเริ่มขยับพูดเมื่อไหร่ล่ะก็..คิดแล้วรู้สึกเหมือนเห็นอิมเมจมิเนรุตอนโตยังไงก็ไม่รู้สิ



        “แอบมองแบบนี้ แสดงว่าหลงรักฉันแล้วล่ะสิ”

        คนพูดพูดออกมาทั้งๆที่ตายังหลับอยู่

    “ตื่นแล้วทำไมไม่บอก”

    คิ้วเรียวขมวดแบบไม่พอใจ  คาโอรุรีบเข้าไปอุ้มน้องชายมากอดไว้   แล้วไม่สนใจร่างสูงที่ตอนนี้กะเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งแล้ว

    “อย่าปลุกล่ะ  กว่าจะหลับได้เล่นเอาเหนื่อยเลย”  ทัตสึมิบอก

    “ขอบคุณมากที่ช่วยดูมิเนรุให้”

    “จริงๆเขาก็น่ารักดี  แต่แสบชะมัด  ฉันไม่เคยพูดไม่เคยเถียงใครแพ้มาก่อน  ยอมรับเลยว่าพอเจอน้องนาย..ฉันยอมแพ้เลย”

    คาโอรุอดหัวเราะออกมาไม่ได้  ทัตสึมิมองจนตาค้าง…น่า..น่าฟัด..เอ๊ย..น่ารักจัง

        “คุยกันตั้งนานยังไม่รู้เลยว่านายชื่ออะไร..ฉันชื่อยูคาระ  คาโอรุ..เรียกคาโอรุก็ได้”  คาโอรุเอ่ยถาม

    “ฉัน..เอซาว่า  ทัตสึมิ  เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับนาย”

    “โรงเรียนเดียวกับฉัน?”

    “อืม..ฉันอยู่ปีสามน่ะ”

    “ทำไมนายถึงรู้ล่ะว่าฉันอยู่โรงเรียนไหน”

    “เอ่อ…จะว่าไงดีล่ะ  คือเมื่อตอนพักกลางวัน  ตอนที่นายแอบมานั่งสีไวโอลินในเขตชั้นปีที่สาม  พอดีฉันอยู่บนต้นไม้น่ะ”   พูดจบแล้ว ก็ยิ้มเขินๆ   “ขอโทษนะที่แอบฟัง  แต่นายสีไวโอลินได้เพราะมากจริงๆ”

    คาโอรุไม่ได้ตอบอะไร  แต่แก้มก็แดงระเรื่อเป็นคำตอบออกมาจนได้

    “ว่าแต่นามสกุลยูคาระ  คุ้นๆอยู่นะ”  

    “อ๋อ..ลูกพี่ลูกน้องฉันเป็นประธานชั้นปีสองน่ะ  นายคงรู้จักมั้ง เขาออกดัง  ชื่อยูคาระ  เรียวสุเกะ”

    ทัตสึมิทำท่าคิด  มิน่า..ตอนเห็นเรียวสุเกะครั้งแรกก็รู้สึกคล้ายๆอยู่เหมือนกัน

    “เป็นญาติกันนี่เอง..แต่ว่าตระกูลยูคาระก็มีฐานะมากนี่  ทำไมนายต้องมาทำงานพิเศษด้วยล่ะ”

    คาโอรุนิ่งเงียบไปชั่วครู่  นัยน์ตาสวยฉายแววเศร้า   “ฉันมันสายปลายแถวแล้ว  ไม่มีเงินมากเหมือนญาติคนอื่นหรอก”

    ฟังจากน้ำเสียงก็พอจะรู้ว่ามีอะไรมากกว่าการเป็นยูคาระปลายแถว  แต่ทัตสึมิก็ไม่ได้พูดออกมา

    “เหนื่อยมากหรือเปล่า”

    “ไม่หรอก”

    “ฉันไปส่งที่บ้านนะ ดึกมากแล้ว”

    “แล้วเพื่อนของนายล่ะ”

    “กลับไปนานแล้ว  ฉันไล่ให้กลับไปก่อนเพราะอยากให้ไปนอนพัก”

    “อืม..งั้นก็ขอบคุณนะ”

    “ยินดีมากๆ”

    ทัตสึมิดีใจจนหน้าบาน  รีบกุลีกุจอแย่งของในมือคาโอรุไปถือเองจนหมด  เห็นเจ้าตัวเล็กนอนหลับนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นพี่ชายอย่างสบายใจแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้  ..ทีแบบนี้ล่ะ ไร้เดียงสาเชียว..



    สองหนุ่มเดินคุยกันไปตลอดทาง  ความสนิทสนมก่อเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย แม้แต่คาโอรุเองก็ชักรู้สึกแปลกใจตัวเองเหมือนกันเพราะตัวเขาเป็นคนที่สนิทกับคนอื่นยากมาก  แต่กับทัตสึมิคนนี้รู้สึกไว้ใจได้ อยู่ด้วยแล้วสบายใจบอกไม่ถูก  แล้วอีกฝ่ายก็เหมือนมีความคิดแบบเดียวกับเขาด้วย

    คุยกันยาวจนกระทั่งเดินมาอยู่หน้าบ้านตัวเองแล้ว  บ้านคาโอรุเป็นบ้านไม่ใหญ่ไม่เล็ก ดูกะทัดรัดมากกว่า  รอบข้างมีดอกไม้ปลูกไว้จนแน่น ส่วนหน้าประตูก็ประดับประดาตกแต่งจนสวยงามน่าดู  

    “ถึงบ้านแล้ว ขอบคุณมากที่มาส่ง”  

    “อืม  แล้วพรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียน..เอ่อ..หลังตึกปีสามเหมือนเดิมนะ  จะรออยู่”

    คาโอรุก้มหน้าหลบสายตาของอีกฝ่าย  

    “คำตอบล่ะ”

    “ถ้าไม่ติดอะไรก็จะไป  เข้าบ้านก่อนนะ  ราตรีสวัสดิ์”

    พูดจบก็รีบวิ่งเข้าบ้านตัวเองทันที  ทัตสึมิจึงยิ้มขำกับท่าทางเขินจัดดูน่ารักของคาโอรุ

    “ราตรีสวัสดิ์  ฝันดีนะ คาโอรุ”

    ไม่รู้ว่าคนที่อยากให้ได้ยินคำพูดของเขา จะได้ยินหรือเปล่า  แต่ทัตสึมิก็ตะโกนออกไปแบบนั้น  เหม่อมองอยู่สักพัก เขาจึงเดินจากบ้านนั้นมาด้วยความรู้สึกชุ่มชื้นหัวใจแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน..และเฝ้ารอเวลาให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ….



    ++++++++++  TBC  ++++++++++



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×