คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [chapter4] ข้อเสนอ 100%
“ผู้หญิงบ้าอะไรตบเจ็บชิบ” บรรยากาศยามเช้าในโรงเรียนที่แสนสดใส แต่ใครบางคนที่เดินอามือกุมแก้มข้างซ้ายมาตลอดทางคงจะไม่รู้สึกสดใสด้วยนัก
“เป็นไรวะมึง ผึ้งต่อยหรอ” เมื่อเห็นเพื่อนรักสุดหล่อเดินหน้าบอกบุญไม่รับเข้ามาก็รีบวิ่งไปถามแสดงอาการห่วงใยทันที แต่สิ่งที่ได้รับตบอดแทนคือนิ้วกลางยาวๆของคนตรงหน้า
“เจสตบกู”
“เอ้า!เค้าตบมึงทำไม เค้ารักมึงปานจะกลืนกินทั้งหัวทั้งตัวขนาดนั้น” พูดติดขำกับท่าทางของเพื่อนที่ยิ่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับคนถ่ายไม่ออกมาหลายวัน
“ก็กูจะบอกเลิกเค้า” ตอบเบาๆพลางหันไปทางประตู กลัวจะมีใครมาได้ยินแล้วเอาไปพูดต่อจนหญิงสาวเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกครั้ง
“กูเดาได้เลย เจสจะบอกมึงว่า...ไม่เลิกค่ะพี่ซีวอนให้ตายยังไงเจสก็ไม่เลิก อ๊ายย” ดัดเสียงพูดพร้อมกับท่าทางเลียนแบบสาวเจ้าเวลาไม่พอใจ เรียกเสียงหัวเราะน้อยๆจากซีวอนได้
“เป๊ะเลยมึง” ต่อยไหล่เพื่อนร่างหนาเบาๆอย่างถูกใจก่อนจะเดินไปวางกระเป๋าที่โต๊ะเรียนของตนเองเพื่อรอเวลาเข้าเรียนคาบแรก
“ชีวิตมึงนี่น่าสงสารเนอะซีวอน...เฮ้อ”
...............................................
“จริงหรอ แล้วแกทำไงอ่ะ!!” เสียงอุทานที่ดูตกใจเกินเหตุส่งผลให้ร่างบางสะดุ้งพรวดขึ้นมาจากใต้โต๊ะเรียนฟาดมือบางกระทบกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยตีนกาของเพื่อนอีกคนทันที
“ตบฉันทำไมไอ้บ้า!” เขกกะโหลกไอ้เพื่อนหน้าสวยไปหนึ่งทีก่อนจะหันกลับมามองสาวสวยผมทองที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างรอคอย
“ฉันก็...ปล่อยมันไปเดี๋ยวซื้อใหม่ก็ได้ บ้านไม่ยากจน” ยักไหล่อย่างไม่แยแส อีทึกขำน้อยๆกับท่าทางของเพื่อนสาวที่กี่ปีๆนิสัยทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยนโดยเฉพาะความหยิ่งในศักดิ์ศรีน่ะ อย่าให้พล่ามเลยเรื่องมันยาวมาก...
“เออแล้วแกฮีชอล กับพี่ซีวอนเป็นยังไงบ้าง” เมื่อถามเสร็จก็หันมายักคิ้วให้อีทึกที่นั่งข้างๆทีนึง เป็นอันรู้กันว่าต่อไปถึงเวลาชงไอ้เพื่อนรักหน้าสวยบ้างแล้ว
“ไม่รู้สิ ก็เรื่อยๆ” เออ มันก็เรื่อยๆนี่เขากับไอ้บ้าซีวอนนั่นก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่เขาก็มองออกว่าชายหนุ่มคงจะแอบสนใจตนอยู่น้อยๆเช่นเดียวกันกับตัวเองนั่นแหละ
“เอ้าเฮ้ย ไม่มีอะไรแล้วมึงจะหน้าแดงทำไมวะ....ฮั่นแน่” เสียงหยอกล้อจากเพื่อนสนิทสองคนดังขึ้นเป็นระยะจนร่างบางต้องแกล้งตวาดข่มขู่ให้สองคนนั่นหยุดแกล้งเขาเสียที
“พอเลยนะพวกมึง เดี๋ยวกูจะจับปาดคอโชว์ทีละคนเลย” มองค้อนน้อยๆก่อนจะหันกลับไปเก็บหนังสือเรียนลงใต้โต๊ะ
“ฮีชอลพวกกูไม่ชอบแฟนซีวอนมึงรู้ใช่มั้ย...” สาวผมทองยื่นหน้าเข้ามาหาฮีชอลด้วยสีหน้าจริงจัง ร่างบางพยักหน้าน้อยๆเป็นการรับรู้
“แล้วมึงจะให้กูไปท้ามันตบรึไง” ถามเบาๆแต่ก็ดูออกว่าเป็นประโยคที่ประชดประชันนานะอยู่ในตัว
“เจ็บกายยังทรมานน้อยกว่าเจ็บใจ แกเข้าใจใช่มั้ย” ยิ้มหวานให้เพื่อนชายหย้าสวยหนึ่งทีก่อนจะผละออกมานั่งกดโทรศัพท์ตัวเองต่อ ปล่อยให้ฮีชอลนั่งพิจารณาคำพูดของตัวเองไป
“ฉันเข้าใจแล้วนานะ”
........................................................................
“ซะ..ซีวอนมีคนฝากจดหมายไว้ให้นายน่ะ” หนุ่มแว่นหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมเพื่อนร่วมชั้นเรียนของชายหนุ่มเดินมายื่นเศษกระดาษเล็กๆให้กับร่างสูง พยักหน้าน้อยๆก่อนจะรับกระดาษมาเปิดอ่าน
เนื้อความในจดหมายทำให้ซีวอนแทบเป็นลมกลางอากาศ ยืนยิ้มปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ที่มุมห้องเรียนคนเดียวไม่แคร์สายตาเพื่อนร่วมชั้นที่จ้องมองมาเป็นตาเดียวกัน
“จะได้เมียแล้วโว้ย...” พึมพำกับตัวเองราวกับคนบ้าก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะเรียนของตนเพื่อรอคาบเรียนต่อไปอย่างลอยๆ จนกระทั่งรู้สึกถึงสายตาหลายสิบคู่ที่เหมือนกำลังจ้องมาทางตนทางเดียว แต่ไม่เป็นไรคนกำลังอารมณ์ดี ไม่แคร์ครับผม...
ณ หน้าห้างสรรพสินค้าช่วงเลิกเรียน บรรดานักเรียนจากทั่วสารทิศก็แห่มากันราวกับมีของฟรีราคาแพงแจก แต่ก็เปล่า ร่างบางเองก็เป็นหนึ่งในนั้นแต่แตกต่างกับคนอื่นตรงที่ร่างบางเลือกจะนั่งสบายๆอยู่ที่ลานน้ำพุหน้าห้างมากกว่าจะเข้าไปเบียดเสียดกับบรรดาขาช็อปทั้งหลายภายในห้าง
“ไม่มากลับแล้วนะเว้ย...” กระซิบกับตัวเองเบาๆอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหยิบโทรศัพท์สีแดงเครื่องเล็กขึ้นมาดูเวลา
“จะห้าโมงอยู่แล้วยังไม่โผล่หัวมาอีก ไอ้บ้า” สบถพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะลุกขึ้นอย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินออกไปยังป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว
“ว่าแล้ว คนอย่างมันจะมาจริงจังกับเราทำไม ฮีชอลเอ้ยโง่จริงๆ” เดินไปบ่นไปตามสเต็ปคนสวยขี้วีน ก่อนมือบางๆจะล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงนักเรียนเพื่อค้นหาเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาเพื่อติดต่อเพื่อนๆ
“เฮ้ย! ไม่มี......” ตาโตที่โตอยู่แล้วยิ่งถลึงหนักเข้าไปใหญ่เมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดทำมือถือหล่นหาย แค่คิดก็แทบจะวูบ สถานที่ๆคนพลุกพล่านแบบนี้ให้ไปบนศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนโอกาสหาเจอก็ยังคงเป็นศูนย์อยู่ดี
ในขณะที่ร่างบางได้แต่ยืนหน้างอโทษตัวเองอยู่โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง มือหนาๆของใครบางคนก็เอื้อมมาปิดดวงตาของเขาจนโลกทั้งใบมืดมิดตามเปลือกตาที่ปิดลง
“เฮ้ย! ช่วยด้วยครับโจรลักพาตัว ช่วยด้วยย!” ไม่ทันตั้งสติร่างบางก็แหกปากโวยวายดิ้นเร่าๆเหมือนคนกำลังจะถุกลากไปเชือดยังไงยังงั้น จนมือปริศนาต้องยอมคลายออกแล้วจับไหล่ให้คนตัวเล็กกว่าหันมามองหน้าเขาชัดๆ
“โจรลักพาตัวที่ไหนกันหื้ม ไม่เห็นจะมีเลยนี่” ยิ้มมุมปากอย่างแกล้งๆให้ร่างบางที่ยืนจ้องตัวเองตาขวางอย่างอารมณ์ดี
“นายมาช้า ฉันอารมณ์ไม่ดี เพราะฉะนั้นนัดวันนี้ยกเลิก!” โวยวายอย่างเอาแต่ใจ แต่ร่างสูงไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นแน่นอน นานๆโอกาศทองจะมาถึงซักที รีบคว้าแขนบางเอาไว้ก่อนที่คนตัวเล็กจะวิ่งขึ้นรถเมล์ไปซะก่อน
“ใจเย็นๆสิ ฉันก็มาแล้วนี่ไง” นิ้วยาวเขี่ยแก้มใสน้อยๆอย่างหยอกล้อ แต่คิ้วบางๆก็ยังคงขมวดติดกันไม่เลิก
“อย่ามาทำไก๋นะซีวอน ฉันจะกลับบ้าน” สะบัดข้อมือตัวเองออกจากการรัดกุมแต่ก็ไม่เป็นผล
“อืม...งั้นไอ้นี่ก็คงไม่เอาแล้วสินะ” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มกวน เมื่อเห็นร่างบางทำหน้าเหรอหรากับสิ่งที่อยู่ในมือตัวเองอีกข้างหนึ่ง
“โทรศัพท์ฉัน! เอาคืนมา”
“จะให้คืนง่ายๆเลย? ของแบบนี้ต้องมีข้อเสนอสิ” ตอนนี้ร่างบางอยากจะกระโดดถีบฟรีคิกส์หักคอไอ้คนตัวสูงๆตรงหน้าให้ตายไปเลยจริงๆ
“ว่ามา”
“เป็นแฟนกับฉันนะ” ประโยคที่รอคอย เอ้ย! ไม่คาดฝันดังออกมาจากริมฝีปากของคนตัวสูงตรงหน้าเล่นเอาร่างบางยืนสตั๊นไปหลายวิ ก่อนที่เสียงนานะจะแล่นเข้ามาในโสตประสาทเหมือนในหนังโรคจิต
“เจ็บกายยังทรมานน้อยกว่าเจ็บใจ แกเข้าใจใช่มั้ย...”
“อะ......เออ ก็ได้” ตอบเบาๆไม่ค่อยเต็มเสียงหนัก ใบหน้าสวยๆเอียงเล็กน้อยด้วยความงุนงง เป็นภาพที่น่ารักอยู่แล้วในสายตาซีวอน
“หื้ม จริงนะ? ไม่ใช่ว่าพอฉันคือโทรศัพท์ให้นายก็กลับกรอก แบบนั้นถือว่าไม่ใช่ลูกผู้ชายนายก็รู้ใช่มั้ยล่ะ” พูดดักคอร่างบางคนสวยเอาไว้ก่อน ก็คนแบบคิมฮีชอลแสบซะขนาดนี้จะให้ไว้ใจง่ายๆได้ยังไงกัน
“เออรู้ ฉันพูดจริงๆ” แลบลิ้นใส่ร่างสูงตรงหน้าก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ตัวเองมาถือไว้อย่างหวงแหน
“งั้นวันนี้...ให้ฉันไปส่งนายที่บ้านดีกว่านะที่รัก” ยิ้มแบบจริงใจให้คนสวยกระอักไปหนึ่งที แล้วมันก็ได้ผล ร่างบางเดินตามอย่างว่าง่าย ไม่ได้หลงในความหล่อมันนะเว่ย จริงๆ....
.................................................................
กว่าจะเข็นตอนนี้ออกมาได้นี่เหนื่อยเลยจ้า ขอโทษที่หายไปนานนิดนึง นิดนึงจริงๆ ><
ความคิดเห็น