คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro
Intro….
ท่ามกลางโรงละครขนาดใหญ่ชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ผมยืนเหงื่อตกมือสั่นอยู่บนเวทีพร้อมๆกับคนอีกมากมาย
…..เวทีที่เป็นเหมือนความฝันของหลายๆคน…
ชื่อของผมถูกเรียกให้ออกมายืนข้างหน้าโดยพิธีกรอาวุโสที่เรารู้จักกันดี…อาต้อยเศรษฐา…
ผมก้าวออกมาพร้อมกับอีกสองคน..ถ้าจำไม่ผิดข้างขวานี่น่าจะชื่อโป๊ยเซียนล่ะมั้ง…เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักอายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้น ไม่ห่างจากน้องสาวผมซักเท่าไหร่ ส่วนข้างซ้าย ไอ้นี่ผมรู้จักดีมันชื่อเฟรม มาจากขอนแก่นเหมือนกัน เด็กเตรียมเอ็นท์ที่หลงรักการร้องเพลงและกีตาร์เป็นชีวิตจิตใจ ถึงขนาดบอกกับผมว่ากีต้าร์คือเมียมัน…ส่วนผม..หนุ่มหล่อกาฬสินที่มาตามหาความฝัน..ความฝัน….ที่อยากจะเป็นนักร้อง
“เอาล่ะครับ…” เสียงของอาต้อยเรียกความสนใจจากผมไป อีกไม่กี่นาทีเท่านั้น…ที่ผมจะได้รู้ว่าความฝันของผมมันจะเป็นจริงหรือเปล่า ผมตื่นเต้นมากที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ ผมเอาแต่ยืนกำมือของตัวเองเอาไว้แน่น พร้อมกับกลั้นใจรอฟังเสียงประกาศ
“เรา…เลือกคุณทั้งสามคนครับ!!!!” สิ้นเสียงของอาต้อยผมแทบจะทรุดลงไปทันทีด้วยความดีใจ พร้อมๆกับเสียงโห่ร้องแสดงความดีใจของเหล่าบรรดาญาติๆของผมและอีกสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกัน
ผมรู้….ว่าหนึ่งในนั้น จะต้องเป็นเสียงของคนที่ผมรัก..
รักมากที่สุด..รักจนยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอได้…
หลังจากนั้นพวกเราทั้งสามคนก็ได้เลือกวีของตนเอง ผมได้ V23 โป๊ยเซียนได้ V8 และเฟรมได้V21 ผมเลื่อนไปยืนข้างหลังกับอีกหลายคนที่ถูกเลือกก่อนหน้านี้
ก่อนจะมองไปด้านล่างของเวทีเพื่อมองหาใครบางคน และไม่นานผมก็เจอเธอ…
ผู้หญิงที่ผมรัก..มากที่สุด
ผมยิ้มให้เธอด้วยรอยยิ้มเอ๋อๆที่เธอบอกว่าชอบนักชอบหนา ก่อนเธอจะยกนิ้วมาให้ผมทั้งสองมือ…เพียงเท่านั้น..มันก็ทำเอาผมยิ้มไม่หยุด…การทำให้คนที่เรารักมีความสุขมันเป็นอย่างนี้นี่เอง…
หลังจากนั้นไม่นาน คนที่ถูกเลือกก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ผมมองคนรอบๆตัวแล้วก็เริ่มรู้สึกใจหาย..นี่ผมจะต้องเข้าไปอยู่ในบ้านกับทุกคนตรงนี้..ตลอดสามเดือนงั้นเหรอ…ผมจะทนได้มั๊ยนะ…ที่ต้องห่างจากเธอ………..
“เอาล่ะครับ!! ตอนนี้เราได้ว่าที่นักล่าฝันทั้งหมด 21 คนแล้วนะครับ เชิญคนที่ไม่ได้ถูกเรียกชื่อข้างล่างเวทีเลยครับ” ผมมองตามหลายๆคนที่พลาดโอกาสครั้งนี้ไปอย่างนึกเสียดายแทน จนสายตาไปสะดุดกับใครคนหนึ่ง…
ผู้ชายตัวเล็กๆที่หน้าดูเหมือนจะเป็นลมนั่น..
เหมือนผมจะเคยเห็นเค้าในการประกวดปีที่แล้ว
และได้ข่าวมาว่า เค้ามาประกวดปีนี้เป็นปีที่สามแล้ว!!
ซึ่งก็นับว่ามากอยู่ถ้าเทียบกับผมที่มาเป็นครั้งแรก เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้…….
“ครับ!! ตอนนี้เราก็ได้ว่าที่นักล่าฝันกันแล้ว แต่อย่างที่ผมบอกครับ ว่าปีนี้พิเศษกว่าทุกๆปี เราจะเลือกผู้เข้าแข่งขันอีกสามคนเข้าบ้านครับ!!!” หลังจากอาต้อยพูดจบ เสียงฮือฮาก็ดังมาจากข้างล่างเวที รวมไปถึงพวกผมบนเวทีด้วย ก่อนจะมองหาคนตัวเล็กคนนั้น และเห็นว่า หน้าซีดๆนั้นเริ่มจะยิ้มออกมาบ้าง
ทำเอาผมลุ้นไปด้วยว่าคนตัวเล็กจะได้รับเลือกมั๊ย….
“เชิญผู้เข้าแข่งขันผู้ชายลุกขึ้นครับ เพราะอีกสามคนที่เราจะเลือกนั้นเป็นผู้ชายทั้งหมดครับ!! เอาล่ะครับ สำหรับคนแรกที่ได้รับเลือกก็คือ…..” สิ้นเสียงของอาต้อย เด็กผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่แต่อายุน่าจะพอๆกับเจ้าเฟรม ลุกขึ้นด้วยความมึนงงก่อนจะเดินขึ้นมาบนเวทีและเลือกวีของตนเอง รู้สึกว่าจะชื่อเจมส์ล่ะมั้ง
แต่ช่างเถอะครับ เพราะตอนนี้ผมเหลือบไปเห็นคนตัวเล็กเริ่มหน้าซีดอีกแล้ว….
…..จะได้มั๊ยนะ…..
“และคนต่อไป…ก็คือ…A002…คชา!!!” หลังจากอาต้อยประกาศ เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีก็ดังขึ้น พร้อมกับป้ายไฟที่โบกไปมาของเหล่าแฟนคลับ
ใครกันนะ…มีแฟนคลับตั้งแต่ยังไม่เข้าบ้าน…
และผมก็เห็น…คนตัวเล็กลุกขึ้น!! พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา…
คงดีใจมากสินะ… ทำเอาผมยิ้มตามไปด้วยเลย….
เวลาคนตัวเล็กยิ้มนี่…โลกสว่างจริงๆครับ…
คนตัวเล็กเดินขึ้นมาด้วยความมึนงง แต่ก็ยังคงยิ้มพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมามากกว่าเดิม ผมหันไปมองป้ายไฟที่เหล่าแฟนคลับโบกไปมาอย่างไม่กลัวเมื่อย
…คชางั้นเหรอ?…ชื่อแปลกดีแฮะ
“สวัสดีครับ..น้องคชา…สามปีแล้วนะ..ตั้งใจไว้รึเปล่าว่าปีนี้ไม่ได้..ปีหน้าจะมาอีก”
“ก็…จะลองจนกว่าอายุจะเกินน่ะครับ” เสียงของคนตัวเล็กสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะร้องไห้ไม่หยุดแม้กระทั่งตอนเลือกวี ทำเอาผมหลุดขำออกมาเบาๆ
…..เหมือนเด็กจริงๆเลยน้า…คชา….
คชาได้ V3 จากป้ายที่เหลืออยู่สองใบ เหลืออีกคนเดียวสินะ หลังจากอาต้อยประกาศชื่อคนสุดท้าย เด็กผู้ชายผมสีน้ำตาลที่อายุก็คงห่างจากเจ้าเฟรมไม่เท่าไหร่ ลุกขึ้นเดินมาด้วยอาการงุนงงไม่ต่างจากคนอื่นๆ และได้ V19 จากป้ายสุดท้ายที่เหลือ
“ครับ!!! ตอนนี้เราก็ได้ว่าที่นักล่าฝันครบทั้ง 24 วี แล้วนะครับ ก็ขอให้ทุกคนติดตามรายการของเราต่อไปนะครับ ว่าใครจะได้เป็นสุดยอดนักล่าฝันของทรูอะคาเดมี่ซีซั่นที่แปดนี้ ขอบคุณทุกคนมากๆครับบบบบ”
หลังจากนั้น พวกผมทั้ง 24 คน ซึ่งเป็นว่าที่นักล่าฝันหมาดๆก็ถูกถ่ายรูปจากสื่อต่างๆ อยู่พักใหญ่ ซึ่งผมก็อดเหลือบมองไปทางคนตัวเล็กไม่ได้ ที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะมึนๆกับแสงแฟรชตรงหน้าไม่น้อย และไม่นานนัก พวกเราก็ถ่ายรูปเสร็จ ผมเดินจึงลงมาจากเวทีเพื่อไปหาคนที่ผมรัก…
….พ่อแม่…น้องๆ..ญาติๆ…และ…ผู้หญิงที่ผมรัก…
“เต๋า!!!....ลูก!!!” ผมเดินเข้าไปในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ทันที และรับรู้ได้ถึงแรงสั่นน้อยๆจากคนในอ้อมกอด
“แม่…”
“เต๋า!!...แม่ภูมิใจในตัวเต๋ามากจ๊ะ..ลูกแม่เก่งที่สุด” แม่ของผม…ร้องไห้…แต่ผมมั่นใจว่าครั้งนี้…น้ำตาที่ไหลออกมานั้น..เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ..ไม่ใช่..ความผิดหวังเช่นครั้งก่อนๆ
“ผม…รักแม่ครับ” คำบอกรักที่ผมไม่ค่อยได้เอ่ยนัก เพราะช่วงก่อนหน้านี้ต้องไปเรียนที่ต่างประเทศทำให้ไม่มีเวลากับครอบครัวสักเท่าไหร่
“แม่ก็รักลูกจ๊ะ…รักที่สุด!!” ผมกอดแม่แน่นขึ้นไปอีก
ความอบอุ่น…ที่ไม่ได้สัมผัสมานาน…. ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึง ฝ่ามือใหญ่…ที่บีบไหล่ผมเบาๆ
“เก่งมาก!!...ไอ้ลูกพ่อ!!..มันต้องอย่างนี้สิ!!” ผมหันไปยิ้มให้พ่อพร้อมน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอ พ่อคือคนที่สอนผมร้องเพลงมาตลอด
ผมมีวันนี้ได้…ก็เพราะพ่อ…
“ขอบคุณครับ…พ่อ”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก…เห็นแกมีความสุข..พ่อก็มีความสุข” พ่อยิ้มอีกครั้ง
ทำเอาน้ำตาที่เอ่อคลอเมื่อกี้ไหลลงมาเป็นสาย……
“พี่เต๋า!!! ร้องไห้เดี๋ยวก็ไม่หล่อหรอก…ต๋อไม่อยากมีพี่ชายขี้เหร่นะ” เสียงเจื้อยแจ้วดังมาจากข้างหลัง ผมผละออกจากอ้อมกอดของแม่ ก่อนจะหันหลังไปขยี้หัวเจ้าน้องสาวตัวดีอย่างหมั่นเขี้ยว
“อะไรน่ะเราฮึ…ว่าพี่ขี้เหร่ได้ไง!!”
“พี่เต๋า!!...ก็อย่าร้องไห้สิ หมดหล่อกันพอดี คิกๆ” เสียงหัวเราะคิกคักนั่นทำเอาผมอดจะเอื้อมมือไปบีบแก้มใสๆของเจ้าน้องสาวตรงหน้าไม่ได้
“นี่แน่!!ๆๆ ว่าพี่งั้นเหรอ!! ”
“โอ๊ย!!ๆๆ แม่!!!...พี่เต๋าแกล้งหนู” เมื่อทำอะไรไม่ได้ น้องสาวตัวดีจึงหันไปฟ้องแม่ที่ส่ายหน้ายิ้มๆเหมือนระอากับการทะเลาะกันของเรา ทั้งที่อายุก็ห่างกันมากโขอยู่
“พอๆพอเลยทั้งสองคน วันนี้วันดีนะอย่ามัวแต่มาทะเลาะกันสิ ไปๆๆเดี๋ยวพ่อจะพาเราไปฉลองกัน อ้อ!! เต๋า เมื่อกี้แม่เห็นหนูเอมอยู่แถวๆนี้น่ะ เสร็จแล้วก็ตามไปที่ร้านลุงศักดิ์ร้านเดิมนะ”
แม่ยิ้มให้ผมก่อนจะลากเจ้าน้องสาวตัวดีที่ตอนนี้ทำปากยู่อย่างอารมณ์เสียทันที
ที่ได้ยินชื่อเอม…..แฟนของผม
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องสาวไม่ชอบอะไรในตัวแฟนผม
ทั้งๆที่เธอทั้งสวย..และนิสัยดี….
‘พี่เต๋าระวังตัวไว้นะ…ต๋อว่า..แฟนพี่อ่ะแกล้งเป็นคนดี..แต่ที่จริงแล้วต้องร้ายมากแน่ๆ’
นั่นคือคำพูดที่ต๋อ..น้องสาวตัวดีบอกผมในวันแรกที่เจอเอม..
แต่ช่างเถอะครับ..น้องสาวผมคงยังเด็กเกินไป…
เห็นผมมีแฟน..ก็คงหวงพี่ชายเป็นเรื่องธรรมดาล่ะมั้ง?
ผมเดินตามหาเอมอยู่นาน ก่อนจะเจอเธอแถวๆประตูทางออก พร้อมกับโทรศัพท์เครื่องบางที่เจ้าตัวเหมือนกำลังเม้าท์กับเพื่อนสาวของเธออย่างออกรส
“เอม!!”
“อ้าว!! เต๋า!! มาพอดีเลย นี่เอมกำลังคุยกับฝนอยู่เลยค่ะ ฝนดูท่าจะดีใจกว่าเอมซะอีก ชมเต๋าไม่ขาดปากเลย” เธอหันมายิ้มหวานให้ผม ก่อนจะกดวางสายเพื่อนเธอไป
“แล้วเอมล่ะ..ไม่ดีใจเหรอครับ..ไม่เห็นชมเต๋าบ้างเลย”
ผมอ้อนเธอทันที เรียกรอยยิ้มหวานๆนั้นได้อีกหน
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย..ทำไมเอมจะไม่ดีใจล่ะค่ะ..ในที่สุดความฝันของเต๋าก็เป็นจริง..
ดีใจด้วยนะค่ะ…เต๋าเก่งที่สุดเลย”
“ไม่ใช่ความฝันของเต๋าคนเดียวสักหน่อย….ความฝันของเอมด้วยนะครับ..เต๋าทำเพื่อเอมนะ”
ใช่ครับ การเป็นนักร้องไม่ใช่ความฝันของผมซะทีเดียว…
แต่เอม..ผู้หญิงที่ผมรักมานานหลายปี..เธอก็อยากเข้าวงการบันเทิงเหมือนกัน..
เธอเคยประกวดพวกนางสาวไทยอยู่หลายครั้ง แต่ก็…ไปไม่ถึงฝัน…
ผมยังจำวันที่เธอร้องไห้มาหาผมได้…มันทำให้ผมแทบทนไม่ไหว…….
การเห็นคนที่ตัวเองรักต้องเสียใจ…ผมจึงทำตามคำขอของเธอ…….
นั่นคือการเข้าประกวดร้องเพลงตามรายการต่างๆ…เพราะผมคิดว่าผมถนัดทางนี้มากที่สุด……
อย่างน้อยถ้าผมได้เป็นนักร้อง…เธอก็คงมีความสุขที่ได้เห็นผมออกทีวี…….
เหมือนได้เข้าใกล้วงการบันเทิงไปอีกก้าว……….
“ขอบคุณนะค่ะเต๋า…เอมรักเต๋านะ” คำบอกรักหวานหูพร้อมอ้อมกอดที่ผมโหยหาตลอดเวลา
ทำเอาผมมีความสุขเหลือเกิน….ต่อจากนี้…ชีวิตของผมคงมีแต่…ความสุขสินะ
“เต๋าก็รักเอมนะครับ…และจะรักเอมคนเดียว…ตลอดไป”
………………………………….
ความคิดเห็น