ตอนที่ 8 : บทที่ 7
บทที่ 7
“คุณหนูของบ่าว! คุณหนูหายไปไหนมาคะ ทำไมไม่ติดต่อมา” พุมพินน้ำตาอาบโผล่เข้ากอดหญิงสาวที่ตนรักสุดใจทำเอาดารุณีน้ำตาซึม “เมื่อคืนดาไปค้างบ้านเพื่อนมาน่ะค่ะ เพื่อนดาอกหัก มือถือก็ดับ ดาขอโทษนะคะ”
“ดีแล้วล่ะค่ะที่คุณหนูของพินไม่เป็นอะไร” พินไพรตาแดงเดินเข้ามาประคองมือบางของหญิงสาวแน่น ดารุณีหลุดยิ้มกับคู่ยายหลานที่นิสัยเหมือนกันอย่างกับแกะ “ดากลับมาแล้วค่ะ”
หญิงสาวนั่งนิ่งบนเตียงหลังอาบน้ำเสร็จ แมวน้อยคลอเคลียข้างมือซ้ายก่อนนั่งลงข้างๆ ดารุณีปลายตามองมันพลางขยับมือลูบขนมันเบาๆ “เจ้านายแกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยรู้มั้ย แม็คกี้”
เจ้าตัวเล็กบิดขี้เกียจก่อนกลิ้งหงายท้อง ดารุณีทิ้งตัวลงนเตียง เปลือกตานวลค่อยๆหลับลงและฝันถึงชายหนุ่มผู้มอบแมวน้อยเป็นของขวัญให้เธอ
ดารุณีมองห้องคอนโดหรูของชายหนุ่มที่เละเทะไม่มีชิ้นดี ปากของหญิงสาวสั่นระริกเมื่อเห็นร่างสองร่างใกล้เตียงกว้างท่ามกลางขวดเครื่องดื่มสีสวยมากมาย
“พี่จิณณ์... พี่ทำแบบนี้กับดาได้ยังไง...” น้ำตาของดารุณีเอ่อล้น “ทำไมคะ? ทำไม....”
“ง่ายมาก ก็เพราะคุณหญิงน่าเบื่อยังไงล่ะครับ” ร่างสูงใบหน้าแดงจัดโอบเอวสาวสวยอวบอั้นเข้าแนบชิด เขาเซเล็กน้อยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ “เอ๊ะอะอะไรก็ไม่ได้ นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ผมมันก็แค่ผู้ชายธรรมดาครับ ยังไงผมก็ต้องการเรื่องอย่างว่า! หรือแค่นี้ก็ยังรับไม่ได้อีก?!”
ดารุณีสะอึก “แต่พี่จิณณ์สัญญา...”
“ผมขอถอนคำพูดครับคุณหญิง!” คนเมายังคิดว่าตัวเองเห็นภาพหลอน มุมปากยกก่อนระบายความในใจ “ผมเฝ้าถนอมคุณตั้งนานสองนานคุณควรจะขอบคุณในความอดทนของผมเสียบ้างนะครับ”
“หลายปีที่คบกัน มันคือเรื่องโกหกทั้งหมดเลยสินะคะ”
“ใช่ครับ แต่ก็ต้องขอบคุณยศนำหน้าของคุณมากเลยนะครับ” ร่างสูงเซอีกครั้งขณะพยายามเข้าใกล้หญิงสาวคนรัก “มันช่วยเรื่องงานของผมได้เยอะเลย ฮ่ะฮ่าฮ่า”
ซ่า! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
น้ำโซดาสีสวยสาดให้หน้าของคนเมาเต็มๆ ประกอบกับเสียงหวีดร้องข้างหูจากสาวอวบเหมือนจะทำให้เขาได้สติ ร่างที่เมามอง ‘ภาพหลอน’ ที่มีชีวิตของดารุณี เรียวปากที่เคยยกยิ้มเอ่ยเสียงคราง “ตัวเล็ก...”
“ส่างเมาแล้วหรือคะ? คุณจิณณ์”
ร่างสูงถลามาหาเธอ “ตัวเล็ก! ผมไม่...”
เพี๊ยะ!!
ใบหน้าของเขาหันทันที ซีกแก้มซ้ายรู้สึกชาและชัดเจนเกินกว่าจะคิดว่าหล่อนตรงหน้าคือภาพจินตนาการ ดารุณีปาดน้ำตาทิ้ง หญิงสาวเชิดหน้าขึ้น “ขอบคุณค่ะที่ช่วยให้ดิชั้น ‘ส่าง’ จน ‘ตาสว่าง’ เหมือนกัน”
“หล่อนกล้าดียังไงมาทำกับจิณณ์ของฉันห๊ะ” เสียงแหลมของสาวร่างอวบเอ่ยแทรก ดารุณีเพียงส่งดวงตาคมมองเธออย่างเหยียดหยามและเอ่ยเสียงเย็น “ของเก่ายัดไส้เน่าๆแบบนี้ฉันไม่เอาอยู่แล้วค่ะ ฉันยกให้!!”
“ตัวเล็ก!!” ชายหนุ่มส่งเสียงก้อง เขาพุ่งมาจับท่อนแขนของเธอแน่น “ตัวเล็กอย่าทำกับพี่แบบนี้! พี่ขอโทษ ยกโทษให้พี่นะครับคนดี”
ดารุณีหันเสี้ยวหน้าเหล่มอง ‘ของเก่า’ ของเธอเล็กน้อยพลางยิ้ม “ยกโทษให้งั้นหรือคะ? ได้ค่ะ... ดิชั้นอโหสิกรรมให้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่จริงใจกับดิชั้นมาโดยตลอด”
จิณณ์จุกจากคำประชดของดารุณีจนทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวสะบัดมือของชายหนุ่มทิ้งก่อนจะส่งยิ้มหวานอาบยาพิษ “เชิญคุณไปทำเรื่องอย่างว่าของคุณต่อเถอะค่ะ คุณจิณณ์ ดิชั้นขอลาขาด!”
นั่นคือค่ำคืนสุดท้ายที่เธอมองเห็นเขาในฐานะคนรัก แม้หลังจากนั้นจิณณ์จะพยายามพิสูจน์อยู่หลายครั้งว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ ทว่าดารุณีไม่ใช่คนโง่... เธอจะไม่ยอมหลงกลซ้ำสอง เวลาล่วงไปเกินหนึ่งปี ชายหนุ่มยังคงพิสูจน์และอ้อนวอนของดวงใจที่แตกสลายของเธอให้กลับมารักเขาอีกครั้ง
แต่เธอเจ็บแล้วจำ
สำหรับดารุณี เธอทำได้มากที่สุดคืออโหสิกรรมตามที่เคยลั่นวาจาและมอบฐานะคนรู้จักให้เขาแทน ซึ่งโอกาสนี้มันยังมากเกินไปด้วยซ้ำสำหรับคนหลอกลวงแบบเขา หญิงสาวปรับตัวและปฏิบัติต่อเขาอย่างเพื่อนร่วมงานผู้วางตัวอย่างเหมาะสม ฉาบหน้าด้วยรอยยิ้มบางๆและความสนิทสนมแบบเด็กๆเหมือนที่เธอเคยทำครั้งยังเป็นสาวโสด เสแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสแสร้างว่าทุกอย่างปกติดี โดยปกปิดส่วนลึกในใจเอาไว้ ส่วนลึกที่ต้องขอบคุณเขา
ขอบคุณที่จิณณ์สอนให้เธอรู้และเข้าใจว่ารักแท้นั้นไม่มีอยู่จริง ขอบคุณที่เขาช่วยให้เธอตาว่าง และเปลี่ยนความรักสีชมพูให้กลายเป็นสีดำไปตลอดกาล...
ย่างเข้าสู่วันที่ 3 ที่พรรณพรายหมกตัวอยู่ในบ้านพักของตรีศูล หญิงสาวเริ่มอาการดีขึ้นแล้ว เธอยอมรับกับแฟนหนุ่มและขอโทษที่ฟูมฟายไม่เข้าเรื่อง ส่วนตรีศูลเองเมื่อเคลียร์ปัญหาคาใจได้ เขาก็พยายามเอาอกเอาใจประคบประหงบเธอราวกับเธอเป็นนางฟ้าตัวน้อยของเขาอีกครั้ง
“วันนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?” ร่างสูงถอดเสื้อสูทพาดกับเก้าอี้พลางเอ่ย “พี่จำได้ว่าเดือนก่อนพายบ่นอยากกินผัดไท เราไปกินกันไหมครับ”
“ไม่เอาอ่ะค่ะพี่ริว” พรรณพรายเบนหน้าจากทีวีไปมองเขาพร้อมทำแก้มป่อง หญิงสาวคนเดิมที่ตรีศูลรู้จักเริ่มกลับมาอีกครั้ง “พี่ริวไม่บอกก่อน พายเพิ่งทานมื้อเย็นไปเมื่อกี้”
“งั้นเข้าครัวกัน” ชายหนุ่มยังไม่เลิกตอแย “พี่อยากกินเค้กฝีมือพาย ไม่ได้กินมานานแล้ว”
“เอางั้นหรือคะ? เอ๋? บ้านเรามีอุปกรณ์พร้อมแล้วหรือคะ??”
ตรีศูลยิ้มเจ้าเล่ห์ “แค่ใช้ใจทำก็พอ...”
“คนบ้า” พรรณพรายบ่นต่อว่าเขาเบาๆอย่างมีจริต เธอฉลาดพอที่จะเล่นตัวนิดหน่อยก่อนจะยอมตาม สาวหน้าหวานชูมือให้ชายหนุ่มดึงเธอขึ้นจากโซฟาเข้าแนบอกแล้วค่อยพาเธอเข้าไปในครัวพร้อมเริ่มต้นค่ำคืนหวานฉ่ำที่เคยห่างเหินไปนาน เรียวปากบางเผยอยิ้มดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอคาดคิด...
คืนนั้น คืนที่ดวงตาของเธอแดงก่ำและเธอไม่อาจข่มตาหลับได้ พรรณพรายแอบได้ยินเสียงพูดคุยของตรีศูลที่ริมระเบียง พอเช้าวันรุ่งขึ้นระหว่างที่ชายหนุ่มอาบน้ำเธอจึงรีบคว้ามือถือของเขา เดินไปที่ระเบียงและกดเบอร์โทรออกล่าสุดทันทีก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น “สวัสดีค่ะ ดิชั้นพรรณพราย ภรรยาของคุณตรีศูลค่ะ”
“เอ่อ... มีอะไรให้ผมรับใช้ครับคุณผู้หญิง” น้ำเสียงของอีกฝ่ายร้อนรนเป็นที่สุด
“คุณทำงานสะเพร่ามากเลยนะคะที่ปล่อยให้คลิปนั่นถูกส่งมาถึงมือฉันได้” บรรยากาศและความอึกอักของเขาทำให้พรรณพรายยิ้ม “และมันคงไม่ง่ายถ้าจะหาว่าใครเป็นต้นต่อของคลิป”
“ครับ?” ปลายสายเริ่มไม่เข้าใจ
“ฉันจะให้คุณทำง่ายกว่านั้นค่ะ ขอแค่บอกไปว่าคุณหญิงดารุณีอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด”
“แต่...” เสียงของปลายสายดังขัด “คุณท่านสั่งให้ผม...”
“ทำตามคำสั่งของฉันแล้วแกจะปลอดภัย!” เสียงหวานของเธอตะคอกลั่นอย่างเสียสติ “แค่ทำตามที่ฉันสั่ง โทรบอกพี่ริวว่าคุณหญิงดารุณีคือตัวการของทุกอย่าง ง่ายแค่นี้ ทำไม่ได้รึไง!!”
ปลายสายเงียบไปด้วยความตกใจก่อนเขาจะรีบตอบรับเมื่อหาเสียงของตัวเองเจอ “ครับ! ทำได้ครับ คุณผู้หญิง”
พรรณพรายสูดลมหายใจ เธอพยายามดึงสติและเอ่ยชมเสียงหวานหยด “ดีมากค่ะ” แล้วจึงกระซิบเสียงเย็น “และจำไว้ อย่าทำให้ฉันและพี่ริวผิดหวังอีก”
เค้กใกล้เสร็จแล้ว... หญิงสาวดาราจอแก้วยิ้มหวานกับชีวิตที่เหมือนฝัน ชีวิตที่มีเขาเอาอกเอาใจ ชีวิตที่ดารุณีเป็นได้แค่ตัวร้ายและเธอคือนางเอกของเรื่อง
ตรีศูลมองหญิงสาวที่หลับไปแล้วด้วยสายตาเหนื่อยล้า หลังมื้อเย็นเขาต้องรับมือกับพรรณพรายผู้งอแงไม่ยอมไปถ่ายโฆษณาเปิดตัวสินค้า แต่ด้วยเพราะเขารับปากกับคุณนีลผู้จัดการของหญิงสาวไว้แล้วว่าจะดูแลให้ ชายหนุ่มจึงหลอกล่อด้วยคำหวานสารพัด และเมื่อไม่ได้ผลเขาจึงใช้เหตุผลเข้าพูด
“พายกำลังจะมีชื่อเสียงนะครับ” เขาจ้องหน้าเธออย่างจริงจัง “ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุกคนจับตามองพาย พายของพี่ต้องใช้โอกาสนี้แสดงความสามารถและทำให้ทุกคนเห็นถึงฝีมือของพายสิครับ โอกาสแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆและพี่เชื่อมั่นในตัวพายนะว่าพายจะทำให้พี่ภูมิใจ”
ท้ายที่สุดหญิงสาวตาหวานจึงยอมตกลงและเข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อเตรียมเดินทางตอนรุ่งสาง ตรีศูลมองใบหน้าของหญิงสาวนิ่งก่อนถอนหายใจ มือเสยผมอีกครั้ง เขาเดินออกไปที่ระเบียงล้วงมือถือที่กำลังสั่นขึ้นกดรับ
“ตาริวทุกอย่างเรียบร้อยดีมั้ย?”
“เรียบร้อยดีครับ ไม่ต้องห่วง”
“ดี หวังว่าจะเป็นอย่างงั้น อีกสิบวัน ฉันจะกลับ แกก็ดูแลหนูดาให้ดีด้วยล่ะ”
“ทราบแล้วครับ แค่นี้ก่อนนะครับ ที่นี่ตีหนึ่งแล้ว”
“จ่ะ ฝันดีนะลูก” คนเป็นแม่เอ่ยอย่างอ่อนโยน ตรีศูลตอบรับ “ครับ ฝันดีครับแม่”
มือหนากดวางสายไป ตรีศูลหลับตาลง แม้คุณหญิงเนตรทิพย์จะชอบเอ่ยวาจาเชือดเฉีอนและทำให้เรื่องทุกอย่างบานปลาย แต่ถึงอย่างไรคุณหญิงเจ้าปัญหาคนนี้ก็ยังเป็นแม่ของเขาอยู่วันยังค่ำ เขาทราบดีว่าทุกอย่างที่ทำไปก็ล้วนเป็นเพราะความรักและความห่วงใยทั้งสิ้น โชคดีที่มารดาของเขาเดินทางไปงานเลี้ยงฉลองของลูกค้าที่ฮ่องกงและอยู่เที่ยวต่อเป็นเวลาเกือบครึ่งเดือน เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับดารุณีจึงยังไม่มีใครรู้ ตรีศูลหยิบบุหรี่ขึ้นจุด ดวงตามองไปบนท้องฟ้าในค่ำคืนไร้จันทร์ ดวงดาวพากันส่องแสงกระยิบ ชายหนุ่มอดคิดถึงหญิงอีกคนเสียไม่ได้
ดารุณี.... ที่จริงเธอเป็นเหมือนดวงดาวสำหรับเขา เธอเคยอยู่สูงจนยากจะจับต้อง ส่องแสงสกาวโดดเด่นท่ามกลางราตรีที่มืดมิด เป็นเหมือนดาวเหนือที่ไม่มีวันดับแสง แต่แล้ววันหนึ่ง วันที่เขาทำให้ดาวดวงนั้นตกลงมาจากฟ้า ทำให้เธอเปื้อนดิน เมื่อเขาพยายามส่งเธอกลับไปอยู่ในที่ๆควร เธอกลับไม่ยินยอม แสงของเธอดูเหมือนจะริบหรี่ลงทุกขณะแต่เธอก็ไม่ยอมกลับขึ้นฟ้า เธอยอมทิ้งศักด์ศรี แต่งงานด้วยเพราะเครื่องผูกมัดเพียงอย่างเดียวนั่นคือ ‘ลูก’
ชายหนุ่มกระซิบถาม “ถ้าไม่มีลูก เธอจะทนต่อไปมั้ย? ดารุณี”
เป็นคำถามที่ไร้คำตอบ
“นี่ค่ะ เอ่อ คุณหนูคะ....”
“ว่าไงคะ พี่พิน” ดารุณีรับกระเป๋ามาถือพลางมองหน้าพินไพรและเอียงคอสงสัย
“พินไม่เห็นคุณหนูกินยาบำรุง คุณหนูลืมรึเปล่าคะ?”
ดารุณียิ้มเข้าใจความหมาย “ไม่ลืมค่ะ แต่กินหมดแล้ว ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะพี่พิน”
“อยู่นอกบ้าน คุณหนูก็ต้องดูแลตัวเองเยอะๆนะคะ”
“ค่า จะไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลย” ส่งรอยยิ้มหวานอีกครั้ง “ดาไปทำงานก่อนนะคะ”
“ค่ะ เดินทางปลอดภัยค่ะ คุณหนูดา”
พินไพรมองรถที่ค่อยๆเล่นออกไป เป็นเวลาเดือนกว่าแล้วหลังจากที่นายหญิงของเธอออกจากโรงพยาบาล ช่วงหลังๆมานี้นายหญิงดูซึมแบบแปลกๆจนเธอและยายพุมอดห่วงเสียไม่ได้ พอปรึกษากับยายอย่างจริงจัง เลยเดาและได้ข้อสรุปว่าน่าจะเป็นหนึ่งในอาการของคนท้อง นายหญิงเริ่มแพ้กลิ่นแปลกๆบางอย่างเช่นน้ำหอมผู้ชายหรือกลิ่นดอกกุหลาบจนทำเอาคุณภูบดินทร์เป็นอันต้องหายหน้าหายตาเข้าใกล้เกิน 5 เมตรไม่ได้ ยังดีที่นายหญิงไม่มีทีท่าว่าจะแพ้ท้องตอนเช้า ไม่งั้นบ้านคงแวดล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดของพลอากาศโทภูบดินทร์และคุณหญิงภูฟ้าเป็นแน่ ช่างเป็นครอบครัวที่หญิงสาวคนใช้นึกถึงแล้วได้แต่ส่ายหัว
โอเว่อร์ทั้งแม่ทั้งลูก
มือเย็นที่แตะตัวทำให้เธอเผลอสะดุ้ง “ยาย! พินตกใจแทบแย่”
“ตกใจอะไร แล้วมายืนทำอะไรเงียบๆคนเดียว”
“มายืนส่งคุณหนูจ่ะยาย” พินไพรตอบ “ยายมาช้าอดเห็นรอยยิ้มคุณหนูเลย เสียดายล่ะสิๆ”
คนแก่ที่ถูกล้อตีหน้านิ่ง “ลามปามจริงนะเจ้านี่! อย่าคิดว่าฉันจะไม่กล้าตีแกนะ ยัยพิน” หลานสาวเพียงแลบลิ้น “อย่างยายตีหนูไม่ทันหรอก เหวอ!” หญิงสาวกระโดดหนีเมื่อเกือบถูกยายตีที่แขน สาววัย 20 เศษส่งยิ้มทะเล้น “ไม่ล้อแล้วจ้า หนูไปล้างจานก่อนดีกว่า”
ดวงตาที่เริ่มฝ้าฟางมองหลานสาวที่เดินลับเข้าไปในครัวแล้วจึงเดินไปที่โทรศัพท์บ้านพร้อมกดเบอร์ที่คุ้นเคย
“สวัสดีค่ะ.... ดิชั้นจะรายงานว่าคุณหนูทานยาหมอหมดแล้ว.... ใช่ค่ะ.... ส่งนมบำรุงมาได้เลยค่ะ....ค่ะ... ได้ค่ะ... ดิชั้นจะรีบจัดการค่ะ... ทราบแล้วค่ะ... ค่ะ... ทุกอย่างจะเรียบร้อย... เท่านี้ก่อนนะคะ... ค่ะ.... สวัสดีค่ะ”
มือย่นวางหูโทรศัพท์ลงก่อนจะขยับเดินไปรดน้ำต้นไม้ในสวน โดยที่พุมพินไม่รู้เลยว่ามีคนบังเอิญได้ยินสิ่งที่เธอคุยกับปลายสาย ร่างเล็กเดินกลับเข้าครัวพร้อมแก้วน้ำที่เธอลืมเก็บพร้อมบ่นพึมพำ
“ยายคุยกับใคร?”
ความวุ่นวายตลอดทางเดินทำให้ดารุณีงุนงง นภาภรวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาเธอพร้อมข่าวร้าย “คุณดาค่ะ! ฝ่ายเทคนิกแจ้งมาค่ะว่าโจรมาโจรกรรมข้อมูลอีกแล้วค่ะ!!”
รองเท้าส้นเตี้ยวิ่งเข้าห้องทำงานของตัวเองทันที เธอสวมแว่นแล้วรีบตรวจเช็คข้อมูลต่างๆ ใบหน้าหวานซีดไปกว่าครึ่ง คราวนี้โจรทำสำเร็จ... มันดาน์วโหลดข้อมูลรายรับของบริษัทเมื่อเดือนที่แล้วไปได้และเวลาที่แสดงนั้นคือเวลาก่อนเธอเข้าทำงานเพียงหนึ่งชั่วโมง!
เธอและนภาภรถูกบอร์ดบริหารเรียกเข้าพบตอนเกือบเที่ยง กล้องวงจรปิดของห้องทำงานเธอและแผนกเทคนิกถูกถอดสายทำให้ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนร้าย จากที่กำลังจะถูกสอบสวน คนท้องกลับยื่นเรื่องโวยวายกับเหล่าบอร์ดบริหารผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายเทคนิกทันทีและยังชี้แจงไปถึงจุดโหว่อีกหลายอย่างของระบบรักษาความปลอดภัยอาคารตั้งแต่นทางเดินหน้าห้องน้ำที่มืดและมีมุมอับ ตลอดจนระบบคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะทำงานของเธอที่ใส่รหัสไว้ถึง 20 ตัวแต่กลับถูกโจรกรรมไปได้ซึ่งๆหน้า
“หนูดาใจเย็นก่อน น้าเข้าใจว่าอารมณ์คนท้องมันพาไป แต่ค่อยๆพูดก็ได้”
“ดาเคยบอกพวกคุณน้าแล้วไม่ใช่หรือคะ?” หญิงสาวจุดเดือดต่ำถาม “การเรียกสอบเฉพาะคนทำให้ดาและพี่กี้อาจต้องเสื่อมเสีย แต่นี่คุณน้ากลับเรียกดามาอีกครั้ง” น้ำตาของความเหนื่อยล้าเริ่มไหล “ดาไม่มีทางทำลายบริษัทที่คุณพ่อรัก คุณน้าก็รู้”
เท่านั้นแหละ เหล่าคนแก่ก็พากันขอโทษและช่วยกันปลอบเธอเสียยกใหญ่ เพราะพวกเขาเองก็ต่างเห็นและคุ้นเคยกับเด็กสาวตรงหน้าตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กน้อยที่คอยถือตุ๊กตาเดินตามพ่อมาเที่ยวที่ทำงาน ดารุณีเดินออกจากห้องแบบน้ำตาซึมไม่หาย แล้วเมื่อนั่งที่โต๊ะทำงาน คนอารมณ์ขึ้นๆลงๆก็เป็นอันฉุนขาด
“อยากเล่นกับฉันแบบนี้ใช่มั้ย ได้! งั้นคราวนี้มาดูสิว่าจะยังขโมยอะไรได้อีกมั้ย!”
เวลาเกือบหนึ่งทุ่ม ห้องที่เพิ่งปิดไฟสนิทกลับสว่างอีกครั้งและปรากฏร่างของใครคนหนึ่งท่ามกลางความเงียบ เขาเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตนก่อนมือใหญ่จะเปิดคอมพ์แล้วเริ่มลงมืออีกครั้ง...
เขารัวนิ้วเข้ารหัสคอมพิวเตอร์ของตนแล้วเปิดเชื่อมต่อเครือข่ายลับที่เขาทำไว้กับเครื่องของหญิงสาวตั้งแต่เดือนที่แล้ว มือหนารัวแป้นคีย์บอร์ดเพียงครู่ หน้าต่างให้กรอกรหัสก็เด้งขึ้น ชายหนุ่มป้อนรหัส 20 ชุดของหญิงสาวลงไปทันที เพียงไม่นาน... จอเดสก์ท็อปของหญิงสาวก็ปรากฏขึ้นที่หน้าจอของเขา ชายหนุ่มหล่อเหลายิ้มกว้าง
“โง่เหมือนเดิมเลยนะครับ ดา”
แต่แล้วพอเปิดไฟล์เตรียมเข้ารหัสลับที่ดารุณีตั้งค่าไว้ เขากลับต้องตาโตเมื่อเห็นว่าไฟล์ลับทุกไฟล์กลับว่างเปล่า!!
มือหนากดมือถือโทรออกทันทีก่อนจะพ่นภาษาจีนรัวใส่ “คุณหวัง เปลี่ยนแผนครับ ผมคงต้องใช้เวลามากกว่าที่คาดไว้ ไว้ผมจะติดต่อกลับ แค่นี้นะครับ”
ชายหนุ่มปามือถือทิ้งลงบนโซฟา เขาเดินไปยืนชิดริมหน้าต่างมองวิวทิวทัศน์ด้วยความหงุดหงิดที่พุ่งสูง “ยัยตัวเล็ก... แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

31 ความคิดเห็น
-
#18 SamanthaArlan (จากตอนที่ 8)วันที่ 27 ตุลาคม 2558 / 21:41คุณจินแน่นอน-_-!#180