ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [iKON X YOU] ..FRIEND เพื่อนโง่...

    ลำดับตอนที่ #2 : 01 : โง่เร่ร่อน...

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 59


    01:โง่เร่ร่อน...










    เรื่องนี้จุนเฮวจะไม่ยุ่งเพราะถือว่าพี่ชายคนนี้โตเเล้วและก็น่าจะช่วยเหลือตัวเองในสถานการณ์แบบนี้ได้ นั่นทำให้เขานั่งใจเย็นมาเกือบสองอาทิตย์ เพราะคิดว่าไม่เข้าไปยุ่งมันจะดีกว่า...


    ไอ้เรื่องราวที่ว่านั้นมันไม่ใช่เรื่องอะไรยุ่งยากเพียงแต่ไอ้พี่บ้ามันทำให้ดูยุ่งยากเองทั้งนั้น...มันจะอะไรกันนักกันหนากะอีแค่ผู้หญิงทิ้ง เรื่องเบสิคๆ ทั่วไปที่เกิดขึ้นในหมู่วัยรุ่นเช่นเขา


    ทุกอย่างมันคงจะเป็นไปอย่างที่เขาคิดหากไม่ติดที่ว่าผู้หญิงแสนดีคนเดียวในกลุ่มไม่ทำตัวจุ้นจ้านและเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้จนทำให้เพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มต้องพลอยให้ความช่วยเหลืออยู่บ่อยๆ


    แม้กระทั่งตัวเขาเอง...


    เขารู้ว่าที่เธอทำอย่างนั้นมันก็คงมาจากความห่วงใยของคนเป็นเพื่อนแต่นี่มันดูจะมากเกินไปหรือเปล่าสำหรับคำว่า'เพื่อน'...ใช่เธอชอบพี่ชายสุดโง่ของเขา เรื่องนี้เขารู้และทุกคนในกลุ่มก็เหมือนจะดูออก..


    แต่ก็ยังมีไอ้หน้าโง่คนหนึ่งดูไม่ออกว่าเป็นอย่างนั้น


    คงไม่ต้องบอกว่าใคร...


    อีกเรื่องที่ทำให้เขาคิดไม่ตกตลอดสามสี่เดือนที่ผ่านมา...ยังมีคนโง่อีกคนที่ยังไม่รู้ ดูไม่ออกหรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันทำให้คนอย่างกู จุนเฮวหงุดหงิดได้ไม่น้อย


    ก็มียัยโง่คนหนึ่งที่ทำให้ความรู้สึกของเขาปั่นป่วนตลอดช่วงทีผ่านมาแถมยังดูไม่ออกอีกว่ามันเป็นอย่างนั้น..ทั้งๆ ที่เขาก็หาโอกาสเข้าใกล้แถมทำเรื่องน่าอายต่างๆ กับเธอจนทำให้คนอื่นๆ เริ่มก่อกวนและแซวจนเขาเริ่มรำคาญ


    ทั้งๆ ที่คนอื่นรู้และดูออกแต่ดูเหมือนคนอย่างเธอคงจะคิดได้แค่ว่า'แกล้งเล่น'อะไรทำนองนั้น...แต่ที่เขาทำชาวบ้านเขาเรียก'อ่อย'ใครๆ ก็รู้ส่วนเธอ


    โง่เง่าไม่ต่างกัน...


    จุนเฮวไม่รู้ว่าชอบเธอตอนไหนแต่รู้ตัวอีกทีก็อยากเจอทุกวัน อยากอยู่ด้วยตลอดเวลาถ้าจับมามัดติดตัวไว้ตลอดเวลาได้เขาจะทำ


    แต่ก็อย่างที่บอกแอบชอบ'คนโง่'ต้องทำใจ


    "เป็นไง.." ร่างสูงเอ่ยถามเสียงแผ่วเมื่อเห็นว่าคนที่เขากำลังคิดถึงอยู่เดินหน้าป่วยออกมาจากห้อง


    "ก็โอเคแล้วล่ะ..นายยืนรอตรงนี้ตลอดเลยหรอ?" มีอินเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคนตัวโตยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เธอเดินออกมา "คงจะเป็นห่วงฮันบินสินะ"


    "อืม.." เมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องตอบบางอย่างทั้งที่จริงๆ แล้วเขามายืนรอตั้งนานเพราะอยากอยู่เจอกับเธอมากกว่า


    ก็นะ...


    "ร้องหรอ" พอเผลอสบตาเข้าก็เห็นว่าคนตัวเล็กตาบวมขึ้นเล็กน้อยบวกกับดวงตาที่แดงขึ้นนิดหน่อย "เป็นอะไร"



    "นิดหน่อย..คือคุยไปคุยมาอยู่ๆ มันก็ไหล" เธอเองที่เริ่มอึดอัดน้อยๆ เพราะจุนเฮวเอาแต่จ้องไม่วางตา


    "งั้นหรอ...ดูเธอจะเป็นห่วงพี่แกเอามาก" จุนเฮวพูดติดตลกทั้งๆ ที่ในใจก็คิดอิจฉา..


    "อืมก็เพื่อนกันนี่" ตอบออกมาหน้าด้านๆ ทั้งที่ความเป็นจริงก็คิดไม่ซื่อ


    "..."


    จุนเฮวเงียบ..ในใจเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่าง บ่อยครั้งที่เขามองเธออย่างนี้ แต่ครั้งนี้มันดูอึดอัดจนขาดใจเธอรู้สึกแบบนั้น ไม่กล้าสบตา ไม่กล้ามองหน้า


    สายตาแบบนั้นมันทำให้เธอเริ่มกลัว


    "นี่ก็ดึกแล้วฉันกลับบ้านนะ" พูดจบมีอินก็เดินออกมาโดยไม่มองหน้าเขาแม้แต่น้อย จุนเฮวมองตามจนลับสายตา


    อยากจะเดินตามไปแต่ก็ทำได้แค่มองตามเพราะความน้อยใจที่มีให้เลยไม่อยากตามไปเพราะเดี๋ยวตามไปจะต้องเจอกับความซื่อจนโง่...ของมิอิน


    "จุนเฮว" เขาเองก็คิดว่าควรกลับห้องได้แล้ว ร่างสูงกำลังจะหมุนตัวกลับห้องแต่เสียงพี่โง่ก็ทักขึ้นมา


    "ครับพี่ชาย.." พูดติดตลกแบบเขาไปเรื่อยเพราะเห็นว่าคนเป็นพี่ทำสีหน้าเครียดจนเขาสงสัย


    "มีเรื่องอยากคุย"


    "อืม เรื่อง?"


    "เข้ามาสิ"


    "..." โถ่! จะเสียเวลาเดินเข้าเดินออกทำไมจะคุยกันมันตรงนี้ก็ได้ บ่นในใจไปนั่นแต่สุดท้ายก็เดินตามเข้าไปอยากเลี่ยงไม่ได้


    "แปบเดียวน่าจุนเฮว" พอรู้อยู่หรอกว่าน้องชายตัวดีมันไม่ชอบเรื่องเสียเวลาและมันก็ใจร้อนพอตัว แต่ที่ให้เข้ามาคุยกันนี่มันเรื่องใหญ่สำหรับเขาเลยทีเดียว


    "ครับๆ"


    ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญจุนเฮวจะไม่ทน!


    "เมื่อกี้ฉันคุยกับมิอิน"


    "อืม"


    "..."


    "แล้วไงต่อ นี่จะพูดก็พูด อ้ำอึ้งอยู่นั่นมันเสียเวลา" เมื่อความอดทนเริ่มจะหมดจุนเฮวเลยต้องพูดอะไรที่มันทำให้คนอย่างฮันบินเร่งๆ ขึ้นมาหน่อย


    "เธอบอก.."


    "บอกว่า?"


    "เธอมีคนที่ชอบ"


    อันนี้เขารู้...


    "แล้วไง"


    "นายรู้?" ฮันบินถึงกับหน้าเหวอที่รู้ว่าจุนเฮวก็รู้เรื่องนี่เหมือนกัน ส่วนจุนเฮวก็ได้แต่ทำหน้าเบื่อหน่ายพี่ชายเฮ็งซวยที่วันๆ นอกจากจะเป็นแค่พี่เสือ สมองความคิดนี่ตื้นมากขอบอก


    "เรื่องนี้ดูไม่ยากใครๆ เขาก็ดูออกแม้กระทั่งชานอู"จุนเฮวเว้นวรรคช่องว่างไว้ให้ฮันบินได้ช่วงหายใจเล่นๆ "นี่พี่ไม่รู้?"


    "ฉันพึ่งรู้"


    บอกเลยจุนเฮวเหนื่อยใจ..


    "นายรู้ก็ดีแล้วที่ฉันถามเพราะอยากรู้จากฝั่งนายบ้างว่ารู้สึกยังไง"


    "อะไร จะมาอยากรู้ทำไม" จุนเฮวเบ้หน้าเพราะความสงสัย..จะมาอยากรู้ทำไมไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อย จุนเฮวก็แค่ชอบมิอินเท่านั้น...ก็แค่นั้น


    "ตอบมาหน่อยชอบเธอหรือเปล่า?"


    "ทำไมต้องตอบ"

    ทั้งจุนเฮวและฮันบินยืนเงียบใส่กันอยู่นานและแน่นอนความคิดทั้งสองช่างแตกต่าง


    คนหนึ่งห่วงเพื่อน


    คนหนึ่งก็แค่ชอบ


    มันต่างกัน...


    "ก็เป็นห่วงอยากรู้ว่านายชอบมิอินหรือเปล่า"


    "ก็เพื่อนกัน" ปากแข็งไปงั้นแต่เมื่อมีสัญญาณความน่ากลัวจากพี่เสือตรงหน้ามันทำให้คนกวนๆ อย่างจุนเฮวเลือกพูด "ชอบไง.." บางอย่าง


    "ก็ดี"


    "ดีอะไร"


    "ก็.."


    "..." จุนเฮวสังเกตได้ว่าแววตาของพี่เสือดูหม่นลงเล็กน้อย "ก็อะไร . ..."


    "ก็เธอบอกว่าชอบนาย...รักกันชอบกันก็ดีจะได้หายห่วงทั้งสอง"


    แต่แทนที่จะสนใจสายตาเมื่อครู่คำตอบเมื่อกี้มันทำให้คนอย่าง กูจุนเฮว มีความรู้สึกแปลกๆ มากมายหลายอย่างปนกันจนเขาเริ่มรู้สึกไม่ดีเลย


    ก็จะอะไรล่ะ..


    ใครๆ ก็รู้คิมฮันบินหวงก้างจะตาย




    วันต่อๆ มา


    มันน่าโมโหมั้ยล่ะ!


    อยากจะพูดอยากทำอะไรมันก็ทำไม่ได้ไม่รู้จะอะไรกันนักกันหนากะอีแค่บอกออกไปว่าชอบมันจะยากอะไร ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงทำใจกล้าบอกไปแล้วแต่คนขี้ขลาดอย่างมิอินที่ปากแข็งแทร้งทำเป็นบอกว่าชอบอีกคนแทน ทั้งๆ ที่ใจจริงอยากบอกแทบตายแต่ทำไม่ได้เธอคิดอย่างนั้น...


    กลัวว่าความเป็นเพื่อนมันจะลดน้อยลง


    กลัวว่าจะไม่สนิทกันเหมือนเดิม


    และปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งคือคนที่เธอบอกว่าชอบออกไปเอาแต่หลบหน้าเธอไปทำเหมือนโกรธกันมาแต่ชาติปางก่อนทั้งๆ ที่เขาไม่น่าจะรู้เรื่องที่เธอคุยกับฮันบินด้วยซ้ำ..หรือว่ารู้?


    ก็น่าจะรู้อยู่ล่ะมั้งเพราะจุนเฮวไม่น่าจะโง่จนดูอะไรไม่ออกและถึงต้องทำแบบนี้ไง


    "นี่ ไปกินข้าวกัน" เสียงเหี้ยมๆ ของเพื่อนแสนรักดังขึ้นเรียกสติของหญิงสาวได้เป็นอย่างดีเพราะเมื่อกี้มิอินก็เอาแต่นั่งเหม่อลอยคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องในสายตาของเขาจนอดไม่ได้ที่จะเข้ามาแหย่ให้ตกใจเล่นๆ


    "นายอย่าทำให้ฉันตกใจบ่อยๆสิ" มิอินมองค้อนคนตัวโตที่ยืนค้ำหัวเธออยู่ให้ตายเถอะถ้าจะหายจากอารมณ์นั้นได้เร็วชั่วข้ามคืนแล้วมาทำตัวอารมณ์ดีแปลกๆ แบบนี้มันน่ากลัวนะ


    "เลิกบ่นแล้วตามมาเถอะน่า"


    "ดะ เดี๋ยวสิฮัน.." ว่าจบก็คว้าที่ข้อมือของหญิงสาวเข้าแล้วออกแรงดึงเบาๆ ให้ร่างเล็กเดินตามมาได้ "ฉันไม่หิว" ปากบางเปล่งเสียงประท้วงแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ยอมฟัง


    "น่าๆ นี่มันเที่ยงแล้วทำไมเธอจะไม่หิว"


    "ก็มันไม่หิวจริงๆ นี่"


    "ไม่หิวก็ต้องกิน"

    น้ำเสียงเย็นๆ ปนเหนื่อยหน่ายพูดเหมือนสั่งๆ ที่ชอบทำอยู่บ่อยๆ


    มิอินรู้ว่าเวลาที่เขาพูดน้ำเสียงทำนองนี้มันหมายถึงเขาเริ่มที่จะรำคาญ ทั้งๆ ที่รู้...รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนแบบนี้แต่ไม่รู้ทำไมเธอกลับชอบ และยิ่งชอบเข้าไปอีกเมื่อได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ใช้เวลาร่วมกันแบบนี้ นั่นสินะช่วงเวลาแบบนี้เธอต้องเก็บมันไว้ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงอยากทำมากกว่านี้ไม่ใช่ในฐานะนี้แต่ก็รู้...


    มันทำไม่ได้...


    "ไก่หรือหมู?" อีกครั้งที่เสียงหนุ่มทำลายความคิดของเธอ มิอินมองไปทั่วสายตาก็รู้ว่าตอนนี้ทั้งคู่มาถึงโรงอาหารแล้ว "เร็วดิ"


    "ไก่.."


    "งั้นรอนี่เดี๋ยวมา ปะดงฮยอก"


    หือ..


    "..." เธอพึ่งรู้ตัวว่าตอนนี้ที่โต๊ะไม่ได้มีกันแค่สองคนกลับมีมาเพิ่มอีกสองคนหนึ่งคนดงฮยอกส่วนอีกหนึ่งจุนเฮว...

    มิอินมองตามสองร่างที่เดินเข้าไปในฝูงคนที่วุ่นวายแล้วคิดอยู่นานว่าจะนั่งลงดีมั้ย


    "จะยืนอีกนานมั้ย" ไม่ไหวทนไม่ไหวเพราะเห็นยัยโง่ยืนเอ๋ออยู่นานเกือบนาทีจุนเฮวก็พูดทำลายความเงียบด้วยสีหน้าแบบเดิมๆ ที่เธอไม่เห็นมาหลายวัน


    "..."


    "..."


    เมื่อก้นงามถึงพื้นโต๊ะไม่วายความอึดอัดจะลดลง แต่มันกลับมีมากกว่าเดิมมิอินได้แต่ก้มหน้าก้มตาตามสัญชาตญาณ "จุนเฮว.." แต่สุดท้ายความอยากรู้ที่มีมากกว่าทำให้ปากบางเอ่ยชื่ออีกคนออกมา จุนเฮวเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอโทรศัพท์ก่อนหน้ามารอว่าอีกคนจะพูดอะไรออกมา


    "อะไร" จุนเฮวต้องพูดอะไรสักอย่างเพราะไม่อยากให้มันดูอึดอัดจนเกินจำเป็นอีกอย่างหลายวันมานี้ที่เอาแต่หลบหน้าก็เพราะความโมโหที่หญิงสาวเอาชื่อเขาไปอ้างโดยไม่ปรึกษาสักกะคำแต่ใจจริงก็อยากเจอเหมือนกันนั่นแหละเขาเลยเลือกมานั่งอยู่นี่แทนที่จะไปนั่งกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนอีกที่แทน


    "คือ...หลายวันมานี้ไม่เจอกันเลยนะ"


    "ก็ไม่อยากเจอจะเจอกันไปทำไม" พอได้ทีก็อยากจะแกล้งทำเป็นงอนอีกสักหน่อยจุนเฮวเลยเลือกพูดคำพูดที่มันอาจจะดูเลวร้ายไปหน่อยมาใช้


    "อ่างั้นหรอ" แต่ด้วยความซื่อจนบื้อเลยทำให้หญิงสาวคนนี้ไม่เข้าใจในความหมายที่เขาสื่อออกมา


    "ฮื้ม!" จุนเฮวก็คงจะขี้เกียจเล่นบทนี้ต่อโดยที่คนที่โดนเล่นใส่ไม่เก็ทสักที


    "อะไรของนาย"


    "เรื่องของฉันน่า"


    "นายไม่ได้โกรธอะไรฉันหรอกใช่มั้ย?"


    ก็ดูออกนี่..


    "แล้วใครใช้ให้เธอทำอะไรไม่บอกไม่กล่าวล่ะ"


    "ขอโทษนะ"


    "อืม มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"


    "แต่นายก็รู้.."


    "ก็ใช่ฉันรู้ รู้ดีเลยแหละว่าจะต้องทำยังไง"


    "ยังไง..."

    มิอินรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติที่แผ่ซ่านเป็นออร่าจากคนตรงหน้าแค่มองตาก็รู้เลยว่าตอนนี้กูจุนเฮวเปลี่ยนไปเหมือนกับคนละคนที่เธอเคยรู้จักมาก่อนแค่มองไปที่นัยน์ตาก็รู้สึกว่ามันน่ากลัว...


    "ก็ลองทำตามที่ฉันบอกสิแล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง J"



    TBC.











    ##


    เย่ๆๆ อดใจไม่ไหวเลยมาลงฮ่าาา

    ว่าแต่อิเน่มันจะมีแผนอะไรที่จะจัดการกับเรื่องนี้กันล่ะ บู้วววคิดไม่ออก 555

    แต่ยังไงก็อยากให้ติดตามนะนางอย่าทิ้งเค้านะสุดท้ายนี้ข้อเม้นนะคะเพราะไรท์ไม่รู้ว่ามันสนุกหรือไม่สนุกต้องอ่านจากคอมเม้นนะถ้าไม่มีแล้วไรท์จะแต่งต่ออยังไงเนาะ

    .

    .

    .

    .


    จอบ : อีกนิดพี่ก็จะโผล่แล้ว!



    มิอิน : คอมเม้นนะตัวเธอ


    <3









    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×