ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    |Yaoi| My Nextdoor story นายอินดี้กับพี่ข้างห้อง [BL]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 64


    บทนำ

     

     

    ไนท์ 

     

    "เบื่อว่ะ"

    เป็นคำที่ผมพูดติดปากมาตั้งแต่ผมยังเด็กๆจนทุกวันนี้ผมก็ยังพูดคำๆนั้นอยู่เรื่อยๆเมื่อมีใครบางคนทำให้ผมเบื่อ

     

     

    เพราะนิสัยของผม ทำให้ผมไม่ค่อยมีเพื่อนมากสักเท่าไหร่ แต่ว่าผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนนึงชื่อไอ รุจ ผมสนิทกับมันมาตั้งแต่

     

    มอต้น จนตอนนี้จบม.6แล้วผมกับมันก็ยังสนิทกันอยู่ และที่สำคัญผมกับมันก็จะไปต่อมหาลัยที่เดียวกันอีกด้วย

     

    จริงๆแล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจในการเรียนมากเท่าไหร่นัก แต่เวลาสอบผมก็ไม่เคยจะตกสักครั้ง ผมเลยเรียกความสามารถ

     

    นี้ว่า “พรสวรรค์” หรืออีกความหมายที่ทุกคนเข้าใจก็คือผมเป็น “คนมีดวง” นั่นแหละครับ

     

    ผมเป็นคนนึงที่ไม่อินกับเรื่องความรัก หรืออาจจะเป็นเพราะว่าผมยังไม่เจอกับความรักจริงๆ แต่ถึงอย่างไรก็เถอะครับ ความรัก

     

    มันไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ถึงไม่มีความรักเราก็ไม่ขาดทุน แต่ถ้ามีมันก็คือกำไรของชีวิตเรา...

     

    และบ่ายนี้ผมต้องไปดูคอนโดฯแถวมหาวิทยาลัย พอดีมีคนปล่อยให้เช่าแถมราคายังถูกอีกด้วย เป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะปล่อย

     

    ห้องที่ทั้งใกล้กับมอและราคาถูกนี้ไป เพราะงั้น…รอผมแปปนึงนะครับ

    .

    .

    .

    .

    ฟิค

     

    “ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย…แค่นี้นะครับ”

     

    ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่คุณพ่อโทรมาบ่นเรื่องเดิมๆซ้ำๆเป็นปกติ ผมก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้างแล้วแต่อารมณ์ แต่ส่วนใหญ่ผมก็ไม่ฟัง

     

    หรอกครับ  ผมไม่ค่อยสนิทกับพ่อเท่าไหร่ แต่ผมสนิทกับแม่มากกว่าเพราะว่าแม่คุยกับผมเหมือนเป็นเพื่อนกัน ผมมีปัญหา

     

    อะไรแม่ก็ให้คำปรึกษาผมทุกครั้ง ต่างจากพ่อที่เวลาผมอยากได้คำปรึกษาหรืออะไรก็แล้วแต่ พ่อจะต้องด่าหรือว่าผมก่อนเป็น

     

    ประจำ…เพราะงั้นผมเลยสนิทกับแม่มากๆไงล่ะครับ 

     

    “ฮัลโหลแม่…พ่อโทรมาอีกแล้ว” ผมก็โทรหาแม่เป็นประจำของผมทุกวันอยู่แล้วครับ

     

    “โทรมาเรื่องเดิมๆอีกใช่มั้ย” แม่ผมรู้ดีครับว่าพ่อผมเป็นคนยังไง

     

    “อืมมมมมมมม” 

     

    “แกก็ไม่ต้องไปเถียงเค้า ฟังไปเฉยๆ”

     

    “เข้าใจแล้วครับ”

     

    “แค่นี้นะจ๊ะ มีลูกค้าเข้าร้านละ”

     

    “ครับๆ” และที่สำคัญนะครับ แม่ผมเปิดร้านอาหารอยู่ที่เชียงใหม่ครับ อร่อยที่สุดเลยจะบอกให้^^

     

    ปีนี้ผมก็ขึ้นปี3ละ ขอให้ปีนี้ผมเจอแต่สิ่งที่ดีนะครับ^^

    .

    .

     .

    .

     

    …ภายในเวลาปิดเทอมอันแสนยาวนาน ในที่สุดก็ได้หมดลง…

     

    .

    ไนท์

     

    ผมนัดกับไอ รุจ ไว้ที่ร้านข้าวเจ๊โอหน้ามหาลัย เพราะว่าผมไม่อยากเดินเข้ามหาลัยคนเดียว แต่ถึงตอนนี้…มันยังไม่มาเลยครับ

    .

    “ทำไมมาช้าจังวะ” ผมถามมันด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะว่าผมรอมันนานแล้ว

     

    “โทดทีมึง รถแม่งติด” แต่ผมไม่รู้สึกผิดนะครับที่ผมมาช้า^^

     

    “เออ…รีบกินไป ข้าวเย็นหมดละ” ผมโกรธง่าย แต่ก็หายเร็วครับ

     

    “สั่งข้าวให้กูด้วย…คิดอะไรกับกูปะเนี่ย” ผมพูดกวนไอไนท์ไป

     

    "5555จะกินไม่กิน” ผมตอบแบบนั้นเพราะว่ามันกวนผมก่อน ผมเลยกวนกลับ 

     

    “กินครับกิน” ผมนี่รีบตักข้าวใส่ปากเลยครับ

    .

    .

    .

    ฟิค

     

    ผมนัดกับเพื่อนของผมสองคนที่ร้านเจ๊โอหน้ามหาลัย เพราะว่านี้เป็นร้านประจำของผมตั้งแต่ผมอยู่ปีหนึ่งแล้ว

    เพื่อนที่ผมพูดถึงก็คือ ไอขันธ์ กับ ไอโป เพื่อนสนิทของผมเอง

    “ เดี๋ยวกูเข้าไปรอในร้าน รีบๆด้วยพวกมึงอ่ะ ” ผมส่งข้อความไปในกลุ่มแชทของผมเพราะว่าผมมาถึงก่อนพวกมันสองคน 

    ผมได้เดินเข้าไปในร้านที่ผมคุ้นเคย “เจ๊ ผมเอาเหมือนเดิม” เจ๊โอก็ได้ตอบผมกลับมา “เออๆไปนั่งรอก่อน วันนี้ลูกค้าเยอะ”

    หลังจากที่ผมคุยกับเจ๊โอเสร็จ ผมก็ได้เดินเข้าไปหาโต๊ะนั่งในร้าน ผมเดินไปนั่งโต๊ะข้างในสุดเพราะว่าผมไม่ชอบให้ใคร

    เดินผ่านหลังผมสักเท่าไหร่

     

    ไนท์

     

    “มึงรีบๆกินหน่อยดิวะกูปวดท้อง” ผมเริ่มหงุดหงิดเพราะว่าตอนนี้ผมอยากเข้าห้องน้ำมากๆ

    “งั้นมึงเดินไปจ่ายเงินเลย เดี๋ยวกูตามไป” ผมพยายามรีบกินให้หมด

    “เออๆ รีบตามมานะ” ผมรีบเดินไปจ่ายเงินก่อน

    หลังจากที่ทั้งสองคนจ่ายเงินเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็ได้ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปมหาวิทยาลัยเพื่อไปเข้าห้องน้ำ แต่หารู้ไม่ว่าไอไนท์

    ลืมหยิบโทรศัพท์ที่มันวางไว้บนโต๊ะไปด้วย… ทันใดนั่นก็มีผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังของสองคนนั้นก็เดินมาหยิบ

    โทรศัพท์ ชายคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนชายคนนั้นก็คือ ฟิค นั่นเอง

    ผมรีบหยิบโทรศัพท์แล้ววิ่งตามสองคนนั้นไป แต่ไม่ทันสองคนนั้นวิ่งไปทางไหนแล้วก็ไม่รู้ จังหวะที่ผมกำลังมองหา

    สองคนนั้นอยู่ เพื่อนผมทั้งสองคนมันก็มาพอดี

    “ออกมาทำอะไรหน้าร้านวะ” ไอขันธ์ถามผมแต่ผมก็ไม่ได้ตอบมันไปเพราะผมรู้ว่ายังไงมันก็ช่วยผมไม่ได้

    “ ไม่มีอะไร เข้าไปในร้านเหอะกูสั่งของพวกมึงไว้ให้แล้ว ” ผมก็ได้เดินกลับเข้ามาในร้านพร้อมกับคิดว่าจะหาทางคืนโทรศัพท์

    ให้น้องคนเมื่อกี้ยังไง…

    .

    .

    หลังจากที่ผมกับเพื่อนกินข้าวเสร็จ พวกเราก็ได้ตรงเข้ามาที่มหาวิทยาลัยเพราะว่าเรามีเรียน

    “ไอโป เย็นนี้มึงไปไหนเปล่า” ผมถามมันไปเพราะผมกับมันเรียนคนละคณะกันแต่รู้จักกับมันมาก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัยนี้

    “กูไม่ได้ไปไหนนะ มีอะไรวะ” 

    “ไปกินเหล้ากัน ร้านเดิม”

    “มึงก็รู้…กูกินเหล้าทีไร บรรลัยทุกที” ผมเป็นคนที่เมาง่ายมาก คนปกติจะเมาประมาณแก้วที่สามแก้วที่สี่ แต่สำหรับผม

    ภาพมันตัดไปตั้งแต่แก้วแรกแล้วครับ

    “มึงก็ไม่ต้องดื่มเยอะดิ ไปนั่งเป็นเพื่อนพวกกูก็ได้”

    “เออๆเดี๋ยวว่ากันอีกที กูไปเรียนละ เจอกันมึง” ไอโปเดินแยกไปเรียนที่คณะของมัน

    ส่วนผมกับไอขันธ์ก็ได้เดินไปคณะของตัวเองเพื่อไปเรียนเหมือนกัน

    .

    กลับมาที่ส่วนของนายเอก

    “มึงๆ เห็นโทรศัพท์กูป้ะ” ผมที่พยายามหาโทรศัพท์ตามตัวของผม

    “กูจะไปรู้กับมึงหรอ ลืมไว้ในห้องน้ำเปล่าหาดีๆ”

    “กูยังไม่ได้หยิบออกมาเล่นเลย” ผมพยายามนึกว่าผมไปลืมไว้ที่ไหน จนผมนึกขึ้นได้ว่า

    “มึงกูว่ากูรู้แล้วว่ากูไปลืมโทรศัพท์ไว้ที่ไหน”

    “ที่ไหน..”

    “ร้านเจ๊โอไง กูวางไว้บนโต๊ะแน่ๆพากูไปเอาหน่อย”

    “ไอสัสไปตอนนี้ก็โดนอาจารย์ด่าดิวะ ค่อยไปตอนเลิกนู้นเจ๊แกคงเก็บไว้ให้”

    “ถ้ากูไม่มีโทรศัพท์…กูจะอยู่ยังไง” ผมเริ่มงอแงเพราะว่าผมไม่มีโทรศัพท์

    “โอเวอร์ละมึง ไปเรียนเลย” มันดึงแขนผมให้ผมไปเรียน ผมจะทำอะไรได้ล่ะนอกจากเดินไปกับมัน

    .

    .

    หลังเลิกคลาส

    “เร็วดิวะมึง กูจะขาดใจตายอยู่ละ”

    “ถ้ามึงรีบขนาดนั้นมึงก็ไปก่อนเลย กูยังทำงานไม่เสร็จ”

    “เออๆ”

    ผมรีบวิ่งไปก่อนเพราะผมต้องการมันจริงๆ ผมรีบวิ่งจนไปสะดุดล้มที่ทางเดินข้างคณะ “ โอ๊ย!!! ” ผมรู้สึกว่าตอนนี้เท้าของผม

    มันชาและเจ็บมาก สงสัยผมจะขาพลิก ผมพยายามที่จะลุกขึ้นแต่ผมก็ไม่สามารถลุกได้เพราะผมเจ็บข้อเท้าเอามากๆ

    “น้องเป็นไรเปล่า…”

    ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งมาถามว่าผมเป็นอะไร ผมก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปแต่แสงพระอาทิตย์มันแยงตาทำให้ผมมองหน้า

    เค้าคนนั้นได้ไม่ชัด

    “ผมไหวครับ” ผมไม่ต้องการให้ใครมาช่วยผม เพราะผมดูแลตัวเองได้

    ผมพยายามลุกขึ้นแต่ว่า “โอ๊ย!….เท้าผม” แต่ผมลุกไม่ขึ้นจริงๆ

    “ไหนบอกไหวไง มา…กอดคอพี่ไปนั่งตรงนั้นก่อน” พี่เค้าค่อยๆประครองผมเดินไปนั่งที่ม้าหินอ่อนข้างๆทางเดิน

    “ขอบคุณนะครับพี่” จะว่าไปพอเห็นหน้าพี่เค้าชัดๆ…พี่เค้าก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย

    “วันหลังก็เดินระวังๆหน่อย”

    “ครับ…พอดีวันนี้ผมรีบไปหน่อยน่ะครับ เลยไม่ทันได้ระวัง”

    “ว่าแต่..นายจะรีบไปไหนของนายเนี่ย”

    “พอดี..ผมลืมโทรศัพท์ของผมไว้ที่ร้านอาหารหน้ามหาลัยอ่ะครับ ผมเลยจะรีบไปเอา”

    “โทรศัพท์หรอ…” พอพี่เค้าพูดจบ พี่เค้าก็ได้ทำท่าล้วงกระเป๋าของเขาเอง ผมก็งงว่าจะล้วงทำไมโทรศัพท์ผมหายนะไม่ใช่

    ของเขา…

    “ใช่โทรศัพท์เครื่องนี้มั้ย…” พี่เค้ายื่นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งมาให้ผมดู ผมก็ได้หยิบมาดู…พอผมได้เปิดหน้าจอโทรศัพท์

    เท่านั้นแหละ ผมจึงได้รู้ว่าโทรศัพท์ที่พี่เค้าส่งมาให้ผม มันก็คือโทรศัพท์ของผมนั่นเอง

    “ใช่จริงด้วยครับ!!!” ผมทั้งดีใจและตกใจในเวลาเดียวกัน

    “เอ่อ…แล้วทำไมโทรศัพท์ของผมมันถึงได้ไปอยู่กับพี่ล่ะครับ”

    “คือว่า….”

     

    “ไอไนท์!!!!”

    พี่เค้ายังไม่ทันได้ตอบผม…ก็มีเสียงที่ผมคุ้นชินดังขึ้นมาจากข้างหลังผม

    “กูทำงานเสร็จแล้ว…ไปเลยป่าว” มันรีบวิ่งมาหาผมเพื่อที่จะพาผมไปเอาโทรศัพท์ 

    “กูได้ละ” ผมยื่นโทรศัพท์ของผมให้มันดู

    “ทำไมไปเอามาเร็วจัง”

    “กูไม่ได้ไปเอา…พี่เค้าเป็นคนเอามาให้กู”

    “พี่…พี่อะไรของมึง”

    “เอ้า!ก็พี่คนนี้ไง” ผมหันหน้าไปหาพี่เค้า แต่พี่เค้าก็ดันหายไปไหนแล้วไม่รู้

    “ไหน…”

    “แต่เมื่อกี้พี่เค้ายืนอยู่ตรงนี้จริงๆนะมึง”

    “เออๆ..มีก็มีแต่ตอนนี้มึงพากูไปหาไรกินหน่อยดิกูหิว”

    “ไอสัสมึงแอบกินขนมทั้งคาบมึงยังไม่อิ่มอีกหรอวะ” ผมล่ะเบื่อแม่งจริงๆ กินได้ทุกเวลา

    “นะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” มันอ้อนผมเหมือนผมเป็นแม่มันยังไงยังงั้น

    “เออ…..” ผมก็ต้องไปกับมันอยู่ดี ถ้าผมไม่ไปมันได้งอนผมแน่

    .

    ผมกับมันก็ได้ชวนกันไปแถวหลังมหาลัย เห็นเค้าบอกกันว่ามีร้านเค้กที่อร่อยๆอยู่แถวนั้น ไอรุจมันยิ่งเป็นทาสของหวานอยู่

    ซะด้วย พูดไม่ทันขาดคำก็เจอร้านขนมหวานอยู่ตรงหน้าแล้ว พวกผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปในร้าน

     

    บรรยากาศในร้านน่ารักมากๆมีทั้งต้นไม้และรูปภาพที่สวยมากๆ ถือว่าคนเยอะเลยทีเดียว

     

    “มึงกินไร เดี๋ยวกูไปสั่งให้”  ไอรุจมันอยากจะเดินไปสั่งเอง ผมก็ไม่ขัดอะไรเพราะผมไม่ชอบเดินไปที่ๆคนเยอะๆ

    “เอาอะไรก็ได้ กูกินได้หมดแหละ” พอผมพูดจบผมก็เดินไปหาที่นั่งที่คนไม่ค่อยเดินผ่านอเพราะผมจะได้มีสมาธิในการอ่าน

    นิยายด้วย

     

    ผมบอกไปรึยังว่าผมชอบอ่านนิยายมากๆเลยครับ ชอบขนาดที่วันๆนึงผมสามารถที่จะอยู่กับนิยายได้ทั้งวันเลย

    และนอกจากที่ผมอ่านแล้วผมก็ยังแต่งนิยายด้วยนะครับ ผมเป็นคนนึงที่ชอบอ่านและแต่งนิยายแนวชายรักชาย 

    ไอรุจมันไม่รู้นะครับว่าผมชอบอะไรแบบนี้ ผมกลัวบอกมันไปแล้วมันจะเลิกเป็นเพื่อนกับผม

     

    “มาแล้วๆ….ไอไนท์"

    “ไอไนท์!”

    “ฮะ!….อะไรนะ” ผมนั่งเหม่อไปหน่อยเลยไม่ทันได้ยินที่ไอรุจมันพูด

    “เค้กมาแล้วรีบกินตอนที่มันเย็นๆเดี๋ยวไม่อร่อย” ปากมันบอกให้ผมรีบกิน แต่ตามันไม่ได้มองผมแม้แต่นิดเดียว

    .

    .

    .

    ตอนนี้ผมกลับมาถึงคอนโดเรียบร้อยแล้วครับ

    ผมรีบวิ่งไปกระโดดล้มตัวลงบนที่นอน โดยมีมีแสงอาทิตย์สาดส่องผ่างช่องผ้าม่านเข้ามาบนเตียงของผม

    ผมนอนเพลินจนหนังตาผมกำลังจะปิด…

    แต่ทันใดนั้น! ผมก็มีเสียงคนคุยกันอยู่หน้าห้องของผม

    ด้วยความที่ผมอยากรู้อยากเห็น ผมเลยเดินไปที่ประตูเพื่อแอบดูว่าเค้าคุยอะไรกัน

    แต่จังหวะที่ผมกำลังบิดลูกบิดอยู่นั้น อยู่ดีๆผมก็ทรงตัวไม่อยู่ ทำให้ตัวผมล้มลงออกไปหน้าห้อง

    “โอ๊ยยยยยย” ผมไม่กล้ามองขึ้นไปเพราะว่าผมกลัวโดนด่า

    “เป็นอะไรมั้ยครับ…”

    เสียงนี้มันคุ้นๆนะ…ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมอง…..!!!!

     

    …………………………………………………………………………………..

     

    สวัสดีผู้อ่านทุกท่านนะครับ

    ผมชื่อ เซฟ นะครับ ทุกคนไม่รู้จักผมหรอกครับ ผมเป็นแค่มือสมัครเล่น

    แต่ผมตั้งใจแต่นิยายเรื่องนี้จริงๆนะครับ

    ผมไม่ได้หวังว่านิยายของผมยอดวิวมันจะน้อยหรือมาก

    แต่ผมอยากให้ทุกคนสนุกและอินไปกับนิยายของผนนะครับ

     

    ดีหรือไม่ดียังไงสามารถมา Comment คุยกันได้นะครับ

    สุดท้ายก็ขอขอบคุณคนอ่านทุกคนอีกรอบนะครับ^^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×