ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Only love...ก็แค่รัก

    ลำดับตอนที่ #2 : เกาหลีเหนือ!

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 51


     

            แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านใบไม้และต้นไม้สูงใหญ่กระทบสู่พื้นดินไล่ความหนาวเหน็บและความมืดอันน่ากลัวของกลางคืนให้ผ่านพ้น     พัชรพรค่อยๆรู้สึกตัวขึ้นทีละน้อยพบตัวเองนั่งพิงต้นไม้ต้นเดิมมือขวากอดเข่าในขณะที่มือซ้ายยังคงกุมอยู่กับร่างสูงที่ยังคงนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน      เมื่อมีแสงสว่างเธอจึงพึ่งจะเห็นหน้าของชายหนุ่มที่เธอพบเมื่อคืน       จากเครื่องแบบที่เขาใส่ชายหนุ่มดูราวกับทหาร...เธอคาดเดา      เครื่องแบบสีเขียวแก่ที่ออกหม่น       ทั้งเสื้อและกางเกงทำจากผ้าเนื้อหนาเหมาะสำหรับอากาศเย็น      ด้านนอกเป็นสีโอเวอร์โค๊ตตัวยาวทำจากผ้าสักกระหลาดอย่างหนา      บริเวรหน้าอกและไหล่กว้างมีตราแขนอยู่มากมายบ่งบอกถึงยศที่น่าจะสูงไม่ใช่เล่น     เขาสวมรองเท้าบู๊ทอย่างทหารสีดำที่สูงเกินข้อเท้าขึ้นมาเล็กน้อย      ใบหน้าถูกปรกคลุมโดยผมที่ยาวเกินทหารควรจะเป็น      ทหารที่เธอรู้จักมักจะต้องตัดผมสั้นรองทรงแต่สำหรับเขาแล้วกลับไว้ผมยาวกว่าทหารทั่วไป...ยาวพอที่จะลงมาปรกหน้าเล็กน้อย       คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากสวยซีดเซียวจากการเสียเลือด      ลมหายใจของเขายังคงสม่ำเสมอแม้จะแผ่วเบาหากแต่ก็ไม่หยุดนิ่ง       บริเวรท้องด้านล่างมีเลือดแห้งกรัง      พัชรพรเริ่มรวบรวมความกล้าขยับเข้าไปใกล้ร่างที่นอนนิ่งก่อนจะเริ่มดึงเสื้อที่ชายรุดรุ่ยออกมาจากกางเกงอยู่แล้วขึ้นเพื่อดูบาดแผล      ใจหนึ่งก็กลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเห็นและเข้าใจเธอผิดอีกใจก็เริ่มรู้สึกเขินเล็กๆที่อยู่ดีๆก็ต้องมาเปิดเสื้อผู้ชาย...เอาหละ...แต่ในสถาณการณ์แบบนี้พัชเอ้ย...แกต้องทำได้

    เลือด...แผล...โอ้ย...ชั้นจะเป็นลม     ทำยังไงดีหละเนี่ยถ้าปล่อยไว้จะเป็นบาทยักกินตายมั้ย...เช็ด...ใช่แล้วเช็ดแผล...แต่เอ...แล้วจะหาผ้าสะอาดมาจากไหนหละ...ถ้าผ้าสกปรกจะยิ่งตายเร็วมั้ย...ชั้นจะเป็นบ้า...     ปัญหาร้อยแปดผุดขึ้นในหัวก่อนที่หญิงสาวจะนึกได้

    ถ้าคุณไม่ได้จะตายแล้วชั้นไม่มีเพื่อนอย่าหวังนะว่าชั้นจะทำให้     พัชรพรพูดพึมพำหน้าแดงก่อนจะเดินอ้อมไปหลังต้นไม่ต้นเดิมสักครู่ก็กลับมาพร้อมกับเล็กตัวสายเดี่ยวตัวเล็กในมือ

    โอ้ย...หนาว...ถ้าชั้นไม่สบายไปแล้วคุณยังไม่ฟื้นนะ...เอาเป็นว่านอนอยู่ตรงนี้ก่อนละกันอย่าหายไปไหนนะเดี๋ยวกลับมา     เธอพูดทั้งๆที่ไม่คิดว่าเขายังได้ยินก่อนจะเดินไปยังแม่น้ำ     แม้จะหนาวสักเท่าไหร่แต่ผู้หญิงก็คือผู้หญิง...เธอวักน้ำขึ้นล้างหน้าและมือก่อนจะนำเจ้าเสื้อสายเดี่ยวตัวจิ๋วลงชุบน้ำที่เจี๊ยบราวกับอยู่ในตู้เย็นและบิดหมาดก่อนจะเดินกลับมาหาชายหนุ่มและบรรจงเช็ดแผลให้เขาอย่างเบามือ      ถึงแม้เขาจะยังสลบอยู่แต่อย่างไรซะเธอก็ไม่อยากที่จะให้แผลเปิด       หญิงสาวเดินไปกลับระหว่างลำธารและคนป่วยหลายครั้งเพื่อทำความสะอาดแผล

    เอ้า...สะอาดแล้ว     ชั้นหวังว่าน้ำจะสะอาดพอนะเพราะชั้นก็หาผ้าเช็ดแผลจำเป็นที่สะอาดที่สุดให้คุณแล้ว     ทีนี้ก็นอนนิ่งๆอย่าเดินไปไหนนะเดี๋ยวชั้นไปหาไม้ก่อน    เธอพูดกับเขาราวกับคุยกันรู้เรื่องเพราะอุตส่าห์ส่งภาษาอังกฤษเสียด้วย    

     

    แล้วไม้มันหายังไงหละเนี่ย    ว่าแล้วเมื่อเริ่มเดินหาไม้ก็มีปัญหาขึ้นมาอีก      แม้ต้นไม้จะเต็มป่าแต่เธอจำได้ว่าเคยดูในสารคดีและใช่ว่าไม้ทุกชนิดจะสามารถใช้เป็นฟืนได้

    โอ้ย...แล้วไม้อันไหนถึงจะใช้ได้หละเนี่ย     เธอมองหาก่อนจะเริ่มบ่นออกมาเพราะถ้าจะหักเอากิ่งที่อยู่บนต้นก็คงจะสดเกินไป     แต่ถ้าจะเก็บเอาบนพื้นก็ชื้นอีกเช่นกัน      จนในที่สุดเธอก็ต้องตัดสินใจเลือกเอากิ่งที่ตกอยู่บนพื้นเพราะอย่างไรเสียเก็บๆไว้ก่อนถ้าใช้ไม่ได้แล้วค่อยว่ากันอย่างไรเสียเธอก็ต้องลองดูดีกว่างอมืองอเท้า     

     

    เอ้า...คุณนี่โชคดีนะที่มาเจอชั้น...มาดูกันว่าคืนนี้จะต้องนอนหนาวกันรึปล่าว     พัชรพรวางไม้กองไว้ข้างๆก่อนจะหยิบบางส่วนขึ้นมาวางตรงหน้าแล้วเดินอ้อมไปหาชายหนุ่มที่นอนนิ่ง

    ชั้นขอโทษนะ     เธอกล่าวก่อนจะถือวิสาะล้วงมือไปยังกระเป๋าที่ติดอยู่กับเสื้อโอเว่อร์โค๊ตและกระเป๋าที่มีอยู่ตามเสื้อผ้าก่อนจะพบกับเจ้าสิ่งที่ตามหาในกระเป๋ากางเกงของเขา

    เจอแล้ว...ชั้นว่าแล้วว่าหน้าตาอย่างคุณจะต้องสูบบุหรี่     เธอจุดไฟแช็คขึ้นก่อนจะนำไปจอกับกองไม้ที่วางสุมไว้     และดั่งโชคช่วย...หลังจากภาวนาอยู่สักพักในที่สุดเธอก็สามารถจุดไฟติด       เธอจึงเก็บไฟแช็คคืนใส่กระเป๋าเสื้อโค๊ตของเขา

     

             วันทั้งวันผ่านไปอย่างไร้วี่แววผู้คน     เธอวนเวียนอยู่แถวที่พักไม่กล้าไปไหนไกล      เธอยังไม่สามารถย้ายที่พักได้อีกด้ยเพราะชายหนุ่มที่ยังคงไม่ฟื้นแม้ที่นี้จะไม่ใช่ที่พักที่ดีนักเพราะมีเพียงต้นไม้ใหญ่ที่เธอนั่งพิงอยู่เท่านั้นที่กันลมหนาว     แต่ค่ำคืนนี้นอกจากเสื้อหนาวที่สวมอยู่แล้วเธอยังคงมีไปอีกกองที่ช่วยให้ความอบอุ่น    คืนนี้ชายหนุ่มที่นอนนิ่งมาตลอดเริ่มมีอาการกระสับกระส่าย      เมื่อเข้าไปสัมผัสใกล้ๆจึงได้รู้ว่าตัวเขามีไข้ขึ้นสูง     พัชรพรจึงแท่บไม่ได้นอนทั้งคืนทำหน้าที่เป็นพยาบาลจำเป็นเช็ดตัวให้กับเขาอย่างทุลักทุเลเพราะเธอไม่สามารถมองทางได้ชัดนักการเดินไปเอาน้ำจากแม่น้ำจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก      เธอพล้อยหลับไปคงเป็นเวลาใกล้ๆกลับรุ่งสางเพราะหญิงสาวจำได้ถึงแสงเลือนลางที่ปลายขอบฟ้า      กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งเป็นเวลาเท่าใดไม่ทราบไข้ของชายหนุ่มลดลงจนเกือบจะเป็นปรกติแล้วซึ่งก็เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง     หญิงสาวจึงทำหน้าที่เช็ดตัวให้เขาอีกครั้งด้วยผ้าผืนเดียวที่มีซึ่งได้รับการเสียสละจากเธอนั่นเอง       กว่าจะรวบรวมฟืนเสร็จก็เป็นเวลาเย็นอีกครั้ง     นี่เป็นอีกค่ำคืนหนึ่งที่พัชรพรต้องนอนตากน้ำค้าง...นี่เป็นวันที่ 2 และคืนที่ 2 แล้วที่เธอต้องติดอยู่ที่ใดไม่รู้ทามกลางอากาศหนาวที่แม้จะมีกองไฟที่ให้ความอบอุ่นหากความหนาวยังคงแผ่แทรกอยู่ในทุกอณู      และเธอยังคงไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยหลังจากที่เรือล่ม     หญิงสาวนั่งจ้องไฟที่ปลิวไสวด้วยกระแสลมอย่างเหม่อลอย...เมื่อไหร่เขาถึงจะฟื้น...เมื่อไหร่เธอจะได้กลับบ้าน...ป่านนี้แม่จะเป็นห่วงเธอมากหรือไม่...แม่จะปลอดภัยดีอยู่มั้ย...      แต่แล้วหางตาของเธอก็เหลือบเห็นชายแปลกหน้าที่นอนอยู่ข้างๆเริ่มมีการขยับเขยื้อน      พัชรพรรีบหันไปมอง     คิ้วเข้มของเขาที่ขมวดอยู่แล้วยิ่งขมวดมากขึ้นเป็นลำดับเมื่อชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัว      เขายกแขนขึ้นอย่างยากลำบากไปยังบาทแผล     ปากพึมพำอะไรแผ่วเบา...หญิงสาวจึงจำเป้นต้องก้มหน้าเข้าไปใกล้เพื่อตั้งใจฟังก่อนจะหันซ้ายหันขวาล้วงขวดน้ำจากกระเป๋าเป้สะพายของตนเอาขวดน้ำออกมา     เธอประคองเขาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆกรอกน้ำใสปากที่ซีดเซียวแห้งผากก่อนจะวางเขาลงนอนเช่นเดิมขยับตัวออกไปสังเกตุการณ์ต่อ     ดวงตาที่ปิดสนิทมาตลอดค่อยๆเขยื้อนก่อนจะลืมขึ้นอย่างช้าๆ      ภาพแรกพล่าเลือนก่อนที่ชายหนุ่มจะกระพริบตาถี่ๆสองสามครั้งเพื่อปรับภาพทั้งหมดให้เขาที่      สิ่งแรกที่ปะแก่สายตาคือตากลมโตของคนตรงข้ามที่จ้องเขม็ง     

    ที่นี่ที่ไหน     ชายหนุ่มเปล่งเสียงแผ่วเบาเป็นภาษาท้องถิ่น

    ชั้นไม่เข้าใจภาษาเกาคุณ    คุณพูดอังกฤษได้มั้ย     หญิงสาวพูดช้าๆเป็นภาษาอังกฤษไม่แน่ใจว่าฝ่ายตรงข้ามเข้าใจหรือไม่     แต่ก็ต้องยิ้มดีใจเมื่อชายหนุ่มถามซ้ำอีกครั้งเป็นภาษาอังกฤษ

    ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน   

    ถ้าอย่างนั้นผมหลับไปนานเท่าไหร่     เขาเปลี่ยนคำถามพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งพัชรพรจึขยับไปช่วยพยุง      เขาพึมพำขอบคุณก่อนจะถามต่อไป

    “2 วันนี่เป็นคืนที่ 3”    

    คุณไม่ใช่คนเกาหลีแล้วทำไมมาอยู่ที่นี่    เขาตั้งคำถามอีกครั้ง

    เกาหลี?     ชั้นเป็นคนไทย      เรือที่ชั้นนั่งจมลงชั้นสลบไปมาตื่นอีกทีก็อยู่ที่ไหนไม่รู้     พัชรพรตอบตามตรง

    คุณเป็นคนช่วยผมไว้?”    ชายหนุ่มถามยกมือขึ้นคลำแผลของตนก่อนจะเห็นว่ามันสะอาดดีและไม่มีทีท่าว่าจะติดเชื้อ

    ใช่...จะว่าอย่างงั้นก็ไม่ถูก    คุณมาล้มลงตรงหน้าชั้นชั้นก็เลยช่วยดูแลคุณ     ชั้นไม่ได้เป็นคนช่วยคุณจะคนพวกนั้น    หญิงสาวตอบ

    ขอบคุณที่ช่วยผม    ชายหนุ่มพูด    ว่าแต่ทำไมคุณถึงเลือกพักตรงนี้

    ก็คุณล้มลงไปชั้นไม่มีแรงลากคุณเหลี่ยนที่หรอก     หญิงสาวตอบตามความซื่อ

    คุณก็เลยพักอยู่ตรงนี้กับผมด้วยตลอดเวลา?”     เขาถาม

    ใช่  

    ในอากาศแบบนี้เนี่ยนะ

    ใช่     คุณไม่ได้สติชั้นทิ้งคุณไปไม่ลงหรอก

    ขอบคุณ

    ว่าแต่ทำไมคุณถึงโดนแทงมา     พัชรพรเริ่มเป็นฝ่ายตั้งคำถามบ้าง     แต่ทีนี้คุณถูกถามกลับนิ่งเงียบ     ถ้าคุณไม่อยากตอบก็ตามใจคุณเถอะ     คุณนอนพักก่อนละหันมีอะไรเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้     หญิงสาวเสนอทำท่าจะล้มตัวลงนอน

    เดี๋ยวคุณเอาเสื้อไปเถอะอากาศมันหนาว     ชายหนุ่มพูดทำท่าจะถอดเสื้อโอเวอร์โค๊ตตัวยาวให้เธอ

    อย่าเลย     ชั้นไม่ใช่คนป่วยคุณใส่ไว้เถอะ    พัชรพรฏิเศษก่อนจะล้มตัวลงนอนเป็นการตัดบท

     

                 เมื่อพัชรพรลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นสายตาของเธอเหลือบไปที่ๆร่างสูงนอนหลับสนิทมาตลอดสองสามวันที่ผ่านมาแต่วันนี้มันกลับว่างปล่าว      เธอรีบลุกขึ้นนั่งจนทำให้ผ้าที่คลุมอยู่หลุดลง...มันคือเสื้อโอเวอร์โค๊ตตัวยาวของเขา...แต่ตัวเจ้าของกลับไม่อยู่      

    คุณ...คุณ...อยู่ไหนนะ     พัชรพรเริ่มตะโกนตามหาเพื่อนคนเดียวของเธอ...อย่างน้อยเธอก็คิดว่าเขาคือเพื่อนแม้เขาจะยังไม่รู้ตัวก็ตาม

    ผมอยู่นี่     เสียงดังมาจากด้านหลังก่อนที่ตัวของเขาจะตามมา

    คุณยังไม่หายดีรีบลุกไปทำไมเดี๋ยวก็เจ็บขึ้นมาอีกหรอก     เธอตำหนิเขาทันทีที่เจอหน้า     แม้จะยังไม่รู้จักกันมากมายนักแต่ตลอดสองสามวันที่เธอดูแลเขาเธอเริมรู้สึกสนิทกับเขาแม้เขาจะไม่รู้จักเธอก็ตาม

    ขอบคุณที่เป็นห่วง     นี่คุณคงจะหิวทานนี่ก่อนสิ     ชายหนุ่มโชว์ผลไม้สีสดในหมวกให้เธอดู      หมวกของเขาใบใหญ่พอที่จะใช้แทนตะกล้าเก็บผลไม้จริงๆ      มันเป็นหมวกที่ทำจากหนังของตัวมิงค์หน้าตาเหมือนกับหมวกของประเทศรัสเซีย

    ว้าว...คุณรู้มั้ยว่าชั้นไม่ได้กินอะไรมา 3 วันแล้ว     พัชรพรแท่บจะกระโดตัวลอยกับอาหารมื้อแรก

    ถ้าอย่างงั้นก็เชิญเลย       อิ่มแล้วเราจะได้ออกเดินทางกัน

    ออกเดินทาง?     ไปไหน?”   

    ผมเป็นทหาร     ผมหายไปป่านนี้ลูกน้องคจะเริ่มตามหากันแล้ว     ผมจะต้องหาลูกน้องของผมให้พบ      ส่วนคุณก็ไปกับผม     อย่างไรเสียที่นี่ก็ไม่ใช่ที่พักที่ดีเราต้องหาที่พักที่กันลมได้ดีกว่านี้     เขากล่าวคร่าวๆซึ่งไม่ให้ความกระจ่างมากนัก      แต่อย่างไรเสียคิดๆดูแล้วไปกับเขาย่อมต้องดีกว่าอยู่คนเดียวอย่างแน่นนอดูเขาจะชำนานกว่าเธอมากมายนัก

    ตกลง     พัชรพรตกลงอย่างง่ายดาย    แล้วที่เมื่อวานนี้คุณบอกว่าที่นี่คือเกาหลีคุณพูดจริงหรอก

    ใช่แล้วที่นี่คือประเทศเกาหลีเหนือ!”      ชายหนุ่มกล่าวคำพูดที่ดังก้องไปก้องมาในหัวเธอ     เกาหลีเหนือ!    แล้วเธอจะกลับบ้านได้อย่างไรในเมื่อประเทศนี้เป็นประเทศปิดที่ไม่ติดต่อสุงสิงกับใคร     คุณไม่ใช่คนเกาหลี     คุณเข้ามาในประเทศเราได้ยังไง      ชายหนุ่มตั้งคำถาม

    ชั้นนั่งเรือมาจากทางฝั่งจีนแล้วเรือเกิดล่มชั้นตื่นขึ้นมาอีกทีบนฝั่งแล้วก็เดินตามแม่น้ำขึ้นมาเรื่อยๆจนเจอคุณ      พัชรพรบอกเรื่องราวคร่าวๆแก่เขา

    อืม...แล้วคุณจะกลับบ้านยังไง      เขาถามต่อไป

    ตอนแรกชั้นคิดว่านี่คือประเทศจีนก็เลยเดินตามแม่น้ำขึ้นมาเรื่อยๆเพราะคิดว่าจะมีหมู่บ้านแต่ในเมื่อมันเป็นอย่างงี้แล้วชั้นคงจะว่ายน้ำข้ามกลับไปฝั่งนู้นก่อนแล้วค่อยเริ่มเดิน      พัชรพรกล่าวพูดราวกับ 900 เมตรเป็นระยะทางสั้นๆ      ชายหนุ่มหัวเราะออกมาทันทีกับความคิดประหลาดของเธอ

    คุณจะว่ายน้ำกลับไป      เขาถามซ้ำย้ำทีละคำ

    ใช่     พัชรพรตอบมั่นใจ

    คุณรู้มั้ยว่าแม่น้ำนี้กว้าง 900 เมตร

    รู้สิ

    แล้วคุณรู้มั้ยว่า 900 เมตรนี่กว้างขนาดไหน

    รู้สิ      คุณไม่ต้องมาหัวเราะยะชั้นหรอกชั้นบอกว่าจะว่ายไปชั้นก็จะว่ายไป

    ผมไม่ได้หัวเราะเยาะคุณ

    คุณหัวเราะชั้นอยู่

    เอาหละๆๆ      ผมเลิกหัวเราะแล้วก็ได้     900 เมตรมันไม่ใช่ระยะทางสั้นๆนะหนูน้อย      แล้วอากาศเย็นแบบนี้เธอว่ายไปไม่ไหวหรอกถึงจะเป็นนักว่ายน้ำทีมชาติก็เถอะ      ชายหนุ่มพูด

    เรื่องของชั้น!”      หญิงสาวเริ่มพูดสะบัดเพราะเริ่มโมโหที่เขาหัวเราะเยาะเธอ       เธอแอบนึกอยากจะให้เขากลับไปนอนอย่างเก่าเพราะดูชายหนุ่มที่นอนไม่ได้สติจะเป็นเพื่อนร่วมทางได้ดีกว่าชายหนุ่มในขณะนี้

    คุณรู้มั้ยว่ามันหนาวแค่โดนน้ำหน่อยเดียวก็หนาวจะแย่แล้วคุณลงไปอยู่ในน้ำทั้งตัวมีหวังเป็นตระคิวก่อนจะได้ว่าย     ชายหนุ่มเริ่มพูดน้ำเสียงจริงจัง       คุณหายมาสามวันแล้วใช่มั้ย      ถ้าอย่างนั้นผมว่าทางฝั่งนู้นเขาจะต้องตามหาคุณอย่างแน่นอนเพราะฉะนั้นเราจะเดินเรียบแม่น้ำไปอย่างงี้แหละ     ถ้าเจอเรือของฝั่งนู้นเมื่อไหร่แล้วคุณก็จะได้กลับบ้าน      ชายหนุ่มคิดหาทางที่มีความเป็นไปได้มากกว่าให้แก่เธอ

    อืม

    อิ่มแล้วใช่มั้ยถ้าอย่างนั้นเราออกเดินทางดีกว่า      ชายหนุ่มกล่าว

    ไปได้หรอแล้วแผลของคุณหละ     พัชรพรถามถึงอาการเพราะจะว่าไปแล้วเขาพึ่งจะฟื้นเมื่อคืนนี้เองยังไม่น่าจะรีบใช้แรง

    ผมไม่เป็นไรหรอก      ผมเป็นทหารนะ      แค่นี้ยังห่างไกลความตาย     เขากล่าวก่อนจะช่วยฉุดเธอลุกขึ้นและออกเดินทาง

     

              ชายหนุ่มเดินนำอย่างคล่องแคล่วจนบางครั้งพัชรพรแท่บจะต้องวิ่งเพื่อที่จะตามให้ทัน     หลายครั้งเมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวเขาจะชะลอฝีเท้าลงเสมอ      แต่ก็เพราะความเคยชินหลายครั้งที่ความเร็วมักเพิ่มขึ้นมาเสมอ

    จ้ำเอาจ้ำเอาจะรีบไปไหนหา!      เดินตัวตรงจริงๆเป็นทหารมาแต่เกิดหรอยะ     คอยดูเถอะเชิดหน้าๆไม่ยอมมองพื้นเดี๋ยวสะดุดขึ้นมาจะหัวเราะให้กลิ้งเลย      พัชรพรพยายามเดินจ้ำตามคนข้างหน้าให้ทันปากก็บ่นไปเบาๆเป็นภาษาไทยชายหนุ่มจึงได้ยินเพียงเสียงพึมพำที่ไม่ฟังไม่เข้าใจ     แต่จากน้ำเสียงของคนข้างหลังเขามั่นใจว่าตัวเองกำลังโดนว่า     เพราะเธอเป็นคนเดินตามจึงไม่ทันเห็นรอยยิ้มหยักขึ้นเล็กน้อยที่มุมปากได้รูปของคนนำหน้า

    คอยดูนะ...ว้าย...!”     เพราะมัวห่วงแต่จะเดินตามให้ทันและปากมัวแต่ว่าคนตัวสูงทำให้พัชรพรไม่ทันสังเกตุเห็นสิ่งกีดข้างด้านหน้าเมื่อเดินผ่านจึงสะดุดเขาอย่างจัง      และโดยที่ไม่คาดคิดคนตัวสูงที่เธอค่อนแคะอยู่นั้นกลับหันมารับเธอไว้ได้อย่างหวุดหวิด       แทนที่จะล้มหัวคะมำลงพื้นดินเบื้องหน้าเธอกลับปลอดภัยอบู่ภายใต้อ้อมแขนของเขา      เพราะความสูงที่ห่างกัยพอสมควรใบหน้าของเธอจึงอยู่เพียงระดับอกของเขาเท่านั้น

    เดินระวังหน่อยสิ      สมาธิหนะเอามาอยู่กับตาบ้างไม่ใช่อยู่กับปาก      ทีแรกที่รู้สึกตัวนั้นพัชรพรรู้สึกเขินเล็กน้อยแต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเธอกลับรู้สึกจี้ขึ้นมาทันที...ใช่แล้ว!     เธอชอบเขาตอนที่ยังนอนไม่ได้สติมากกว่า!

    คุณน่าจะกลับไปนอนต่อนะยังไม่น่ารีบฟื้นขึ้นมาเลย!”     พัชรพรกัด

    ไม่เป็นไรแค่นี้ไม่ต้องขอบคุณหรอก      ชายหนุ่มพูดก่อนจะเดินนำต่อไปแต่คราวนี้เขาดูจะหันหลังกลับมามองคนเดินตามอยู่บ่อยๆ

     

                   ฟ้าเริ่มมืดลงอย่างรวดเริ่มเมื่อหมดเวลาของพระอาทิตย์      แสงสว่างที่เริ่มจางหายเป้นสัญหาณเตือนให้บุคคลทั้งสองเริ่มต้องมองหาที่พัก

    ข้างหน้านั่นหน้าจะพออยู่ได้คืนนี้เราพักกันที่นี่แล้วกัน     ชายหนุ่มกล่าวชี้ไปยังถ้ำตื้นๆที่เบื้องหน้า

    ก็ดี     พัชพรพยักหน้ารับ

    คุณอยู่ที่นี่ก่อนละกันเดี๋ยวผมมา     ชายหนุ่มพูดก่อนจะหันหลังเดินจากไป

    เดี๋ยวสิ!”     หญิงสาวกลับเรียกไว้ทำให้เขาจำต้องหันหน้ากลับมา      คุณจะไปไหน

    ไปหาฟืน      คุณอยู่รอผมที่นี่นะผมไปไม่นานหรอก      ชายหนุ่มพูดราวกับจะรู้สิ่งที่หญิงสาวคิด

    อืม...กลับมาเร็วๆนะ      พัชรพรพูดกับเขาก่อนเขาจะจากไป    

                 ความมืดที่ค่อยๆปรกคลุมพื้นที่ยิงทำให้ใจเสีย      การรอคอยช่างยาวนานเสียจริงๆ       อากาศเริ่มเย็นขึ้นทันทีที่สิ้นแสงของพระอาทิตย์      เสียงของป่าที่ดังมาจากทุกทิศทางยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัว     จะว่าไปแล้วยังไมมีคืนไหนเลยที่เธอต้องอยู่คนเดียวอย่างเช่นวันนี้     คืนแรกในป่าแห่งนี้เธอก็พบกับเขาถึงแม้เขาจะไม่มีสติก็ตามแต่เธอก็ยังมีเพื่อน...     ยิ่งเวลาผ่านไปพัชรพรเริ่มหันซ้ายหันขวามองหาร่างของคนตัวสูง

    มองหาอะไรอยู่      เสียงทุ้มดังมาจากทางด้านขวาห่างออกไปพัชรพรรีบหันไปตามเสียงก่อนจะรู้สึกใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงๆที่เริ่มจะคุ้นเคย

    ปล่าว     เธอตอบก่อนจะถอยหลังไปนั่งลงที่ด้านในสุดของถ้ำที่ไม่ลึกแห่งนั้น

    คืนนี้เราพักกันที่นี่ละกัน     คุณหิวรึปล่าว      ชายหนุ่มถาม

    ก็นิดหน่อย      ไฟแช็คอยู่ในกระเป๋าเสื้อโอเวอร์โค๊ตด้านขวา      เธอกล่าวเมื่อเห็นเขากองฟื้นแยกกันไว้และทำท่าราวกับหาอะไรสักอย่างที่กระเป๋ากางเกง

    ขอบคุณ      ผมคิดว่ามันอยู่ในกระเป๋ากางเกงเสียอีก     เขาล้วงหยิบไฟแช็คติดไฟที่กองฟืนพร้อมกล่าวขอบคุณก่อนจะพึมพำเบาๆสีหน้างงเล็กน้อย

    ตอนแรกมันก็อยู่ในกระเป๋ากางเกงแต่เมื่อคืนนั้นชั้นใช้แล้วก็เลยเก็บไว้ในโอเวอร์โค๊ตแทน     พัชรพรอธิบาย

    อ๋อ...ผมขอโทษด้วยคืนนี้เราคงจะไม่มีอะไรกินพอดีผมลืมไปว่าคุณคงจะหิว     ชายหนุ่มกล่าว

    ไม่เป็นไรหรอก      แต่คุณพออย่างกับว่าคุณหิวไม่เป็น

    ฮ่าฮ่าฮ่า      ไม่ใช่อย่างงั้นหรอก     แต่ผมเป็นทหาร...ผมชินกับมันมากกว่า     คุณรีบนอนเถอะพรุ่งนี้เราจะต้องออกเดินทางกันแต่เช้า...เอ้า...ใช้นี่      นายทหารหนุ่มกล่าวพร้อมกับยืนเสื้อโอเวอร์โค๊ตตัวยาวให้แกเธอ

    ชั้นบอกแล้วว่าคุณนะคือคนป่วย     คุณใช้เถอะ

    ผมบอกแล้วว่าผมเป็นทหาร      ผมหนะแข็งแรงกว่าคุณมากหนูน้อย     ชายหนุ่มพูด

    คำก็หนูน้อยสองคำก็หนูน้อย      ชั้นโตแล้วนะแล้วชั้นก็มีชื่อด้วย!      แล้ทำไมชั้นต้องนอนตามที่นายบอกด้วยชั้นยังไม่ง่วง!”      

    หรอ...งั้นเธอชื่ออะไรหละ       ชายหนุ่มถามเรื่อยๆราวกับไม่ได้สนใจว่าคนตรงหน้ากำลังเริ่มมีโมโห

    พัชรพร!”     หญิงสาวตอบเสียงกระแทก

    แล้วอายุเท่าไหร่แล้ว

    “19”

    อืม...โตแล้วจริงๆด้วย     แต่เธอรู้มั้ยว่าชั้นอายุเท่าไหร่     หืม...หนูน้อย     ยิ่งรู้ว่าเธอไม่ชอบเขากลับยิ่งอยากจะพูด      เขาคิดว่าเธอดูตลกดีเวลาที่เธอโกรธ     

    หนูน้อยอีกแล้ว!     ชั้นบอกว่าชั้นโตแล้ว     ได้...ถ้านายจะเรียกอย่างงั้นชั้นก็จะเรียกนายว่าคุณลุง!”     เธอพยายามระงับความโกรธ

    ก็ได้     งั้นก็หลับฝันดีนะหนูน้อยพัชรพร     ชายหนุ่มกล่าวจึงได้รับค้อนวงโตจากพัชรพรก่อนเธอจะหันหลังให้เขา       เพียงครู่เดียวคนที่บอกว่าไม่ง่วงกลับหลับเป็นตาย      ชายหนุ่มจึงนำโอเวอร์โค๊ตตัวยาวมาคลุมให้กับเธอก่อนจะล้มตัวลงนอนด้านหน้าถ้ำเพื่อข้างทางเข้าเอาไว้     อย่างไรเสียถ้ามีสิ่งใดหรืออะไรต้องการจะผ่านเขาไปยังถ้ำมันจะต้องผ่านเขาไปก่อน

     

               สองวันแล้วที่เขาและเธอร่วมเดินทางกันมา      พัชรพรชักเริ่มจะคุ้นเคยกับชายหนุ่มตรงหน้ามากขึ้น      ทั้งคู่มุ่งหน้าลงใต้แต่ก็ยังคงยึดเส้นทางติดกับแม่น้ำเป็นหลัก      ชายหนุ่มเป็นทหารเต็มตัวเขามักจะเดินตัวตรงไม่มีวอกแวก     เขาดูจะรู้วิธีดำรงชีวิตในป่าทุกประการ      สวรรค์ดูจะไม่ทอดทิ้งพัชรพรมากนักเพราะแม้เธอจะติดป่าก็ติดอยู่กับคนที่มีความรู้     

    พรุ่งนี้เราก็คงจะเจอกับลูกน้องของผมแล้ว    ชายหนุ่มกล่าวหลังจากที่ทั้งสองได้ที่พักของค่ำคืนนี้แล้ว

    ขอให้คุณโชคดี     หญิงสาวกล่าว

    หมายความว่ายังไง

    ก็ขอให้โชคดีไง     แปลไม่ออกหรอ      ก็ขอให้ต่อไปในอนาคตคุณดีๆทุกอย่างไง

    คุณรู้ว่าผมหมายความว่ายังไง     เราคุยกันแล้วนะ

    ชั้นรู้     คุณบอกว่าในป่ามันอันตราย      แต่คุณก็บอกเองไม่ใช่หรอว่าทหารคุ้มกันชายแดนฝั่งนี้ไม่แน่นหนาเท่ากับทางฝ่ายชายแดนเกาหลีใต้      ยังไงถ้าชั้นจะกลับบ้านทางนี้ก้ง่ายกว่าอยู่แล้ว     คุณบอกเองว่าถ้าจะลักลอบออกไปชายแดนด้านนั้นความสำเร็จมีแค่ 1 เปอร์เซ็น     อีกอย่างชั้นเชื่อว่ายังไงแล้วพ่อแม่ก็จะต้องตามหาชั้นถ้าชั้นอยู่เรียบแม่น้ำไม่เรื่อยๆเขาจะต้องหาชั้นพบ    หญิงสาวกล่าว

    แต่คุณจะอยู่คนเดียวได้ยังไง    ชายหนุ่มถาม     ใจจริงแล้วเขาไม่อยากจะทิ้งเธอไว้คนเดียว      ถ้าไม่ติดเหตุด่วยจริงที่เขาต้องรีบกลับไปเขาคงจะอยู่ต่อเป็นเพื่อนเธอจนกว่าจะแน่ใจว่าเธอปลอดภัยแล้ว     แต่สถานการณ์ในตอนนี้เขาทำอย่างที่ใจคิดไม่ได้

    ชั้นก็อยู่มาได้ตั้งหลายวันตอนที่คุณสลบ

    ผมรู้แต่ว่ามันไม่เหมือนกัน     เดี๋ยวมันจะหนาวขึ้นอีก      อีกไม่นานหิมะก็จะตกแล้วคุณรู้มั้ยว่ามันจะหนาวขนาดไหน      คุณอยู่กลางป่าเวลานั้นไม่ได้     คุณจะตาย    ชายหนุ่มพูดน้ำเสียงจริงจัง

    ชั้นเชื่อว่าจะมีคนมาช่วยชั้นไปก่อนหน้านั้น     ก็เอาอย่างงี้สิอีก 1 หรือ 2 เดือนตอนที่หิมะเริ่มตกคุณก็มาที่นี่มาดูถ้าชั้นนอนหนาวใกล้จะตายแล้วคุณก็ช่วยชั้นด้วยละกัน    

    คุณพูดยังกับว่าหาคุณในป่านี้เป็นเรื่องง่าย     ป่ามันไม่ใช่ที่เล็กๆนะคุณ

    ไม่เป็นไรหรอก     คุณออกจะเก่งยังไงชั้นคงไม่ตายหรอกถ้าคุณคิดจะช่วยจริงๆ

    คุณจะไม่ไปกับผมจริงๆ?”     ชายหนุ่มถาม

    ขอบคุณคุณมากแต่ชั้นไม่ไป      ถ้าหิมะตกเมื่อไหร่คุณช่วยกลับมาดูชั้นหน่อยละกันถึงเวลานั้นชั้นคงจะต้องการความช่วยเหลือของคุณ

    ได้      ผมจะกลับมา      วันที่หิมะตกผมจะกลับมา      ผมจะไม่มีวันปล่อยให้คุณต้องตาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×