ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The mafia

    ลำดับตอนที่ #1 : อะไรกันเนี่ย!?!?

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 50


    หนูไปก่อนนะคะพ่อ    เสียงใสที่ดังเข้าไปภายในห้องนั่งเล่นทำให้ คุณดลวัช ต้องละสายตาจากหนังสือพิมพ์ที่ตนกำลังอ่านอยู่มองหน้าลูกสาวก่อนจะเอ่ยถาม

    จะไปไหนอีกหละวันนี้    พ่อเห็นออกไปข้างนอกทุกวันเลย     คุณพ่อถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

    ไปซื้อของคะ     พอดีวันนี้มิ้นนักกับเพื่อนไว้     เดี๋ยวมิ้นกลับเย็นๆนะคะ

    และยังไม่ทันฟังคำตอบมณีฑิตาเดินหันหลังจากไปอย่างรวดเร็ว    จึงไม่ทันได้เห็นสายตาของผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อที่มองตามหลังเธอไปจนลับตา     สายตาที่แม้จะมากด้วยวัยแต่ยังคงคมกริบแฝงเอาไว้ด้วยแววโชกโชนกับชีวิตมองตามเบื้องหลังนั้นไปด้วยสายตาเป็นห่วงแสนห่วง

     

    หา!    นี่เธอยังมายังไม่ถึงอีกหรอ     ชั้นรอมาจะชั่วโมงแล้วนะ     หิวจะแย่แล้วได้กินแต่น้ำ    ไหนบอกว่าจะมากินข้าวเที่ยง ...โอเคๆ...รีบๆมาละกันไม่งั้นชั้นกลับจริงๆด้วย

    สีหน้าของมณีฑิตามีแววเซ็งสุดๆหลังจากที่วางโทรศัพท์เป็นครั้งที่สามและคำตอบที่ได้รับยังคงเป็นแบบเดิมคือรถติดยังมาไม่ถึง     ความหงุดหงิดเจ้าเพื่อนตัวแสบที่มักทำให้เธอต้องรอจึงไม่ทันสังเกตุเห็นสิ่งรอบตัว    ชายสองคนที่นั่งอยู่ในร้านอาหารไม่ไกลจากเธอนั้นเอื้อมมือเขาไปในเสือ้แจ็คเก็ตสีดำก่อนจะหยิบสิ่งหนึ่งออกมาอย่างช้าๆ     ของสีดำวาวซึ่งก็คือปืนขนาดเล็กกำลังถูกเล็งมาที่เธอ...และ...เปรี้ยง!!!

               เสียงดังสนั่นเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว    มณีฑิตาลืมตึข้นมาและพบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นภายในอ้อมกอดของชายแปลกหน้าผู้หนึ่ง      หากสายตาของเขาไม่ได้อยู่ที่เธอแต่กลับจับจ้องอยู่ร่างของชายสองคนที่ยิงมาที่เธอ     และก่อนที่ร่างเล็กจะทันได้คิดอะไรชายแปลกหน้าดังกล่าวฉุดเธอลุกขึ้นอย่างแรงก่อนจะลากพาเธอวิ่งออกจากร้านไป     เมื่อคนร้ายรู้ว่าตนเองทำงานผิดพลาดจึงรีบตามหญิงสาวไปเพื่อจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย      มณีฑิตาได้แต่วิ่งตามแรงฉุดไปด้วยสมองอันว่างปล่าว     เธอตกใจกับเหตุการณ์ประหลาดที่พึ่งเกิดขึ้น       สิ่งที่เธอเคยคิดว่ามีแต่เพียงในภาพยนต์เท่านั้นและเธอจะไม่มีวันเจอกับตัวเองกลับกำลังเกิดขึ้น     เธอ...ลูกสาวของนักธรุกิจที่ประสบความสำเร็จเป็นอันดับต้นของประเทศ      คุณหนูมณีฑิตาผู้ไม่เคยต้องลำบาก    ไม่ว่าเธอจะต้องการสิ่งใดผู้เป็นพ่อไม่เคยเลยที่จะปฏิเศษ     แต่ตอนนี้...เธอกลับกำลังโดนตามล่าอย่างนั้นหรือ

     

               ชายหนุ่มพาเธอวิ่งออกไปบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าก่อนที่รถสีดำคันใหญ่จะแล่นมาจอดตรงหน้าอย่างรวดเร็ว     ร่างสูงรีบกระชากประตูเปิดออกก่อนที่จะพลักเธอขึ้นรถพร้อมกับตามเข้าไป      ทันที่ที่ประตูกรถถูกปิดลงรถยนต์คันดังกล่าวเร่งเครื่องขับออกไปอย่างรวดเร็ว     คำถามต่างๆยังคงอยู่ในหัวของเธอ    นี่มันเกิดอะไรกันขึ้น...คนพวกนี้เป็นใคร...แล้ว...นี่เธอกำลังจะไปที่ไหน     หรือว่า...เธอกำลังถูกลักพาตัว!?!    ว่าแล้วปากก็ไว้เท่าความคิด

     

    พวกคุณเป็นใคร    ถ้าพวกคุณต้องการเงินพ่อของชั้นจะส่งให้    แต่พวกคุณปล่อยชั้นไปก่อนเถอะนะ     เธอพูดด้วยเสียงหอบเหนื่อยเนื่องจากการวิ่งร้อยเมตรที่พึ่งผ่านมา

    ชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างกายหันมาสบตาเธอพร้อมกับพูดเสียงราบเรียบเป็นภาษาอังกฤษ    ผมชื่อ ลี ชินเจ    แต่คำตอบแสนสั้นของเขากลับไม่ได้ให้ความกระจางใดๆแก่หญิงสาวเลย    

    ลีชินเจ    เธอทวนชื่อของเขาเบาๆก่อนสายตาจะแปลเปลี่ยนเป็นตกใจ    ลีชินเจ...ชื่อเกาหลี...หรือว่าจะเป็น...

    ลีชินเจ     จากแก๊งค์มาเฟียของเกาหลีหนะหรอ    เธอถามกลับไปด้วยเสียงสั่นแท่บเป็นกระซิบ
    ร่างสูงไม่กล่าวตอบเพียงแต่พยักหน้าน้อยๆเป็นการยืนยัน      แต่เพียงเท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หญิงสาวตรงหน้าตกใจกลัวจนสติแตก

    หา!     แล้วนี่พวกนายจะทำอะไรชั้น    จะพาชั้นไปไหน    แล้วทำไมต้องฆ่ากันด้วย    นี่นายรู้มั้ยว่าพอชั้นเป็นใคร     เค้าจะต้องให้ตำรวจมาลากคอพวกนายเข้าคุก    ชั้น…”

    ไม่ตะโกรปล่าวเธอยังประเคนทั้งทุบทั้งเตะไปที่หน้าแข้งและตัวของชายหนุ่ม     จยเขาทนไม่ไหวและหันมารวยตัวของเธอไว้

    หยุดนี่...หยุดนะ...
    แต่เมื่อเคียวโกะยังไม่หยุดทั้งคำพูดและยังคงดิ้นรนเพื่ออกจากการจับกุมของเขาพร้อมกับเหลือบไปเห็นพวกคนร้ายที่ยังตามมา    ชายหนุ่มจึงไม่มีทางเลือกนอกจากทำให้เธอสงบลง    ในที่สุดเขาจึงซัดเข้าเบาๆที่ท้องของเธอซึ่งก็ได้ผลชะงักเพราะเธอเงียบเสียงลงในทันที

                 ทุกๆคนดูราวกับว่าจะไม่ค่อยตกใจเลยกับเหตุการ์ณตรงหน้า    ก็จะตกใจได้ยังไงในเมื่อพวกเขาทุกคนเป็นยาคูซ่า    คนขับรถดูราวกับว่าจะรู้หน้าที่และทางเป็นอย่างดีเนื่องจากเขาขับด้วยความเร็วสูงตามทางไปอย่างแม่นยำ    จนในที่สุดเมื่อหลุดจากการติดตามของมอเตร์อไซแล้วล้อที่ดูจะหมุนอย่างไม่มีวันหยุดของรถสีดำก็ค่อยๆชะลอลงจนเหลือวิ่งอยู่ในความเร็วปกติ     มณีฑิตาที่เริ่มหายจากอากรจุกแล้วมองไปรอบๆตัวเองอย่างระมัดระวัง     เธอได้ตัดสินใจที่จะหยุดโวยวายและลองพูดกับชายหนุ่มข้างๆเธออย่างใจเย็น    เพราะหลังจากที่ได้มีเวลาคิดแล้ว   เขาก็ยังไม่ได้ทำร้ายเธอเลยแถมยังเป็นคนช่วยชีวิตของเธอไว้อีกด้วยซ้ำ
    แล้วนี่คุณจะพาชั้นไปไหน   เธอเริ่มอ้าปากถาม

    กลับบ้าน     ลีชินเจตอบสั้นๆแต่เพียงเท่านั้นจิตใจที่ยังดูปรับไม่ค่อยเข้าที่นักของกญิงสาวกเริ่มๆที่จะแตกเอาอีกครั้ง

    หา!    บ้านคุณ...คุณ...จะลักพาตัวชั้นอย่างงี้ไม่ได้นะ    ชั้น...
    ถ้าไม่ใช่เพราะสายตาน่ากลัวที่มองมากเธอคงจะยังโวยวายต่อีกพักใหญ่
    ชั้นจะพาเธอกลับบ้านของเธอ
    บะ...บ้านของชั้น    คุณรู้จักด้วยหรอ
    ในทันทีที่ประโยคนั้นหลุดออกจากปาก    รถก็หยุดลงทันทีเธอจึงรีบหันออกไปมองที่นอกหน้าต่างและด้วยความงงระคนดีใจทำให้เธอลืมทุกสิ่งและตั้งใจที่จะออกจากรถให้เร็วที่สุด   แต่ทว่า....ประตูถูกล็อกเอาไว้     และเมื่อหันหน้ามาที่ยาคูซ่าหนุ่มก็ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมเปิดให้เธอง่ายๆ
    คุณต้องการอะไร    เปิดประตูให้ชั้นลงไปก่อนเถอะนะ     เธอพยายามอ้อนวอนเสียงหวาน
    ผมมีเรื่องต้องบอกคุณก่อน    ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในอันตราย

    อ๋อ...เรื่องนั้นชั้นรู้แล้วหละ
    มาบอกอะไรกันป่านี้ยังกับชั้นไม่รู้งั้นแหละเมื่อกี้ที่เขาเอาปืนมาจ่อชั้นแค่จะชวนไปกินข้าวมั้ง   จะบอกก็บอกอะไรที่ชั้นยังไม่รู้สิ      เธอตอบเขาไปด้วยสีหน้าและเสียงที่พยายามทำให้ปรกติแต่ไม่วายค่อนแคะในใจ    และดูราวกับเขาจะได้ยินความในใจเธอ

    ผมรู้ว่าคุณรู้อยู่แล้ว    เอาเป็นว่า...คุณรู้เพิ่มอีกอย่างหนึ่งก็พอ    ตอนนี้ผมถูกส่งมาดูแลคุณให้ปลอดภัย

    น้ำเสียงของเขายังคงราบเรียบดังและเก็บปากเก็บคำดังเดิม
    หา!   มาดูแลชั้น   ไม่เป็นไรขอบคุณมากแล้วก็อย่าลำบากเลย      มณีฑิตาเองกลับเป็นฝ่ายตกใจโวยวาย
    ไม่ได้    ผมรับปากพ่อคุณไว้แล้วก่อนเขาตายว่าผมจะดูแลคุณ    ลีชินเจกล่าวเสียงเครียด
    เออ...คือพ่อชั้นยังไม่ตาย    คุณอย่ามาลอกชั้นให้ยากเลย   หญิงสาวตอบ   มั่นใจดีว่าอะไรเป็นอะไร    พ่อของเธอเป็นนักธุรกิจมือสะอาดจะมีคนมาลอบฆ่าได้อย่างไรและเมื่อเช้าเธอพึ่งจะบอกลากับท่านอยู่หยกๆ
    พ่อที่แท้จริงของคุณเสียแล้ว    เมื่อเห็นหน้าที่บ่งบอกชัดเจนว่าชั้นไม่มีทางเชื่อนายเด็ดขาดของเธอ    เขาก็เริ่มกลุ้มใจและถอนหาย แรง
    เอาเป็นว่าเราเข้าไปคุยกันในบ้านละกัน    พ่อของคุณคงอธิบายได้ดีกว่าผม
    เมื่อพูดจบเขาก็เปิดประตูพร้อมกับรีบลากหญิงสาวลงจากรถไป

    แอ็ด........ปัง
    เสียงประตูที่ถูกเปิดและปิดลงอย่างรวดเร็วสะกิดให้คุณ
    ดลวัช ที่ระวังตัวอยู่แล้วรีบลุกขึ้นและตรงไปที่เก็บปืนทันที

    คุณพ่อ   อยู่ไหนคะ
    แต่เมื่อได้ยินเสียงใสของลูกสาวที่ตะโกนเรียกหาเขาจึงโล่งใจรีบเดินออกไปหา     แต่แล้วหัวใจของเขากลับตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีเมื่อมองเห็นหน้าของชายหนุ่มที่เดินตามหลังร่างเล็กเข้ามา
    คุณพ่อรู้จักเขาหรอคะ     
    เมื่อเห็นสีหน้าของคุณดลวัชหญิงสาวคนเดียวในที่นั้นถามด้วยเสียงที่ค่อยมากจนน่าจะไม่มีใครได้ยินถ้าห้องไม่ได้ตกอยู่ในความเงียบขนาดนี้    หน้าของโคชิในยามนี้ซีดมากราวกับคนที่กำลังเจอกับเหตุการ์ณที่ซ็อคสุดขีด
    มันถึงเวลาแล้ว      ดองวุค
    ลีชินเจกล่าวกับคุณดลวัชด้วยสีหน้าจริงจังและพยักหน้าเบาๆ    ทั้งๆที่ตอนแรกมณีฑิตาว่าหน้าเขาจริงจังแล้วแต่มันเทียบไม่ได้เลยกับใบหน้าเขาในตอนนี้      แม้ทั้งคู่จะสนทนากันด้วยภาษาเกาหลีแต่หญิงสาวฟังเข้าใจได้ดีทุกถ้อยคำ     ตั้งแต่เป็นเด็กเธอโดนคุณพ่อบังคับให้เรียนภาษาที่ 3 อันนี้ซึ่งคุณพ่อมักจะอ้างว่าจำเป็นสำหรับสืบทอดธุรกิจต่อไปในอนาคต     เธอพึ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเหตุผลที่แท้จริงคือเรื่องใด

    ดองวุคหรือคุณดลวัชหันมาหาคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกสาวของเขา    เด็กหญิงที่เขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กๆและให้ความรักกับเธอราวกับลูกสาวแท้ๆ     ตอนนี้มันคงถึงเวลาแล้ว    เวลาที่ความจริงจะต้องถูกเปิดเผิญ     เขาไม่สามารถที่จะปกป้องเธอด้วยการกันเธอออกมาและปิดบังความจริงจากเธอได้อีกต่อไปเพราะมันมีแต่จะทำให้เธอเกิดอันตราย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×