ประวัติ หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน)ออยเตียนสรูล บายติ๊กเจีย อริยสงฆ์ผู้อยู่เหนือโลก 500 พรรษา จำวัดทั่วจักรวาล
สถาน ที่จำวัด เมื่อตอนที่พบ หลวงปู่สรวงก็คือ กระท่อมเฝ้านากลางท้องทุ่งริมถนนหมู่บ้านละลม-สะเดา ชายแดนด้านเขมร เป็นกระท่อมยกพื้นสูงมุงหลังคาด้วยไม้กระดานเก่าๆ กันลมกันฝนไม่ค่อยได้ ในวันนั้นหลวงปู่สรวงท่านนอนอยู่ในกระท่อม มีชายชราผมขาวนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ ๆ คอยบีบนวดให้หลวงปู่สรวง นอกกระท่อมมีชายหญิงชาวบ้าน 4-5 คนนั่งคุยกันอยู่เป็นชาวบ้านย่านนั้น ข้างฝากระท่อมมีว่าวจุฬาตัวใหญ่เหน็บข้างฝาอยู่ 1 ตัว มีเตาเล็กๆ แลและหม้อหุ้งข้าวเก่าๆวางอยู่ 1 ชุด และก็มีถังใส่น้ำขุ่นๆเข้าใจว่าจะตักมาจากหนองน้ำกลางทุ่งที่อยู่ใกล้ ๆ หน้ากระท่อมหลวงปู่สรวงมีแคร่ไม้ยาว สำหรับนั่ง พวกเราทุกคนเข้าไปกราบท่าน ท่านก็ลุกขึ้นมาแต่ท่านไม่พูดจาอะไร ในปากของท่าน ก็เคี้ยวใบพลูสดอยู่ตลอดเวลา มีพวกผมคนหนึ่งถามท่านว่า หลวงปู่อายุเท่าไรแล้ว ท่านก็ตอบเป็นภาษาส่วย ซึ่งผมเองและเพื่อนที่ไปจากกรุงเทพ ก็ฟังไม่เข้าใจ แต่พรรคพวกที่ศรีสะเกษแปลว่าให้ฟังว่า เรื่องของอดีตลืมไปหมดแล้ว ชื่ออะไรก็จำไม่ได้ เขาเรียกว่าปู่สรวง ก็ปู่สรวง ชื่อเสียงมันก็ไม่ใช่ตัวของเราจะเรียกยังไงก็ได้ ถ้ามาคิดกันอีกแง่นึงก็เหมือนกับว่า ท่านได้สอนธรรมะชั้นสูงให้กับพวกเราให้รู้ว่า ให้มีแต่ปัจจุบันเพราะสิ่งทั้งหลายมันผ่านไปแล้ว มันเป็นเรื่อง สมมุติทั้งนั้น....
ถนน ที่รถวิ่งให้กับผู้คนที่ยากจน นับเป็นที่ร่ำรือและฮือฮากันมากสมัยที่มีสงครามช่วงชิงอำนาจของเขมรยังรุ่น แรงอยู่ ก็มีผู้คนอพยพมาตามแนวชายแดนเป็นจำนวนมาก มีคนเล่าว่าหลวงปู่สรวงท่านจะเปลี่ยนเป็นนุ่งขาวห่มขาวออกไปรับผู้ที่อพยพ เข้ามาทางชายแดนจุดใดที่ท่านออกไปรับผู้ที่อพยพก็มักจะปลอดภัยจากปืนใหญ่และ การติดตาม ของทหารเขมร บางวันหลวงปู่สรวงท่านก็จะเอาผ้าสีขาวปักเป็นธงไว้ในที่สูงให้เห็นกันอย่าง ชัดเจน ชาวเขมรที่อพยพก็จะไปอยู่กันตรงที่หลวงปู่สรวง ปักธงสีขาวเอาไว้ วันนั้นถ้า จะมีปืนใหญ่ถล่ม ยิงมาตามแนวชายแดน ผู้คนที่อพยพมาอยู่ตรงที่หลวงปู่สรวงปักผ้าขาวเอาไว้ก็จะปลอดภัยจากลูก กระสุนปืนใหญ่ภายหลังจากที่สงครามการช่วงชิง อำนาจของเขมรสิ้นสุดลง หลวงปู่สรวงท่านก็พักอยู่ที่กระต๊อบเฝ้านาด้านชายแดนเขมรแถว อำเภอ ขุขันธ์ เวลากลางวันก็มีชาวบ้านแถวนั้นมาคอยดูแลปรนนิบัติรับใช้ท่าน เวลากลางคืนหลวงปู่สรวงก็อยู่ของท่านรูปเดียว บางครั้งท่านก็จะหายไปนานๆ ท่านถึงจะกลับมา
เมื่อมีผู้คนเดินทางไปหาท่านเขาก็จะถาม ร้านตรงที่อยู่ตรงปากทางเข้าบ้านละลม-สะเดา ว่าหลวงปู่อยู่ หรือไม่? ถ้าหลวงปู่สรวงอยู่เขาก็จะบอกว่า ท่านกลับมาแล้วเมื่อคืนนี้ แล้วต่างก็เข้าไปหาท่านที่กระต๊อบเฝ้านา ไม่แห่งใดก็แห่งหนึ่ง ในท้องทุ่งนั้นเคยมีผู้นิมนต์ท่านไปเจิม ร้านวันเปิดร้านทำบุญขึ้นบ้านใหม่ก็มีอย่างปั๊ม ปตท. ปากทางเข้า อำเภอ ขุขันธ์ ที่พวกเราแวะเติมน้ำมันรถและรับประทานอาหารกลางวัน ก็ได้พบรูปหลวงปู่สรวงติดไว้ในร้านทั้งยังมีข้อความใต้ภาพว่า “ หลวงปู่สรวง อายุ 500 ปี จำวัดทั่วจักรวาล” ทางเจ้าของร้านได้นิมนต์หลวงปู่สรวงท่านมาเปิดร้านให้ ปั๊มก็เจริญมาตลอดจนเป็นปั๊มใหญ่ดังที่ได้เห็นอยู่ทุกวันนี้
เรื่อง ของการเปิดป้ายร้านค้า ชาวบ้านผู้หนึ่งที่ได้เฝ้าดูแลหลวงปู่สรวงอยู่เล่าให้ผมฟังว่า มีร้านค้าเปิดใหม่แถวนั้นได้นิมนต์หลวงปู่สรวงเปิดร้าน พอท่านสวดมนต์และฉันอาหารเสร็จท่านก็เดินออกมาหน้าร้านด้านนอกถลกจีวรยืนฉี ที่หน้าร้าน เจ้าของร้านรู้ทันจึงได้เข้าไปเอามือรองฉี่ของท่านสะบัดไปทั่วหน้าร้าน เจ้าของร้านที่เอามือรองฉี่เล่าให้ฟังภายหลังว่าฉี่ของหลวงปู่สรวงแทนที่จะ ร้อนหรืออุ่นๆ ที่มือฉี่ของท่านกลับเย็นเหมือนน้ำแข้งและเมื่อหวยออกงวดนั้น หมายเลขร้านค้า ดังกล่าวตรงกับเลขของหวยที่ออกพอดี หลายคนที่อยู่ในที่นั้นเลยถือโอกาสรวยไปตามๆกัน บางรายได้นิมนต์ท่านสวดมนต์เย็นขึ้นบ้านใหม่ร่วมกับพระสงฆ์ที่มาจากที่อื่น
เมื่อ สวดมนต์เสร็จแล้วหลวงปู่สรวง ท่านจะลุกมาที่กลางบ้านนั่งถ่ายหนักอย่างหน้าตาเฉย ส่วนใหญ่เจ้าของบ้านก็จะรู้ทันรีบเอามือละเลงอึของท่านจนทั่วบ้าน เพราะเขารู้กันว่าอึของท่านไม่เหม็นแต่มีกลิ่นหอมคล้ายๆน้ำผึ้ง พฤติกรรมแปลกของหลวงปู่สรวง บางคนที่ไม่รู้ก็หาว่าท่านบ้าๆบอๆบางคนก็เห็นว่าท่านอยู่เหนือโลก บางคนเล่าให้ฟังอีกว่า ถ้าหลวงปู่สรวง ท่านจะไปไหนในเวลากลางวันท่านก็จะขอโดยสารรถไปดื้อๆ และก็ไม่มีรถคันไหนปฏิเสธท่าน ถ้ารถคันใดปฏิเสธท่านไม่ยอมให้ท่านไป รถคันนั้นก็จะขัดข้องเครื่องยนต์ก็จะดับบ้างติดบ้างหรือไม่ก็ยางแตกขับไปไหน ไม่ได้ ดังนั้นเวลาท่านต้องการที่จะโดยสารรถคันไหนไปจึงไม่มีใครที่จะกล้าปฏิเสธ บางรายก็บอกว่าเมื่อท่านนั่งรถไปแล้วก็จะให้คนขับๆไปเรื่อยๆ ถ้าท่านให้หยุดส่งท่านตรงไหนท่านก็จะลงตรงนั้นแล้วท่านก็จะเดินหายไปเฉยๆ ไม่มีใครรู้ว่าท่านไปทำอะไรที่ไหน บางคนก็บอกว่าท่านกลับไปจำวัดที่กระต๊อบเฝ้านากลางทุ่งละลม-สะเดา แต่บางครั้งท่านก็จะหายไปนานๆ หลายๆวันแต่ก็ไม่มีใครทราบว่าท่านไปไหน จึงมีบางคนที่ถามท่านว่าท่านไปไหน ท่านก็ไม่ตอบ
บทความจาก เว็บพระเครื่อง อิทธิปาฏิหาริย์
http://www.itti-patihan.com/ประวัติ-หลวงปู่สรวง-ออยเตียนสรูล-เทวดาเล่นดิน.html
ความคิดเห็น