คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 9: การเผชิญหน้า
ผมกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย ตอนนั่งบนรถน่ะกลัวแทบตายว่าลิลิธจะโมโหไดแอนน่าแล้วเผลอเผารถ เฮ้อ รอดไปที ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันจันทร์อย่างแจ่มใส เข้าไปอาบ้ำ แปรงฟัน แล้วก็ลงไปชั้นล่าง
“ดีแลน พ่อว่าแกน่าจะมาดูนี่หน่อยนะ” พ่อที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโต๊ะอาหารเรียกผม ท่านเป็นชายวันกลางคน ใส่แว่น ผิวมีสีแทนเช่นเดียวกับผม
“อะไรฮะพ่อ” ผมเดินไปหาท่าน
“ดูนั่นสิ” พ่อชี้ไปที่ทีวี ในจอแก้วนั้นมีแซมซึ่งกำลังถูกสัมภาษณ์อยู่
“อะไรกันเนี่ย” ผมถามพลางไปนั่งตรงข้ามกับพ่อ
“เมื่อคืนมีพวกเอ่อ…ผู้มีพรสวรรค์แบบลูกออกมาปล้นธนาคารล่ะจ้ะ รู้สึกว่าเขาคนนั้นจะพ่นกรดใส่ตู้เก็บเงินหล่ะมั้ง” แม่นำวาฟเฟิลมาเสิร์ฟพร้อมกับนั่งข้างๆพ่อ แม่เป็นคนที่จัดว่าสวย ท่านมีผมสีบลอนด์ที่แล้วก็มีผิวขาวแบบชาวดัชท์ ซึ่งก็คือบรรพบุรุษของท่าน
“อย่างนี้คนทั้งโลกก็รู้เรื่องพวกเราแล้วสิ” ผมมถามพลางหยิบวาฟเฟิลมาใส่จานตัวเอง
“พ่อว่าแกฟังเองดีกว่านะ” พ่อวางหนังสือพิมพ์ลง แล้วเริ่มตักวาฟเฟิล
“ตอนนี้พวกเราขอให้ทุกๆคนใจเย็นๆก่อนนะคะ พวกเราคือผู้ที่มียีนส์ผิดปกติจากเดิม ตอนนี้เรามีสถาบันที่พยามฝึกให้กลุ่มผู้มีพรสวรรค์ได้ใช้พลังของพวกเขาอย่างถูกต้อง เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนมั่นใจได้ค่ะว่าเราจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข” แซมที่อยู่ในจอแก้วกล่าว
“แล้วเรื่องที่มีคนไปปล้นธนาคารเมื่อคืนหล่ะคะ นั่นเรียกสงบสุขด้วยหรืออย่างไรคะ?” นักข่าวคนหนึ่งถาม
“งั้นผมควรทำไงเนี่ย?” ผมหันไปถามแม่ที่เติมกาแฟให้พ่ออยู่
“พ่อว่า ตอนนี้แกอย่าเพิ่งเปิดเผยตัวให้เพื่อนรู้แล้วกัน” พอตอบแทนแม่ พร้อมซดกาแฟ
“เพื่อความปลอดภัยของตัวลูกนะจ๊ะ” แม่เสริม “ที่นี้ลูกเองก็รีบทานเถอะ เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสายเอา”
ผมกินวาฟเฟิลคำสุดท้าย แล้วก็เดินไปหยิบนมกล่องหนึ่งในตู้เย็น จากนั้นก็หันไปลาพ่อกับแม่ แล้วก็เดินไปยังป้ายรถโรงเรียน แต่กลับมีรถแวนสีเงินจอดอยู่แทน กระจกด้านคนขับถูกเลื่อนลง แล้วหน้าของชายผิวสีคล้ำก็หันมาเรียกผม โคลท์นั่นเอง
“ขึ้นมาสิพวก” โคลท์กวักมือเรียก
ผมเดินไปเปิดประตูหลังแล้วขึ้นไปในรถ แต่ก่อนจะได้เลือกที่นั่งก็โดนไดแอนน่าที่นั่งอยู่แถวแรกดึงไปนั่งด้วย ในรถมีลิลิธ แอล เซบาสเตียน เจค ชายที่นั่งข้างๆโคลท์แล้วก็ไดแอนน่าอยู่
“หวัดดีจ้ะ ดีแลน” ไดแอนน่าทักผม วันนี้เธอใส่ชุดเชียร์ตามปกติ เพียงแต่มัดผมหางม้าแทนที่จะปล่อยไว้ตามปกติ
“ออกรถเถอะโคลท์ เดี๋ยวฉันจะอ้วกซะก่อน” แอลซึ่งนั่งข้างหลังผมตะโกนบอกโคลท์
รถเริ่มแล่นออก แล้วผู้ชายมีเคราที่นั่งอยู่ข้างๆโคลท์ก็หันมาทางผม “ฉันชื่อโอลิเวอร์นะ ขอแนะนำตัวแค่นี้พอ ต่อไปนี้พวกนายทุกคนต้องขึ้นรถคันนี้ไปโรงเรียน เพราะหากเรามีการนัดหมายต่างๆจะได้ทำได้ง่าย” เขาเป็นคนผิวออกคล้ำนิดๆ มีตาสีเขียว ไว้ผมทรงจอห์น ทราโวลต้าซะด้วย
“แล้วจูดิธไม่ได้มาด้วยหรอ?” ผมถามเขา
“ไม่ เธอได้รับทุนจากโรงเรียนเอกชนชื่อดังไปแล้ว” เขาตอบก่อนที่จะหันหน้ากลับไป
“รู้รึยังดีแลน นายต้องเข้าชมรมฮีโร่ในตอนเย็นนะ” เจคที่นังอยู่กับเซบาสเตียนแถวหลังสุดบอกผม
“อะไรนะ ฉันมีคลับฟุตบอลแล้วนี่” ผมบอกเขา
“นายต้องเข้าคลับนี้ พ่อนายก็ยินยอมแล้วด้วย” โอลิเวอร์เสริม
ทำไมคนพวกนี้ชอบติดต่อกับครอบครัวคนอื่นโดยไม่บอกเรากันนักหนาเนี่ย แล้วถ้าผมออกจากคลับฟุตบอล ผมก็ต้องปิ๋วจากทีมน่ะสิ อย่างนี้ผมก็จะไม่มีใครมามองแล้ว ทำไงดีเนี่ย
“หนูก็มีซ้อมทีมเชียร์นะคะ หนูไม่ยอมแน่” ไดแอนน่าแย้งบ้าง
“ใจเย็นก่อนย่ะ คลับของเราน่ะ เริ่มหลังคลับอื่นๆ ซึ่งก็หมายความว่าหล่อนสามารถที่จะไปกรี๊ดกร๊าดกับพวกสาวเชียร์ได้ตามสบาย ส่วนนาย ดีแลนคลับของนายน่ะเลื่อนเวลาไปซ้อมตอนสามโมงแทนแล้ว ซึ่งก็หมายความว่านายมีเวลามาหลังจากเข้าคลับนั่น” ลิลิธที่นั่งอยู่ข้างแอลบ่นไม่หยุด
“แล้วตั้งคลับกันแบบนี้ทางโรงเรียนก็รู้นะสิว่าเราเป็นพวกผู้มีพรสวรรค์” แอลต่อ
“ไม่ต้องห่วง” โอลิเวอร์กล่าว “คลับนี้น่ะเราลงทะเบียนไปว่ากิจกรรมหลักคือบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งพวกนายก็อาจจะต้องทำกันอย่างน้อยเดือนละสองครั้งเพื่อให้ความไม่แตก”
“อย่างเก็บขยะเนี่ยนะ” เซบาสเตียนถาม
“ใช่ เอาล่ะถึงโรงเรียนแล้ว ลงไปได้” โอลิเวอร์ไล่ก่อนที่รถจะจอด แล้วพวกเราก็ทยอยกันลง
ทุกคนแยกย้ายกันไปเรียน จากนั้นก็ถึงเวลาพักกลางวัน ผมเดินไปที่โรงอาหาร เด็กทุกคนง่วนอยู่กับการตักอาหาร บ้างก็เริ่มไปนั่งคุยกันแล้ว แล้วพอผมกวาดสายตาไปก็เจอแอลนั่งอยู่ที่โต๊ะหลังสุดคนเดียว ก็เลยเดินไปนั่งเป็นเพื่อน
“เฮ้ คนอื่นๆล่ะ” ผมถามแฃ้วก็ไปนั่งตรงข้ามเธอ
“ลิลิธไปตักอาหารน่ะ ส่วนคนอื่นๆยังไม่เห็น” หน้าเธอดูแดงขึ้น แล้วเธอก็เอาแต่ก้มหน้า ผมว่าผมรู้นะว่าเธอเป็นอะไรอยู่
“ขอโทษแทนไดแอนน่าด้วยนะ ที่เขาชอบหาเรื่องเธอน่ะ” ผมเริ่มจ้องตาแอล
“อ่ะ…อื้อ ว่าแต่นายรู้ไดยังไงล่ะ”
“ก็เขามาบอกฉันทุกวันเลยนี่ ว่าเธอน่ะ ไปหาเรื่องเค้าอย่างโน้นอย่างนี้” ผมตอบพลางยืนมือไปจับมือเธอ “แต่ฉันไม่คิดหรอกนะว่าเธอน่ะจะเป็นอย่างนั้น”
จริงแล้ว ผมว่าผมก็มีความรู้สึกดีๆกับแอลเหมือนกัน แต่ทำอย่างนี้ไป มันไม่น่าจะใช่ความคิดที่ดี ผมกำลังปล่อยมือเธอออก ในตอนที่ไดแอนน่ากับพรรคพวกทีมเชียร์เดินมาพอดี
ความคิดเห็น