ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เปิดแฟ้มตำนานช็อก

    ลำดับตอนที่ #22 : เจ้าพ่อเจ้าแม่

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 49


               
    เจ้าพ่อเจ้าแม่เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน บางทีหมดหนทางเข้าไม่รู้จะไ ปพึ่งใครให้ช่วยดีก็อาศัยเป็นสรณะเพราะอย่างน้อยคงช่วยทำให้จิตใจสบายขึ้น เป็นเรื่องของความเชื่อแต่จะบวกกับความงมงายเข้าไปด้วยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล

    ประวัติความเป็นมา
    เจ้าพ่อเจ้าแม่มีอยู่หลายระดับ บ้างเป็นเพียงดวงวิญญาณธรรมดาที่มาเข้าสิงหรือประทับในร่างทรงแต่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าโดยเฉพาะเลขท้ายและยัง ช่วยปัดเป่าทุกข์ร้อนให้ได้ชาวบ้านจึงต่างให้การยอมรับนับถือ จุดสำคัญมันน่าจะอยู่ตรงนี้แหละถ้าสงเคราะห์ชาวบ้านได้ก็จะได้รับการยกย่องให้เป็นเจ้าพ่อเจ้าแ ม่และมีความศักดิ์สิทธิ์ระดับเดียวกับเทพเจ้าแม้จะเป็นเพียงผีธรรมดาเจ้าพ่อเจ้าแม่บางองค์เป็นเทพก็มี เช่น มีร่างทรงหรือการเข้าทรงของพระอิศวร พระศิวะ หรือ พระนารายณ์ เจ้าแม่รัศมี เจ้าแม่กาลี เจ้าแม่กวนอิม ฯลฯ และเทพองค์อื่นๆ บางร่างก็มีทหารเอกของพระนารายณ์มาประทับ เช่น เจ้าพ่อหนุมาน เจ้าพ่ อเฮ่งเจีย เป็นต้น ( เจ้าพ่อเฮ่งเจียแม้ไม่ใช่ทหารเอกพระนารายณ์ แต่ก็ถือเป็นทหารเอกระดับแนวหน้าเกรดเดียวกับหนุมาน ) นอกจากนี้ บางร่างทรงยังมีดวงวิ ญญาณของผู้ที่เป็นวีรบุรุษวีรสตรีในอดีต เมื่อตายไปแล้วมีคนเคารพนับถือสร้างศาลอนุสาวรีย์เอาไว้กราบไหว้บูชา ก็ยังอุตสาห์มีผู้เชิญดวงวิญญาณมาประทับ เ รียกว่าใช้กันให้คุ้มไปเลย ตอนมีชีวิตอยู่ก็คอยปกป้องประเทศชาติ ขนาดตายไปแล้วยังเชิญมาให้ช่วยเหลือปัดเป่าโศกโรคภัย ดูแลความปลอดภัยขอความคุ้มครอง และขอไปขอมาก็อดที่จะขอหวยหรือเลขเด็ดไม่ได้ซะที เอากะเขาซิ

    ลักษณะของการประทับร่างทรง
    เนื่องจากเจ้าพ่อเจ้าแม่มีอยู่หลายระดับหรือหลายฝ่าย ถ้าเป็นดวงวิญญาณของภูติผีธรรมดาซึ่งมีอิทธิฤทธิ์หรือสำเร็จวิชาให้หวยบอกเลขเด็ด คือจบการศึกษาฝ่า ยโลกวิญญาณสูงกว่าบรรดาผีๆโดยทั่วไปผู้ที่เป็นร่างทรงก็จะแค่สั่นเทาหรือสั่นเทิ้มไปทั้งตัวเมื่อเวลาที่ดวงวิญญาณซึ่งอัญเชิญตามพิธีกรรมเริ่มมาเข้าร่าง ตอนที่ วิญญาณเข้าร่างเรียบร้อยแล้วบางทีร่างทรงก็ยังคงสั่นเทาหรือส่ายหัวอยู่ตลอดเวลาแต่บางองค์หรือบางร่างทรงสั่นเฉพาะตอนจะเข้าและตอนจะออกเท่านั้น เมื่อเ ข้าแล้วจะนั่งพูดคุยเหมือนคนปกติไม่ต้องสั่นเมื่อเข้าแล้วคราวนี้บทบาทและลีลาจะแตกต่างกันออกไป ถ้าเป็นผู้ชายจะมีเสียงเข้ม สูบบุหรี่จัดบางทีจุดคราวหนึ่ง 5-10 มวนสามารถสูบได้พร้อมกันพ่นควันโขมง หากเป็นผู้หญิงอาจจะมีเสียงนุ่มไพเราะพูดยานๆ เวลาพูดก็จะเอนตัวไปมาเหมือนคนเมาเหล้า ถ้าเป็นผีผู้มีอายุ ก็จะเสียงเหมือนคนแก่นั่นแหละ สำหรับการทรงเจ้านั้น ส่วนใหญ่จะทำกันในเฉพาะช่วงเทศกาลที่สำคัญๆ มีการแสดงอภินิหารต่างๆ เช่น ใช้เหล็กแหลมแทงแก้ มจนทะลุ ตัดลิ้น เดินขึ้นบันไดซึ่งแต่ละขั้นวางดาบคมกริบหงายรอรับฝ่าเท้าไว้ โดยร่างทรงจะไม่ถูกบาดหรือได้รับบาดเจ็บ จนถึงขั้นลุยไฟ ฯลฯ มีการแห่แหนกั ยไปทั่วเมืองแบบนี้บางทีไม่ได้เรียกว่าเป็นการประทับทรงเจ้าพ่อเจ้าแม่ เพราะเป็นการเชิญเทพเจ้ามาประทับในวันปกติไม่ใช่ช่วงเทศกาล จะมาจริงหรือไม่จริงก็ยากที่จะพิสูจน์
    ส่วนการทรงประเภทเจ้าพ่อเฮ่งเจีย เจ้าพ่อมังกรทองหรือกิเลนทอง หรือ เจ้าพ่อหนุมาน เวลาดวงวิญญาณมาประทับ ผู้ที่เป็นร่างทรงอาจกระโดดโลดเต้นตีลังกา ทำท่าลุกลี้ลุกลน หรือรู้สึกคันเกายุกยิกๆไปทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะเจ้าพ่อเฮ่งเจียกับเจ้าพ่อหนุมานเพราะเป็นลิงทั้งสัญชาติและเชื้อชาติหากเป็นเด็กหรือมีผีเด็กมรเ ข้าประทับร่างทรง จะไม่เรียกว่าเจ้าพ่อเจ้าแม่ แต่เรียกว่าทรงกุมาร เช่น กุมารทองหรือรัก-ยม แต่ยังไม่เคยมีผีเกย์หรือตุ๊ดแต๋วมาเข้าประทับร่างทรงก็เลยไม่รู้ว่า จะเรียกชื่ออย่างไรและมีลักษณะการเข้าประทับร่างแบบไหนเหมือนกัน

    อิทธิฤทธิ์ของเจ้าพ่อเจ้าแม่และเทพเจ้าที่มาประทับทรง
    แต่ละองค์จะมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์แตกต่างกันไป หากเป็นร่างทรงเจ้าพ่อเจ้าแม่ ธรรมดา จะเน้นไปทางใบ้หวยบอกเลขเด็ดและรักษาโรคด้วยวิธีทางไสยศาสตร์ เช่น บางคนเจ็บป่วยไปไม่สบายโดนผีเข้าหรือถูกกระทำด้วยวิชาทางฝ่ายมนต์ดำ ไม่ว่าจะเป็น โดนคุณไสย์ โดนเสกของเข้าท้อง หรืออื่นๆ เจ้าพ่อเจ้าแม่ก็จะสามารถปัดเป่าถอนคุณไสย์ให้ได้ ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละองค์เหมือนกั นเพราะอาจมีความถนัดเฉพาะตัวหรือแล้วแต่สาขาที่ได้รับปริญญามา ยกเว้นวิชาในหลักสูตรที่ทุกองค์จะต้องเชี่ยวชาญเพราะต้องใช้ประกอบอาชีพ ได้แก่การใ ห้หวยหรือบอกเลขเด็ดและทำนายโชคชะตาราศี ซึ่งไม่ว่าเจ้าพ่อเจ้าเจ้าแม่หรือเจ้าระดับไหนก็แล้วแต่สามารถทำได้ทุกองค์องค์ไหนแม่นมากก็มีคนให้ความเคารพนับถือและขึ้นมาก
    สำหรับร่างทรงประเภทเทพเจ้าทั้งหลายซึ่งมาประทับเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญ จะเน้นหนักไปทางแสดงอภินิหารอย่างที่กล่าวไว้แล้ว นอกจากนั้นข้าว ของที่นำมาถวายเทพเจ้าในวันทำพิธีเซ่นไหว้หรือนำไปบวงสรวงที่ศาลผู้ดูแลจะคืนให้ส่วนหนึ่ง เพื่อนำไปบูชาหรือให้คนในครอบครัวกินถือว่าเป็นสิริมงคล แต่ หากเป็นการนำไปถวายร่างทรงประเภทเจ้าพ่อเจ้าแม่ตามตำหนักหรือตามบ้านที่ซึ่งผู้เป็นร่างทรงพักอาศัยและใช้ทำพิธีทำมาหากินเป็นอาชีพหลัก มักจะไม่ค่อ ยได้คืน แถมยังต้องเสียค่ายกครูสำหรับคนทรงหรือร่างทรงอีกต่างหากส่วนใหญ่ในวันพระร่างทรงประเภทนี้มักถือวันหยุดประจำสัปดาห์หรือวันที่ต้องงดเว้นการเชิญวิญญาณเจ้าพ่อเจ้าแม่เพื่อให้ท่านได้พักผ่อน

    เครื่องเซ่นสังเวย
    ลูกช้าง เป็นคำเรียกตัวเองของผู้ที่ไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าพ่อเจ้าแม่ โดยมากจะไม่ไปมือเปล่าแต่มีดอกไม้ธูป เทียนซึ่งอาจรวมทั้งเงินค่ายกครูหรือค่าบูชา และอาหารหวานคาวไปเป็นเครื่องเซ่นสังเวยด้วย และเมื่อได้รับความช่วยเหลือจนสำเร็จสมประสงค์แล้ว ก็ต้องนำเครื่องบูชามาถวายอีกเช่นกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคำ สัญญาหรือคำบนบานศาลกล่าวที่บอกไว้กับเจ้าพ่อเจ้าแม่องค์นั้นๆ มีผู้กล่าวไว้ว่า "ยิ่งความเจริญด้านวัตถุสูงมากขึ้นเท่าใด จิตใจคนก็ยิ่งตกต่ำเหมือนดำดิน เมื่อสัง คมเปลี่ยนไป คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น เอารัดเอาเปรียบกันมากขึ้น บูชาเงินเหนือสิ่งอื่นใด คนรวยก็รวยล้นฟ้าจนไม่รู้ว่าตัวเองมีทรัพย์สินอยู่สักเท่าไหร่กันแน่แต่คน จนก็ขาดแคลนไปซะทุกสิ่งไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรกิน ด้วยเหตุนี้จิตใจจึงเกิดความว้าวุ่นสับสน ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครก็ต้องยึดถือเจ้าพ่อเจ้าแม่และสิ่งศักดิ์สิท ธิ์เป็นสรณะ อย่างน้อยก็ช่วยให้สบายอกสบายใจขึ้นมาได้บ้างว่าไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวถูกทอดทิ้งไร้คนเหลียวแลเลยซะทีเดียว เพระมีบรรดาเหล่าเจ้าพ่อเจ้าแ ม่ผู้เรืองอิทธิฤทธิ์ทั้งหลายคอยให้ความคุ้มครองและช่วยเหลือ"

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×