ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนแก่ท้าพระเจ้า

    ลำดับตอนที่ #6 : ทำลายรถบรรทุก

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 53


    ตอนที่ 6 ทำลายรถบรรทุก
         การหลับของเบลดนั้นสนิทแต่ทว่าเบลดกลับฝันแปลกๆ   เบลดตื่นขึ้นมาในที่ที่เป็นห้องเล็กๆที่เป็นสี่เหลี่ยม   ผนังนั้นดูเรียบง่ายอย่างมากเพราะทาด้วยสีขาวที่ดูจืดชืดที่สุด   เต็มห้องมีลูกบอลสีขาวที่มีคำว่า โง่    กองอยู่จำนวนมาก ไม่มีคำว่า ฉลาด อยู่สักที่เดียว   นอกนั้นเป็นโง่ทั้งหมด   ทั้งภาษาใต้ ภาษาเหนือ ภาษาลาว ภาษาคนบ้า ภาษาคนเต่าหอม และอีกมากมาย   เบลดตะลึงที่เห็นสมองตัวเองที่มีแต่ตัวโง่   ทำให้อยากฆ่าตัวตาย   ก่อนที่เบลดจะทำได้นั้น
         ข้าหาตัวเจ้าเจอแล้วเบลด เสียงนั้นออกมาจากลำโพง stereo รุ่นเสียงชัด เสียงแจ๋ว สไตล์คนแก่   ทำให้เหมือนเสียงจากสถานที่จริง   เป็นรุ่นที่แพงมาก   เครื่องนี้เบลดอยากได้มานานแล้ว
         ข้าจะทำให้เจ้าเป็นที่หนึ่งของโลกให้ได้   ข้าจะมอบความรู้ ความสามารถ ความคิดให้   ถ้าเจ้าอยากได้ก็พูด อยากได้ ถ้าไม่อยากได้ก็พูด ไม่อยากได้ เสียงนั้นพูดเหมือนสอนเด็กอนุบาลพูด
         แต่เบลดกลับไม่ได้ฟังและฉุนแทน เฮ้ย เจ้าอยู่ที่ไหน   แอบใช้ลำโพงสุดโปรดของข้าห๊ะ   ของหวงน่ะเฟ้ย   อยากได้มานาน เบลดด่าทั้งๆที่ลำโพงเป็นของที่เบลดคิดตลอดเวลาจึงได้มาอยู่ในสมอง
         พอก็ได้ ไม่เล่นลำโพงแล้ว ชายหนุ่มไม่มีหน้าเดินออกมา   หน้าเป็นเงาตลอด
         มีตัวบ้าอะไรอย่างนี้ในจิตใจข้าด้วยเรอะ เบลดตะโกน ออกไป หน้าไม่หล่อ
         ข้าน่ะ มาเสนอข้อเสนอพิเศษ ชายผู้นั้นพูด
         หน้าไม่หล่อเหมือนพี่เบิร์ด ดาราขวัญใจข้า   ออกไป เบลดด่าแล้วหยิบคำว่าโง่โยนใส่
         โอเค โอเค เปลี่ยนหน้าก็ได้ ชายผุ้นั้นเปลี่ยนหน้าเป็น Mr.Bean
       “โฮ้ Mr.Bean ขวัญใจทางด้านความโง่ของข้าเลยล่ะ เบลดพูดแล้วเข้าไปกอด
         ข้าน่ะคือ เรเซอร์ เป็นความมือในตัวเจ้าไงล่ะ   ข้าน่ะเป็นความมืดที่มีชีวิตไงล่ะแต่ข้าน่ะคนละระดับกับพวกผู้พิทักษ์ของเจ้า   ข้าไม่ใช่ความมืดธรรมดาเพราะข้าไม่ได้เกิดมาจากความมืดทั่วไป   แต่เกิดมาจากความมืดในจิตใจคน (หรือความชั่วนั่นเอง)   ข้าเพิ่งเกิดมาได้เพราะเจ้าพบกับเจ๊นั่นแหละ   เด็กสาวคนนั้นแผ่รังสีความมืดในหัวใจออกมาตลอดเวลาและเจ้าก็ได้อยู่ใกล้มันมานานพอสมควรแล้ว   ข้าจึงได้เกิดมาในล่ะ   และข้าก็เป็นความมืดในหัวใจอยู่แล้วจึงอาศัยอยู่ในจิตใจเจ้าด้วยไงเล่า เรเซอร์เล่าให้ฟังแต่เบลดก็ตามเคย หลับในสมองตัวเอง
         “ถ้าเจ้าเสียการควบคุมจิตใจ   ข้าก็จะใช้ได้นะ เรเซอร์ยิ้มอย่างช่วยร้ายแล้วจัดการควบคุมสมองของเบลดทันที   ทันทีที่ยึดครองร่างได้   ลูกบอลความโง่ก็หายไปเกือบหมดและลูกบอลความฉลาดหล่นโครมลงมาแทนจากหลังคาสมอง   แล้วเรเซอร์ก็ตื่นขึ้นมาจากร่างเบลด
         เรเซอร์ยึดครองร่างและขยับเขยื้อนได้อย่างราบรื่นดี   แต่แล้วเรเซอร์ก็ถูกฉุดกลับไป   เพราะว่าในสมอง   ลูกบอลความฉลาดหล่นลงมาแล้วทับเบลดจนตื่น   เบลดจึงออกมาได้ใหม่   จิตใจเบลดนั้นชินกับร่างมากจึงฉุดเรเซอร์กลับไปได้อย่างง่ายดาย
         ในสมองอีกรอบ   เบลดโกรธเรเซอร์มากที่ชิงร่างไป   เลยท้าต่อย   แต่ก็เละไม่เป็นถ้าตามเคย   ตอนที่สะดุดขาตัวเองล้มนั้น   หัวได้ไปชนลูกบอล ฉลาดเข้า   เบลดจึงเกิดความคิดขึ้นมาแค่เสี้ยววินาทีหนึ่งแต่ก็จดจำเอาไว้ได้   จงออกมา   กองกำลังปู่บัง เบลดจินตการณ์   แล้วปู่บังจำนวนนับไม่ถ้วนก็ทะลักออกมาจากที่ไหนไม่รู้มากระทืบเรเซอร์ตามที่เบลดจินตการณ์ไว้
         ฮ่า ฮ่า สู้ในสมองข้าน่ะ   ไม่มีทางชนะได้หรอกนะ เบลดหัวเราะเยอะ
         แพ้แล้ว   ยอมก็ได้ เรเซอร์ยอมแพ้อย่างง่ายๆ   เบลดจึงกระโดดออกจากสมอง
         ......................................................................
         เบลด ตื่นเร็ว มาดูนี่ เจ๊บอกให้ดู
         ความเหม็นนั้นโชยมาก่อน   เบลดหันไปมองตามที่เจ๊ชี้   มันคืออะไรก้อนเนี้ออะไรถูกเสียบอยู่บนไม้ราดน้ำแดงอย่างเยอะ   แต่ดูไม่น่ากิน   นั่นมันไม้บาบิคิวยักษ์เหรอ เบลดถาม
         ศพยามตะหากเล่า   คนที่จะทรยศหรือบอกความจริงของเมืองนี้ให้คนนอกฟังน่ะ   โดนเสียบประจานอย่างนี้แหละ   และที่นี่คือหน้าบ้านฉันเอง
         ดูๆแล้ว   หน้าบ้านเจ๊ที่ใหญ่มหึมาจนเรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์นั้น   รั้วเหล็กที่สูงตระง่านประมาณ 10 เมตรได้   ตรงยอดจะแหลมคมเพื่อเอาไว้เสียบประจานและป้องกันคนปีนข้าม   ทางเข้านั้นมีอยู่แค่ช่องเดียวคือประตูหน้า   ขนาดที่รถบรรทุกคันหนึ่งจะเข้าออกได้อย่างสะดวก   ยามสองคนนั่งอยู่ในรถบรรทุกเฝ้ายามอยู่   ในสวนนั้นเป็นกองศพที่เก่าเกินไปที่จะโชว์หน้ารั้วแล้ว (เป็นกระดูกไปแล้ว ไม่เหม็น ไม่อุบาทว์เท่า) ก็เอาไปกองรวมกันเพื่อไว้ดูสถิติเฉยๆ   นอกนั้นก็ดูเหมือนบ้านธรรมดาที่สวนสวยแค่เต็มไปด้วยศพ
         เบลดเดินเข้าไปหายามตรงๆ
         มีธุระอะไร ยามหน้าโหดที่อยู่ในรถบรรทุกถามอย่างเสียงดัง
         ขอพบหัวหน้าองค์กรณ์รถบรรทุกหน่อย ปู่บังพูดตรงๆ
         หัวหน้าหลับอยู่   มาตอนเช้าแทนไม่ได้เหรอ   ด่วนจริงๆเหรอ ยามถาม
         ด่วนสิ   จะมาฆ่ามันไงล่ะ เบลดพูดตรงกว่า
         และทำลายรถบรรทุก เจ๊พูดตรงที่สุด
         เย้ ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว   ถึงเวลาที่รถบรรทุกจะเปลี่ยนหัวหน้าใหม่สักที   แล้วเราจะเป็นคนดีกัน   งั้นเข้าไปได้เลย   ข้ากับเพื่อนจะคอยเชียร์พวกเจ้า   และหนูเจ๊สู้เค้านะ ยามตะโกน
         เงียบฉี่................ ครอก...ฟี้ หัวหน้ารถบรรทุกยังกรนอยู่แสดงว่าไม่เป็นไร
         และทุกคนก็เข้ามาในบ้านเจ๊ซึ่งยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าสำนักงานทั่วไปซะอีก   เจ๊บอกว่าเป็นเงินที่เอามาจากค่าคุ้มครองจากคนทั้งเมืองนี้น่ะ   จะหลงไหมเนี่ย ปู่บังพูดลอยๆเพราะเห็นความยิ่งใหญ่ของบ้าน   แต่อยู่ๆก็มีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น   ยามพวกนั้นกดเหรอเนี่ย ปู่บังถามตัวเอง
         ยามข้างนอกได้ยินสัญญาณเตือนภัยก็งง ใครกดวะ คนที่ 1 พูด ไม่รู้ คนที่ 2 ตอบ
         ด้านปู่บังก็งงกันอยู่   เจ๊หันไปดูรอบๆแล้วก็พบว่าสิ่งหนึ่งผิดปกติ
         เบลดหายไปไหนน่ะ เจ๊ถาม
         ทางนู้น ปู่บังชี้นิ้วไปที่ห้องน้ำผู้หญิง
         เฮือก! ห้องน้ำของแม่ เจ๊เอามือปิดปากเพราะตกใจ   แล้วซักพักเบลดก็เดินออกมา
         ไปขี้มาแล้วใช่ไหม เจ๊ตะโกนถาม   ใช่ เบลดตอบเสียงโง่ๆ
         กดชักโครกรึเปล่า เจ๊ถามอีก   อึ๊ย! ลืมกด เบลดตอบ
         รู้แล้ว! นั่นคือสัญญาณเตือนภัยสำหรับกันลืมกดชักโครก เจ๊พูด   แต่แล้วเสียงกระทืบเท้าเสียงดังจนเหมือนเสียงเท้าช้างก็ลงมาจากบันไดชั้น 2   ทุกคนหันไปมองที่ผู้หญิงอ้วนคนที่มาแนะนำว่าเมืองนี้เป็นเมืองแห่งความสนุกสนานให้พวกเบลดฟัง
         ใครแอบเข้าห้องน้ำแล้วไม่กดชักโครกฟะ แม่เจ๊ตะโกนถาม   เสียงกึกก้องทั่วบ้านที่ปกติเสียงจะสะท้านอยู่แล้ว   ทำให้เหมือนสเตอริโอที่เบลดชอบ
         ผมเองครับ เบลดตอบ   ไปกดเดี๋ยวนี้ มันเหม็นรู้ไหม แม่เจ๊พูด
         ไปกดแล้วนะคร้าบ เบลดตอบแบบกวนๆ   รีบๆไปซิวะมันเหม็นเบลดเดินอย่างช้าๆ (สไตล์คนแก่) ไปกดชักโครก เร็วดิวะ แม่เจ๊เดินลงมาด้วยท่าทางโกรธมากแล้ววิ่งชาร์ตมากระโดดถีบเบลดลอบเข้าห้องน้ำ   ผ้าห่ม หมอน และหมอนข้างมารับเบลดไว้ได้ทัน
         โฮ่ เจอคนพลังแก็งค์ไก่อ่อนแล้ว   แล้วแกด้วยจานิเตอร์มานี่   มาโดนลงโทษโดยการโดนรถบรรทุกแม่ชนอัดผนัง 50 ครั้งเดี๋ยวนี้นะ แม่สั่ง
         เรื่องไรเล่า   เจ๊! อย่าไปฟังแม่   พี่จะปกป้องเอง ปู่บังพูดเสียงหล่อ
         ไม่เป็นไรหรอก คุณปู่   แค่นี้เบาะๆ   ปกติโดนวันละพันครั้งอยู่แล้ว เจ๊พูด
         ใช่คนเปล่าวะ ปู่บังพึมพำ
         พลังแห่งสิ่งนี้ไงเล่า เจ๊พูดแล้วโชว์สร้อยรูปเสือยี่ห้อ Esso ให้ดู
         มันมีขายด้วยเหรอ   อยากได้ อยากได้ ซื้อต่อโรตีร้อยอัน ปู่บังขอซื้อ
         ไม่ขายหรอก   มันเป็นของที่ฉันขโมยมาจากแม่น่ะ เจ๊ตอบ   แม่โมโหขึ้นมาทันที
         เมื่อไหร่วะ   ไอ้ลูกเลว แม่พูด เพิ่มเป็น 200 ครั้งเลย
         คิดจะทำร้ายลูกตัวเองเหรอ   ฝันไปเถอะ เบลดลุกขึ้นมาตะโกนอย่างเท่
         คนที่ควรฝันน่ะพวกแกตั้งหาก แม่พูดแล้วกระโดดถีบใส่พื้น   จนพื้นแตก   และทั้งบ้านสั่นสะเทือน   ถึงเวลาจัดการทำลายบ้านนี้แล้ว แม่กระโดดซ้ำอีกทีจนหลังคาถล่มลงมาทับทุกคน   พวกเบลดเข้ามาใช้เกราะพลาสมาของมอไซด์   ยอดมากไอ้แก่ทั้งหลาย   แต่พวกแกไม่มีทางชนะข้าหรอก แม่ยิ้มอย่างโหดไปต่อยหลังคาที่หล่นลงมาใส่ไป   ด่าตัวเองเหรอ ปู่บังเยอะเย้ย
         เบลดวิ่งเข้าไปทั้งที่หลังคายังหล่นไม่หมด   และส่วนหนึ่งก็หล่นลงมาที่เบลดพอดี   ชุดเครื่องนอนกระโดดเข้าไปช่วยโดยผลักเบลดออกไปจากทางเหมือนในการ์ตูนทั่วไปและก็ถูกทับซะเองแต่ชุดเครื่องนอนนั้นนุ่มเลยไม่เป็นไร   ไอ้งี่เง่า แล้วด่าใส่เบลด
         เบลดกระหายการต่อสู้มานานเพราะอยากโชว์ออฟสุดๆ   วิ่งเข้าไปหาแม่ต่อ   แม่เห็นเบลดวิ่งมาแต่ไกลอย่างช้าๆ   ก็วิ่งชาร์ตเข้าไป   เบลดสั่งผู้พิทักษ์ที่เหลือมาป้องกันไว้แต่ก็ถูกซัดไปหมดด้วยหมัดของแม่ที่รุนแรงจนเห็นเป็นคลื่นอากาศเลย   เศษแก้วที่มีจำนวนมากก็ยังลอยไปมาอยู่แต่ก็ถูกซัดไปด้วยหมัดอากาศของแม่   เบลดวิ่งหนี (อย่างช้าๆ)   ปู่บังกระโดดออกมาช่วยกันไว้ด้วยโรตีสูตรกาวตราช้างที่แห้งแล้วจะแข๊งมาก   แต่มันยังไม่แห้งเพราะเพิ่งทำ   เบลดหนีออกมาได้สำเหร็จ   แม่มือติดอยู่ในแป้ง   ปู่บังเอาแป้งกาวตราช้างให้คลุมมือแม่แล้วก็หยิบแป้งมีดออกมาจะเสียบแม่   แต่ทันใดนั้นมืออีกข้างก็หวดมาอย่างเร็วเข้าหน้าปู่บังจังๆทำให้ปลิวไปไกล
         พลังของแกคืออะไรกันแน่ ปุ่บังตะโกนถาม   ถุยเลือดจากที่ปากแตก
         หมัดโมเมนตัม   ในถุงมือและถุงเท้าสีดำนี้มีมอเตอร์ซ่อนอยู่   และมันไม่ใช่มอเตอร์อะไรด้วยนะ   มันคือมอเตอร์ที่รถบรรทุกใช้กันแต่นี่มันรุ่นใหม่เลยเล็กกว่าและแรงกว่า   ข้าใส่น้ำหนักไว้ตรงกลางตัวข้า   และข้าจะให้น้ำหนักกลิ้งไปที่ด้านใดด้านหนึ่งก็ได้   ทำให้ด้านนั้นหนักขึ้นมากและกลายเป็นหมัดแห่งพลัง   อีกด้านที่ไม่มีน้ำหนักอย่างเลยก็จะกลายเป็นหมัดเร็วน่ะสิ   ส่วนขา   ข้าใส่ไว้เท่าๆกันทั้งสองข้าง แม่อธิบาย
       
        เจ๊ขับมอไซด์ไปรับปู่บังเพื่อจะให้วิ่งหนีแม่ที่วิ่งมาเพราะปู่บังโจมตีเร็วอย่างเดียว   วิ่งไม่เร็ว   ปู่บังกระโดดขึ้นบนมอไซด์และระหว่างที่ขับหนีแม่ก็กระซิบกับเจ๊   แม่วิ่งตามไม่ทัน   แต่แม่ก็เปิดเครื่องยนต์ที่เท้าทำให้วิ่งมาอย่างรวดเร็วจนตามมอไซด์ทันอย่างง่ายๆ   เจ๊เห็นอย่างชัดเจนเพราะเคยสู้กับแม่มาแล้วขับหลบอย่างฉิวเฉียด   แต่เพราะฉิวเฉียดนั่นแหละที่ทำให้แม่หยุดไม่ทันและวิ่งไปชนกับกำแพงอิฐ   แต่แม่ใช้หมัดโมเมนตัมต่อยเข้าไปเลยแล้ววิ่งไปต่อ

         ถึงรถบรรทุกจะเร็วเท่ามอไซด์ขนาดไหน   วงล้อก็ยังใหญ่อยู่ดี   เลี้ยวไม่ได้ดีเท่าสักนิวเดียว   นี่แหละจุดอ่อนของรถบรรทุกที่มอไซด์ได้เปรียบที่สุด เจ๊บ่นให้แม่ฟัง

         หนอย   อย่างน้อยมอไซด์ก็วิ่งชนทุกอย่างที่ขวางหน้าไม่ได้หรอกแม่สั่งสอนกลับ

         เจ๊ที่ฟังปู่บังเรียบร้อยแล้วก็เข้าใจแผนดี   แล้วขับมอไซด์หนีเข้าไปในสวนที่ใหญ่และมืด   ปล่อยให้เบลดยืนโง่อยู่คนเดียวกับผู้พิทักษ์   อย่าหนี แม่ตะโกนและวิ่งด้วยเทอร์โบตาม   เบลดเห็นแม่ที่หันหลังให้ก็เดินตามแม่ไปเพื่อจะไปตลบหลังแต่ทุกคนปล่อยเบลดไว้ไกลลิบลิ่วแล้ว

         ด้านเจ๊ คิดว่านี่จะสำเร็จไหม ปู่บังถาม น่าจะ เจ๊ยิ้มแบบไม่มั่นใจ   ทั้งสองนั่งหลบอยู่หลังต้นไม้ในสวน   แล้วเสียงเครื่องยนต์แม่ก็มา   ทั้งสองโยนถังใส่น้ำใส่แม่ตรงๆขณะที่แม่กำลังหันซ้ายขวาอยู่   แม่มึนไปซักพักแต่ก็พอที่ปู่บังจะใช้แป้งเชือกที่เหนียวที่สุดมารัดตัวแม่ไว้   เชือกนั้นติดอยู่กับมอไซด์อยู่แล้ว   เชือกนั้นความจริงสั้นนิดเดียว   แค่ครึ่งเมตรได้แล้วทั้งสองคนก็ขึ้นมอไซด์แล้วเปิดเทอร์โบขั้นสูงสุด   แล้วขับไปอย่างเร็ว   แม่หันไปมองถังใส่น้ำ   มันเขียนว่า น้ำมันเครื่องรสชาติสตอเบอรรี่แล้วดมตัวเอง เหม็นใช้ได้ แล้วพึมพำ

         คงรู้นะว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่น่ะแต่ก่อนที่รถจะพุ่งไปได้   เชือกก็ถูกกระตุกอย่างรวดเร็วทำให้เชือกขาดภายในพริบตา   แม่ใช้เครื่องยนต์รถบรรทุกผลักตัวเองไปข้างหลังอย่างรุนแรงคือเหตุผลที่เชือกขาด   ปู่บังกับเจ๊หยุดรถแล้วหันมามอง   แม่วิ่งไล่ตามอย่างโกรธแค้นจึงต้องขี่มอไซด์หนีต่อ

       แล้วเบลดก็มาพอดี   หอบและเหนื่อยจนต้องลงไปนอน   แม่ยังเล่นไล่จับกับเจ๊และปู่บังอยู่   เบลดเลยให้ผู้พิทักษ์ไปรุมแม่   แม่เป่าทุกตัวออกไปอย่างง่ายดายเหมือนเดิม   แต่กางเกงในที่ฉลาดที่สุดแอบเข้าไปอีกด้านของแม่   ทำให้แม่ที่กำลังสนใจกับการทำลายผู้พิทักษ์ตัวอื่นๆอยู่นั้นไม่รู้ตัวเลย   แต่แม่ต่อยโดยง้างทั้งแขนไปข้างหลังทำให้กางเกงในโดนศอก   ทำให้มึนแต่ก็เกี่ยวกับศอกของแม่ไว้ได้

       แม่ที่เห็นกางเกงในสีขาวที่สกปรกติดอยู่กับแขนตัวเองก็กรีดร้องลั่น ว้าก เหม็น สกปรก อ้าก แล้วล้มลงไปร้องไห้ ถ่มน้ำลาย อ้วกแตก น้ำมูกไหล ฉี่ราด ตด ทำแบบคนใกล้ตาย   แล้วล้มลงไปนอนกับพื้น

       แม่เธอเป็นอะไรน่ะ ปู่บังถามเจ๊

       ไม่เป็นอะไรหรอก   แค่เกลียดของสกปรกน่ะ เจ๊ตอบ

       คนเก่งขนาดนี้ก็ยังมีจุดอ่อนที่ร้ายแรงขนาดนี้แหละนะปู่บังพูดเปรยๆ

        กางเกงในออกมาจากแขนแม่   แม่ขอโทษและขอบคุณเป็นการใหญ่

       แกเป็นคนล้มแม่ที่เราทุกคนและผู้พิทักษ์ทุกตัวช่วยกันยังล้มไม่ได้เชียวหรือนี่   งั้นเจ้าก็เป็นตัวที่เก่งที่สุดในกลุ่มเราแล้วสิเนี่ย เบลดตบมือแปะๆ   ไม่ได้ฟังตูเล้ย ปู่บังพึมพำ

       ทันใดนั้น   ยามที่ปล่อยให้พวกเบลดเข้ามาก็วิ่งเข้ามาหาอย่างรีบร้อนแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าแม่

       หัวหน้า   จระเข้ล้นขึ้นมาแล้ว   มันมาเร็วกว่าที่เราคำนวณไว้ถึง 20 เท่าเชียวนะครับ   จะให้ใช้แผนเลยไหมครับ ยามพูดด้วยเสียงเหนื่อยจากการวิ่ง

       เริ่มทำเลย แม่สั่งแบบไม่มีแรงเพราะยังเมากางเกงในอยู่

       ยามสั่งการอีกทีไปในวิทยุ ส่งกำลังไปให้ทั่วเมืองแล้วยิงกล้วยได้

       นั่นคือกล้วยระเบิดที่มีอนุภาพเท่ากับ 3998 ไดนาไมต์, 4500 C4, 5712 TNT, 7643 ระเบิดมือ และ 9999 บาซูก้า รวมกันเชียวนะ   และเรายิงออกไปนอกเมืองในทิศทางที่จระเข้เข้ามาพร้อมกันทุกคนในองค์กรณ์   คนละ 100 ลูก   เรามี 60000 คน เท่ากับยิงไป 6 ล้านลูกเชียวนะ แม่อธิบายให้ฟัง

       หลังจากนั้น   ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยกล้วยที่ถูกโยนขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างมหาศาล   แต่ซักพักก็มีกล้วยเป็นร้อยลูกหล่นลงมาเต็มๆใส่บ้านเจ๊   เหมือนจงใจยิงมาใส่   ทุกคนวิ่งกันทั่วเพื่อหลบกล้วยระเบิดอันแสนจะรุนแรง   ขอโทษครับหัวหน้า   ผมยิงผิด   หลบๆเอาหน่อยก็ดีนะครับ เสียงคนติดต่อเข้ามาในวิทยุก่อนที่ฝนกล้วยจะตกลงพื้น   เบลดยังไม่รู้เรื่อง   ยังเดินเล่นฮัมเพลงอยู่

    ทุกคนหลับตากับความสิ้นหวังเพราะความโง่ของลูกน้องแม่เจ๊   ยังไงก็ไม่มีทางหลบกล้วยจำนวนมากและรุนแรงขนาดนั้นได้   ทุกคนหลับตาและคิดถึงเรื่องบ้าๆของตนเอง

       แผละ…” ทุกคนลืมตาขึ้นมาอย่างงงๆ   แม่เจ๊เดินไปสำรวจที่กล้วยที่เละตกอยู่กับพื้น

       เฮือก ระเบิดทำไม แม่ตกใจแล้วหยิบกล้วยขึ้นมา

       นี่นี่มันนี่มันไม่ใช่กล้วยระเบิด   แต่เป็นกล้วยไข่สวนปู่ชิวนี่หว่า แม่ตะลึง

       ใครทำอย่างนี้กัน   กล้วยระเบิดหายไปไหนหมด แม่ตะโกนแหลกลาน

            
       
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×