ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนแก่ท้าพระเจ้า

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 ฐานใหญ่สมาพันธ์โรตี

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 52


    ตอนที่ 4 ฐานใหญ่สมาพันธ์โรตี
         หมอน,หมอนข้าง และผ้าห่มที่เบลดได้คัดสรรอย่างดีเพื่อเอามานอนบนมอเตอร์ไซด์จาก Wall Mart   ทุกตัวได้มีชีวิตขึ้นมาเพราะเบลดได้นอนกอดทั้งคืนอย่างแนบแน่นกับตัว
         “สวัสดี   ผมผ้าห่มจากบริษัททู” อยู่ดีๆหมอนข้างผ้าห่มและหมอนลุกขึ้นมาพูดสวัสดีอย่างกระทันหันทั้งที่เบลดหลับอยู่ทำให้โมโหอย่างมาก
         “หุบปากน่า   คนจะนอนอ” เบลดตะโกนกลับมา
         “เฮ้ย   เบลด ตื่นเหอะ เราจะถึงที่ซ่องสุมของสมาพันธ์โรตีแล้ว” ปู่บังเรียก
         เมื่อเบลดลุกขึ้นมาเห็นหมอนข้าง หมอน ผ้าห่มจ้องหน้าอยู่ “เหวอ ตัวอะไรเนี่ย” เบลดตกใจ   “ก็เครื่องนอนที่แกนอนกอดไว้ทั้งคืนไงเล่า” ปู่บังตอบ
         “สมาพันธ์โรตีอยู่ในที่ซ่องสุมชื่อว่า “รถขายโรตียักษ์” ที่อยู่ในเมืองแมงโก้ส้นตีนที่ห่างจากเมืองไก่ระเบิดมา 5500 km เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่กลุ่มพวกระดับสมาพันธ์อยู่กัน   หลายๆสมาพันธ์   แต่ไม่ค่อยมีเรื่องกันซักเท่าไหร่   เพราะสู้กันไปสู้กันมาจะเกิดการศูนย์เสียทั้ง 2 ฝ่าย   และพวกอื่นๆก็สามารถมาโจมตีตอนที่ทั้ง 2 ฝ่ายอ่อนแอได้อย่างง่ายๆ   แต่ถ้าใครมั่นใจว่าจะชนะแน่ๆก็จะเริ่มบุกทำลายสมาพันธ์อื่นจนหมด   ที่เมืองนี้เหลืออยู่แค่ 3 สมาพันธ์ใหญ่ๆที่มีชีวิตอยู่   และพวกที่ต่ำกว่าสมาพันธ์ก็ไม่มีทางที่จะทำอะไรได้เลยก็เลยเหมือนไม่มีตัวตน   นี่คือระบบการเรียกชื่อของกลุ่มของโลกนี้
    ชื่อเรียก
    จำนวนคน
    กลุ่ม
    1-10
    สหกรณ์
    10-100
    แก็งค์
    100-1000
    สมาพันธ์
    1000-10000
    องกรณ์
    10000-100000
    ลัทธิ
    100000-1000000
    ศาสนา
    มากกว่า ล้าน
         3 สมาพันธ์ที่เหลืออยู่คือโรตี ถ้ำมอง และชอบของแปลก   จำนวนของโรตีคือ 1200 คน และมีแต่คนเก่ง   ส่วนถ้ำมองมี 9999 คน (อีก 1 คนจะเป็นองค์กรณ์) มีแต่คนอ่อนๆ แต่หัวหน้าเก่งจึงรอดมาได้   และชอบของแปลกที่มี 5000 คน ที่เก่งปานกลาง   ตอนนี้ชอบของแปลกจึงเป็นสมาพันธ์ที่มีอำนาจที่สุดในเมือง
         และตอนนี้เบลดได้มาถึงทางเข้าเมืองที่ดูดำๆเนื่องจากการต่อสู้ที่ผ่านมาอย่างรุนแรงจากการแย่งตำแหน่งของเมือง   พื้นเป็นโคลนเละๆทั่วพื้นที่และมาหลุมใหญ่ที่เอาไว้โยนศพลงไปฝังโดยไม่ต้องทำอะไรมาก   เพราะตายมากเกินไป   สภาพแวดล้อมเละจนหมดเป็นรัศมีประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร   ปู่บังบอกเบลดว่าที่เห็นอยู่ในเมืองนี้เป็นแค่ส่วนเล็กๆจากการต่อสู้เท่านั้น
         “นี่คือสงคราม 10 ปีที่แล้วของ องค์กรณ์ผลิตน้ำปลา   และลัทธิผลิตน้ำแข็ง   ที่ทั่วโลกได้ร่วมการต่อสู้และช่วยแต่ละฝ่าย   เป็นสงครามที่เลวร้ายที่สุดในโลกเคยเกิดขึ้น” ปู่บังบอก และทันใดนั้นมอเตอร์ไซด์ก็มาถึงหน้าฐานใหญ่โรตีพอดี   ห่างจากสนามรบที่รกร้างไปประมาณ 5 กิโลเมตร
         คนจำนวนหนึ่งได้มาต้อนรับพวกเบลด
         “ยินดีต้อนรับกลับมา   รองหัวหน้าสมาพันธ์” หัวหน้าพุด
         “นี่แกเป็นรองหัวหน้าของที่นี่เชียวเหรอ” เบลดหันไปหาปู่บังอย่างตกใจ “นึกว่าจะเป็นหัวหน้าซะอีก   อย่างนี้ก็แค่กระจอกสิ” เบลดพูด   ปู่บังตบหัว
         “โอ้ สุดยอด   พลังที่ทำให้สิ่งของมีชีวิตของแก็งไก่อ่อน” หัวหน้าชื่นชม
         “แกบอกข้าว่าพลังคือสนับเหล็กไม่ใช่เหรอ” ปู่บังถามด้วยความโกรธที่โดนหลอก
         “จับตัวพวกมันไว้” หัวหน้าตะโกนออกคำสั่ง
         “เฮ้ย อะไรกัน   แกคิดจะทำอะไร” ปู่บังถาม   แล้วเตะคนบางคนออกไปที่กำลังวิ่งเข้ามาจับ
         “แกคือคู่แข่งของข้า   และข้าอยากกำจัดเจ้ามานานแล้ว   เพราะเจ้าน่ะถึงจะอ่อนแอแต่ก็อันตรายต่อความเป็นสุขของข้าที่ต้องหนีเรื่องความสามารถที่แกกำลังไล่มาทุกที” หัวหน้าพูดแล้วหัวเราะเสียงแก่ๆ
         “มีดแป้ง” ปู่บังโยนมีดแป้งใส่หัวหน้า
         “เขียงแป้ง” หัวหน้าปั้นแป้งเป็นเขียงแล้วรับมีดไว้ได้ แล้วปามีดกลับไปหาปู่บัง   ปู่บังจะหลบแต่หลบไม่ได้เพราะหัวหน้าได้วางนมข้นไว้ที่พื้นเรียบร้อยแล้ว   “เบลดช่วยด้วย หลบไม่ได้” ปู่บังร้อง
         เบลดที่กำลังใช้ลูกน้องทั้ง 6 ตัวปกป้องตัวเองจากผู้ที่วิ่งเข้ามาจะอุ้ม   ส่วนตัวเองนั่งเล่น   แต่ก็ได้ส่งหมอนข้างมาช่วยปู่บัง   อีก 5 ตัวก็ปกป้องเบลดต่อ   แค่ 6 ตัวก็ไม่ไหวอยู่แล้ว   พอหายไป 1 ตัวก็ทำอะไรแทบไม่ได้   เพราะหมอนกับผ้าห่มจะทำอะไรได้   ได้แค่ปิดตาและคลุมตัว   รวมทั้งกางเกงในด้วย   ผู้ปกป้องที่ใช้ได้มีแค่สนับเหล็ก   แต่รองเท้าแตะได้แค่ฟาดหัวกับเอายัดปาก   ไม่ได้ช่วยอะไรมาก   แล้วพวกนี้สู้กับพวกผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรตีที่วิ่งเข้ามาเหมือนไม่มีวันหมด   เบลดจึงถูกจับตัวไปทันที   และพวกลูกน้องอุ้มเบลดเข้าไปข้างในรถโรตีและปิดประตูเหล็กหนาไว้ไม่ให้ปู่บังเข้ามาได้
         มีดแป้งของหัวหน้าพุ่งมาด้วยความเร็วอย่างสูงแต่ก็ถูกหมอนข้างกระโดดขึ้นมาจับมีดปากลับไปได้   ปู่บังจึงรอดตัวไปอย่างหวุดหวิด   แต่หัวหน้าก็ยังไม่ยอดหยุด
         หัวหน้าเริ่มหยิบไข่ออกมาซึ่งเป็นศาสตร์ที่ยากที่สุดในกลุ่มการใช้แป้ง นมข้น น้ำตาล มาการีน   และอื่นๆ   เพราะต้องดูแลอย่างดีไม่ให้แตกผิดเวลา ขนาดปู่บังก็ยังใช้ไม่ค่อยเป็นแต่สำหรับหัวหน้า   มันเป็นของที่ใช้ประจำอยู่แล้ว
         “พลังแห่งไข่   จงมอบหลังให้แก่ข้า   มันเป็นพลังที่แกไม่มีวันก้าวถึง” หัวหน้าพูด
         “ปึ้ก” หมอนข้างชกไข่ (ของคนไม่ใช่ของไก่) เข้าเต็มๆ   หัวหน้าหน้าเขียวแล้วลงไปนอนกอง
         “อูย เจ็บแม้กแมก” หัวหน้าพูดแบบไม่มีแรง
         “ก็ไข่มันอันตรายไม่ใช่หรือ   เลยอัดให้พังซะเลย” หมอนข้างพูดแล้วอัดซ้ำอีก
         “นี่แก เป็นหมอนข้างไม่ใช่หรือ   ทำไมต่อยแรงจัง” ปู่บังถาม
         “ก็มันมาจากของที่อยู่ตรงนั้นไงล่ะ” หมอนข้างชี้ไปที่กระเป๋าประจำตัวสำหรับทำโรตีของปู่บัง   ปู่บังเปิดดู   “เฮือก” อุปกรณ์ทำโรตีทั้งแป้ง มาการีน น้ำตาล ทุกอย่างหายไปหมดไม่เหลือแม้แต่ผงน้ำตาลหรือเศษแป้ง   “กรอด แกนะแก” ปู่บังโมโห
         “แล้วเบลดล่ะ” หมอนข้างถาม
         “หายไปไหน” ปู่บังถามมั่งแล้วมองดูรอบๆ   ทั้งสองถูกปล่อยให้โดดเดี่ยว   เบลดกับสมาพันธ์โรตีทั้งหมดหายไปเฉยๆ
         “ฟิ้ว” เสียงลมแบบในหนังหน้าหนาวที่พวกพระเอกกับนางเอกอยู่ด้วยกันอย่างโดดเดี่ยว   เปิดเสียงขึ้นมา   ปู่บังกับหมอนข้างยืนจ้องหน้ากัน
         “รีบๆไปหาเบลดสิวะ” ปู่บังตะโกนบอกหมอนข้าง “ข้าจะไปวอลมาร์ท”
         หมอนข้างวิ่งเข้าไปในรถขายโรตียักษ์ของสมาพันธ์โรตีตัวคนเดียว   ส่วนปู่บังก็วิ่งไปทาง Wall Mart คนเดียวเหมือนกัน   ทิ้งให้หัวหน้านอนเจ็บอยู่อย่างนั้น   ไม่มีคนสนใจ
         เมื่อหมอนข้างเข้าไปข้างในก็เจอพวกโรตีต้อนรับอยู่ทั้งหมดพันคนที่ถูกเรียกออกมาเพื่อต้อนรับปู่บังโดยเฉพาะ   หมอนข้างเห็นเบลดที่กำลังถูกลากไปอยู่แต่พวกผู้พิทักษ์ตัวอื่นๆก็กำลังต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย   หมอนข้างวิ่งเข้าไปตรงๆ   เข้าไปสู้กับคนทั้งหมดด้วยพลังงานโรตีอย่างเดียว
         เบลดถูกลากในท่านั่งเล่นโดยไม่ยอมขัดขืนได้ไปถึงแท่งพลังงานอันใหญ่และถูกล๊อคติดกับแท่งพลังงานนั้น   หมอนข้างวิ่งป่ามาถึงข้างหน้าของเบลดแต่ก็ถูกตบหน้าด้วยเตาทำโรตีจนหงายหลังไปและโดนรุมกระทืบ   แต่ไม่เป็นไรเพราะเป็นผ้านุ่มๆยัดปุยยัยสังเคราะห์สูตรป้องกันไร สำหรับเด็กเล็ก)   หมอนข้างลุกขึ้นมาวิ่งเข้าไปอีกรอบ
         “OK เครื่องดูดพลังงานพร้อมแล้วครับ NO.3” ลูกกระจ๊อกพูด
         “ยอดมาก   เริ่มดูดได้เลย” อันดับ 3 ที่เก่งที่สุดของสมาพันธ์โรตีพูด
         เครื่องเริ่มเดิน    หมอนข้างวิ่งเข้าไปต่อ “ฝันไปเถอะ” โรตีคนหนึ่งพูดแล้วยิงเครื่องพ่นไฟสูตรสำหรับทำโรตีอย่างเยอะโดยประหยัดเวลา   ถ้าไม่เก่งจริงจะทำให้โรตีไหม้หมด   หมอนข้างโดนเผาแต่ก็ยังอ้าปากรับ   และกลืนไฟเข้าไป
         “หึๆ อร่อยจริงๆ ไฟน่ะ   เข้ากับโรตีที่ยังไม่สุกในท้องได้ดีจริงๆ” หมอนข้างพูดแล้วพ่นไฟใส่มือตัวเองแล้วไฟก็ติดที่มือ 2 ข้าง   หมอนข้างต่อยคนรอบข้างกระจุยกระจายไปหมด   แล้ววิ่งเข้าไปหาเบลด
         “อ๊าก พลังกำลังจะหมดไป” เบลดตะโกนอย่างทรมานจากการที่ถูกดูดพลังงาน
         “ใครสูบพลังข้าไป   ขอให้บ้านบึ้ม ไอ้โรตีเน่า ไอ้ทำโรตีไม่อร่อย ไอ้โง่งี่เง่า เต่าเหม็น ไอ้คนไม่ Esso ไอ้น่ารัก เอ้ย” เบลดด่า   NO.3 ได้ยินแล้วขยะแขยงอย่างมาก
         “ดูดพลังงานเสร็จสิ้น” เครื่องพูด
         สนับเหล็ก กางเกงใน รองเท้าแตะ หมอนข้าง หมอน ผ้าห่มได้หยุดการเคลื่อนไหวและร่วงลงพื้นหมด
         “คึก คึก คึก คึก” แท่งแก้วเก็บพลังงานได้รวมพลังงานทั้งหมดของเบลดไว้และทำให้แท่งแก้วมีชีวิต   แล้วเดินออกมาจากเครื่อง   แท่งแก้วปล่อยพลังงานออกมาหมด   ทำให้ผู้พิทักษ์มีชีวิตอีกครั้ง   และเบลดได้พลังกลับมาและรู้สึกเต็มอิ่ม   แท่งแก้วลอยมาหาเบลดและขอเข้าพวกด้วยเพราะเป็นคนทำให้มีชีวิต
         “แผนผิดพลาด   เราเก็บพลังงานเบลดไว้แบ่งให้พวกเราไม่ได้” แผนถ่ายทอดพลัง   เพื่อควบคุมโรตีให้ลอยอยู่อย่างอิสระพร้อมกันได้ถ้าทำได้คงเอาชนะเมืองนี้ได้ทั้งเมืองแน่   แต่แผนผิดพลาด ย้าก   จะบ้าตาย” No.3 พูดแล้วกระโดดลงมาซัดเบลด   เบลดส่งแท่งแก้วที่ว่างงานอยู่ไปฟาดหัว No.3 ทีเดียวสลบและหัวแตก (ทั้งหัวคนและแก้ว) แก้งแตกเป็นชิ้นเล็กกับชิ้นใหญ่   เบลดบังคับแก้วชิ้นใหญ่ให้ทุบหัวคนต่อจนกลายเป็นชิ้นเล็กละเอียด   จนกลายเป็นชิ้นส่วนเล็กๆเต็มไปหมดแล้วลอยไปมาได้อย่างอิสระ   แต่จิดใจมีแค่ตัวเดียวไม่ใช่แต่ละชิ้นมีความคิด   ทำให้การควบคุมยากนิดหน่อย   แต่เป็นอาวุธที่อันตรายมาก
         เศษแก้วป้องกันคนได้หมดทุกคนยกเว้นคนเดียวที่วิ่งฝ่าด่านเศษแก้วมาแบบไม่กลัวเจ็บ   คนคนนั้นคือ NO.4 เบลดต้องสู้ด้วยตัวเอง   แต่ก็ต่อยพลาดตามเคย   NO.4 ใช้แป้งปั้นเป็นแท่งแข็งๆเป็นอาวุธ   และผลักเบลดลงไปนอนบนพื้น   และใช้แป้งแข็งๆฟาดลงมา   แต่ตอนนั้น
         No.4 ปลิวไปด้วยแรงบางอย่าง   เบลดหันไปเห็นชุดเครื่องนอนทั้ง 3 ที่มีไฟติดที่มืออย่างเท่
         “พวกเรามาช่วยทันพอดีใช่ไหม   ที่นี่มีโรตีให้ขโมยกันเยอะแยะเลย   มอร่อยดีจริงๆ   แต่ค่าตอบแทนที่มาช่วย   ขอแยกตัวไม่ฟังคำสั่งคุณได้ได้ไหม   เพราะเจ้าน่ะอ่อนแอเบลด” ทั้ง 3 พูด
         “ไอ้ตัวทรยศ” เบลดตะโกนด่าแล้วทำท่ากระโดถีบ 3 ตัว   ทั้ง 3 ยืนอยู่เฉยๆแต่เบลดก็เตะไม่โดนเหมือนเดิมและยังตกลงไปในกลุ่มคนขายโรตีประมาณ 500 คน จึงถูกจับตัวไปอีกครั้ง
         “งี่เง่าจริงๆ (เต่าเหม็นด้วย) แต่ยังไงก็ต้องไปช่วยหน่อยล่ะ” หมอนเด็กที่มีรอยบุ๋มตรงกลางไว้รองหัวเด็กพูด   แล้วกระโดดเข้าไปคว้าตัวเบลดมาได้อย่างรวดเร็ว   โดยมีแผ่นโรตีกับเนยและน้ำตาลลอยมาเป็น 100   แต่ของทั้งหมดนั้นก็ถูกกันได้โดยแป้งใหญ่ที่อยู่ดีๆก็ลอยมา
         “หยุดเดี๋ยวนี้นะ   ไม่งั้นข้าจะยุบสมาพันธ์โรตีนี้ทิ้ง” ปู่บังเดินมาพูดด้วยความเท่สุดๆทำให้ลูกกระจ๊อกทั้งหมดหันมามอง
         “ถึงเป็นท่านก็เถอะ No.2 ก็จัดการพวกเราพันคนไม่ได้หรอกนะ   ว่าแต่ ทำไมท่านไม่อยากได้พลังที่สามารถควบคุมโรตีโดยใช้แค่การสั่งบ้างเหรอ” คนๆหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นมา
         “เป้าหมายที่แท้จริงเป็นอย่างนี้เองหรือ   แต่ข้าอยากเป็นที่หนึ่งในโลกด้วยความสามารถตัวเองน่ะ   และไม่เบียดเบียนผู้อื่น   ข้าจะต้องเทียบเท่าเจ้าแม่โรตีในตำนานให้ได้” ปู่บังพูดแล้วเตรียมตัวสู้   แต่อยู่ๆก็ล้มลงไป   ที่หลังก็เลือดพุ่ง
         “นี่น่ะหรือคิดจะเป็นที่หนึ่งของโลก   อย่างแกน่ะฝันไปเหอะ” เสียงตุ๊ดดัวมาจากข้างหลังปู่บัง No.1 หัวหน้าของโรตี (ไข่แตกเลยเป็นตุ๊ด)   เดินออกมาปั้นโรตีชนิดเหนียวนุ่มแล้วกางไปทั่วฐานใหญ่   รวบตัวเบลดและสมาพันธ์โรตีทั้ง 1000 ไว้ได้แล้วปั้นเป็นก้อน   บีบอัดไว้ข้างในให้เบลดถูกดักง่ายขึ้น
         ข้างในก้อนแป้ง   เบลดต้องเดินเซไปเซมาแล้วล้ม   แต่ทุกอย่างก็ช่วยปกป้องไว้ได้หมด (ยกเว้นกางเกงใน) เมื่อแรงอัดจากภายนอกแป้งมากขึ้นเรื่อยๆ   เบลดก็ถูกดันให้เข้าใกล้พวกโรตีมากขึ้นเรื่อยๆ
         เมื่อแป้งโรตีถูกดันจนเหลือที่นิดเดียว   พวกโรตีก็เข้ามากระซับแนบชิดกับเบลด “หัวหน้าเพิ่งบอกล่ะ   ให้ฆ่าคนชื่อเบลดทิ้งแล้วดูดพลังงานจากศพแทน   ใช้ได้เท่ากัน 100% เป๊ะ” No.965 พูดแล้วใช้น้ำตาลสูตรที่หมักพิเศษในลำไส้ของศพวัวที่เป็นพิษอย่างแรง   จะทำให้ท้องเสียจนตาย   แต่ก่อนที่เบลดจะโดนยัดน้ำตาลเข้าปากนั้น   แป้งมีดโรตีที่แหลมคมและเร็วกว่าของปู่บังหลายเท่านักก็ถูกปามาใส่หน้าของคนที่กำลังจะฆ่าเบลด   เบลดมองออกไปรอบๆ   และเห็นว่าแป้งของ No.1 นั้นขาดจนหมดและแสงส่องเข้ามาจนแสบตา   ข้างนอกเป็นผู้หญิงใส่หน้ากากเป็นแค่กระดาษรูป (:   ที่ดูเซ็กซี่อย่างมาก
         “ใครน่ะ” ทุกคนหันไปทางเดียวกันและพูด
         “แน่นอน…ข้าคือเจ้าแม่โรตี” ผู้หญิงพูด
         “หา….” ทุกคนงงยกเว้นเบลดและผู้พิทักษ์
         “เรื่องฝีมือ มันของจริงแต่ตำนานเจ้าแม่โรตีมันผ่านมา 80 ปีแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังไม่ตายและยังสาวอยู่ด้วย” ปู่บังพูดทั้งที่กำลังสู้กับ No.1 อยู่ เพราะNo.1 กำลังมองไปทางเจ้าแม่อยู่
         “ช่วยรักษาพวกโรตีพวกนี้ให้หน่อยสิ” เบลดขอร้องเจ้าแม่   ทุกคนที่เหลืองงว่าทำไมเบลดต้องช่วยพวกที่มาทำร้ายตัวเองด้วย   แต่ก็ซาบซึ้งมากจนน้ำตาไหล   ความจริงเบลดไม่รู้เรื่องอะไรเลยและยังคิดว่ามาเที่ยวอยู่และพวกโรตีมารุมเพื่อแย่งตัวเองให้ไปให้ชิมโรตีกัน   และคิดว่าผู้พิทักษ์กำลังรังแกพวกคนขายโรตีอยู่ด้วย   จึงอยากให้ทุกคนถูกรักษาและมาทำโรตีให้
         เจ้าแม่โรตีได้ยินก็เดินมาที่พวกที่นอนบาดเจ็บอยู่และใช้มือหนึงหยิบแป้งโรตีออกมาจากกระเป๋าอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทันและอีกมือปั้น   ปั้นมือเดียวทำให้ทุกคนหันมามองอย่างตะลึงแต่ปู่บังรู้สึกภูมิใจกับตัวเอง   แป้งโรตี 200 กว่าแผ่นถูกเอามาวางบนเสื่อผืนใหญ่ที่ถูกปูไว้   แล้วเจ้าแม่ก็เริ่มหยิบอุปกรณ์และเตาไฟทั้งหมดออกมาจากอีกช่องของกระเป๋า   และเริ่มทำอย่างรวดเร็ว   วางบนโต๊ะบนจานอย่างสวยงาม
         ทั้งหมดทุกขั้นตอนเสร็จภายใน 1 นาที   “นี่คือโรตีรักษา คนละแผ่นเท่านั้นนะ   มันไม่อร่อยหรอก ก็มันเพื่อสุขภาพนี่นา” เจ้าแม่พูด   ทุกคนวิ่งกรูกันมาเพื่อชิมและเมื่อกัดคำแรก
         ทุกคนขึ้นสวรรค์   เพราะมันอร่อยมากเกินไปจนไม่มีใครอยากให้ช่วงเวลานั้นผ่านไป   ทั้งกลิ่นหอมของเนยคุณภาพดี น้ำตาลสกัดจากต้นอ้อย แป้งทำเองที่บ้านที่หอมกรุ่น และไข่ฟองใหญ่ที่ทั้งมันและนุ่ม   ทำให้คนขึ้นสวรรค์   รู้ตัวอีกทีก็หมดไปแล้ว   และทุกคนที่กินเข้าไปก็ร้องไห้เพราะอยากกินอีก   เบลดงงเพราะตัวเองไม่ได้ชิมจึงขอเจ้าแม่   เบลดวิ่งไปฉกจะกินแต่เมื่อกัดลงไปก็
         “โอ๊ย!” เบลดกัดลิ้นตัวเองเพราะบางอย่างฉกโรตีออกไปจากมือเบลดอย่างรวดเร็วจนเบลดมองไม่ทัน   แต่เบลดก็ไม่ยอมแพ้   หยิบขึ้นมาอีกหลายอันและก่อนจะกินก็ถูกฉกไปหมด   เบลดเริ่มโกรธและหันไปมองรอบๆ   พบว่าพวกผู้พิทักษ์กำลังกินโรตีกันอย่างเพลิดเพลิน   เบลดเกิดบ้าขึ้นและกระโดดเตะผู้พิทักษ์ทุกตัวที่เกาะกันเป็นหมู่ไปติดผนังกันหมด   แล้วแย่งโรตีที่เหลือมายัดปาก (ของเหลือจากกางเกงในกับรองเท้าด้วยเนี่ยนะ)   “อิ่มอร่อย   ไม่มีอะไรจะอร่อยกว่านี้แล้ว” เบลดพูด
         “เลิกเล่นกันได้แล้วทุกคน” ปู่บังเดินมาถึงพวกโรตีโดยในมือมีหัวหน้าตุ๊ดนอนสลบอยู่
         “หา ล้ม No.1 ได้หรือเนี่ย” ลูกกระจ๊อกโรตีพูดพร้อมกัน
         “ก็แค่ฟลุ๊คนิดหน่อยน่ะ   ข้าโดนมันท้าแข่งตบหน้า   แต่หารู้ไม่   ข้าเนี่ยแหละเป็น No.1 ของแก็งค์ชอบตบหน้าเชียวนะ   เก่งขนาดจนต้องมาหาอาชีพเสริมทำโรตีไงเล่า” ปู่บังพูดแบบเท่สุดๆ
         “สุดยอด เป็น No.1 ของตั้ง 3 ความสามารถแน่ะ   เมื่อก่อนเคยเล่าให้ฟังใช่ไหมว่าเป็น No.1 ของกลุ่มป่วนเมืองย่านวันแถวบ้านน่ะ   และนี่ No.1 สหกรณ์ตบหน้าและที่ไม่อย่ากเชื่อ No.1 สมาพันธ์โรตี” ลูกกระจ๊อกโรตีคนหนึ่งพูด
         “ส่งอดีต No.1 ตุ๊ดนี่   ไปโรงพยาบาลบ้าศรีธัญพืชอุดมด้วยคุณค่าทางอาหารเถอะ   เผื่อลบความเป็นตุ๊ดได้” ปู่บังพูดแล้วปั้นแป้งเป็นซองไปรษณีย์ยักษ์   แล้วยัดตุ๊ดหัวหน้าเข้าไปและปิดผนึกด้วยนมข้นผสมน้ำตาลอย่างหนา   โยนลงถังไปรษณีย์รูปโรตีที่เขียนว่า “สำหรับสมาพันธ์โรตีโดยเฉพาะ   ใครมาเสือก ตายแน่!”    หัวหน้าตุ๊ดยังสลบอยู่จึงไม่ว่าอะไร   ระหว่างที่คนหันไปมองปู่บังยัดหัวหน้าตุ๊ดเข้าซอง   เจ้าแม่โรตีก็จัดการเก็บอุปกรณ์อย่างรวดเร็วและเงียบสนิดจนไม่มีใครรู้เรื่องและกระโดดออกไป
         พอคนหันมาก็งง   ทุกคนก็งงและอยากกินอีกแต่เบลดไม่รู้เรื่อง  
         และปู่บังก็ช่วยกับลูกน้องจัดตั้งสมาพันธ์ให้สวยงามดังเดิม   แล้วปรับปรุงลักษณะพื้นที่ให้ดูอบอุ่นขึ้นด้วย   โดยไปซื้อ ไม้ น๊อต ตะปู ที่ Wall Mart (จ่ายเงินโดยให้พนักงานกินโรตีฟรี)   แล้ววันอันแสนสงบสุขแบบเหนื่อยหน่อยแต่ไม่ถึงตายก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว (เบลดอู้งานอยู่คนเดียว)
         “ข่าวด่วน ข่าวด่วน” พนักงานประกาศข่าวร้อนรนพูด   “เตรียมตัวอพยพด่วน   โลกนี้กำลังถูกคุกคามด้วยจระเข้แปลกประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วน   แหล่งเริ่มต้นคือหนองน้ำ’ใต้ศอก’ ที่อยู่ใต้เมืองศอก   จระเข้จำนวนมากทะลักมาอย่างไม่หยุดและไม่มีทางหยุดได้   ทางนักวิทยาศาสตร์บอกว่าทั้งโลกจะถูกท่วมภายใน 5 วัน   เราแนะนำให้ท่านหนีขึ้นไปบนภูเขา Esso หรือจะเป็นหุบเขาแห่งความตาย Rankle ก็ได้ถ้าท่านอยากลอง   ที่สำคัญที่สุดคือ… ตอนนี้จระเข้ได้มาถึงเมืองแมงโก้ส้นตีนแล้ว”
      
     
        
          
        
        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×