ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนแก่ท้าพระเจ้า

    ลำดับตอนที่ #1 : ชายผู้อยู่ในโรงพยาบาลบ้า

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 52


    The old man who challenges the god chapter 1
    คนแก่ท้าพระเจ้าบทที่ 1
         “โลกนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำที่เรียกว่า ความดี เราต้องกำจัดมันให้หมด หัวหน้ากลุ่มโรงพยาบาลบ้า ศรีธัญพืช อุดมด้วยคุณค่า ประกาศต่อหน้าลูกน้องที่เป็นแค่พัดลม เตียง ตู้ เพดาน พื้น โต๊ะ และ เชื้อโรคทั้งปวง มีเสียงเล็กๆพูดขึ้นมาว่า แผนล่ะเบลดแล้วเงียบไป ไร้ซึ่งร่องรอยของผู้พูดมีแต่แดดยามเช้าที่ส่องประกายไปทั่วห้อง
         พระเจ้าอยู่ข้างเรา แต่เราต้องคิดแผนก่อนนะเชื้อโรคตัวน้อย เบลด หรือ หัวหน้ากลุ่มโรงพยาบาลบ้าพูด เขาเป็นคนแก่อายุประมาณ 70 ปี แต่งตัวโทรมๆ โดยใส่เสื้อคอกลมขาดๆสีเทาเก่าๆ กางเกงสีเขียวทึบๆ ขาดเช่นกัน ตัวเขาหน้าตาประมาณคนปกติ ไม่หล่อ ไม่อุบาทต์ แต่เรียบๆ ความจริงแล้วเขาโง่มาก เพราะไร้การศึกษา แต่ยังบ้าเรื่องอยากจะครองโลกด้วย
        “แผนนี้ข้าคิดขึ้นมานานแล้ว มาตั้งแต่ 50 ปีที่แล้วนู่น จนแก่ขนาดนี้ถึงค่อยได้ทำ เพราะตอนนั้นความดียังน้อยอยู่ แต่ตอนนี้มันเพิ่มขึ้น จะได้มันส์ไงเล่า เบลดจบประโยคด้วยการพิงผนังห้อง
         ทันใดนั้นผนังห้องเกิดทรุดฮวบลงไปทั้งๆที่เป็นคอนกรีตรุ่นแข็งน้อยพิเศษๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
         หา! เบลดมีพลังมากขนาดนี้เชียวเหรอ ขนาดแค่พิงผนังเฉยๆนะเนี่ยอย่างนี้ต้องกอบกู้โลกได้แน่ๆเลยพัดลมพูด
         เฮ้ ดูสิ มีอะไรอยู่ข้างหลังด้วยล่ะ ในช่องที่พังไปน่ะ เชื้อโรคไข้หวัดพูด
         เบลดหยิบสิ่งที่เชื้อโรคบอก แล้วสำรวจสิ่งนั้น มันคือกุญแจขึ้นสนิม
         โห คราวนี้แผนอันดัยแรกก็สำเหร็จแล้วสินะ แผนแหกคุก (โรงพยาบาล) เนี่ย รีบไขประตูออกไปแลย เบลด ผีในตู้พูดให้กำลังใจเบลด เบลดใช้กุญแจไขประตู แต่มันไม่เปิด เบลดจึงบิดแรงขึ้นจนกุญแจหักเป๊าะเบลดโกรธจจึงถีบประตูออกไป ประตูเหวี่ยงออกอย่างง่ายดาย เพราะคุณภาพก็เลวพอกับผนังห้อง
         เบลดวิ่งออกไปอย่างตื่นเต้นสู่ทางเดินอันกว้างใหญ่ของโรงพยาบาลที่ทาแต่สีขาว เสียงโห่ร้องเชียร์ของสิ่งของในห้องดังกึกก้อง เบลดรีบวิ่งด้วยพลัง 0.3 แรงม้า แต่ยามที่เห็นเบลดก็วิ่งตามมาวิ่งด้วยพลัง 0.31 แรงม้า ยามจึงจับเบลดได้อย่างไม่ยาก เบลดใช้อาวุธของตัวเอง ซึ่งก็คือไม้เท้า เอามากวัดแกว่งอย่างผู้ไม่ชำนาญ แต่ก็ไม่โดน เบลดพยายามจะต่อยยามแต่ก็ไม่โดนเหมือนกัน ยามเข้ามาจับ เบลดหมดทางสู้ และแล้วก็ต้องถูกจับตัวกลับไปที่ห้อง เบลดเศร้า แต่ก็ไร้ทางขัดขืนเนื่องจากยามคนนั้นหนุ่มแต่ตัวเองนั้นแก่แล้ว
         เบลดถูกดันให้เข้าไปในห้องตัวเองและปิดประตู คราวนี้ยามได้ใช้ล๊อคเหล็กกล้า 3 ชั้น เบลดหมดหนทางที่จะหนีออกไปอีก แต่ทันใดนั้น แม่กุญแจเหล็กอย่างหนาก็ถูกตัดขาดครึ่ง
         ยามงงแล้วมองหรที่มาของสิ่งนั้น สิ่งนั้นคือแป้งโรตีแผ่นหนึ่งที่ไม่ได้คมขนาดที่จะตัดเปล็กได้ ขณะที่ยามมองแผ่นโรตีก็มีคนแก่คนหนึ่งเดินออกมาจากมุมอย่างเท่ๆ เขาเป็นคนแก่ที่ดูแข๊งแรงและดูสดใส หน้ามีหนวดเคราสีขาวจากความแก่และผ้าโพกหัวสีดำที่เก็บผมทั้งชีวิตไว้ ผ้าคลุมสีดำก็ปลิวไสวเหมือนพระเอกภาพยนตร์ ในมือเต็มไปด้วยแป้งโรตี
         นี่เจ้าคิดจะสู้กับโรตีมาสเตอร์ผู้นี้รึไอ้ยามกระจอก คนแก่ถือโรตีพูด ยามเดินเข้าไปหาคนแก่โรตีโดยที่ตาจ้องไปที่แป้งโรตีที่คนแก่ถืออยู่ ยามรีบคว้าแป้งโรตีมาได้แล้วกินอย่างรวดเร็วและยังเอร็ดอร่อยทำให้คนแก่โรตีไม่มีอาวุธ
         อร่อยใช่ไหมล่ะ แป้งโรตีของข้า ขนาดยังไม่ได้ใส่นม น้ำตาล ไข่ เนย และอีกหลายอย่าง และยังไม่สุกด้วย คนแก่โรตีบอกรายละเอียดโรตีให้ฟัง
         ยามรู้สึกได้ถึงท้องที่ปั่นป่วนของตัวเอง และได้วิ่งหนีไปเข้าห้องน้ำทันที เบลดจึงมาขอบคุณคนแก่โรตีที่จัดการกับยามทั้งหมดให้เป็นการใหญ่
         นี่ ไม่ต้องขอบคุณอะไรมากหรอกนะ มันเป็นงานข้าน่ะ คนแก่โรตีพูด
         ข้าคือเบลด นักรบแห่งความชั่ว จะมาทำลายความดีแล้ว ว่าแต่ท่านชื่ออะไรแล้วมาช่วยทำไมเบลดถามหน้าโง่
         ข้าคือมือ 2 ของสมาพันธ์โรตี มาถึง 50 ปีแล้ว ไม่มีชื่อหรอก เพราะชื่อมันยาวแบบแปลกๆแล้วยังเรียกยาก อยากรู้ใช่ไหม มันคือ ฟหกด่าสว 1JSZX9m9C76XXX งั้นเรียกง่ายๆว่าปู่บังขายโรตีก็แล้วกันนะ   ส่วนธุระน่ะก็คือมารับตัวเจ้าไป เพราะเจ้าน่ะเป็นทายาทคนสุดท้ายของ แก็งค์ไก่อ่อน ในตำนานน่ะ ปู่บังเล่าให้ฟัง
         เบลดทำหน้าตะลึงกับคำพูด จริงเหรอ แก็งค์ในตำนานนั่น
         ก็จริงน่ะสิ ตรวจ DNA มาแล้วนะ ปู่บังบอก
         ตรวจตอนไหน เบลดถาม
         ก็ตอนที่แกนั่งถ่ายอยู่ในห้องน้ำหญิงไง ปู่บังตอบ
         ตอนไหนหว่า จำไม่ได้ เบลดพยายามจะจำแต่ก็จำไม่ได้
         ก็เมื่อ 3 วันที่แล้วที่แกแอบเข้าไปดูคนบ้าผู้ชายที่ชอบไปเข้าห้องน้ำผู้หญิงชั้น 3 ตึก C ส่วน P พื้นที่ X98ZA ห้องที่ 38 ไง แล้วแกก็ไปแอบดูเขานัดแฟนคนบ้าผู้หญิงไว้ที่ห้อง 40 แต่อยู่ แกก็เกิดปวดอึขึ้นมา แกก็เลยวิ่งไปห้อง 39 แต่ห้องนั้นมีกระเทยนั่งอยู่โดยไม่ล๊อคประตู และเมื่อกระเทยเห็นแก มันก็วิ่งตามแกมา แกก็เลยวิ่งหนีไปที่ห้อง 38 แต่ห้องนั้นมีคนอึไม่ราดและเหม็นสุดๆ แต่กระเทยก็ดักประตูทางเข้าออกไว้ แกจึงจำเป็นต้องใช้ส้วมห้องนั้น   เพราะทนไม่ไหว พออึเสร็จแกก็กดชักโครก มันมีมืออัตโนมัติของโถส้วมไว้ล้างก้น แต่ข้าได้ใส่เข็มเจาะเลือดไว้ที่มือด้วย ทำให้ได้เลือดแกมาวิเคราะห์ ข้าใส่เข็มพวกนี้ไว้เฉพาะห้องนั้นด้วย เพราะเป็นห้องที่คนชอบเข้าเป็นพิเศษจนสกปรกเละเทะขนาดนั้น เห็นไหม เข็มน่ะไม่เจ็บหรอก แต่มาคิดๆดูก็รู้สึกเสียวนะ เรื่องก็มีแค่นี้แหละ ปู่บังพูดอธิบายอย่างยาว
         ต่อไปเรารีบหนีออกจากที่นี่ก่อนดีกว่าเพราะเดี๋ยวพวกยามจะยิ่งมากันใหญ่ เบลดพูด แล้วหันไปมองหายาม ปรากฏว่ารอบตัวคนทั้งสองมียามนับสิบ
         ก็ดันเล่าเรื่องซะยาว เบลดด่าปู่บัง
        “ยามแค่นี้น่ะเหรอง่ายๆ แต่ข้าไม่ช่วยเจ้าแล้วนะเบลด ลองใช้พลังสนับมือเหล็กของแก็งค์ไก่อ่อนที่สืบทอดต่อกันมาดูสิ ปู่บังพูดแล้วโยนสนับเหล็กให้เบลด
         เบลดรับด้วยท่าอันเชี่ยวชาญเหมือนเป็นพรสวรรค์จากสายเลือด
         แก๊งสนับเหล็กตกลงพื้นโดยที่เบลดรับด้วยท่าแบบโง่ๆ
         ยามวิ่งเข้ามารุมเบลด
         เฮ้อ คงต้องให้ช่วยอีกแล้วมั้ง ปู่บังถอนหายใจแล้วเอาแป้งโรตีแบบเหนียวนุ่มและหนาแน่นฟาดเต็มแรงที่พวกยาม ยามแค่เจ็บแล้วหันมาทางปู่บัง ปู่บังเอาขวดแก้วสำหรับใส่น้ำตาลโขกหัวยามที่วิ่งเข้ามา ยามคนแรกสลบ ยารมคนอื่นอีก 9 คนวิ่งเข้ามาหาปู่บัง ปู่บังใช้มาการีน (ไม่ใช้เนยและใช้ชนิดถูกด้วย เพราะกลัวเปลืองเงิน) โยนใส่พื้น ยามลื่นล้มไปนอนกอง มีคนนึงลุกขึ้นมา
         ฮ่าฮ่า ข้าไม่โง่พอสำหรับมาการีนหรอกนะ ข้าใส่รองเท้ากันลื่นชนิดพิเศษมาน่ะ ยามพูดพร้อมกับ หันกระบองมาใส่เตรีมทุบปู่บัง แต่
         เบลดลุกขึ้นมาข้างหลังยามแล้วตอนนี้ มีสนับเหล็กพร้อม เบลดคลานเข้ามาหายาม ปู่บังยืนนิ่งโดยใช้แป้งโรตีรับอย่างไม่มีช่องว่า ยามเริ่มโมโหจึงฟาดกระบองเต็มแรงที่หัวปู่บัง แต่ก็ยังโดนรับได้เช่นเดิม และกระบองได้แตกปลิวขึ้นไปบนอากาศ
         ตอนนี้แหละเบลด กลางหลังเลย ปู่บังตะโกน
         เบลดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งพลังแห่งแก็งค์ไก่อ่อนเข้ากลางหลังยาม แต่หมัดเริ่มต่ำลงไปเรื่อยๆจนตกถึงพื้นพร้อมกับตัวเบลด
         หา! แค่นี้ก็ทำไม่ได้อีกหรือปู่บังด่าเบลด
        กาการีนที่อยู่ที่พื้นของแกน่ะสิ ทำให้ข้าลื่นอย่างนี้น่ะ เบลดบอก
         แต่อยู่ๆยามก็ล้มลงไปเพราะถูกเบลดขโมยรองเท้ากันลื่นไปแล้ว
         รีบออกไปกันเถอะ เบลดพูดพร้อมกับค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ
         ดีมาก นี่เจ้าพัฒนาเรื่องขโมยของเก่งขึ้นแล้วนี่ปู่บังชม
         ทันใดนั้นเบลดก็ล้มลงไปอีก ปู่บังมองที่เท้าเบลด ยามไม่ได้จับขาเบลดอยู่ด้วย
         นี่มันนี่มันนี่มัน…” ปู่บังพูด
         นี่แกหยิบรองเท้าผิดคู่มานี่นา มันต้องสีดำแต่นี่มันรองเท้าเด็กที่มีหัวหมีพูติดอยู่นี่นา ปู่บังด่า
         ก็ยามอีกคนใส่รองเท้าหมีพูไว้น่ะ มันน่ารักกว่าก็เลยปาคู่สีดำทิ้งเพราะมันไม่สวยน่ารัก แต่คู่นี้น่ะถูกใจสไตล์วัยคนแก่จริงๆ เบลดพูด
         แกนี่ไม่ไหวจริงๆ เอ้า! ลุกขึ้นมา ปู่บังพูดแล้วยื่นโรตีชนิดเหนียวนุ่มแล้วปั้นเป็นแท่งยาวๆ ให้เบลดจับแล้วปีนขึ้นมา เบลดปีนขึ้นมาสำเร็จแล้ววิ่งออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับปู่บัง
         นี่ คิดๆดูแล้วตอนแรกยามมา 1 คน เมื่อกี้มา 10 คน งั้นต่อไปก็เฮือก ปู่บังมองออกไปที่ลานข้างนอกที่เป็นพื้นคอนกรีตกับสวนเขียวๆ
         ต่อไปไม่ใช่แค่ 100 คนแต่ 1000 คน ปู่บังพูดกับเบลด
         ให้สู้ถึงเย็นเลยไหมเนี่ย ถ้าเบลดมีประโยชน์กว่านี้คงจะเร็วขึ้นนะ ปู่บังบ่นกับตัวเอง
         เบลดพยายามจะวิ่งฝ่าผ่านไปแบบเลี่ยงๆยาม แต่ยามประมาณ 20 คนก็วิ่งมาขวางไว้ด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อในความคิดของเบลด
         เฮ้ย! ไอ้ผู้เขียน CatNgo อะไรซักอย่างน่ะ อย่ามาเรียกข้าว่ายามนะ พวกเรา 1000 คนเป็นตำรวจขั้นกระจอกที่สุดที่ถูกจ้างโดยโรงพยาบาลแห่งนี้เลยนะโว้ย อย่ามาหยามกัน ตำรวจคนหนึ่งพูดขึ้นมาเพื่อด่าผู้เขียนเรื่องนี้
         นี่ ผู้เขียนนะเฟ้ย จะให้พวกแกตายอนาถพร้อมกันหมดก็ยังได้ อย่าดูถูกผู้เขียนล่ะไอ้ยามกระจอก ผู้เขียนคือผู้ที่ควบคุมได้แม้แต่พระเจ้านะโว้ย เสียงจากสวรรค์พูด
         บรึ๊ย น่ากลัว ขอโทษค้าบ ตำรวจกล่าวขอโทษ
         ปู่บังวิ่งเข้าไปบู๊ตรงๆ แต่ทันใดนั้นกองทัพเชื้อโรคและตึกโรงพยาบาลทั้งตึกก็ลุกขึ้นมากระทืบพื้นเสียงดัง ทำให้ตำรวจหนีกันไปหมดทั้งกองทัพด้วยความกลัว
         พวกเรามาช่วยแล้วคุณปู่เบลด พวกเชื้อโรคพูด
         พลังอย่างนี้มันอะไรกัน มันไม่ตรงกับข้อมูลที่หัวหน้าให้มานี่นา ตามข้อมูลของหัวหน้า มันคือแก็งไก่อ่อนคือแก็งที่ใช้สนับเหล็กได้เก่งที่สุดนี่นา ขนาดผู้เชี่ยวชาญทางสนับเหล็กยังแพ้ราบคาบ ปู่บังพูดแล้วใช้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ “Esso” ที่เป็นรูปพวงกุญแจหางเสือ ปู่บังใช้มันเปิด Goggle แล้วค้นหา แก็งค์ไก่อ่อนปู่บังเปิดเข้าไปดูเว็บเจาะประวัติแก็งค์ไก่อ่อนโดยเฉพาะ แล้วพบว่า แก็งไก่อ่อนมีพลังในการทำให้สิ่งไม่มีชีวิตมามีชีวิตได้โดยการอยู่ใกล้ๆสิ่งนั้นเป็นเวลาอย่างน้อย 1 วัน ตามขนาดความใหญ่ของของสิ่งนั้น แต่อยู่ๆโทรศัพท์ก็ดับ
         โทรศัพท์เฮงซวย อย่างนี้ต้องเอาไปซ่อมอีกแล้ว ปู่บังกระทืบเท้า
         ก็ถ่านมันหมดไม่ใช่เหรอ เชื้อโรคท่มายืนอยู่ข้างๆพูดแล้วหัวเราะ ปู่บังหน้าแตก
         แค่แบตมันห่วยน่ะ ปู่บังแก้ตัว
         งั้นต่อไปต้องหาซื้อแบตก่อน แล้วค่อยกลับฐานใหญ่ เดี๋ยวโดนหัวหน้าด่าแต่จะเดินต้องใช้ถึง 100 วันถ้าเดินน่ะ   ไม่มีรถด้วย   แต่ถ้าใช้ก็แค่ 2-3 วัน  แต่ยังไงก็ห้ามใช้รถเพราะจะเป็นที่สังเกตของแก็งค์อื่นๆได้ อย่างเช่นพวกที่ทำ ข้าวต้มมัด ข้าวเหนี่ยวหมูปิ้ง ขนมชั้น ขนมครก คุกกี้ เค้ก เครป ไอติม ลูกชิ้นปิ้ง ไก่ย่าง ข้าวเกรียบ โตเกียว หรือทองม้วน หรือสมาพันธ์พวกนั้นเห็นจะถูกบอลฆ่าได้ ปู่บังคิด   ในระหว่างที่เบลดเดินเข้ามาหา
         ตาแก่โรตี ขอโรตีใส่นม ใส่ไข่ ใส่น้ำตาล และที่สำคัญขอมาการีนแบบมีคุณภาพหน่อยนะ เบลดขอหลังจากต่อสู้กับตำรวจอย่างดุเดือดเลยหิว (ทั้งๆที่ไม่ได้สู้เยลแท้ๆ)
         โรตีของข้าน่ะวิเศษนัก   คิดว่าจะเอาไปกินได้ง่ายๆหรือ   แต่คนหิวก็ต้องให้กินแหละนะ ปู่บังทำโรตีด้วยฝีมืออันเชี่ยวชาญที่ฝึกฝนมากว่า 50 ปี    อย่างรวดเร็ว ไม่ถึง 10 วินาทีก็เสร็จออกมาอย่างสวยงามและหอมกรุ่นและสุกด้วย   ปู่บังใช้แค่ไฟแช็คลนข้างล่างและอีกมือถือแห้งโรตีเหวี่ยงไปมาให้ถูกความร้อนแบบทั่วๆกัน   ปู่บังเชี่ยวชาญขนาด ไม่มีรอยไหม้หรือตรงไหนที่ไม่สุกเลยสักนิด   ปู่บังบอกว่า นี่คือการทำโรตีอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องตั้งเตาไฟ
         อร่อยที่สุดในโลก เบลดตะโกน อร่อยจนน้ำตาร่วง
         อิ่มแล้วก็เดินทางกันเถอะ เดินไปกินไปก็ได้ ปู่บังบอก
         เชื้อโรคตัวหนึ่งตะโกนขึ้นมา ขอไปด้วยซิตัวนั้นเป็นสายพันธุ์หวัดเล็ก
         พวกเราเชื้อโรคไร้พิษสง ไม่ขอไปด้วยเพราะจะเป็นตัวถ่วงหัวหน้าหวัดเล็กเปล่า เชื้อโรคตัวอื่นทุกตัวพูดพร้อมกัน   ปู่บังบอกว่าไปด้วยก็ได้ไม่กินที่อยู่แล้ว และเชื้อโรคหวัดเล็กก็กระโดดขึ้นไหล่ของเบลด
         บ๊ายบายไปล่ะนะ เบลดกล่าวลาทุกคน (เชื้อโรคและเฟอนิเจอร์)
         และทั้งหมดก็เดินจากไป (2 คนกับ 1 ตัว) อย่างเงียบๆ
        
     
        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×