ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Powdered Detergent Butler พ่อบ้านผงซักฟอก!!

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 สายลับจำเป็น(?)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 51


    Powdered Detergent Butler

    ตอนที่ 1 - สายลับจำเป็น(?)

    แต่งโดย โอมจัง ปลาดุกโรคจิตสาย Yaoi

    ---

    บ่ายแก่ๆ ของวันนี้ วันเสาร์ (สีม่วง!!) ที่... เอ่อ ช่างมันเถอะครับ คงไม่มีใครสนใจเท่าไหร่ ผม? ผมก็คงแต่งไง ฮี่ๆ เป็นคนแต่งมุมมองบุคคลที่ 3 ซึ่ง... เอ่อ... เข้าเรื่องดีกว่าครับ

    เหล่าสมาชิกวง My Chemical Romance ก็ยังคงนั่งทำภารกิจของตนอยู่ ซึ่งทั้งหมดเพิ่มกลับมาจากซูเปอร์ (เออรู้ พล๊อตงี่เง่าชิบ) ... หลังจากนั้น เปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เก็บของ ไมค์กี้ล้มตัวลงโซฟา...

    “เฮ้อ เหนื่อยชะมัดดด ด” ไมค์กี้กลิ้งตัวบนโซฟา ก่อนที่จะกลิ้งไม่ดูทาง ล้มโครมลงบนพื้น (แล้วเอ็งจะกลิ้งทำไม)

    “แค่ไปซูเปอร์เนี่ยนะ เหนื่อย... ” เจอราร์ดหยิบเอากระป๋องน้ำส้มมาจากถุงแล้วเปิดกระป๋องกิน...

    “... บัดซบ!!”

    “อะไรเหรอ!? เกิดอะไรขึ้น!?” ไมค์กี้ลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ตกใจมาก เจอราร์ดปากระป๋องน้ำส้มของเขาไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างหลังไมค์กี้...

    ...แต่พลาด

    “แฟรงค์!!? กระป๋องน้ำส้มอีก 2 กระป๋องหายไปไหนวะ!?” เจอราร์ดชี้ไปที่เจ้าเปี๊ยกทื่ยืนอยู่ข้างหลังไมค์กี้ด้วยสีหน้าที่เบิกบานพร้อมกระป๋องน้ำส้มในมือขวา ก่อนที่จะเกิดการวิ่ง-ไล่-จับ กันรอบบ้านขึ้น



    “เล่นอะไรเล่นด้วย เฮ้ย ไม่ใช่!! เล่นอะไรไม่เข้าท่าอยู่ได้!!” เรย์ที่ถือคัพเค้กอยู่พร้อมคัพเค้ก 1/8 ส่วนจากทั้งหมดที่อยู่ในปากตะโกน ก่อนที่ตั้งท่าจะเหวี่ยงคัพเค้กด้วยความเร็ว 200 กม./ชม. เพื่อหมายจะหยุดไอ้สองคนนั้นโดยที่ไม่เสียดาย... (แน่ใจนะ)

    ...ถ้าไม่ถูกหยุดด้วยเสียงเคาะประตูก่อน ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    ไมค์กี้ที่ล้มตัวลงนอนกับโซฟาก็ต้องลุกขึ้นอีกครั้ง (พร้อมเสียงบ่นเล็กๆ ประมาณว่า “รำคาญจริงโว้ย งุบงิบๆ”) เมื่อเขาเปิดประตูไป ก็ต้องพบกับ!!!!

    กับ...

    กับ!!

    กับชายร่างใหญ่ ตัวดำ ใส่แว่นกันแดด อย่างกะหลุดมาจากเรื่อง คน(ศพขึ้น)อืด ตายไปแล้ว!! (Die Easy) กับ ชายร่างใหญ่ ผิวขาว ใส่แว่นกันแดด เช่นกัน ไมค์กี้ยืนอึ้ง ทึ้ง... ไปสักพัก ก่อนที่จะโกยเท้าวิ่งไปซบเรย์ เฮ้ย!! ไม่ใช่!! วิ่งไปยังห้องครัว พร้อมด้วยเสียงตามมาเป็นสายๆ ว่า “ม่ายยยยยย ยยยย ยย ฝันร้ายของไมค์กี้มันเป็นจริงแล้วววว วววว ว........”



    ชายร่างใหญ่ผิวดำคนนั้นค่อยๆ เดินเข้ามาพร้อมด้วยน้ำเสียงอันมโหฬาร ใหญ่โต (สลับที่กัน เอิ๊ก) ...

    “เรามาขอพบกับ เจอราร์ด เวย์ และ แฟรงค์ ไอเอโร่ พวกเขาอยู่มั้ย?” เขาพูดขึ้นพร้อมกับมองหน้าเรย์ที่กำลังกินคัพเค้กชิ้นที่สองอยู่ งั่ม งั่ม

    “อยู่ ว่าแต่พวกแก--นายเป็นใครกัน? คงไม่ใช่พวกเจ้าหนี้เก่าของสองคนนั้นหรอกนะ?” ไอ้หนุ่มหัวฟูจ้องที่หน้าของชายร่างใหญ่คนนั้นด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจพวกเขาเลย ชายร่างใหญ่ผิวขาวคนนั้นเกาหัวสักพัก ก่อนที่จะมองซ้ายมองขวาแล้วสังเกตเห็นว่ามีอะไรเคลื่อนไหวอยู่หลังโซฟา เขาค่อยๆ เดินไปแล้วจับมันขึ้นมา!!

    กว๊ากกกกก กกกกกกก ก คนป่าทั้งสองคน อย่ากินเด็กที่น่าสงสารทั้งสองคนเลยคร้าบบบ บ ผมยังเด็กเกินไปที่จะตายย!!!” แฟรงค์พยายามจะวิ่งหนีไป แต่ก็โดนจับหัวไว้ทำให้เขาได้แต่ดิ้นเป็นคาราเมลแด๊นซ์ ... (แต่คาราเมลแด๊นซ์ มันส่ายตรูดไม่ใช่เหรอ...)

    “เอ่อนี่ อายุ 24 นี่โคตรเด็กเลยเนาะ ดูคุณพี่คนนี้ก่อนซิวะ 27 แล้วนะเฟ้ย” เจอราร์ดมองที่หน้าแฟรงค์แล้วมองที่คนป่าซาไก (...) ทั้งสองคนที่จับหัวเขาทั้งคู่

    “พวกนายเป็นใคร?” เขาถาม

    ---

    “อ่อ พวกคุณคือ บอดี้การ์ดส่วนตัวของคุณหนูคฤหาสน์หนึ่งซินะ แล้วจะมาพาพวกผมไปเป็นสายลับในคราบพ่อบ้านของบ้านหลังนั้น...” เจอราร์ดพยักหน้า บอดี้การ์ดผิวดำคนนั้นก็ยื่นนามบัตรให้ดู ตอนนี้พวกเขากำลังนั่งรถอยู่ ซึ่งแน่นอนว่า สองหนุ่มผู้โชคร้ายนั่นโดนสามคนนั้นทรยศใช้คำพูดเกลี้ยกล่อมให้มาจนได้ น่าสงสารเป็นที่ซู้ดดดด ด (แต่ถ้าไม่ไปเนื้อเรื่องก็ไม่ดำเนินนะซิ)

    “ชื่อ แบล๊ค ครับ ส่วนคู่หูของผมชื่อ ไวท์ (เล่นง่ายดีเนอะ) ยินดีที่ได้รู้จักกันครับ” เขาบอก เจอราร์ดหยิบนามบัตรมาจากมืออันใหญ่โตของแบล๊ค

    “แล้วทำไมพวกคุณไม่พาคนอื่นไปละ ไมค์กี้ฉลาดกว่าผม เรย์ดูเป็นมิตรมากกว่า บ๊อบก็รักสัตว์ด้วย แถมไม่แพ้ขนแมวเหมือนผมด้วยนะ อีกอย่าง แฟรงค์ก็เตี้...”

    ผัวะ ผัวะ

    “โอ๊ย รู้น่าๆ ก็แบบว่า มุดเข้าซ่อมช่องแอร์แบบในหนังได้ไง” เจอราร์ดหันหน้าไปมองแฟรงค์ที่เพิ่งตบหลังเขา(อย่างสุดแรง)ไปตะกี้นี้

    “เพราะว่า... เอ่อ คุณหนูอยากได้คนหน้าตาดีๆ หน่อยนะ” ไวท์ที่ขับรถอยู่หันหลังมาทางเบาะหลังที่แบล๊คและสองหนุ่มผู้ดวงซวยนั่งอยู่ เจอราร์ดและแฟรงค์เงียบไปสักพักก่อนมองหน้ากันแล้วหันมาที่ไวท์อีกครั้ง

    “...โอเค แล้วตกลง คฤหาสน์อยู่ไหนนะ? L.A.? แคลิฟอร์เนีย?” เจอราร์ดถามไวท์

    “แบล๊ค ตอบหน่อยซิ” ดวงตาของไวท์ยังคงมองที่ถนนอยู่ เขาขับรถไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่เกินกำหนดความเร็วไว้

    “ตกลงมันอยู่ที่ไหนนะ?” แฟรงค์หันหน้าไปมองแบล๊ค แบล๊คหันหน้าไปมองกระจกทางฝั่งที่เขานั่งอยู่

    “ที่ประเทศไทย บนพื้นที่บนดอย N/A ครับ”

    “...” เจอราร์ดมองหน้าแฟรงค์

    “...” แฟรงค์ก็มองหน้าเจอราร์ด

    แล้วทั้งรถก็เงียบไปทั้งคัน ไร้ซึ่งเสียงพูดคุย เสียงคำถามสติแตกใดๆ

    ---

    หลังจากที่นั่งรถมาได้ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ต่อเครื่องบินส่วนตัวของตระกูล (ซึ่งแบล๊คกับไวท์เป็นคนขับ) อีก 8 ชั่วโมงกว่าๆ และนั่ง ฮ. ส่วนตัวของคุณหนูอีก (“ขอบอกว่า...จะ....อุบบบ” ดูท่าเจ้าเปี๊ยกของเราจะเมาเฮลิคอปเตอร์แฮะ) ซึ่งเมื่อเราถึงก็ประมาณ...

    วันอาทิตย์ ช่วงบ่ายๆ ...

    “...นี่คือคฤหาสน์สินะ” เจอราร์ดเงยหน้ามองคฤหาสน์สุดใหญ่โตมโหฬารกว้างขว้างสุดหรูจนเกินคำที่คนแต่งจะบรรยายได้ (/me โดนตรบ) ส่วนแฟรงค์เองก็เช่นกัน ยืนทื่อเป็นท่อนไม้ทั้งคู่ ในขณะที่แบล๊คกับไวท์ก็เดินไปเปิดประตูใหญ่ (Gate) ให้ทั้งสองคนเดินเข้ามา เจอราร์ดกับแฟรงค์ไม่ได้พูดอะไรและเดินเข้าไปแบบเงียบๆ พร้อมกับชมวิวอันอลังการงานสร้างทั้ง...

    สวนดอกไม้... (ดอกกุหลาบหลากสี ดอกเดซี่หลากสายพันธุ์...)

    พุ่มไม้ที่ตัดเป็นรูปต่างๆ... (รูปปิกาจู รูปฮิโตคาเงะ... เย้ยย)

    คฤหาสน์อันกว้างใหญ่ไพศาลจนทั้งคู่คิดว่าคงจะหลงทางแน่ๆ ไม่ก็ต้องมีคนอยู่เพียบชัวร์ๆ...

    “แบล๊กจัง ไวท์คุง!!” เสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากข้างหลังทั้งคู่ เจอราร์ดและแฟรงค์หันหลังกลับไปดู เธอเป็น...

    เป็น...

    อัลฟอนซ์ เอลริค!!!

    “โอเค ขออุทานซักนิดนึงนะแฟรงค์” เจอราร์ดหันหน้าไปมองแฟรงค์ เขาพยักหน้าก่อนที่ตะโกนพร้อมกับเจอราร์ดด้วย...

    “WTF!?”

    “อ่า.. แล้วพวกคุณต้องเป็นพ่อบ้านคนใหม่ที่หนูให้แบล๊คจังกับไวท์คุงไปลากตัวมาแน่ๆ เลยใช่มั้ย?” เธอบอก แฟรงค์วิ่งหนีไปหลบหลังเจอราร์ดพร้อมกับเสียงที่สั่นๆ เล็กน้อย สาวน้อยคอสเพลย์คนนั้นพูดต่อ



    “หนูไม่กัดพวกคุณหรอกน่า ฮะๆ เข้ามาในบ้านก่อนสิ เดี๋ยวหนูจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้” เธอวิ่งนำไปในคฤหาสน์ เจอราร์ดกับแฟรงค์ค่อยๆ เดินตามเธอไปด้วยสีหน้าที่หวาดระแวงนิดๆ

    ---

    “โห ห้องโถงใหญ่นี่ใหญ่จังเลยแฮะ” แฟรงค์พึมพำกับตัวเองในขณะที่สอดส่องสายตาดูไปรอบๆ เขาเดินไม่มองทางจนกระทั่งเดินชนกับโต๊ะ...

    ครืก

    “หวาๆ เกือบชนซะแล้วสิ” เขาสะดุ้ง แล้วมองไปที่โต๊ะอันยาวววววววววววววเหยียด เจอราร์ดกับสาวน้อยโอตาคุคนนั้นนั่งอยู่แล้ว แต่คราวนี้ คอสอัลของเธอใส่แว่นตาด้วย (เกราะใส่แว่น ดูแปลกๆ แหะ)

    “หนูชื่อ โอมิ ซึ่งเป็นนามแฝงค่ะ...”

    “เดี๋ยวเดี๋ยวเดี๋ยว แล้วทำไมต้องเป็นนามแฝงละ?” เจอราร์ดถามเธอ โอมิเงียบไปซักพักก่อนที่จะพูดขึ้นมา

    “มันเกี่ยวกับภารกิจที่หนูจะให้พวกคุณช่วยกันสืบนะค่ะ”

    “ภารกิจ?” แฟรงค์เอ่ยขึ้นมา

    “หนูไปสืบรู้ว่า มีคนพยายามจะฆ่าตระกูลหนูด้วยเดธโน้ต ...”

    “อ่าฮะ”

    “แล้วหนูก็เลยต้องการให้มีคนมาช่วยสืบหน่อย ถ้าให้พ่อกับแม่รู้ พ่อกับแม่หนูต้องกระวนกระวายแน่ๆ เลย หนูเลยบอกกับพวกพ่อบ้านและให้พวกเค้าช่วยกันสืบ หนูคิดว่า ถ้าให้คนอื่นๆ มาช่วยกัน งานก็น่าง่ายขึ้นเยอะนะคะ...” เธออธิบาย และในที่สุด เธอก็...

    ...ถอดชุดเกราะนั้นออก!!

    “อ่า... คุณหนูยังใส่คอสขนาดอยู่ในเกราะเหมือนเดิมเหรอครับ” แบล๊คที่เดินมาจากไหนก็ไม่รู้บอก เขายืนขนาบข้างคุณหนูโอมิ เจอราร์ดกับแฟรงค์นั่งเงียบไปสักพักก่อนที่จะถามเธอ

    “เอ่อ งั้นเราเอาของไปเก็...” ไม่ขาดคำ ไวท์ก็เดินมาแล้วหยิบกระเป๋าของเจอราร์ดและแฟรงค์ไปแบบสบายๆ พร้อมเดินขึ้นบันไดไป ทั้งคู่นั่งอึ้งอีกครั้ง

    “ผมเอาของไปเก็บให้ครับ พวกคุณใส่ชุดนี้ไปเริ่มทำความสะอาดที่ห้องเก็บของเก่าได้เลย อยู่ชั้นใต้ดินนะครับ เดินลงบันไดนั้นไป เลี้ยวซ้ายก็ถึงแล้ว ถ้าคุณทำความสะอาดเสร็จแล้ว ขึ้นมาแล้วแบล๊คจะพาพวกท่านไปยังห้องนอนครับ” เขาบอกก่อนที่จะเดินหายลับไป

    “อ่างั้น ไปกันเถอะ” เจอราร์ดลุกขึ้นแล้วเดินนำไป...

    ---
    A/N (ปลาแมว) : ตอนที่หนึ่งของ PDB ค่ะ เนื้อเรื่องเกิดขึ้นประมาณช่วงที่อัลบั้ม Three Cheers for Sweet Revenge เสร็จแล้วมาได้สักพัก เจอราร์ดยังผมยาวสลวยสีดำ ส่วนแฟรงกี้ก็ทำคอสฮิคารุเซียนโกะ เอ๊ย ไม่ใช่ล่ะ แต่ผมพี่แกก็คล้ายจริงๆ นะเออ... ไมค์กี้ก็ใส่แว่นตา (บอกแล้วว่าแว่นตาโมเอะ) ... อ่าถ้ายังไง ก็ขอความเห็นด้วยเน้อ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×