คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 7 : เด็กโง่ (รีไรต์)
บทที่ 7
หลังจากที่เกือบจะเกิดเหตุฆาตรกรรมขึ้น(?)
ฉันก็มานั่งคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ติดค้างในหัวมานาน
ตอนนี้ฉันไล่เครซิเมอร์ออกไปจากห้องก่อนแล้ว เพื่อที่จะได้มานั่งคิดอะไรคนเดียว
หลังจากคิดมานาน ฉันก็ได้ข้อสันนิฐานว่า ฉันอาจจะหลุดมาที่โลกๆหนึ่ง ซึ่งฉันก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าที่โลกไหน
เดียวค่อยคิดก็แล้วกัน..
“ คุณหนูคะ ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้วค่ะ “
เสียงของสาวใช้ดังขึ้นที่หน้าประตู จริงสิ
ฉันกลับมาจากพระราชวังตอนเที่ยงพอดี
เอาตรงๆท่านลุงก็เอ่ยปากชวนให้อยู่รับประทานอาหารกลางวันด้วยกันก่อน
แต่ดูเหมือนท่านพ่อจะปฏิเสธไปแล้วรีบพาพวกฉันกลับมาทันที
ฉันหยุดคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก่อนจะส่งเสียงขานรับให้สาวใช้และเดินออกจากห้อง
เมื่อเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องรับประทานอาหาร ก็เห็นท่านพ่อ
ท่านแม่และเครซิเมอร์รอฉันอยู่
ทำไมฉันถึงได้มาคนสุดท้ายตลอดเลยนะ
ฉันคิดก่อนจะเอ่ยปากขอโทษพวกเขา
และแน่นอนพวกเขาก็ให้อภัยฉันเหมือนเดิม
ฉันจึงเดินไปนั่งข้างๆเครซิเมอร์แล้วรับประทานอาหาร
“...”
“...”
“...”
“...”
ทำไมวันนี้มันเงียบอย่างนี้
ฉันคิดและเหลือบมองท่านพ่อและท่านแม่ ก่อนที่จะเผลอสบตากับท่านพ่อ
และท่านพ่อก็รีบหลบตาแล้วหันหน้าหนีทันที
นี้มันผิดปกติชัดๆ..
“ ท่านพ่อ ท่านแม่ มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ? “
ฉันถามด้วยใบหน้านิ่งๆ
ก่อนที่ท่านพ่อจะลุกลี้ลุกล้นตอบขึ้นมาประสานเสียงกับท่านแม่
“ ม ไม่มีอะไรหรอกลูก “
“ องค์ราชินีอยากให้ลูกหมั้นหมายกับคาร์อิสน่ะ “
“...”
“...”
“...”
“...”
เกิดความเงียบขึ้นอึดใจ ก่อนที่ท่านพ่อจะพูดขึ้น
“ เลนิต้า ทำไมเจ้าถึงไปบอกลูกอย่างนั้นเล่า “
“ จะช้าจะเร็วยังไงลูกก็ต้องรู้อยู่ดี “
ท่านแม่ตอบท่านพ่อด้วยใบหน้าสงบนิ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตามาทางฉัน
“ แล้วลูกคิดว่ายังไง? “
ฉันหลุบตาลงมองจานกับข้าว และคิดทบทวน
ทำไมองค์ราชินีถึงอยากได้ฉันเป็นคู่หมั้นให้คาร์อิสล่ะ?
ในเมื่อดูยังไงคาร์อิสก็ได้เป็นองค์รัชทายาทอยู่แล้ว หรืออาจจะระแวงตระกูลของเธอ
เลยอยากเกี่ยวดองเพื่อสร้างความสัมพันธ์กันนะ?
แต่แล้วทำไม...ฉันต้องสนล่ะ?
ฉันเงยหน้าขึ้นสบตากับท่านแม่
“ ลูกไม่เคยคิดอยากจะหมั้นหมายหรือแต่งงานกับคาร์อิส ไม่สิ
กับผู้ชายที่ลูกเพิ่งรู้จัก “
ฉันลอบมองสีหน้าของท่านพ่อและท่านแม่
ก่อนจะต้องโล่งใจเมื่อเห็นใบหน้าของทั้งสองนั้นยิ้มแย้ม
“ สมกับเป็นลูกพ่อ “
ท่านพ่อพูดขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความพอใจทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังดูกังวลอยู่แท้ๆ ส่วนท่านแม่ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส
จะว่าไป ทำไมเครซิเมอร์ไม่พูดอะไรเลยนะ
ฉันคิดก่อนจะหันไปมอง และก็ค้นพบว่า...เขาหลับ!
“ อุ้ย ตายจริง เครซิเมอร์เผลอหลับไปเหรอเนี้ย สงสัยวันนี้จะเล่นจนเหนื่อย “
ท่านแม่พูดและหัวเราะด้วยความเอ็นดูเครซิเมอร์ออกมาเบาๆ
“ ลูกก็คงง่วงเหมือนกันสินะ งั้นขึ้นไปนอนกันก่อนนะ “
ท่านแม่พูดก่อนจะเดินมาอุ้มเครซิเมอร์
“ ท่านแม่..คือลูกกับเครซิเมอร์จะนอนด้วยกัน.. “
ถึงยังไงฉันก็เป็นคนรักษาคำพูดนะ..
ฉันพูดเสียงแผ่ว แต่ท่านแม่นั้นมีหูที่ดีมาก ทำให้ได้ยินว่าฉันพูดอะไร
ท่านแม่ยิ้มล้อเลียนฉันเล็กน้อบ
ก่อนจะสั่งให้ท่านพ่ออุ้มฉัน เมื่อมาถึงห้องของฉัน
ท่านแม่ก็เดินเข้าไปในห้องและวางเครซิเมอร์ลงที่เตียงของฉัน
“ นอนเตียงเดียวกัน คงไม่เป็นไรหรอก ใช่มั้ยออร์ล่า “
“ ค่ะ.. “
ฉันขานรับไป เอาจริงๆเตียงของฉันค่อนข้างใหญ่เลยล่ะ.. คงเป็นเรื่องธรรมดาของพวกตระกูลขุนนางสินะ
ฉันคิด ก่อนจะถูกวางลงข้างๆเครซิเมอร์ และพวกเขาก็ปิดม่าน
ปิดอะไรลง แหงละ ก็ตอนนี้มันบ่ายแล้ว เพราะงั้นแดดก็แรงเป็นธรรมดา..
ฉันคิดอะไรเรื่อยเปื่อยฆ่าเวลา ด้วยความไม่ง่วงนอน
ก่อนจะได้ยินเสียงร้องไห้ออกมาจากคนที่นอนอยู่ข้างๆ
ฉันจึงเลื่อนสายตามองก่อนจะพบว่าเขาร้องไห้ออกมาเบาๆ
ฝันร้ายงั้นเหรอ
ฉันคิดก่อนจะมองเขานิ่งๆเพื่อรอดูว่าเขาจะหยุดเมื่อไร ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงที่เขาละเมอพูดออกมา
“ ท่านพี่ อย่าทิ้งข้านะ “
“...”
หรือตอนที่เขาหลับ เขาอาจจะได้ยินเรื่องของคาร์อิสกันนะ
แล้วทำไมเขาดูจะร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆเนี้ย..
“ ท่านพี่ ฮึก “
ฉันเม้มปากแน่น ก่อนจะพลิกตัวไปกอดเขา และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนโดยที่เธอไม่รู้ตัว
“ เด็กโง่ พี่ไม่มีวันทิ้งเจ้าหรอก.. “
ความคิดเห็น