ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เด็กสลัมกับโลกโอโตเมะเกมของเธอ

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 14 : คำเรียกขาน (รีไรต์)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 831
      97
      23 ต.ค. 61

    บทที่ 14

    ผ่านมาเนิ่นนาน หลังจากที่ฉันและเครซิเมอร์เป่าเทียนเสร็จ แต่ละคนก็แยกย้ายมากินกันอย่างเอร็ดอร่อย ด้วยก่อนหน้านี้ฉันลืมสังเกตเค้ก จึงทำให้มองไม่เห็นว่ามันสวยงามและอลังการแค่ไหน.. เค้กขนาด 5 ปอนด์ เรียงกันเป็นชั้นอย่างสวยงาม คิดว่าอาจจะตามวันเกิด เพราะว่าวันนี้ครบรอบอายุ 5 ขวบของฉัน ครีมสีขาวประดับด้วยลวดลายต่างๆราวกับไม่ได้ใช้มือวาดออกมา มีการประดับดอกไม้ ลวดลายตัวอักษรที่เขียนชื่อฉันและเครซิเมอร์ ตรงยอดเค้กทำเป็นดอกไม้กระจายออกมาอย่างสวยงาม

    ฉันกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงมองเค้กในจานของตนเองที่ถูกตัดแบ่งมา พลันรู้สึกได้เลยว่า ถ้าเป็นชาติก่อน เค้กนี้ต่อให้เอาชีวิตเธอแลกกับมันมา เธอก็คงจะไม่ได้กิน.. จริงสินะ เค้ก หรือแม้แต่ขนมหวานเธอเองก็ได้กินแทบนับครั้งได้ ที่ได้กินก็แค่ของเหลือจากคนอื่นเท่านั้น

    เมื่อคิดถึงอดีตก็ทำให้มือเผลอบีบส้อมในมืออย่างแรง จนถูกเสียงทักทำให้มือคลายลง

    ออร์จัง?

    คาร์ลอสนั้นเองที่ทักมา เขามองเธอด้วยสีหน้างงงวย เธอจึงยิ้มเป็นเชิงถามว่ามีอะไรเหรอ

    อือ.. ไม่มีอะไรหรอก

    เขาตอบก่อนจะหันไปพูดคุยกับเครซิเมอร์ต่อ จนกลายเป็นฉันเองที่เป็นฝ่ายทำหน้างงบ้าง

    เจ้าไม่กินรึไง

    เสียงเด็กชายดังขึ้น พร้อมด้วยหัวสีเทาๆที่โผล่มาให้เห็นในสายตาของฉัน ฉันกรอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย และเอ่ยตอบ

    เดียวก็กินน่า..

    พูดด้วยเสียงปนหน่ายใจอย่างสุดขีด อีกฝ่ายเหมือนจะรู้ว่าเธอเริ่มเหม็นขี้หน้าตัวเอง แต่ก็เพียงยกยิ้มที่ในสายตาเธอมองว่าเป็นรอยยิ้มที่กวนเบื้องล่างที่สุดในสามโลก

    ถ้าไม่กิน ข้ากินให้ก็ได้นะ

    พูดพร้อมกับเดินเข้ามา ทำท่าจะแย่งจานไปจากมือของฉัน แต่ด้วยความที่ฉันไวกว่า ทำให้เบี่ยงตัวหลบได้ทัน

    ไม่ต้อง ! ข้ากินเองได้

    ก่อนจะหยิบส้อมจิ้มเค้กมากินคำใหญ่ สัมผัสแรกที่รู้สึกได้คือความนุ่มละมุนของแป้งเค้กและครีม กลิ่นหอมหวานโชยขึ้นมา พร้อมกับความอร่อยที่แผ่เข้ามาในลิ้น ฉันยกยิ้มและทำหน้าเคลิบเคลิ้มอย่างไม่รู้ตัว ด้วยเพราะแต่เดิมก็ชอบทานของหวานจำพวกเค้ก เครป คุ้กกี้หรือที่มีครีมเยอะๆอยู่แล้ว ทำให้เผลอแสดงท่าทางแบบนั้นออกไป

    เค้กหรือขนมจากชาติที่แล้วทั้งชาติ รวมกันยังไม่อร่อยเท่าอันนี้เลย !

    คิดอย่างสุขใจ ก่อนจะตัดเข้าปากอีกคำใหญ่

    หึ..

    เสียงๆหนึ่งดังขึ้นทำให้ฉันหยุดชะงักเล็กน้อย ดวงตาของเธอเลื่อนสบกับดวงตาทั้ง 4 คู่ที่มองมา

    เอ่อ..

    ฉันส่งเสียงเบาๆด้วยความเขินอายเล็กน้อย นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันเผลอแสดงท่าทางมีความสุขให้คนอื่นเห็น จะว่าไปไม่ใช่ครั้งแรกสิ คร่าวที่แล้วที่เครซิเมอร์เล่าเรื่องที่ฉันโกรธเขาให้คาร์อิสฟัง ฉันก็เผลอแสดงอาการโกรธใส่.. ถึงแม้ความจริงจะแกล้งโกรธกลบเกลื่อนความอายก็เถอะ..

    นี้ฉันเป็นอะไรไปกันนะ..

    คิดอย่างเริ่มไม่เข้าใจตัวเอง ตัวตนในชาติที่แล้วของเธอ ทั้งเย็นชา และด้านชา ไร้ความรู้สึกใดราวกับตุ๊กตาเก่าๆที่สนิมขึ้นแล้ว

    เจ้าท่าจะชอบเค้กมากสินะ

    คาร์อิสเอ่ยถาม แต่กลับมีคนอีก 3 คนที่เฝ้ารอคำตอบอยู่ ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยกับท่าทางแบบนั้น แต่ก็พยักหน้าและตอบไปเบาๆ

    ก็.. นิดหน่อย

    เลี่ยงที่จะตอบความจริง นั้นแหละนิสัยของเธอ ถ้าหากมีคนรู้สิ่งที่เราชอบหรือเกลียดจริงๆก็อาจจะเอามาทำร้ายเราก็ได้.. นั้นคือสิ่งที่เธอได้เรียนรู้มาจากวัยเด็กของเธอในชาติที่แล้ว

    หยุดนะ ! “

    เด็กหญิงเรือนผมสีดำสนิทตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวด แต่เสียงหัวเราะเยาะและการกลั่นแกล้งกับไม่ลดลงเลย

    เป็นแค่ยัยเด็กข้างถนนแท้ๆ กล้าดียังไงมาสั่งพวกเรา ! “

    เด็กหญิงอีกคนที่ดูเป็นผู้ดีกล่าวขึ้น ก่อนจะหัวเราะเสียงสูง

    นี้แหนะ

    เด็กชายคนหนึ่งโยนกบใส่เธอ เด็กหญิงหวีดร้องออกมาด้วยความกลัว

    เอามันออกไปนะ เอามันออกไป ! “

    เธอเปล่งเสียงออกมา แต่ร่างกายกลับนิ่งแข็งด้วยความหวาดกลัว ดวงตาสีมรกตเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา

    เอานี้ไปกินอีก

    เด็กสาวอีกคนพูด แล้วเทขยะใส่เธอ

    เธอนะ เหมาะกับขยะแบบนี้ ! “

    น้ำเสียงและสีหน้าบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ารังเกียจ เด็กหญิงตัวสั่นเทิ่ม ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากขอความเมตตา

    ทำไมไม่อ้อนวอนล่ะ ! “

    เด็กหญิงคนหนึ่งพูด แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับใดๆกลับมานอกจากเสียงสะอื้นไห้ เด็กหญิงคนนั้นเหลืออด ก่อนจะตะโกนบอกให้ทุกคนทำร้ายเธอ

    นี้แหนะๆ ยัยขยะไร้ค่า

    เสียงตบตีดังขึ้น พร้อมๆกับเสียงด่าทออย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากปากเด็ก 10 ขวบ การตบตีดำเนินมาอย่างเนิ่นนาน จนเด็กพวกนั้นเบื่อและล่าถอยไปเอง

    เด็กหญิงร้องไห้ออกมา จนทำให้ดวงตาสีมรกตราวกับอัญมณีหม่นหมองลง เนื้อตัวของเธอเจ็บระบมไปด้วยรอยช้ำ เรือนผมยุ่งเหยิงที่แต่เดิมก็ไม่เป็นทรงอยู่แล้ว ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เด็กหญิงค่อยๆพยุงตัวเองออกจากที่แห่งนั้นด้วยความหวาดกลัวจากสิ่งมีชีวิตที่เอาแต่กระโดดไปมา

    เธอเดินฝ่าผู้คนออกมา แต่ไม่มีใครแม้แต่จะช่วยเหลือหรือสงสาร พวกเขาเพียงแต่เบี่ยงตัวหลบด้วยความรังเกียจเหยียดหยาม เธอเดินมาเรื่อยๆจนถึงบ้านซอมซ่อหลังหนึ่งที่เหมือนกำลังจะพัง เพียงเปิดประตู กลิ่นเหล้าก็ลอยออกมา

    กลับมาแล้วค่ะ..

    เธอเอ่ยออกไปอย่างแผ่วเบา ถึงแม้จะรู้ว่าพวกเขาก็ไม่คิดที่จะสนใจเธออยู่ดี

    นังลูกไม่รักดี หายไปไหนของแก

    เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนจะเข้ามากระชากตัวเธอ เด็กหญิงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แม้คนตรงหน้าจะไม่ใส่ใจเลย

    แล้วนี้อะไร สารรูปอย่างกับหมา ได้เงินมารึเปล่า ! “

    ผู้หญิงคนนั้นตะคอกถาม ไม้แม้แต่จะสนใจทำแผลให้กับเธอ เด็กหญิงเพียงก้มหน้า เพราะไม่ได้ต้องการที่จะไปขโมยของตามที่คนตรงหน้าสั่ง

    โอ้ย ! แกมันไม่ได้เรื่อง

    กล่าวก่อนจะสะบัดตัวเธอออก จนเด็กหญิงล้มลง เธอกลั้นสะอื้นอย่างเจ็บทั้งกายทั้งใจ ใครกันที่บอกว่าบ้านและครอบครัวจะช่วยเยียวยาทุกอย่าง พวกที่พูดแบบนั้นก็มีแต่พวกมีพร้อมทุกอย่างเท่านั้นแหละ !

    คือว่าหนู..

    เด็กหญิงกล่าวทั้งสะอื้น พยายามจะขอโทษ ถึงมันจะไม่ช่วยอะไรก็ตาม

    เอาเหล้ามาอีก !! “

    เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นอย่างเมามาย ผู้หญิงคนนั้นขยี้หัวอย่างหงุดหงิดใจ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างใส่เธอ

    นังเด็กโง่ มีแต่คนไม่มีสมองเท่านั้นแหละ ที่บอกจุดอ่อนทุกอย่างให้คนอื่นรู้! จำใส่สมองแกไว้

    เสียงของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นกระทบโสตประสาทของเธอ พร้อมๆกับที่ชายคนนั้นกระดกเหล้าหยดสุดท้าย และเขวี้ยงขวดลงพื้น !

    เพล้ง !!

    เฮือก

    ฉันสะดุ้งอย่างแรง เมื่อถูกสัมผัสจากใครซักคน ดวงตาเบิกกว้างขึ้น และลมหายใจที่ดังรัวขึ้นอย่างรู้สึกได้ ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะเผลอไปสบตากับคาร์อิสเข้า

    เขาดูตกใจเมื่อได้สบตากันฉัน จนฉันรีบถอนสายตา ก่อนที่เขาจะเห็นความรู้สึกของฉันทั้งหมด.. อย่างหนึ่งที่ไม่เคยมีใครรู้ เวลาที่ฉันตกใจมากๆ ดวงตาของฉันจะเปิดเผยความรู้สึกทุกอย่างของฉันออกมา  ทั้งความเจ็บปวด ความขมขื่น หรือแม้แต่ความชิงชัง ล้วนออกมาทางสายตา ทำให้เวลาฉันตกใจ ฉันจะต้องรีบหลบซ่อนสายตาจากผู้คน และพยายามกลับมาเป็นตัวฉันคนเดิมให้ได้

    “ ท่าาพี่ ! เป็นอะไรรึเปล่าฮะ !? “

    เครซิเมอร์กล่าวอย่างตกใจ รับรู้ได้จากน้ำเสียงและหน้าตาตื่นๆของเขา ฉันเพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะพบว่าฉันเผลอทำจานตกแตกซะแล้ว

    ออร์ล่า! เจ็บตรงไหนไหมลูก!?

    เสียงของท่านพ่อดังขึ้น ก่อนจะรีบบอกให้คาร์อิส คาร์ลอส เครซิเมอร์ และฉันถอยห่างจากเศษแก้ว

    ขอโทษค่ะท่านพ่อ.. คือว่า

    ข้าเป็นคนทำให้มายฮันนี่ตกใจเอง ถ้าจะโทษ โทษข้าเถอะ

    ยังไม่ทันกล่าวโทษตัวเอง เสียงของฟีลอสก็ดังขึ้น พร้อมกับเดินมาข้างๆฉัน

    มาย.. ฮันนี่ !? “

    ท่านพ่อยกยิ้ม แต่กลับแฝงความอำมหิตไว้ ดวงหน้าดูมืดคลึ้มขึ้นราวกับยักษ์มาร

    เอาเถอะน่าคุณ

    ท่านแม่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอ่ยห้ามปรามท่านพ่อ และหันมายกยิ้มอ่อนหวานให้ฟีลอส

    เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความผิดของใครหรอกจ้ะ มันเป็นอุบัติเหตุ

    แต่ว่า..

    ฉันเอ่ยแย้งเพราะความจริงเป็นความผิดของฉันเอง แต่ท่านแม่ก็พูดขัดขึ้น

    อ๊ะๆ ไม่ต้องเลยลูก ยังไงคร่าวหน้าคร่าวหลังก็ระวังหน่อยนะจ๊ะ

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็พยักหน้ารับอย่างเถียงไม่ได้ ฟีลอสก็เช่นกัน

    ซักพักก็มีสาวใช้มาทำความสะอาด และเก็บกวาดจนตรงนั้นเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

    มายฮันนี่ ข้าขอโทษเรื่องที่ทำให้ตกใจด้วยนะ

    ฟีลอสพูดอย่างสำนึกผิด ฉันคิ้วกระตุกกับคำเรียกขาน แต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรออกไป

    ไม่หรอก.. ข้าเองก็เหม่อลอย ขอโทษด้วยเช่นกัน

    กล่าวตอบพลางโค้งตัวให้เล็กน้อย ฟีลอสยิ้มกริ่มอย่างดีใจ ไม่รู้ว่าเพราะดีใจที่ฉันไม่ค้านที่เรียกฉันว่ามายฮันนี่ หรือดีใจที่ฉันไม่โกรธกันแน่..

    ท่านพี่ ! ทำไมให้เจ้านี้เรียกท่านว่าอย่างนั้นกัน !? “

    เครซิเมอร์ทำสีหน้าขัดใจ และถามฉันอย่างไม่เข้าใจ

    นั้นสิ ทำแบบนี้เจ้าจะเสียหายนะออร์จัง ! “

    คาร์ลอสเข้ามาสนับสนุนความคิดของเครซิเมอ์ราวกับนัดกันมา ฉันเพียงทำสีหน้าไม่รู้เรื่อง และตอบกลับอย่างเรียบเฉย

    ก็ไม่อะไรนะ.. เดียวโตไปเขาก็เลิกเรียกเองแหละ

    ตอนนี้พวกเรายังเด็ก.. หมายถึง พวกเขายังเด็ก ทำอะไรไม่รู้หรอกว่าสิ่งนั้นมันหมายความว่ายังไง หรือแม้แต่คำบางคำ ก็นะ เขาเรียกฉันว่ามายฮันนี่ เพราะท่านลุงอัลเดนสอนมา เดียวโตไปพอรู้ความเขาก็จะเลิกเอง

    คิดเองเออเองในใจ โดยไม่รู้เลยว่า ภายใต้รอยยิ้มของฟีลอสกำลังคิดอะไรอยู่..

    .
    .
    ผ่านมาจนงานเลี้ยงเลิก พวกเราเด็กน้อยต่างเริ่มง่วงงุน เครซิเมอร์หลับไปแล้วในอ้อมกอดของท่านแม่ ส่วนคาร์อิสกับคาร์ลอสก็ล่ำลา และแยกตัวไปเรียบร้อย ตอนนี้มีฉันที่พยายามเบิกเนตร(?) ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้กล่าวลาท่านลุงอัลเดนและฟีลอส..

    เอาจริงๆก็แค่กลัวเสียศักดิ์ศรี.. ก็ดูสิ ฟีลอสเด็กกว่าฉัน ( ถึงแม้ความจริงในโลกนี้จะอายุเท่ากันก็ตาม ) แต่เขากลับไม่มีแม้แต่อาการง่วงนอน หรือตาปรือเลยแม้แต่น้อย เขาเอาแต่ยิ้ม ยิ้ม และก็ยิ้ม

    วันนี้สนุกมาก ขอบใจที่ชวนมา

    ท่านลุงอัลเดนเอ่ยขอบคุณท่านพ่อ และพูดคุยอะไรกันเล็กน้อย นั้นทำให้ฉันกับฟีลอสได้กล่าวลากัน

    ขอบคุณที่มาร่วมงานนะ

    ฉันกล่าวสั้นๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี.. เอาจริงๆในหัวตอนนี้มีแต่เตียง..

    ไม่เป็นไร ทำให้ได้มาเจอเจ้าก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

    เขากล่าวอย่างร่าเริง ดวงตาของเขาเปล่งประกายราวกับได้เจอของเล่นใหม่

    ฉันเพียงครางตอบเบาๆในลำคออย่างรับรู้ และโบกมือลาเมื่อพวกเขาขึ้นรถม้าไปแล้ว

    แล้วเจอกันใหม่นะมายฮันนี่ยยยย์ 

    แว่วเสียงของเขาปลิวมากับลม ฉันเพียงยิ้มอ่อนด้วยสีหน้าว่างเปล่า พลางขออย่าให้ได้เจอะได้เจอกันอีกเลย.. และก้าวขึ้นรถม้าเพื่อกลับบ้านบ้าง

    .
    .
    ฟีลอส เจ้าแลจะชอบหนูออร์ล่านะ อยากได้มาเป็นมายฮันนี่จริงๆรึเปล่าเนี้ย 

    ท่านพ่อพูดขึ้นอย่างแซวๆ แต่ข้ากลับยกยิ้มขึ้นอย่างมีเล่ห์นัย

    ท่านพ่อ.. แล้วคิดว่าข้าเรียกเธอว่ามายฮันนี่ เพราะแค่เธอสวยจริงๆเหรอ

    เขามองใบหน้าของผู้เป็นพ่อที่ทำหน้าตางงงวย ก่อนจะหลุดหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นว่าท่านพ่อเข้าใจแล้ว

    คำว่ามายฮันนี่.. ต่อไปนี้ข้าจะเก็บไว้ใช้กับออร์ล่าเพียงคนเดียว




    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่นเรียบๆ



    Talk Talk 

    ขอโทษที่หายไปนานนะคะ กลับมาแล้ววว <3

    อันนี้เค้กของเครซิเมอร์กับออร์ล่าค่ะ ! 

    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×