ตอนที่ 1 : กรงขังรัก 01
กรงขังรัก (prison of love)
#01
" อ๊ะ อื้อ อือ หยุด อ๊ะ พอแล้ว!! "
เสียงหวานขอร้องอ้อนวอนร่างสูงที่กำลังทำรุนแรงกับช่องทางสีกุหลาบ น้ำสีใสไหลออกมาเป็นตัวเชื่อมระหว่างแกนกายและช่องทางนั้นไว้บ่งบอกได้ว่าทั้งสองทำกันมานานแค่ไหน บนเรือนร่างของผู้ถูกกระทำถูกแต้มด้วยรอยจุดสีเลือดเป็นจ้ำเต็มทั่วร่าง ผู้ถูกกระทำถูกกุมขังไร้อิสรภาพอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ มือทั้งสองถูกรัดกุมด้วยกุญแจมือเหล็กและผูกติดกับหัวเตียงไว้ทำให้เคลื่อนไหวออกจากเตียงไม่ได้ รอยแดงครอบคลุมข้อเท้าเรียวจากการใช้โซ่ล่ามของอีกฝ่าย
ร่างนั้นเปลือยกายเพื่อปรนเปรอความราคะให้กับ'เจ้าของชีวิต'อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่มีสิทธิเลือก
" มึงนี่ตอดกูแน่นจริงๆ สมแล้วที่เป็น'เมีย'กู' "
หนุ่มชาวจีนร่างกายสมบูรณ์ขยับซอยเอวถี่ๆเข้าช่องทางของคนที่เด็กกว่าถึง13ปี คริสจางอี๋ฝานเด็กอายุ20ปี เขาเข้ามาในสถานะของลูกบุญธรรมของอี้ชิง อี้ชิงเป็นลูกของผู้ทรงอิทธิพลหรือคนทั่วไปเรียกว่า'มาเฟีย' อี้ชิงมีความลับบางอย่างที่บอกใครไม่ได้แต่ไม่ถือเป็นจุดอ่อนของเขา เพราะความลับนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป และคนธรรมดาไม่สามารถรับได้ไหว ความสัมพันธ์ของคริสกับอี้ชิงเป็นสิ่งที่ออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ รู้เพียงแค่พวกเขาทั้งสองคน
คริสเม้มปากตนเองแน่นจากความรุนแรงที่ถูกมอบให้ สองมือจิกเข้ากับฝ่ามือของตัวเองเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด เอวคอดถูกยกขึ้นสูงเล็กน้อย ขาเรียวข้างหนึ่งพาดกับบ่าแกร่ง อี้ชิงส่งเสียงในลำคอแสดงความพึงพอใจ ดวงตาของคนใต้ร่างเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาจากความเจ็บปวดและเสียวซ่าน อี้ชิงนำมือข้างหนึ่งที่จับเอวคอดอยู่ไปเช็ดน้ำตาอย่างเบามือ แล้วจึงสานต่อการกระทำ
" เมียจ๋า จะออกแล้วนะ "
อี้ชิงเร่งจังหวะรุกเร้าเข้าไปจนคนใต้ร่างร้องเสียงหลง
" อ่า... "
ร่างสูงจัดการนำแกนกายของตัวเองออกจากช่องทางสีสตรอเบอร์รี่สด ทันทีที่นำออกน้ำกามค่อยๆไหลทะลักออกมาจำนวนมาก อี้ชิงควานหาทิชชู่เพื่อเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อย เขาจัดการทำความสะอาดของตัวเองและหันมาทำความสะอาดให้คนที่นอนหอบอยู่บนเตียง ใช้นิ้วล้วงเข้าไปควานหาน้ำกามของตนที่อาจหลงเหลืออยู่ด้านใน คริสขยับรับสัมผัสนั้นเบาๆจิกหมอนที่หนุนอยู่เงียบ อี้ชิงหลุดหัวเราะในท่าทีของอีกฝ่ายแล้วจึงล้มตัวนอนโอบร่างของคนตรงหน้าและห่มผ้าให้ความอบอุ่นแก่อีกฝ่าย ก่อนจะเข้าสู่นิทราไป
...
....
...
....
...
....
" จะไปทำงานแล้วเหรอ? "
เด็กหนุ่มร่างบางในเสื้อเชิ้ตสีบริสุทธิ์ตัวใหญ่ครอบคลุมปิดส่วนสะโพกได้ไม่สนิทนัก สองขาเรียวค่อยๆพยุงตัวเข้ามาหา ชายหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีมืดสนิทเข้าคู่กับกางเกงสีเดียวกัน กำลังผูกเนคไทเตรียมออกไปข้างนอก อี้ชิงมองสะท้อนอีกฝ่ายผ่านกระจก แล้วพูดตอบพร้อมติดกระดุมบริเวณข้อมือไปพลาง
" อืม เดี๋ยวเย็นก็กลับ "
คริสก้มหน้าแสดงสีหน้าสลดลง แล้วเคลื่อนตัวมาหาร่างสูงช้าๆ
'ฟุบ'
เขาเอนศีรษะตนเองวางไปไหล่แกร่งของอีกฝ่ายเบาๆ สองแขนเล็กโอบกอดจากทางด้านหลังไม่รัดกุมจนทำอีกฝ่ายอึดอัด อี้ชิงติดกระดุมเสร็จเหลือบมองคนตัวเล็กด้านหลัง และบรรจงจุมพิตไปบนเรือนผมสีน้ำตาลสีเข้มไปด้วยความเอ็นดู
" เหงาเหรอครับคนดี? "
" อื้อ.. อี้ฝานกลัวใครจะมาที่บ้านวันนี้จัง "
" ...? วันนี้จะกลับให้เร็วที่สุดเลย สัญญา? "
อี้ชิงชูนิ้วก้อยหันไปทางด้านหลัง อี้ฝานผ่อนคลายขึ้น เปรยยิ้มออกมาจางๆและยื่นมือมาเกี่ยวก้อยตอบ
" สัญญาแล้วนะ "
'ครืดด ครืดด ครืดด'
ชายหนุ่มปล่อยมือที่จับอยู่ไปหามือถือที่กำลังสั่นอยู่บนโต๊ะเล็กใกล้ๆแทน มือถือปรากฏเบอร์ของลูกน้องคนสนิท
'เซฮุน'
อี้ชิงคิดกังวลภายในใจ นอกจากเรื่องฉุกเฉินแล้วลูกน้องของเขาจะไม่โทรเข้ามาหาเด็ดขาด เพราะปกติเซฮุนเป็นคนจัดการแทนเขาทุกอย่างไม่ต่างจากรองหัวหน้าเลย และถ้าหากสงสัยว่าทำไมถึงไว้ใจเพราะเซฮุนคือ น้องชายแท้ๆ ของอี้ชิงนั่นเอง
ร่างสูงมองมือถือพลางสลับกับใบหน้าของร่างเล็กทำสีหน้าสงสัย อี้ฝานจ้องเขาเงียบไปพักหนึ่งแล้วจึงส่งยิ้มเป็นเชิงว่าไม่ต้องเป็นห่วง โบกมือเล็กๆให้เป็นสัญญาณการบอกลา อี้ชิงเห็นการกระทำที่ซ่อนความรู้สึกเหงาของอีกฝ่าย รู้สึกทนไม่ไหว จึงเดินไปเข้ากอดร่างนั้นอย่างแนบแน่น แขนแกร่งโอบร่างเล็กไว้ไม่ปล่อย และให้มือถือนั้นสั่นต่อไปโดยไม่คำนึงถึงความร้อนใจของคนโทร แขนเล็กของคริสกอดตอบ
ทิ้งระยะเวลาไปชั่วอึดใจคนโดนกอดเริ่มอึดอัดจึงขยับตัวเล็กน้อย และเอ่ยเสียงอูอี้ในอ้อมกอดของอี้ชิง
" จะทำตัวดีๆ ไม่ต้องห่วงหรอก อี้ชิงไม่ต้องเครียดนะ "
อี้ชิงสะอึกในคำพูดที่ราวกับอ่านใจของเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง คลายกอดและใช้มือข้างที่ว่างลูบเรือนผมนุ่มสีน้ำตาลของคริสอย่างทะนุถนอม เปรยยิ้มเศร้าจางๆบนใบหน้าคมของอี้ชิง พร้อมลักยิ้มประจำตัวที่ปรากฏออกมา คริสตกใจกับรอยยิ้มของอี้ชิงรีบยกมือขึ้นมากอบกุมใบหน้าของเขาไว้เบาๆ พร้อมเอ่ยเชิงตำหนิ
" อย่ายิ้มแบบนี้สิ ผมใจไม่ดีเลย "
" ผมรักคริสนะ ผมจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องคริสเด็ดขาด "
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรอีกฝ่ายถึงพูดแบบนี้ คริสรู้สึกไม่ดีกับรอยยิ้มและคำพูดนี้เลยจริงๆ ราวกับว่ารางสังหรณ์ของเขามันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนกลายเป็นความจริงในอีกไม่กี่อึดใจ เพียงแค่ปล่อยมือจากใบหน้านี้ ตัวของเขาจะต้องจากไปในที่แสนไกล ที่ที่อี้ชิงจะหาเขาไม่พบ
สิ่งที่อี้ฝานคิดมักจะเป็นจริงเสมอ แต่ครั้งนี้เขาได้แต่หวังว่าคงคิดไปเองเหมือนทุกๆครั้ง
" คริสก็รักอี้ชิงเหมือนกัน ไปทำงานได้แล้ว เซฮุนคงตามหาแย่แล้วล่ะ "
อี้ชิงทำหน้าเศร้าลงทันที มือที่สัมผัสกับเรือนผมอยู่ขยับให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ๆ เขาเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆบริเวณหน้าผากของคริสและจรดจุมพิตไปผ่านริมฝีปากที่สัมผัส ชายหนุ่มเคลื่อนตัวออกก่อนส่งยิ้มเป็นครั้งสุดท้าย เป็นการบอกลาตามแบบฉบับของเขา
อี้ฝานส่งยิ้มตอบและเดินไปส่งอีกฝ่ายที่ประตูบ้านจนสุดทาง โบกมือลาจนลับสายตาไป
'กึก'
เสียงปิดประตู อีกฝ่ายออกจากบ้านไปแล้ว ความเหงาเข้ามาครอบคลุมแทนที่
คริสพยุงตัวเองกลับไปที่ห้อง จัดการทำงานอดิเรกของตัวเองตามปกติเหมือนทุกๆวัน ภายในบ้านขนาดใหญ่ที่แสนสุขสบายแต่ถ้าหากต้องอยู่คนเดียวแบบนี้ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน มันน่าวังเวงเกินไป นี่คือสิ่งที่อี้ฝานคิดทุกครั้งเวลาที่อยู่บ้านคนเดียวโดยปราศจากเพื่อนบ้าน ครอบครัว หรืออี้ชิง
ร่างเล็กเปลี่ยนสถานที่จากหน้าบ้านมาด้านในห้องนอนร่วมของเขาและอี้ชิง คริสนั่งลงบนเก้าอี้ไม้สไตล์โมเดิร์นและโต๊ะที่คุ้นเคย คริสเปิดลิ้นชักที่เขามักจะเก็บของส่วนตัวของตนเองไว้เป็นประจำ รวมถึงสมุดบันทึกเล่มนี้เช่นกัน คริสค่อยๆแกะสมุดบันทึกเล่มใหม่ที่อี้ชิงซื้อให้ตอนที่พวกเขาออกไปด้านนอกด้วยกัน เป็นเหมือนที่ระลึกสำหรับเขากับอี้ชิงนั่นเอง วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาตัดสินใจเขียนสิ่งที่ระบายความในใจออกมา หรือ บันทึกประจำวัน ก็คือ ไดอารี่นั่นเอง
คริสเปรยยิ้มจางๆและบรรจงเขียนไดอารี่ครั้งแรกของเขา ด้วยความตั้งใจและกังวลในคราวเดียวกัน..
...
'แกร้ก'
...
ในขณะที่คริสกำลังเขียนไดอารี่ได้จนเกือบเต็มหน้ากระดาษด้วยลายมือที่สังเกตได้ว่ามีความตั้งใจแฝงอยู่ จู่ๆเกิดเสียงประตูที่ชั้นด้านล่าง ซึ่งเสียงนั้นไม่ได้เกิดจากการเปิดประตูแต่เกิดจากการสะเดาะกลอนเข้ามา อี้ฝานชะงักหยุดการกระทำของเขา และพยายามทำตัวให้เงียบที่สุด ค่อยๆย่องไปที่ประตูหน้าห้องโชคดีที่ประตูแง้มอยู่จึงเปิดได้ไม่ยาก เขาเดินไปที่พักบันไดชั้นสองอย่างคล่องแคล่วและชะโงกหน้าออกไปดูเผื่อว่าจะไม่ใช่สิ่งที่เขากำลังคิดอยู่
แต่โชคคงจะไม่เข้าข้าง...
ชายหนุ่มแปลกหน้ากำลังอยู่ในบ้านของเขา และท่าทีก็ดูไม่น่าไว้ใจอย่างเห็นได้ชัด ชายแปลกหน้าสวมสูทสีดำพกปืนไว้ที่ด้านข้างลำตัวทางขวา เรือนผมสีขาวที่เซ็ทมาอย่างดีน่าดึงดูดแต่สายตาสีมืดที่สอดส่องมองหาบางอย่างอยู่ราวกับ'นักฆ่า'นั้น ไม่เชิญชวนให้เข้าไปทักตอนนี้แน่นอน
คริสรีบเคลื่อนตัวออกไปจากที่พักบันได สองเท้ารีบจ้ำไปที่ห้องเพื่อหาโทรศัพท์ที่อี้ชิงได้ให้ไว้เผื่อติดต่อเวลาฉุกเฉิน เริ่มหาจากบริเวณโต๊ะ เตียงนอน ผ้าห่มหรือตู้เสื้อผ้า เขากลับไม่พบวี่แววของโทรศัพท์นี้เลย
' คริส ทำไงให้โทรศัพท์พังเนี่ย ผมจะให้เซฮุนไปซ่อมให้ '
ประโยคของอี้ชิงผุดขึ้นมาในหัวแทบทันที ไม่กี่วันมานี้เขาทำโทรศัพท์ของตัวเองพังจึงเป็นเหตุผลที่เขามาเขียนไดอารี่นี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาถึงนึกไม่ออกกัน
'ตึก ตึก'
เสียงรองเท้าบูทกระทบเข้ากับพื้นไม้ที่คาดเดาจากเสียงได้ว่าคงเดินมาถึงบริเวณที่พักบันไดที่เขาอยู่เมื่อครู่แล้ว
คริสพยายามรวบรวมสติให้อยู่กับตัวมากที่สุด พยายามหาอาวุธที่อาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งภายในห้องนี้ด้วยระยะเวลาอันสั้น เขาพบมีดพกที่ดูใหม่เอี่ยมในลิ้นชักหัวเตียง และปืนกระบอกหนึ่งพร้อมกระสุนเต็มแม็ก คริสเก็บมีดพกไว้ด้านในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตตัวเดียวของเขา และตัดสินใจจะใช้ปืนขู่อีกฝ่าย เพราะถ้าหากโดดลงไปด้านล่างเขาคงไปไหนไม่ได้แน่ๆ และอีกอย่างชายแปลกหน้าคนนี้คงไม่ได้มาคนเดียวแน่นอน
'ตึก ตึก ตึก ตึก'
'ตึก..'
'แกร้ก'
เสียงฝีเท้าหยุดที่หน้าบานประตูห้อง ตามมาด้วยเสียงประตูที่ค่อยๆเปิดจากด้านนอกเข้ามา ชายแปลกหน้าเคลื่อนตัวเข้ามาภายในห้องอย่างช้าๆ เขาส่งยิ้มเป็นมิตรพร้อมยกมือขึ้นทั้งสองข้าง โดยมีคริสกำลังยกปืนพกขึ้นขู่อยู่
" ผมแบคฮยอนครับ "
" ใครถาม "
."" ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณอี้ฝาน "
คริสแอบสงสัยในใจว่าชายที่ชื่อว่า'แบคฮยอน'คนนี้รู้ชื่อของเขาได้อย่างไร แต่ติดตรงที่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะสงสัย เพราะอีกฝ่ายก็อันตรายไม่แพ้กัน ภายใต้รอยยิ้มเป็นมิตรนั้นไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่บ้าง หรือจะ'ฆ่า'เขารึเปล่าก็ไม่รู้
" คุณมาทำอะไรที่นี่? "
" มา...หาตัวคนๆนึงน่ะครับ ซึ่งผมก็เจอแล้วล่ะ "
" คนๆนั้นคงเป็น'ผม'สินะ "
"" เข้าใจเร็วดีนี่ครับ...อืม ไหนๆก็ได้คุยกับคุณแล้ว ขอถามอะไรอย่างได้มั้ยครับ? "
" ถ้าผมบอกว่าไม่ คุณก็ถามอยู่ดี "
" คุณจำคนชื่อ'คริส'ได้ไหมครับ? "
คริส...? นั่นมันชื่อของเราไม่ใช่เหรอ หรือแค่คนชื่อคล้ายๆกัน? แล้วทำไมเราถึงรู้สึกคุ้นเคยแบบนี้ล่ะ ..
" อึก!? อย่าเข้ามา! ผมไม่รู้จักคนที่คุณพูดหรอก!! "
คริสรู้สึกเจ็บที่ศีรษะขึ้นมาอย่างกะทันหันราวกับมีบางอย่างจะผุดขึ้นมาจากความทรงจำของเขา สิ่งที่เขาไม่เคยรู้ สิ่งที่เขาหลงลืมไป ร่างเล็กทรุดตัวลงกับพื้นเข่าทั้งสองข้างกระแทกลงกับพื้นอย่างแรงจนมีรอยแดงขึ้นรอบ ปืนยังคงจ่อไปที่แบคฮยอน แต่แขนอีกข้างหนึ่งที่ช่วยประคองปืนไว้กลับมาจับที่ศีรษะแทน คริสพยายามเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าแต่ภาพตรงนั้นกลับเลือนลาง ภาพในหัวกลับเริ่มเด่นชัดมากขึ้น
' อี้ฝาน พี่ชื่อ-คริส-นะครับ พี่จะดูแลอี้ฝานเองนะไม่ต้องกลัว '
ใคร ? ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? มองไม่ชัดเลย..
' ไม่ว่ายังไง.. พี่ก็ไม่ปล่อยให้อี้ฝานตายหรอก '
' พี่รักอี้ฝานนะ .. รักมากที่สุด.. อึก.. อย่าร้องไห้เลย.. ฝากบอก..พี่รัก'ชานยอล '
ใครกัน? เขาเป็นใคร? ทำไมถึงรู้สึกปวดใจแบบนี้ล่ะ? แล้วใครคือชานยอล?
ยิ่งคิด.. ยิ่งเจ็บ..
' ตึก ตึก '
" ขอโทษที่ทำให้คุณเจ็บด้วยนะครับ แต่ผมก็แค่สงสัยว่ายังจำ'คุณคนนั้น'ได้ไหมก็เท่านั้น "
เสียงของแบคฮยอนเข้ามาใกล้ในระยะที่อันตรายแล้วเขาทำอะไรไม่ได้ แม้แต่แรงที่จะประคองตัวเองยังแทบไม่มีเหลือเพราะอาการเจ็บที่หัว แบคฮยอนนั่งลงแกะปืนในมือของคริสออกและสไลด์ไปอีกด้านหนึ่งของห้อง
" นี่อาจจะทำให้เจ็บนิดหน่อยนะครับ แต่เดี๋ยวจะสบายเอง "
แบคฮยอนดึงผมของคริสเบาๆเพื่อให้มาสบตากับเขา และจัดการหยิบของบางอย่างใต้เสื้อสูท ร่างเล็กมองตามมืออีกฝ่ายที่กำลังหา ของสิ่งนั้นคือ'เข็มฉีดยา'อันหนึ่งที่มีของเหลวบรรจุอยู่ด้านใน คริสพยายามปัดเข็มที่แบคฮยอนถืออยู่ออก แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะแรงของเขาตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้ แบคฮยอนหัวเราะในลำคอเบาๆ และจับเข็มแทงลงไปที่ข้อมือของคริสอย่างแรง
" อ้ากกกก !!? เจ็บ!!?! "
" ขอโทษครับ แต่ผมเคยโดนมาก่อนเข้าใจเลยทีเดียว "
แบคฮยอนเหลือบมองคริสที่กรีดร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ยาสลบชนิดพิเศษถูกฉีดเข้าไปในร่างกาย ทำให้คริสเกิดอาการวูบหมดสติในทันทีร่างเล็กล้มตัวลงฟุบเข้ากับไหล่ของแบคฮยอนพอดิบพอดี เขาจัดการเก็บเข็มฉีดยาเข้าใต้เสื้อสูทและอุ้มร่างเล็กนั้นขึ้นมาด้วยแรงที่มีอย่างสบายๆ แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นไดอารี่เล่มหนึ่งที่ถูกเขียนไว้ไม่เสร็จดี แบคฮยอนแอบอ่านไดอารี่ของคริสแล้วสลดใจ ถอนหายใจออกมาราวกับมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
" ทั้งๆที่คนที่คุณควรอยู่ข้างๆคือ คุณชานยอล แท้ๆ.. แต่คุณอี้ชิงกลับ.. เฮ้อ~ เรื่องของพวกพี่นี่น่าปวดหัวจริงๆ "
แบคฮยอนอุ้มร่างเล็กลงมาจากชั้นสอง และพาออกไปที่รถยนต์คันหรูสีมืดสนิทโดยมีชายอีกสองคนนั่งอยู่ด้านใน นั่นคือคนขับและ...
" ได้ตัวมาแล้วครับ คุณชานยอล "
" อืม ดีมาก ขอบคุณแบคฮยอน "
คนในรถลดกระจกลงพอให้เห็นสายตาเจ้านายของแบคฮยอนหรือก็คือ'ชานยอล'เขาพยักหน้ารับและเปิดประตูที่นั่งของตนเองให้นำคริสเข้ามาด้านใน แบคฮยอนค่อยๆวางร่างเล็กลงเบาะหลังข้างชานยอลเบาๆ และจัดการปิดประตูให้เสร็จสรรพ ลูกน้องอีกคนหนึ่งหรือ'คยองซู'มองตามแบคฮยอนที่กำลังเดินเข้ามานั่งด้านหน้าคู่กับเขาด้วยสายตาไม่พอใจด้านใน
" หึงเหรอ? "
ชายหนุ่มร่างเพรียวเข้ามานั่งภายในรถข้างๆคนขับ ทันทีที่เห็นสายตาจึงเอ่ยแซวทำเอาคยองซูแอบสะอีก แล้วรีบทำท่าทีกลบเกลื่อนทันที คยองซูชายร่างเล็กสวมสูทเช่นเดียวกับแบคฮยอน เรือนผมสีน้ำตาลแดงไว้หน้าม้าจนเกือบจะปิดตาทำให้ดูน่ารัก แต่ด้วยตาที่กลมโตเมื่อโดนมองเป็นอันต้องขนลุกเพราะเหมือนจะจ้องเขมือบตลอดเวลา นั่นคืออาวุธของคนๆนี้ไม่ต่างจากรอยยิ้มของแบคฮยอนที่่ซ่อนอะไรไว้หลายๆอย่างนั่นเอง
" ใครหึงพูดให้ดีๆ "
" อ๋อเหรอคร้าบ~"
แบคฮยอนทำเสียงกวนอีกฝ่ายโดยสายตาแอบมองด้านหลังเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเป็นพิเศษ ชานยอลจับตัวของอี้ฝานให้เอนมาทางตัวเอง จัดท่าทางให้อีกฝ่ายได้นอนอย่างสบายโดยให้นอนตักเป็นที่เรียบร้อย ชานยอลพยักหน้าส่งสัญญาณให้แบคฮยอนที่มองอยู่ออกรถได้ คยองซูจัดการออกรถและมุ่งหน้ากลับสถานที่เดิมของพวกเขา
" ได้เวลากลับบ้านแล้ว อี้ฝาน "
TO BE CONTINUED..
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

กรี๊ดๆๆๆๆ อี้ชิงรีบกลับมาเร็ว ชานยอลมาแล้ว