คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บรรณารักษ์โหยหวน
เว็บบอร์ดแห่งหนึ่งได้เขียนเรื่องข่าวลืิอเกีี่ยวกับห้องสมุดลึกลับที่ทุกคนเล่าลือจนเป็นกระแสดัง เรื่องราวพูดถึงห้องสมุดแห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นไว้สำหรับใช้บริการฟรีและมีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นบรรณารักษ์ประจำอยู่ อยู่ย่านที่ไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปผ่านมาซักเท่าไหร่จึงไม่มีผู้มาใช้บริการมากนัก และต่อมาก็เกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นบรรณารักษ์ที่ประจำอยู่ที่นั่นเธอได้ฆ่าตัวตายด้วยการกรีดข้อมือตัวเองอย่างเป็นปริศนา ไม่ใครรู้สาเหตุที่เธอทำแบบนั้นนอกจากว่าจะมีใครที่สามารถคุยกับคนตายได้เท่านั้น หลังจากนั้นก็มีข่าวลือว่ายามค่ำคืนจะมีคนพบเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในห้องสมุดแห่งนี้เดินวนเวียนอยู่ภายในห้องสมุดและร้องไห้สะอื้นโหยหวน คนที่เฝ้าและคนแถวใกล้เคียงได้ยินและได้มีกลุ่มวัยรุ่นที่อยากท้าทายได้แอบเข้าไปในห้องสมุด หลังจากกลุ่มวัยรุ่นกลับออกมาจากห้องสมุดแห่งนั้นก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าได้ยินเสียงผู้หญิงโหยหวนน่ากลัวและยังบอกอีกว่าวิญญาณตนนั้นเหมือนกำลังตามหาอะไรเพราะพวกเขาได้ยินเสียงที่กระซิบพึมพำเบาๆว่า… “ เห็น..ของ…ของ…ฉัน…ไหม “ “ เห็น..ของ…ของ…ฉัน…ไหม “ “ เห็น..ของ…ของ…ฉัน…ไหม “ จากกระแสข่าวนี้ทำให้ห้องสมุดแห่งนี้กลายเป็นที่พูดคุยอย่างแพร่หลายจนทุกคนต่างตั้งชื่อห้องสมุดแห่งนี้ว่า ‘ ห้องสมุดบรรณารักษ์โหยหวน ’ และยังมีความเชื่อที่เล่าต่อกันไปอีกว่าถ้าเกิดนำของที่เธอตามหามาให้เธอได้เราจะขออะไรก็ได้จากเธอ ทุกคนเดาว่ามันคงเป็นเครื่องประดับสวยๆซักอย่างเธอได้ก่อนตายเพราะเธอเป็นผู้หญิงจึงมักมีคนที่มาตอนกลางคืนและนำเครื่องประดับต่างๆมาวางและพูดคำว่า
‘ บรรณารักษ์โหยหวน ’ สามครั้งถ้าเธอปรากฏตัวก็จะสมหวังตามข่าวที่ได้ยินก็มีคนทำได้บ้างไม่ได้บ้างผู้คนมาพิสูจน์เป็นจำนวนมากจนเจ้าของเกรงว่าห้องสมุดจะได้รับความเสียหายจึงต้องรอบรั้วไม่ให้เขาไปแต่เขายังไม่ได้ทุบแต่ก็มีแผนในเร็วๆนี้
“ เห็น..ของ…ของ…ฉัน…ไหม……. “ “ เห็น..ของ…ของ…ฉัน…ไหม…… “
“ เห็น..ของ…ของ…ฉัน…ไหม!!!!!!!!!!!!!!!! “
หลังจากกวินมาส่งแก้วที่บ้านนั้นทั้งสองคนได้ถูกทำร้ายจากวิญญาณที่ตามติดหญิงเธอมาจนทำให้หมดสติและล้มลง กวินได้ติดต่ออิสระเพื่อให้รินช่วยติดต่อพ่อแม่ของแก้วให้รู้ส่วนตัวเขานั้นรีบพาแก้วไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่นั่นก็ยังไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่เมื่อพ่อแม่ของแก้วมาเขาก็ยังไม่ได้ๆกลับไปไหนยังคงเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก
“ เอ้านี่ ไงล่ะพ่อหมอออกเดทแล้วไปเจออะไรอีกแล้วล่ะสิ " อิิสระยื่นกาแฟร้อนให้กวินและนั่งลงข้างๆ
“ อืม ” กวินตอบ “ มันเป็นยังไงเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ "
“ คุณแก้วถูกวิญญาณทำร้ายน่ะ ” / “ หือ? มัันทำร้ายคนได้ด้วยเหรอ ”
“ แกก็เคยเจอนี่พี่สาวคัพซีไง แล้วตอนที่หน้าร้านอาหารนั่นแกเป็นอะไร? ” / “ นั่นสิฉันเป็นอะไร ตอนฉันจับมือกับแก้วอยู่ก็ปวดหัวจิ๊ดแทบระเบิดเลย ” กวินเล่าเรื่องที่เกิดระหว่างเขากับแก้วให้อิสระฟังแฃวพอได้ฟังอาการของอิสระและก็สะกิดใจถึงอะไรบางทั้งคู่คุยกันได้พักหนึ่งพ่อและแม่ของแก้วจึงออกมาจากห้องพัก
“ ต้องขอโทษพวกด้วยนะจ้ะที่ไม่ได้มาดูแล และขอบคุณเธอด้วย… ” / “ วินครับคุณน้า และนี่อิสครับ "
“ ขอบคุณมากจ้ะวิน อิสถ้าไม่ได้พวกเธอไม่รู้แก้วจะเป็นยังไงบ้าง พวกเธอเข้าไปเยี่ยมเถอะแก้วตื่นพอดีเดี๋ยวน้าจะออกไปจัดการที่บ้านหน่อยช่วยอยู่เป็นเพื่อนแก้วหน่อยนะจ้ะ ”
กวินและอิสระยกมือไหว้พ่อแม่ของแก้วและแนะนำตัวแล้วจึงขอตัวเข้าไปเยี่ยมเธอในห้อง แก้วสลบไปได้แปดชั่วโมงเหมือนการนอนหลับปกติเธอจึงฟื้นมาเหมือนคนตื่นนอนตอนเช้าหมอที่ตรวจอาการก็วินิจฉัยว่าเกิดอาการช็อคในร่างกายอย่างรุนแรงจากการตกใจหรือกระทบกระเทือน
“ ขอบคุณมากนะคะคุณวิน คุณอิส ” / “ มาคง มาคุณอะไรกันครับเราเป็นเพื่อนกันแล้วเรียกชื่อธรรมดาเถอะครับแล้วก็ไม่ต้องลุกมาเลยครับคนป่วยต้องพักผ่อนเยอะๆ ”
ทันทีที่พวกกวินเปิดประตูเข้ามาก็ได้ยินเสียงทักของแก้วกล่าวขอบคุณและพยายามลุกขึ้นมาจากเตียงแต่เป็นอิสระที่ไวกว่ายกมือขึ้นห้ามเอาไว้กวินเองก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ วินนี่ยังไม่นอนเลยเหรอคะ ” / “ ก็นิดหน่อยน่ะครับ ” กวินยิ้มให้แก้วเหมือนจะบอกว่าแค่นี้สบายมากๆ
“ ผมขอถามอะไรหน่อยนะครับแก้ว ” กวินเข้ามานั่งข้างเตียงเคยไข้และเริ่มคุยกับแก้ว “ อะไรเหรอคะ? ”
“ ช่วงมีอะไรแปลกเกิดขึ้นกับคุณบ้างไหม ” / “ แบบไหนเหรอคะ? ” กวินทำท่าทางลำบากใจที่จะพูดออกไป
“ เอ่อ ก็แบบว่ารู้สึกเหมือนมีใครจ้องมองหรือเหมือนมีใครอยู่ด้วยครับ ” / “ หมายถึงผีน่ะเหรคะ? เอ…จะว่าไปหลังจากเอาหนังสือเล่มนั้นมาก็เหมือนจะรู้สึกแบบนั้นจริงๆด้วยค่ะทำไมวินถึงรู้ล่ะหรือว่าวินมีความรู้เรื่องนี้ "
“ ก็ไม่ขนาดนั้นครับจะบอกยังไงดี แล้วหนังเล่มที่ว่าอยู่ที่ไหนเหรอครับ? ” / “ อยู่ที่บ้านค่ะถ้าวินอยากดูเดี๋ยวตอนบ่ายคุณหมอที่ตรวจอาการบอกว่าแก้วออกไปพักที่บ้านได้แล้วเอาไว้ไปดูพร้อมกันที่ไหมคะ ”
แก้วหน้าขึ้นสีเล็กน้อยเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอชวนผู้ชายเข้าบ้านที่ไม่ใช่ญาติของตังเองพวกกวินเองก็เห็นด้วยเพราะพวกเขาเองจะได้พักผ่อนและคิดว่าในตอนกลางวันวิญญาณตนนั้นคงไม่ทำอันตรายแก้วได้จึงนัดกันไว้ในตอนเย็นว่าจะไปที่บ้านของเธอ
พวกกวินมาถึงบ้านของแก้วในช่วงเย็นบ้านของเธอเป็นบ้านสองชั้นสีขาวสบายตาดูอบอุ่นเมื่อเข้าไปภายในบ้านก็เจอกับพ่อแม่และแก้วนั่งอยู่มี่ห้องรับแขกต้อนรับพวกเขาอยู่หลังจากนั่งลงที่ห้องรับแขกพ่อแม่ของแก้วก็ขอตัวออกไปทำอย่างอื่นแต่ที่จริงแล้วยังแอบดูว่าลูกสาวจะมีท่าทีกับสองหนุ่มหล่อโดยเฉพาะกวินที่มักถูกพูดถึงบ่อยครั้ง
“ นี่ค่ะ หนังสือเล่มนั้นเบาๆหน่อยนะคะมันค่อนข้างเก่า ”
แก้วยกหนังสือเล่มใหญ่หนาสีแดงเก่าเหมือนผ่านเวลามานานมาวางตรงหน้ากวิน เขาจับหนังสือเล่มนั้นอย่างเบามือและในทันทีที่กวินได้สัมผัสที่หนังสือนั้นวิญญาณผู้หญิงคนนั้นที่ติดตามแก้วมาก็ปรากฎขึ้นลอยอยู่เหนือหนังสือเล่มใหญ่เล่มนั้นเขาเพียงแค่เหลือกตาไปมองแว่บหนึ่ง อิสระที่อยู่กับกวินมานานรู้สึกได้อาการของเพื่อนแต่ไม่ได้ทักอะไรเพราะกลัวว่าเพื่อนหญิงอีกคนจะเกิดกลัวขึ้นมา ‘ อยู่นี่เอง ’ กวินคิดในใจที่แท้วิญญาณตนนัั้นไม่ได้หายไปไหนหลังจากที่ทำร้ายแก้วแต่กลับมาอยู่กับหนังสือเล่มนี้คงจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันแน่
“ แก้วเอาหนังสือเล่มนี้มาจากไหนเหรอ? ” กวินถามขึ้นด้วยความสงสัย “ เคยได้ยิน ‘ห้องสมุดบรรณารักษ์โหยหวน’ ไหมคะ ”
กวินและอิสระขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินชื่อสถานที่ที่แก้วบอก อิสระไม่รอช้าคว้าสมาร์ทโฟนขึ้นมาหาข้อมูลทันที
“ นี่มันที่เฮี้ยนที่ดังมาเลยนะครับเนี่ย แก้วเข้าไปได้ยังไงกันครับแล้วยังไปเอาของแบบนี้มาอีก บรึ๋ยยยแก้วนี่สุดๆไปเลยนะครับ ” หลังจากอิสระใส่คำค้นหาว่า ห้องสมุดบรรณารักษ์โหยหวน เข้าไปผลการค้นหามีมากกว่าแสนที่พูดถึงเรื่องนี้
“ แหะๆ ไม่ได้เก่งกล้าอะไรหรอกค่ะฉันไปตอนกลางวันก่อนที่นั่นจะปิดไม่ให้เข้า ช่วงนั้นเจ้าของติดประกาศว่าหนังสือภายในห้องสมุดนี้ถ้าถูกใจก็สามารถซื้อเอาในราคาถูกได้เลยค่ะ แล้วนิยายเล่มนี้ในหมู่นักสะสมเป็นนิยายที่หายากและ คลาสสิคมากๆ แก้วก็สะสมหนังสือพวกนี้มานานแล้วได้ไปเจอกับเล่มนี้ที่ห้องสมุดนั้นก็เลยซื้อกลับมาถูกมากๆเลยค่ะ ” แก้วเล่าเรื่องที่เธอได้หนังสือนิยายเล่มนี้ด้วยดวงตาเป็นประกายเพราะมันคือสิ่งที่เธอรักทำเอาสองหนุ่มทำหน้ากะอักกะอ่วนใจที่จะบอกว่าหนังสือเล่มนี้มันมีผีสิงอยู่
“ ผมขอดูหน่อยนะครับ ”
กวินบรรจงเปิดหนังสืออย่างช้าๆเพราะกลัวมันจะเสียหาย สายตาก็คอยแอบมองวิญญาณหญิงสาวตนนั้นอยู่เป็นระยะเขาต้องแน่ใจว่าวิญญาณตนนี้จะไม่ทำอะไรเพื่อนๆของเขาถ้าเกิดอะไรจะได้แก้ไขได้ทัน แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเพราะนอกจากวิญญาณตนนั้นจะไม่ทำอะไรแล้วเหมือนเธอจะยังดูหวาดกลัวเขาไม่กล้าเข้ามาใกล้ทั้งที่ดูจะหวงหนังสือเล่มนี้อย่างมากและบางทีเธอก็มักจะหันไปทางอิสระและจ้องมองเขาอยู่พักใหญ่ทำให้น่าสงสัยเป็นอย่างมาก กวินเปิดหนังสือจนถึงหน้าสุดท้ายมาถึงปกหลังที่แข็งและหนาของหนังสือเขาใช้มือลูบไปตามปกและรู้สึกถึงสัมผัสแปลกๆที่ตรงกลางปกหลังของหนังสือเมื่อลองเคาะดูรู้สึกได้ว่าตรงกลางปกแข็งนั้นให้ความรู้สึกกลวงๆ
“ เอ่อ แก้วผมขออนุญาตเปิดดูหน่อยได้ไหมครับ ”
กวินมองหน้าของแก้วพยักหน้ารับเป็นเชิงอนุญาตเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าข้างในมีนมีอะไรอยู่ แต่ไม่ทันได้ลงมือเปิดชายหนุ่มต้องหันไปมองเหนือหัวเพราะเขารุ้สึกได้ถึงอันตรายจากวิญญาณหญิงสาวตนนั้นเหมือนกับเธอไม่อนุญาตให้เขาเปิดมันออกมันจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาอาฆาต แต่พราะอะไรกวินเองก็บอกไม่ถูกเขาไม่เกรงกลัว ชายหนุ่มเลือกที่จ้องตากลับวิญญาณตนนั้นด้วยสายที่แข็งกร้าวเช่นกันราวกับจะบอกว่า ‘ ถ้าแกกล้าก็เข้ามา ’ หลังจากนั้นก็ไม่เกิดอะไรขึ้นอีกผีสาวยอมถอยแววตาฉายแววอ่อนลงแต่มันก็ยังจ้องเขาอยู่ กวินให้มีดคัตเตอร์ค่อยๆกีดอย่างเบามือที่สุด อาการของวิญญาณหญิงสาวดูกระวนกระวายไม่น้อยจนในที่สุดเขาก็เจอกับของที่อยู่ข้างใน… มันเป็นรูปชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังจับมือกันและยิ้มอย่างมีความสุขโดยที่ผู้หญิงคนนั้นหน้าเหมือนกับวิญญาณหญิงสาวติดตามแก้วมาไม่มีผิด หลังจากเธอได้เห็นรูปของตัวด็กรีดร้องออกมาเสียงดังจนอิสระและแก้วได้ยินแค่แว่บหนึ่งถึงกับสะดุ้งและหันมองหน้ากันส่วน กวินนั้นเขาที่รับรู้ได้ดีพิเศษกว่าคนอื่นถึงกับต้องทิ้งหนังสือและเอามืออุดหูไว้และวิญญาณตนนั้นก็ได้หายไป
“ ไอ้วิน นั่นใช่..ใช้ไหม ” / “ อืม แต่เธอไปแล้วหนังสือนี่คงเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเธอสงสัยเราต้องไปที่ที่เธออยู่ “
“ ฉันว่านะก่อนอื่นเรามาหาไอ้หมอนี่ก่อนดีกว่า อืม… เหมือนจะฉันจะคุ้นหน้านะรู้สึกจะเป็นลูกชายของเพื่อนของลุงฉันเดี๋ยวขอฉันถามก่อน ”
" ผมว่าคืนนี้ผมต้องยืมหนังสือเล่มนี้ซักหน่อยนะครับ… " กวินยิ้มให้แก้วเป็นเชิงขอร้องด้วยรอยยิ้มแบบนี้มีเหรอที่จะปฏิเสธได้และเธอยังอยากจะไปด้วยแต่โดนกวินรวมทั้งพ่อแม่ของเธอห้ามเอาไว้
หลังจากขอยืมหนังสือเล่มนั้นจากแก้วมาแล้วกวินกับอิสระก็มุ่งหน้ามาที่ห้องสมุดเจ้าปัญหาที่แก้วนำหนังสือมา และจากที่อิสระถามจากลุงของเขาจึงได้รู้ว่าผู้ชายในรูปนั้นคือลูกชายของเพื่อนที่ธุรกิจกับลุงจริงๆเขาจึงขอเบอร์ติดต่อกับชายคนนั้นและบอกว่าต้องการรบกวนปรึกษาเรื่องทำรายงานวิชาการบางอย่างเพราะผู้ชายคนนั้นเป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการให้กับบริษัทมาอย่างแห่ง
“ สวัสดีครับพี่เปรม ” / “ พวกนายที่นี่มัน…”
“ ขอโทษด้วยครับพี่พอดีผมรีบเลยลืมบอกไปว่ารายงานผมมันเกี่ยวสิ่งเร้นลับเพื่อให้ได้บรรยากาศผมเลยนัดมาที่นี่อยากให้พี่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานที่นี้หน่อยครับ ” เปรมไม่รู้มาก่อนว่าเขาจะมาที่นี่เมื่อเห็นเขาก็อึ้งไปเพราะในอดีตเขาเคยมาที่นี่เป็นประจำมาก่อน
“ ที่นี่แบบนี้มันไร้สาระนายจะพาพี่มาทำไมเราเปลี่ยนที่กันดีกว่า ” / “ เดี๋ยวครับพี่ ”
เปรมเริ่มหงุดหงิดเพราะคิดว่าทำไมต้องเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้หันหลังและกำลังจะเดินออกไปแต่ก็ถูกกวินคว้าแขนเอาไว้ก่อน
“ อะไรอีกเสียเวลานะนี่พี่มีงานค้างอยู่ อร… ” กวินชูรูปคู่ชายหญิงให้เปรมดูเขาอึ้งนิ่งและจับรูปนั้นด้วยมือที่สั่นเทา
“ พวกนายมีรูปนี้ได้ยังไง ” / “ พวกผมเจอมันในหนังสือเล่มนี้ครับ ”
“ นั่นมันหนังสือที่ฉันซื้อให้อรนี่..” กวินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งสองแต่ดูเหมือนเปรมนั้นจะดูคิดถึงและเศร้าเมื่อได้ผู้หญิงในภาพและเริ่มร้องไห้ออกมา ทั้งกวินและอิสระต่างงงว่าเรื่องทำไมกลับกลายเป็นแบบนี้ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าเปรมนั้นคงทำให้วิญญาณผู้หญิงคนนั้นโกรธเพราะทำผิดต่อเธอแต่ตอนนี้กลับเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ดูรักเธอเป็นอย่างมาก
“ โอ้ย โอ้ย โอ้ย ” อิสระที่ยืนอยู่ก็เกิดอาการปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรงจนล้มลงไปนอนกุมหัวอยู่ที่พื้นร่างกายของเขารู้สึกหมดแรง
“ ไอ้อิส ไอ้อิส ” กวินรีบเข้ามาดูอาการทันทีและห่างออกไปไม่ไกลจากอิสระเขาเห็นวิญญาณผู้หญิงบรรณารักษ์คนนั้นกำลังยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าห้องสมุดโดยที่ร่างของเธอกำลังดูดกลืนอะไรบางอย่างที่ลอยออกมาจากตัวอิสระ
“ อร…นั่น…อรจริงๆเหรอ ” / “ เปรม..ที่รัก ”
“ พี่เปรมอย่า!!! ”
วิญญาณหญิงสาวค่อยๆลอยตรงไปหาผู้ชายคนนั้นที่กำลังนั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่และตัวเขาเองก็กำลังลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปหาวิิญญาณตนนั้นเช่นกัน กวินตะโกนห้ามแต่ดูเหมือนของเขาจะไปไม่ถึงเปรมเสียแล้ว และยังมีอิสระที่นอนสลบอยู่ตรงพื้นทำให้เขาลังเล
“ อร…ผมคิดถึงคุณ ” / “ ฉันก็เหมือนกัน…ใช่ฉันคิดถึงแกมาก กริ๊ดดดดดด”
บรรณารักษ์โหยหวนกรีดร้องใส่หน้าของชายหนุ่มและยกมือขึ้นบีบคอ ปากก็ยังกรีดร้องต่อไปกวินที่เห็นท่าไม่ดีวิ่งเข้ากระชากวิญญาณตนนั้นออกมาแต่ไร้ประโยชน์เขาถูกแขนของวิญญาณตนนั้นกระแทกกระเด็นออกไปจนลงไปนอนกองกับพื้น
“ เพราะแกไอ้เปรม เพราะแก ทำให้ฉันเป็นแบบนี้!!! ไหนว่าจะแต่งกับฉันไงแก แก แก!! “
” อั๊ก อะ..อรผมยังรักคุณอยู่นะอร "
“ ไม่จริง ไม่จริง ไม่จริ๊งงงง ”
ตอนนี้เปรมแทบจะหมดลมหายใจอยู่แล้วกวินรีบลุกขึ้นวิ่งอ้อมไปทางด้านหลังของชายหนุ่มออกแรงกระชากเขาออกมา ครั้งนี้มันเป็นผลสำเร็จทั้งสองกระเด็นล้มกลิ้งไปกับพื้นแต่วิญญาณร้ายไม่หยุดแค่นั้นเธอพุ่งเข้ามาหมายจะฆ่าเปรมให้ได้
“ นี่มัน….. ”
วิญญาณหญิงสาวไม่ทันได้มาถึงตัวเปรมกับกวินก็หยุดชะงักลงกลางทางเพราะเธอเห็นโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอเปิดค้างไว้อยู่นั้นมันเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่ในชุดแต่งงาน
“ ฮือ…ทำไมกัน ทำไมยังเก็บมันไว้อีก ฮือ.. " วิญญาณของอรถือโทรศัพท์ขึ้นมามองน้ำของเธอไหลหยดลงมาเป็นทาง เป็นภาพที่กวินไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าวิญญาณจะสามารถมีน้ำตาได้
“ ทำไมทั้งที่ไม่ได้ต้องการฉันแล้วทำไมพี่ถึงเก็บภาพนี้ไว้ คุุณนภาไม่ใช่เหรอที่พี่จะแต่งกับเธอฉันมันแค่ตัวสำรองที่ผ่านพี่หลอกฉันมาตลอด ฮือ ฮือ ฮือ ”
“ อร ฟังพีาก่อน ” เปรมกับกวินเห็นท่าทางที่อ่อนลงของวิญญาณอรแต่กวินยังไม่ไว้ใจเขากันเปรมไว้ห่างไม่ให้เข้าไปใกล้กับเธอ
“ พี่รักอรเสมอนะ นภากับพี่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กไม่เคยคิดอะไรมากกว่านั้นเลยและนภาเองก็มีคนรักของเธอเหมือนกัน เชื่อพี่เถอะอร ” / “ ไม่จริง!!! แล้วทำไมพี่เปรมต้องไปซื้อแหวนกับนภาด้วย ”
“ หมายถึงแหวนวงนี้เหรออร…” เปรมหยิบสร้อยคอที่เขาคล้องคอของตัวเองออกมาสร้อยเส้นนั้นมีแหวนวงหนึ่งร้อยอยู่ แหวนวงนั้นด้านในสลักคำว่าอรและเปรมหัวแหวนประดับเพชรเม็ดที่ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กไปสำหรับผู้หญิงล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็กๆดูสวยและสง่าเขากระชากมันออกจากคอและยื่นให้อร
“ นี่เป็นแหวนของอร พี่ให้นภาช่วยเลือกมันให้เธอเพราะขนาดนิ้วน่าจะเท่ากันพี่คิดไว้ว่าจะทำเซอร์ไพรส์อร ถึงผู้ใหญ่จะไม่ชอบที่เราจะแต่งงานกัน แต่พี่กับนภาวางแผนกันไว้ว่าจะทำให้พวกผู้ใหญ่ได้รู้ว่าพวกเรารักกันจริงๆในวันแต่งงานที่ผู้ใหญ่จัดให้พี่กับนภาเราจะสลับคู่กันโดยให้อรมาแทนนภา แต่ไม่ทันที่พี่จะได้บอกอร อรก็…."
“ ไม่จริง ทำไมพี่เปรมไม่รีบบอกอรก่อน ทำไม ทำไม ฮือ… อรขอโทษ พี่เปรมอรขอโทษ ฮือ…” ชายหนุ่มสวมกอดกับหญิงสาวอย่างแนบแน่นราวกับว่ากลัวเธอจะหายไปจากตรงนั้นถ้าเขาปล่อยเธอไปแต่ความจริงก็คือความจริงนี่คงเป็นกอดสุดท้ายที่เขารู้ดีอยู่แกใจ
“ น้องชายช่วยอะไรมีหน่อยได้ไหม ” / “ คะ..ครับได้ครับ ”
“ ช่วยเป็นพยานให้พี่หน่อย ” / “ พยานอะไรครับ ”
“ ก็การแต่งงานของพี่กับอรไง ”
เปรมและอรลุกขึ้นและกุมมือกันแน่นตอนนี้ทั้งยิ้มอย่างมีความสุขทำให้กวินเองที่เห็นภาพนี้อดยิ้มไปด้วยไม่ได้ เข้าเดินขยับมาข้างหน้าชายหญิงที่จับมือกันทำหน้าที่คล้ายกับบาทหลวงที่เคยเห็นในหนัง ตอนนี้อรอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ใบหน้าของเธอดูอิ่มเอมสวยและดูดีเป็นอย่างมากเปรมเองก็อยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ดูดีไม่แพ้กันถึงแม้มันจะเป็นเพียงภาพลวงที่อยู่ได้ชั่วคราวแต่ว่าความรู้สึกของทั้งสองคนนั้นจะไม่มีวันเลือนหายไปจากใจ
“ อะแฮ่มๆ ผมว่าไอ้วินมันไม่ถนัดหรอกครับพี่ให้ผมจัดการเองดีกว่า ”
อิสระลุกขึ้นปัดฝุ่นตามตัวออกและเดินมาที่อรกับเปรมกวินเห็นแบบนั้นก็นึกขำว่าเพื่อนเขาคนนี้มันกวนได้ตลอดเวลาจริงๆเขาใช้ไหล่กระแทกเบาๆเจ้าเพื่อนตัวแสบก็เอามือนวดขมับคล้ายกับยังปวดหัวอยู่แต่ก็ยังยิ้มร่า
“ คุณเปรมคุณยินดีจะรับคุณอรเป็นภรรยาอย่างถูกต้องหรือไม่ ” / “ รับครับ!! ”
“ คุณอรคุณยินดีจะรับคุณเปรมเป็นสามีอย่างถูกต้องหรือไม่ ” / “ รับค่ะ!! ”
“ เอาล่ะเรียบร้อย จูบเลย จูบเลย จูบเลย!!! ”
อิสระกับกวินตบมือเชียร์ให้คู่บ่าวสาวที่ผ่านพิธีจากบาทหลวงจำเป็น ชายหนุ่มบรรจงจูบลงขึ้นริมฝีปากของหญิงสาวเบาๆทั้งสองได้เติมเต็มความรักของกันและกันแม้มันจะเป็นช่วงเวลาเพียงไม่นานแต่มันเต็มไปด้วยความสุข เพื่อนซี้ทั้งสองคนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความรักของคนทั้งคู่ที่มีให้แก่กันมันมากมายจนพวกเขารู้สึกว่าไม่อยากให้วิญญาณของอรนั้นหายไป
“ ขอบใจนะจ้ะเด็กๆ ” อรหันมาขอบคุณกวินและอิสระและกอดกับเปรมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะค่อยๆสลายหายกลายเป็นละอองแสงลอยหายไป
“ ขอบใจพวกนายมากนะ ” เปรมขอบคุณพวกกวินที่ทำให้เขาได้พบกับอรอีกครั้ง
“ มะ..มะ..ไม่เป็นไรครับ ฮึก..ฮึก..ฮือ..ฮือ ทำไมมันเศร้าแบบนี้วะไอ้วินโอ๋ฉันที ฮือ ” อิสระถึงกับปล่อยโฮออกมาเหมือนเด็กและยังดึงเอาเสื้อของเพื่อนมาสั่งขี้มูกพรืดใหญ่โดยไม่เกรงเลยซักนิด
“ ความรักมันทั้งสุขและทรมานแบบนี้สินะ… "
ความคิดเห็น