ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราชันย์ภูตฝึกหัดกับแก๊งค์ป่วนมิติ

    ลำดับตอนที่ #2 : แก๊งตบผี

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 63


         แอ๊ดดด…. เสียงดังโหยหวนทรมานใจของประตูไม้บานเก่าคร่ำครึของบ้านไม้สองชั้นที่ถูกปล่อยทิ้งร้างมาเป็นเวลานานที่กำลังค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆตามแรงผลักของ  ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผมสีทองที่ก้าวเท้าพาตัวเองเข้าไปด้านในพร้อมกับเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกสองคนที่มีท่าทีกล้าๆกลัวๆถอยเข้าถอยออกอยู่หน้าประตูบานเก่านั้น 

         ค่ำคืนนี้เป็นคืนเดือนมืด มืดขนาดที่แม้กระทั่งมือของตัวเองยังมองไม่เห็นประจวบเหมาะกับเป็นคืนวันพระตามความเชื่อของคนทั่วไปเชื่อถือกันว่าเป็นวันปล่อยผีที่เหล่าวิญญาณสัมพเวสี​ผีไร้ญาติต่างออกมาขอส่วนบุญ  รอบๆตัวบ้านนั้นเป็นป่ารกมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมแทบจะบดบังกลืนตัวบ้านไปจากสายตา    ประกอบกับเสียงไม้กระดานลั่นของพื้นบ้านยามที่พื้นรองเท้าผ้าใบลงน้ำหนัก ดังเอี๊ยดอ๊าด เสียงหยดน้ำหล่นร่วงกระทบพื้นหลังฝนตกองค์ประกอบทุกอย่างดูช่างไม่ต่างอะไรจากบ้านร้างผีสิงในหนังเลยทีเดียว

     

         ความเงียบที่ไม่มีแม้แต่เสียงแมลงกลางคืนหรือความเยือกเย็นราวกับเหยียบย่างอยู่ในแดนลับแล  พวกเขามาที่นี่เพราะได้ยินข่าวลือที่ว่ามีวิญญาณผีร้ายเที่ยวออกอาละวาด​หลอกหลอนชาวบ้านที่เดินทางสัญจรผ่านบ้านหลังนี้โดยเฉพาะ "ผู้ชาย" มักจะโดนหนักทีเดียวขนาดถึงขั้นจับไข้หัวโกร๋น​  บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ห่างหมู่บ้านเล็กๆไม่ไกลนักด้วยความที่เป็นเส้นเดินหลักที่ชาวบ้านใช้กันเป็นประจำต้องผ่านบ้านร้างหลังนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ จึงต้องจำใจใช้กันต่อไป แต่เมื่อแสงพระอาทิตย์ลับไปผู้คนก็ไม่กล้าผ่านมาทางนี้แต่อย่างใด


     

         " นี่.... จะรอหลวงตามาตัดริบบิ้นเหรอเข้ามาสิ " เสียงเรียกด้วยน้ำเสียงนิ่มๆดังจาก "กวิน" ชายหนุ่มร่างสูง  ผมทองนัยน์ตาสีอำพันที่เดินนำหน้าอาสาเปิดประตูเข้าไปในร้างคนแรกแต่เมื่อหันกลับมาไม่เห็นเพื่อนตัวดีทั้งสองที่เป็นตัวตั้งตัวตีที่ดึงเขามาที่นี่แม้แต่เงาจึงออกอาการหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย

     

         " อะ.. เออ…ถ้านิมนต์หลวงตามาได้ฉันนิมนต์มาแล้วเว้ยขอทำใจก่อนดิวะบ้านผีสิงไม่ใช่คอฟฟี่ช้อปนั่งจิบกาแฟสบายใจนะ
    ไอ้บ้า " เสียงตะโกนเย้วๆตอบกับเป็นของ "อิสระ" ชายหนุ่มมาดกวนผมสีดำ หน้าตี๋ ที่ยืนหน้าประตูด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆ

         “ นี่อิส..จะเข้าไปจริงๆเหรอฉันว่ากลับเถอะรู้สึกไม่ดีเลย.. “  "สิลิน" หญิงสาวผมดำ สวมแว่นตาสีดำกรอบหนา เพื่อนสาวในกลุ่มที่ติดตามมาที่บ้านร้าง ใช้มือเล็กเกาะรั้งแขนของหนุ่มตี๋ไม่ให้เข้าไปในนั้นแสดงสีหน้าวิตกและอาการกลัวอย่างเห็นได้ชัด

         “ เฮ้ยได้ไงยัยเต้าหู้มาถึงนี่แล้ว…เธอดูนี่เสียก่อน “ หนุ่มตี๋ล้วงมือเขาไปในเสื้อเชิ้ตคว้าเอาพวงพระเครื่องนับสิบองค์ชูให้หญิงสาวข้างๆที่เกาะเขาดูว่าเขาเตรียมพร้อมขนาดไหน

         “ เหอะ.. ฉันไม่เห็นมันจะช่วยอะไรนายได้เลย “ สาวแว่นเบ้ปากอย่างเซ็งๆ

        “ ไปๆ… นี่เธอก็รู้ว่าไอ้วินมันไม่มาง่ายๆถ้ามันไม่อยากมานี่กว่าฉันจะกล่อมมันมาได้ต้องยอมทำรายงานในส่วนของมันให้ตั้งเทอม​หนึ่งแน่ะ “ อิสระลากสิลินให้เดินตามเขามาอย่างทุลักทุเล เพราะหญิงสาวดูเหมือนจะมีความกลัวมากกว่าความกล้า

        “ ตามใจ...เลือกเอาระหว่างยอมไปล่าผีกับฉัน หรือให้ไอ้วินบ่นเธอแบบนัทสต๊อบแถมยังไม่ซ้ำด้วยเธอจะเอาแบไหน “ หนุ่มตี๋ผมดำ เหล่ตามามองสาวแว่นรอฟังคำตอบ

         “ อะ.. เอ่อ..” สิลินลังเล

         “ ลีลาจังยัยเต้าหู้ไปล่ะนะ “ อิสระทำท่าจะกลับหลังหันเดินเข้าไปในบ้านร้าง

         “ นี่.. เดี๋ยว​สิก็ได้ ก็ได้เข้าไปก็เข้าไปหวังว่าหลวงพ่อบนคอของนายจะช่วยได้นะ “ 

    สิลินรั้งแขนของอิสระไว้พร้อมกับตวัดสายตามองเขามุ่ยหน้าไม่พอใจเล็กๆ หนุ่ม​ตี๋เหยียดยิ้มกว้างอย่างพอใจในการตัดสินใจของเธอ


     

         “ เฮ้อ...จะรอให้ฉันโดนยุงหามไปกินก่อนใช่ไหมถึงจะเข้ามาได้น่ะ “ ทั้งอิสระและสิลินต่างก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีเสียงแข็งๆจากชายหนุ่มผมทองที่ยืนรอเรียกพวกเขาทำให้ทั้งสองกุลีกุจอเข้าไปในบ้างร้างทันที

         “ อุ๊บ โอ้โหนี่มันแหล่งรวมซากเน่าหรือไงวะ  ไหนจะเสียงประตูโหยหวนแล้วยังกลิ่นสาปนี่ออกครบสูตรบ้านผีปอบในตำนานไปเลย “ แสงสว่างจากไฟฉายกำลังสูงถูกสาดไปข้างหน้าและกวาดไปรอบๆตัวบ้านพร้อมกับมีเสียงพูดบ่น ดังขึ้นทำลายความเงียบเป็นเสียงของชายหนุ่มผมดำที่ตั้งแต่เขาย่างก้าวเข้ามาภายในบ้านร้างแห่งนี้ก็มีท่าทีหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาหันซ้ายทีขวาทีแต่ก็ไม่สามารถหยุดปากที่จ้ออยู่ตลอดไม่ได้

     

         “ ไอ้อิส…. เลิกเกาะเป็นตุ๊กแกซักทีเถอะ  เธอก็ด้วยยัยสิลิน พวกแกนี่ยังไงมากับฉันตั้งกี่ครั้งแล้วเนี่ยทำไมยังไม่ชินกันซักที คราวหน้าไม่ต้องมาชวนฉันเลยนะ.. “ กวินที่กำลังเดินนำหน้าเข้าไปสำรวจภายในบ้านร้างต้องหยุดเดินกะทันหันก่อนจะหันมาเพื่อนทั้งสองเขาที่เกาะชายเสื้อของเขาแน่นแถมยังเดินแนบชิดตัวติดกับกวิน จนต้องเอ่ยปากออกมาด้วยความรำคาญ…

         “ เอ่อ.. ไอ้คุณกวินครับใครมันจะเก่งกล้าสามารถอย่างแกล่ะ ฉันแค่คนธรรมดาหน้าตาดีที่ชอบความท้าทายเว้ย!! “ เจ้าเพื่อนตัวกวนที่เกาะติดหนึบหันมาเถียงสู้กับกวิน

    แบบกวนๆทำให้เขาส่ายหน้าแบบหน่ายๆ


         “ ว้าย!! วินอะไรจับขาไม่รู้ “ สิลินสาวแว่นดึงกระตุกเสื้อกวินอยู่หลายครั้งจนตัวเขาเอนไปตามแรงที่ดึงของเธอ

     

         “ เฮ้อ.. นี่ยัยเต้าหู้เธอกลัวถุงพลาสติกตั้งแต่เมื่อไหร่… “ กวินหันหลังไปมองที่ขาของสิลินก่อนจะหยิบเอาถุงพลาสติกที่ติดขาออกและวางแหมะบนหัวของเพื่อนสาวทำให้เธอยิ้มหัวเราะแห้งๆ

    "แหะๆ.. มัน​บรรยากาศ​มันชวนให้คิดนี่นา… “


     

    " ไอ้วินตามข่าวมันจะออกมาหลอกคนตรงถนนหน้าบ้านนี่หว่า.. ไหงวันนี้เงียบสนิทหมาซักตัวยังไม่มี หยุดพักร้อนเหรอวะ? “


         “ .....สงสัยไปทะเลมั้ง.. “

         “ อืม ช่วงนี้อากาศร้อน....ถุย!! ไอ้บ้า​ผีบ้านแกดิไปพักร้อนเที่ยวทะเล!! “ กวินยิ้มขำกับท่าทีโวยวายของอิสระ ก่อนจะกวาดแสงไฟมองสำรวจไปรอบตัวบ้าน หาสิ่งที่พวกเขาต้องการพบเจอที่เรียกว่า ‘ผี’

     

         “ นี่ อิส วิน กลับกันเถอะเค้ากลัว “ สิลินจับชายเสื้อเชิ้ตของกวินแน่นก่อนจะกระตุกแรงๆหันมองอย่างหวาดระแวงบอกกับกวินด้วยเสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้

     

         “ จะบ้าเหรอ ยัยเต้าหู้มาจนถึงขนาดนี้

    แล้วจะถอยได้ไง หึ.. หึ.. มันคงกลัวท่านอิสระคนนี้แน่ๆ “


         “ หึ....มันไม่ได้กลัวแกหรอกไอ้ท่านอิสระ แล้วมันก็อยู่ข้างหลังพวกแกด้วย…."

         “แว๊กกก/กริ๊ดดด"

         ขณะที่อิสระกำลังเยินยอตัวเองอย่างภูมิอกภูมิใจอยู่นั้น  กวินหันหน้ากลับมาด้านหลังพร้อมพูดขึ้นทำให้เพื่อนรักทั้งสองของเขาทั้งอิสระและสิลินร้องเสียงหลงกระโดดโหยงกอดหลังกวินแน่นทันที


         “เอ้ยย!! ออกไปอย่าเข้ามาชิ้วๆ”

         “ไอ้อิส...นั้นมันผีไม่ใช่หมาดูแกไล่เข้าแล้ว ก็ยัยสิลินเลิกเอาเสื้อไปเช็ดขี้มูกจะได้ไหมเปียกไปหมดแล้วเนี่ย”


         กวินหันมองเพื่อนทั้งสองของเขาด้านอิสระได้แต่ก้มหัวงุดๆชูพระเครื่องในคอพวงเบ้อเร่อชูไปข้างหน้าส่วนสิลินก็เอาแต่ซุกหน้าไปที่แผ่นหลังของกวิน ไม่ซุกหน้าเปล่าเธอยังสั่งขี้มูกพรืดใหญ่โดยไม่เกรงใจเจ้าของแผ่นหลังที่ตัวเองอาศัยแอบผีเลยแม้แต่น้อย กวินพยายามอยู่หลายครั้งที่จะแกะเธอไปแต่เจ้าหล่อนก็เด้งกลับมาเกาะติดหนึบเหมือนเดิม


     

        “ไอ้อิสแกเอากล้องมาถ่ายผีไม่ใช่เหรอ...มาถ่ายสิมาลงช่องยูทุปแกไง”

         “ อะ..เออขอทำใจซักชั่วโมงสิวะผีนะเว้ยไม่ใช่หมาชิสุขนฟูน่ารักน่ากอด บรึ๋ยย ” กวินหันมองทางเพื่อนของเขาก็เห็นอิสระนั่งพนมมือก้มหัวผลกๆอยู่ใกล้ๆพร้อมกับส่งเสียงตอบกับมา

     

         “ ดีเหมือนกันฉันจะออกไปรอข้างนอกเชิญแกเล่นกับชิสุแสนน่ารักขนฟู แกไปล่ะกัน ”

         “ เฮ้ย!!! โถๆๆไอ้คุณกวินคร้าบใจคอนี่แกมัน...เออขอหาก่อน ”

         กวินยืนรอทำหน้าเซ็ง การมาสำรวจบ้านร้างผีสิงของพวกเขาไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งแรก แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งเพื่อนสนิทตัวดีทั้งสองก็ยังคงเป็นแบบนี้ประจำ อิสระกำลังสาละวนหากล้องวีดีโอที่อยู่ในกระเป๋าเป้เพื่อจะนำมันมาถ่ายบันทึกภาพวิญญาณ ขณะเดียวกันกวินก็ถือโอกาสดึงหน้าของสิลินให้เงยขึ้นเพื่อพูดกับเธอ

     

         “ ยัยสิลินไปหลบหลังไอ้อิสโน้นถ้าไม่อยาก โดน-มัน-กัด ” กวินพูดเน้นเสียง พร้อมกับส่งยิ้มแฉ่งให้กับสิลินทำเหมือนกับเรื่องที่พูดนั้นเป็นเรื่องเล็กๆไม่มีอะไร แล้วก็เหมือนจะในทันทีที่กวินพูดจบสิลินกระโดดเด้งตัวเองไปด้านหลังอิสระโดยไม่มีการขัดขืนต้องให้มีการยื้ดยุดฉุดกระชากแต่อย่างใด

     

         “ ได้ยังไอ้อิส คราวนี้สวยถูกใจแกเลย ” กวินหันมาพูดกับอิสระ

         “ เออได้แล้ว.. ”

         “ พวกแกมาจับตัวฉันไว้ รับประกันเลยไอ้อิส ”

         กวินหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่อิสระเปิดกล้องวีดีโอได้สำเร็จยกขึ้นถ่ายไปข้างหน้าพร้อมกับสาดแสงไฟฉายไปในทิศทางเดียวกับที่กวินบอกว่ามีผีปรากฎตัวอยู่ ด้วยมือที่สั่นเทาเลื่อนจากด้านล่างขึ้นบนภาพแรกที่พวกเขาเห็นคือเท้าคู่หนึ่งที่ซีดเผือด เลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆก็พบกับชุดคลุมสีขาวขาดหวิ่น สีมอเก่าๆคล้ายชุดคลุมสีขาว

     

         “ อู๊วว คัพซีในตำนาน!! หน้าอกขนาดนี้หน้าจะขนาดไหนเนี่ย ”  อิสระที่ส่องไฟไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนจะร้องออกมาเสียงดังหยุดกึกอยู่ตรงบริเวณหน้าอกของผีหญิงสาวทรงโต กลมกลึงได้รูปสวยเหมือนหัวรถไฟชินคันเซนในอุดมคติ ทำเอาอิสระเคลิ้มหลงจนต้องเอ่ยปากออกมาเสียไม่ได้  กวินกับสิลินได้แต่ส่ายหน้าหน่ายๆเวลาแบบนี้ยังมีเรื่องนี้ภายในหัวอีกได้ อิสระไม่รอช้าเลื่อนไฟฉายขึ้นพื่อจะได้เห็นหน้าเป็นขวัญตาซักครั้ง


     

         “ เฮ้ย!! / กริ๊ดดด!! ”

         แสงไฟฉายเลื่อนขึ้นสาดส่องไปที่วิญญาณหญิงสาวที่ยืนอยู่โดยตอนนี้เลื่อนมาที่ตำแหน่งใบหน้าของมัน เมื่อสายตาของคนทั้งสองต่างมองไปยังผีสาวตนนั้นทั้งอิสระและสิลินต่างร้องเสียงหลง ใบหน้าที่ถูกแสงไฟฉายสาดไปกระทบปรากฏเป็นใบหน้าหญิงสาวทรงหน้ารูปไข่สวย แต่ดวงตาที่แดงกร่ำบูดโบนแทบจะถลนออกมานอกเบ้า เส้นเลือดผุดขึ้นเต็มทั่วทั้งใบหน้าเต้นตุ๊บๆเหมือนจะแตกออกมาได้ทุกขณะ เรือนผมสีขาวฟูกะเซอะกะเซิงลิ้นยาวๆถูกแลบออกมาเรี่ยพื้นก่อนจะตวัดกลับเข้าปากของมัน

     

          “ ไงไอ้อิสคัพซีสมใจไหมวะ ”

          “ อะ..เออ..สะ...สมใจตัดหัวออกเหลือแต่ตัวไว้แล้วกัน ” กวินส่ายหัวยิ้มขำเพื่อนรักของเขาแม้แต่ผีมันยังไม่เว้น กวินรู้สึกผิดสังเกตุุมากในครั้งนี้เพราะทุกครั้งที่เขามาล่าท้าผีเขาไม่เคยเจอกับผีที่เฮี้ยนขนาดนี้มาก่อนทุกครั้งจะเจอก็แค่การปรากฎตัวที่เป็นเงาลางๆหรือไม่ก็ทำเสียง ทำของตกแล้วก็หายไป

         “ พวกแกมาทำอะไรในที่ของฉัน!!! ”  เสียงตะคอกคำรามของวิญญาณร้ายดังลั่นตะโกนใส่คนทั้งสามทำให้พวกเขาเริ่มระวังวิญญาณผีตรงหน้า


         “ ออกไปจากที่ของข้าเดี๋ยวไอ้พวกเด็กเวร!! ” วิญญาณผีสาวคำรามกร้าวไล่ตะเพิดพวกเขาอย่างไม่ใยดีก่อนจะหันมองตาขวางมาทางอิสระ เจ้าหนุ่มตี๋ถึงกับสะดุ้งมือไม้สั่นแต่ก็ยังไม่วายพูดกวน " นะ..นี่ฉันหล่อขนาดนั้นเลยเหรอ.. "

         " ใจเย็นๆก่อนสิครับคุณพี่คุยดีๆกันก่อนเถอะครับ ”  

         " ไม่!! ใครพี่แกฉันไม่มีอะไรจะคุยกับพวกแก ออกไป ออกไป!! ”

         กวินส่งยิ้มละไมให้กับผีสาวทำท่าจะขอเจรจาย่างสันติแต่ดูเหมือนว่าผีสาวไม่ยอมคุยด้วยง่ายจึงบอกให้เพื่อนทั้งสองถอยไปห่างๆเพื่อความปลอดภัย ไม่!! ใครพี่แกฉันไม่มีอะไรจะคุยกับพวกแก ออกไปออกไป!! " 

    ดูเหมือนวิญญาณผีสาวจะไม่ยอมเจรจากันอย่างสันติส่งเสียงกรีดร้องบาดแก้วหูจนคนทั้งสามรีบยกมือขึ้นอุดหูและทำท่าจะพุ่งเข้าใส่อิสระทำให้ทั้งสามคนต้องวิ่งหนีตัวรอดกันก่อน

         

         “ ไอ้วิ๊น!!  ทำอะไรซักอย่างสิวะ ”


          “ จะให้ทำยังไงล่ะวะ ”

           กวินและอิสระต่างตะโกนคุยกันแข่งกับเสียงกริ๊ดเสียงกริ๊ดลากยาวอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหยุดลงหลังวิ่งเข้าลึกไปในตัวบ้านโชคดีที่ตัวบ้านนั้นกว้างจึงเจอกับห้องโถงกว้างๆกวินและพวกเพื่อนของเขาหันมองไปรอบๆกลับไม่พบร่างของวิญญาณผีสาวแม้แต่เงากวินกวาดสายตาไปมองรอบๆก็ต้องชะงักเมื่อสายตาของเขาหันไปสบตาเข้ากับนัยน์ตาสีแดงกร่ำและเงาร่างสีดำทะมึนซ่อนตัวในเงามืดของมุมห้องทันทีที่เงาร่างนั้นสบตากับกวินมันก็พุ่งเข้าใส่เขาทันที  พลั๊ก!!  กวินที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถูกผีสาวพุ่งชนล้มเพื่อนทั้งสองที่อยู่ด้านหลังก็พลอยล้มไปด้วย

     

         “ อุ้ย.. ก้น​ฉัน ”

         “ วินวินวินช่วยด้วยช่วยด้วยฮือๆ ”

         อิสระลุกขึ้นลูบก้นตัวเองด้วยความเจ็บส่วนสิลินนั้นเหมือนจะสติแตกไปเสียแล้วเดือดร้อนอิสระที่รีบเข้าปลอบประคองลุกขึ้นมา

     

         “ อ้าวเจ๊เล่นแรงนี่ได้....ไอ้อิสเอาพระที่คอแกมาสิ ” กวินลุกขึ้นปัดฝุ่นที่ติดตามตัวก่อนจะยืนจ้องเขม็งที่วิญญาณผีสาวด้วยใบหน้าที่หงุดหงิด

         “ เอ้า!! แล้วฉันล่ะไอ้วิ๊นน ”  

         " จะได้รู้ไง.."   "รู้อะไรวะ?" อิสระส่งพวงพระเครื่องที่คอให้กวินด้วยความสงสัย

         "ว่าพระจริงหรือพระเก๊.." กวินรับพระเครื่องมาแล้วโยนใส่หน้าผีสาวทันที!!


     

         " โอ้ย.....ฉันเจ็บนะไอ้เด็กเวร!!! " พระเครื่องกระแทกหน้าผีสาวอย่างจังแต่มันเพียงโอ้ย..เบาๆก่อนจะคว้าพระเครื่องขว้างกลับมาที่พวกกวินทำเอาทั้งคนอึ้ง 


     

         “ หือ!! ”


         “ เฮ้ย!! ”

         “ ฮือๆไม่เอากลัวแล้ว ”

    กวินอิสระและสิลินต่างออกอาการอึ้งตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงผลที่ได้มันกับตรงกันข้ามกับที่คิดไว้

         “ เคี๊ยกๆ ฉันบอกพวกแกแล้วไงให้ออกไปงั้นก็มาอยู่เป็นเพื่อนกันที่นี่ดีกว่าไหมเด็กๆโดยเฉพาะไอ้ตี๋คนนั้นฉันชอบมันจัง ”  วิญญาณ​ผีสาวหัวเราะสะใจในชัยชนะของมันก่อนจะพูดเสียงเย็นเยียบข่มขวัญพวกกวิน


     

         “ ไอ้วิ๊นน มีแผน A B C D อะไรเอ็งงัดออกมาด่วนเลยเว้ยย ”อิสระโวยวายลั่นด้วยความกลัวคว้าแขนกวินเขย่าไปมาจนเขาตัวโยนไปมา


     

         “ ไม่มี... ” กวินตอบหน้านิ่งเพราะสถานการณ์แบบนี้เขาก็ไม่เคยเจอมาก่อนแต่ก่อนจะได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ผีร้ายก็พุ่งตัวอ้อมเข้ามาจะทำร้ายอิสระ

         ผั๊ว!!  กริ๊ดดด!!  กวินผีสาวไม่ทันได้ตั้งตัวรู้ตัวอีกทีก็เจอกับหน้าแข้งแข็งหวดเข้าที่ชายโครงเต็มๆ ทั้งเจ็บและงงมันไม่คิดว่าจะโดนเด็กที่ไหนก็ไม่รู้เตะผีอย่างเธอจนปลิ้วขนาดนี้ 

         " อัาวเตะได้ด้วยแห๊ะ..โทษทีเจ๊ผมเผลอน่ะผมดีเรียนมานิดหน่อย " กวินไม่ได้คิดจะตั้งใจเตะแต่เพราะปฏิกิริยาตอบสนองที่ต้องการปกป้องเพื่อนทำให้เตะออกไปเต็มแรง


     

         “ ไม่!!! อ๊ากกกก ”  ผีร้ายไม่ยอมแพ้พุ่งเข้าใส่พวกกวินอีกครั้งทันที คราวนี้กวินไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ยกแขนขึ้นตั้งการ์ดมวยตามที่ถูกสอนมา พลั๊ก!!  จังหวะที่ผีสาวพุ่งเข้าโจมตีกวิน เขาชักเท้าขึ้นมาดักหน้าผีสาวก่อนจะถีบเข้าไปเต็มแรงกระเด็นไปติดกับผนังบ้านและเป็นแบบนี้อยู่หลายครั้งอาจเป็นเพราะผึสาวนั้นไม่เป็นมวยเธอจึงโดนกวินดักได้หมด ส่วนอิสระและสิลินได้แต่นั่งทำหน้างงๆกับภาพที่เห็นลืมความกลัวไปเลย ผ่านไปซักพัก ด้วยความรำคาญผสมหงุดหงิดกวินเดินย่ำเท้าอาดๆเข้าไปใกล้วิญญาณผีสาวหมายจะซ้ำ แต่มีหรือที่มันจะอยู่เฉยให้เขาปูยี่ปูยำได้ตามใจชอบใช้เล็บยาวแหลมคมตวัดเหวี่ยงเข้าใส่กวิน แต่เขาก็หลบได้อย่าง่ายดายก่อนจะสืบเท้าเข้าไปต่อยเสยคางทำให้ผีสาวหน้าหงายตามด้วยเตะเข้าที่ชายโครงเต็มจนตัวงอเป็นกุ้งเสียบ


     

         “ อ๊ากก...โอ๊ยยอมแล้ว ยอมแล้ว ฉันกลัวแล้ว ”  วิญญาณผีสาวยกมือขึ้นกุมหัวตัวสั่นไปด้วยความกลัวกวินที่กำลังจะเงื้อขาเตะจำต้องหยุดค้างอากาศ



         “ เฮ้ออ...เห็นไหมครับผมบอกแล้วเรามาคุยกันดีๆก็ได้ครับ ”  กวินถอนหายใจยาวมองที่ผีสาวตรงหน้าและส่งยิ้ม

     

          “ ไอ้วิน เจ๋งสุดวู้ๆ ”

         “ วินกลับกันเถอะฉันกลัวจะแย่อยู่แล้ว ”

        “ รอเดี๋ยวฉันมีเรื่องจะคุยกับเขาหน่อย ”

         อิสระและสิลินวิ่งตรงบริเวณที่กวินยืนอยูก่อนจะมองไปด้านหน้าก็ต้องสะดุ้งแปลกใจเพราะภาพที่เขาทั้งสองเห็นออกจะผิดคาดเลยทีเดียว 

         “ ไอ้วินแกเล่นเอาหงอยเป็นลูกแมวไปเลยนะนั้น ” อิสระทำหน้าบอกไม่ถูกเพราะไม่เคยเห็นใครเตะผีแบบนี้มาก่อน 

         " ออ..ก็แค่นวดๆเอง " กวินหันมายิ้มให้กับเพื่อนทั้งสองคนดูเหมือนเขาจะพลั้งมือหนักไปหน่อยจากวิญญาณพี่ร้ายกลายเป็นผีสาวที่ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อยแถมยังลูกแมวเชื่องๆตัวหนึ่งไปเสียแล้ว 


     

         “ นี่คุณพี่ ผมขอถามอะไรหน่อยสิ ”


         “ ดะ...ได้ ”

          กวินถามผีสาวทำให้ออกอาการสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันทีก่อนจะตอบเขากลับไป 

         “ โดยปกติวิญญาณ ไม่มีได้มีฤทธิ์เยอะขนาดนี้นี่แถมยังมีกายเนื้อที่เล่นงานพวกผมได้ด้วยมันผิดปกติอย่างมากทำได้ยังไง? ”


         “ ฉันไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่พวกเธอเข้ามาฉันก็มีอาการแปลก โดยเฉพาะน้องหน้าตี๋คนคนนั้นกลิ่นหอมากๆ ” ผีพูดไปทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่แต่พอพูดถึงอิสระเธอเงยหน้าขึ้นมาและจ้องเหมือนอยากจะดึงตัวอิสระมากอดไว้

         " โอ้..นี่ฉันฮอทแม้กระทั่งผีเลยเหรอ" อิสระได้ทียืดอกภาคภูมิใจ

     

         " แล้วทำไมพี่สาวถึงออกมาหลอกคนแบบนี้ล่ะ " กวินถามต่อ 

     

         " ....ฉันก็แค่อยากแก้แค้นพวกผู้ชายที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้...”    ผีสาวก้มหน้างุดเหมือนกับจะสำนึกผิดชำเลืองมองกวินดูท่าทีของกวินอย่างหวาดๆ  


     

    “ อืม..งั้นเหรออยู่นิ่งๆนะครับ ” กวินค่อยๆวางมือเบาๆลงที่ไหล่ของผีสาวเธอสะดุ้งเล็กน้อยหลับตาปี๋ ก่อนที่ร่างของกวินจะมีแสงสว่างขาวนวลขึ้นทั้งร่างแสงนั้นค่อยๆขยับเลื่อนเคลื่อนไหวไปยังร่างของวิญญาณผีสาวห่อหุ้มทั่วทั้งร่างของเธอ เธอเริ่มหลับตาพริ้มสีหน้าที่เคยซีดเซียวกับดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลเสื้อผ้าที่เคยสกปรกขาดหวิ่นขาวสะอาดดูเหมือนใหม่สักครู่หนึ่งแสงนั้นก็จางหายไปกวินไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนแต่ไม่รู้เพราะอะไรเขาอยากลองทำแบบนี้


     

         “ โอ้วว ผีไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกโมเอะสุดๆไปเลยอ่าา ” เสียงพูดกวนๆดังแทรกขึ้นทันทีที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของวิญญาณผีสาวเสียงนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอิสระจอมหลีนั่นเอง

         “ โห...น่ารักจัง ” สิลินเองก็ออกอาการเคลิ้มเช่นกัน

     

         “ นี่เธอทำอะไรกับฉันเนี่ย ” ผีสาวก้มมองสำรวจการเปลี่ยนแปลงของตัวเองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าหมุนตัวไปมาท่าทางน่ารัก เธอดูเหมือนผู้หญิงธรรมดาๆที่น่ารักคนหนึ่งไม่ใช่ผีร้ายที่เล่นงานพวกเขาอีกต่อไป

         “ สวยแบบนี้ไม่ใช่ผีแล้วครับ นางฟ้าชัดๆ ใครนะกล้าทำให้ตกสวรรค์ได้ล่ะเนี่ย ”

         “ คิก คิก พวกเธอนี่ตลกจังนะ ”

         อิสระไม่ปล่อยโอกาสให้เสียป่าวเล่นบทคาสโนว่าหนุ่มไม่เว้นแม้กระทั่งผีจนผีสาวหัวเราะชอบใจ

     
         “ ฉันต้องไปแล้ว ”

         “ อ้าวไปไหนล่ะครับ ”

         “ ไม่รู้เหมือนกันมีบางอย่างเรียกฉันไป...อ่อเกือบลืม ”

         อิสระทำหน้าเสียดายที่ผีสาวคัพซีสุดเซ็กซี่จะต้องไปแล้ว แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ไปเหมือนนึกอะไรบางอย่างออกโน้มตัวลงมาใกล้กับกวินก่อนจะจุ๊บเข้าที่แก้มของเขา

         “ แทนคำขอบคุณนะจ้ะ ” ผีสาวยิ้มหวานส่งให้กับกวินหน้าขึ้นสีแดงนิดๆ ตัวกวินเองได้แต่ยืนอึ้งแล้วก็หันไปยิ้มตอบเธอ

         “ อ๊าา แล้วผมล๊าคร้าบพี่สาว ” อิสระทำท่าอ้อนวอนส่งสายตาเป็นประกาย

         “ ไม่ทันแล้วจ้าเด็กๆ ”

         อิสระแทบจะหลั่งน้ำตาเมื่อไม่ได้รับจุมพิตจากวิญญาณผีสาวสุดเซ็กซี่ตนนั้นแต่กับเป็นกวินที่หน้าขึ้นแดงเกาหน้าแก้เขินตรงที่โดนขโมยจุ๊บไป

     

         “ เฮ้อออ....จบซักที ”

         “ เฮ้ย!!ไอ้วิน ”   “ วิน!! ”  เมื่อเรื่องราวทุกอย่างถูกคลี่คลายลงร่างกวินทรุดตัวหมดแรงลงทันทีล้มพับไปข้างหลังดีที่เพื่อนทั้งสองของเขาเขามารับไว้ได้ทัน

         “ ไอ้อิส สิลิน....แบกฉันกลับด้วยขอนอนแปบนึงนะ... ”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×