คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : LESSON 04
lesson 4
“แกอยู่ไหนวะไอ้อู๋ฟาน!” เสียงคำรามของหนึ่งในแก๊งจตุรเทพฝั่งตะวันตกอย่างจงอินดังขึ้นหลังจากเสียงฝีเท้าสงบลง ภายในห้องเรียนสี่เหลี่ยมไม่มีใครเลยนอกจากคนตัวเล็กที่ง่วนอยู่กับการทบทวนบทเรียนในคาบว่างยามบ่าย ซิ่วหมินเงยหน้ามองต้นเสียงที่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ
“นี่นาย เห็นอู๋ฟานไหม!”
“ไม่เห็นอ่ะ อย่ามาโวยวายแถวนี้หน่า ฉันจะใข้สมาธิ” เขาตอบส่งๆ ก่อนจะหลบตามาอ่านหนังสือดังเดิม บอกตามตรงว่าเบื่อพวกอันธพาลประจำโรงเรียนมาก แตกกลุ่มอะไรเยอะแยะ เขาไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรหรอกนะก็แค่
“พ…พวกนายอย่าทำอะไรฉันเลย ยอมแล้ว! อ..อู๋ฟานใช่ไหม! มันออกไปทางนู้นแล้ว!” ซิ่วหมินตะโกนดังลั่นพลางชี้ออกไปนอกประตูไปส่งๆ เมื่อมือหนาของจงอินคว้าคอเสื้อของเขาอย่างเอาเรื่อง ยองโดที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่หลังจงอินก็เอื้อมมือข้างหนึ่งมาจับป้ายชื่อที่ติดอยู่หน้าอกด้านซ้าย
‘ซิ่วหมิน’
“หมอนี่มัน…พี่ชายไอ้คริสอู๋นี่หว่า หึ ดีล่ะ ใช้เป็นตัวประกันซะเลย” ยองโดแสยะยิ้ม
“ว่าแต่ทำไมมันถึงเรียนชั้นเดียวกันวะ”
“ได้ยินว่าไอ้คริสอู๋มันเรียนเร็วไปปีนึง”
หนุ่มแว่นตัวเล็กได้แต่กลอกตามองทั้งคู่คุยกันอย่างขัดขืนไม่ได้ ให้ตายเถอะ เกิดมามีน้องแบบนี้มันซวยจริงๆ หาเรื่องมาให้จนได้ เดาไม่ผิดน้องชายตัวดีคงสิงสถิตย์อยู่ร้านเกมข้างโรงเรียนแหง ด้วยคอนเซปที่ว่า ‘ที่ๆ อันตรายที่สุดคือที่ๆ ปลอดภัยที่สุด’ ..
“ลากคอมันไปชั้นดาดฟ้า”
โธ่….
.
.
.
แสงแดดยามบ่ายส่องจ้าจนดวงตาคู่เล็กของซิ่วหมินต้องหรี่เล็กกว่าเดิม เงาของร่างสูงทั้งสองคนพาดทับตัวของคนที่นั่งก้มหน้าอย่างไร้ทางสู้
“โทรหามันสิ”
“อือ แปบนึง”มืออวบล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงออกมากดเบอร์น้องชายสุดที่รักก่อนที่จงอินจะคว้าไป
ครืดดดดดดดดดดดดดดด ..
“โธ่เว้ย ใครโทรมาตอนนี้วะ” หนุ่มหล่อเกมเมอร์ในคราบนักเรียนม.ปลายสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อโทรศัพท์สั่นครืดในอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาถอดหูฟังที่เป็นจุดเชื่อมต่อจิตวิญญาณและศาสตร์แห่งเกมเข้าด้วยกันออก กำลังเป็นฝ่ายโจมตีแล้วแท้ๆ ใครโทรมาขัดจังหวะซะได้
‘ไอ้เตี้ย’
“โทรมามีอะไรห๊ะ”
“ฮัลโหล ฉันจงอินนะ! ตอนนี้แกอยู่ไหนวะ!”
“นี่แกเอาโทรศัพท์ซิ่วหมินไปได้ไง”
“ก็เพราะตอนนี้ซิ่วหมินอยู่กับพวกฉันแล้ว ถ้าไม่อยากให้พี่นายโดนอัดก็รีบมาหาพวกฉันเดี๋ยวนี้!”
“ห้ะ ว่าไงนะ จะอัดพี่ฉัน?”
“ใช่ รีบมาเดี๋ยวนี้”
“จะทำอะไรก็ทำ ”
ตู้ดๆๆๆๆ …
ว็อทเดอะฟัค
“มันวางสายไปแล้ว บอกว่าจะทำอะไรกับไอ้เตี้ยนี่ก็ทำ”จงอินหน้าเหวอก่อนจะหันไปมองซิ่วหมินที่นั่งขมวดคิ้วอยู่
หึ ว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้ เคยห่วงกันซะที่ไหนไอ้น้องบ้า
“นี่มันเป็นพี่น้องกันจริงเหรอวะ!” ยองโดขมวดคิ้วมองจงอิน คำพูดที่แสนยีกวนของอู๋ฟานทำให้เขาโมโหกว่าเดิมและสงสัยมากขึ้นในเวลาเดียวกัน
“เอาไง อัดเลยดีไหม แล้วส่งรูปสภาพตอนพี่มันโดนอัดไปให้ดู”
“อย่านะ!”เสียงเล็กค้านขึ้นมาก่อนจะวิ่งมาแย่งโทรศัพท์ไปจากมือจงอิน
“เดี๋ยวฉันคุยกับมันเอง” ว่าแล้วก็กดโทรออกอีกรอบ
ตื้ดดดด… ตื้ดดดดด…
รับสิวะ
ครืดดดดดดดดดดดด…
อู๋ฟานขมวดคิ้วก่อนจะรับสายส่งๆ อีกครั้ง
“อะไรอีกเล่า”
“ตอนนี้ฉันอยู่บนดาดฟ้าตึก 5 ถ้านายไม่มาฉันจะบอกแม่ว่านายโดดเรียนไปอยู่ร้านเกมส์”
“ห้ะ! ว่าไงนะ! จะฟ้องแม่อีกแล้วเหรอ! ได้ เจอกัน!” ไวเท่าความคิด สองขายาวรีบวิ่งพรวดออกจากห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ คว้ากระเป๋าใบแบนที่ปราศจากหนังสือเรียนใดๆ กระโดดข้ามรั้วหลังโรงเรียนอย่างเช่นที่ทำประจำตรงไปยังที่หมายให้เร็วที่สุด
.
.
“มันมาแล้วยองโด” สองสมาชิกจตุเทพฝั่งตะวันตกที่ยืนกอดอกอยู่หันไปทางต้นเสียงของฝีเท้าที่กระทบพื้นมาด้วยความเร็วสูง อู๋ฟานหอบหายใจเล็กน้อยก่อนจะส่งสายตาเกรี้ยวกราดไปยังด้านหน้า
“มานี่เลยมา!”
สิ้นเสียงท้าทายของร่างสูง จงอินก็วิ่งเข้าไปประจันหน้ากับเขาแต่ก็พลาดท่าโดนหมัดหนักชกท้องจนจุกจนลุกแทบไม่ไหว ยองโดที่มองอยู่ก็วิ่งเข้าไปสมทบโดยมีซิ่วหมินเกาะเอวตามด้วยความหวาดกลัว บอกเลยว่าสงครามครั้งนี้ไม่ใช่สงครามระหว่างยองโดกับอู๋ฟาน แต่เป็นซิ่วหมินกับอู๋หานต่างหาก ช่างเป็นคู่พี่น้องที่แปลกประหลาดเสียจริง
“เห้ย! มาเกาะเอวอะไรวะ ปล่อยสิปล่อย!”
“ช่วยฉันด้วย ต่อยมันเลย อู๋ฟานมันเพิ่งผ่าไส้ติ่งเมื่อเดือนก่อน ต่อยตรงท้องเร็วๆ!” ยองโดกลายเป็นเกราะกำบังให้ซิ่วหมินไปเสียแล้ว เขาโดนประกบทั้งด้านหน้าและแรงดึงจากด้านหลังจนทำอะไรแทบไม่ได้ ประกอบกับการประมวลผลของสมองที่กำลังคิดว่าใครต่อสู้กับใครกันแน่
“หลบไปสิวะ! ขวางจริงๆ! ทำไม! จะฟ้องแม่เหรอ!” อู๋ฟานดันหน้ายองโดออกเพื่อจะเข้าไปอัดเจ้าพี่ตัวดี
ควับ!
หมัดหนักอัดเข้ากับใบหน้าคมของยองโดอย่างจังจนเสียหลัก ซิ่วหมินที่ไร้เกราะกำบังรีบวิ่งลงชั้นดาดฟ้าด้วยสองยาสั้นแบบไม่คิดชีวิต
“จะหนีไปไหน กลับมานะไอ้เตี้ย!”
“ฉันจะฟ้องแม่!!!!!!!”
“จะไปไหนวะ!” จงอินที่นอนล้มไม่เป็นท่าอยู่พักใหญ่ลุกขึ้นมาดึงเสื้อนอกของคู่อริไว้แต่ก็โดนหมัดหนักสวนกลับมาอีกรอบ
“อย่ามายุ่ง!”
“เหอะ นี่มันเป็นพี่น้องกันจริงๆ เหรอวะ” ยองโดปาดเลือดที่มุมปากก่อนจะหัวเราะแห้งๆ ออกมา ได้แต่ยืนมองทั้งคู่วิ่งไล่กันบนดาดฟ้าก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งลงบันไดหายลับตาไป … ตลกสิ้นดี
เสียงเพลงบรรเลงออเคสตร้าจากเครื่องเล่นเพลงของครูอึนฮยอกเปิดทิ้งไว้ในห้องพักครูเกรด 12 มีเพียงชานยอลที่นั่งทำงานอยู่โต๊ะริมหน้าต่าง เขาเปิดแฟ้มหน้าเตอะจดจำใบหน้าลูกศิษย์ทุกคนในห้องเรียน ปากอวบอิ่มขยับท่องชื่อนักเรียนเบาๆ จนมาถึงชื่อของคนที่ทำให้รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า
“อ..อู๋ฟาน”
สองมือประกบใบหน้าตัวเองแล้วหลับตาส่ายหัวเบาๆ อา…นี่คิดอะไรอยู่นะชานยอล ก็แค่เด็กผู้ชายหน้าตาดี ไม่รู้ประสีประสามาหอมแก้มครูของตัวเอง จะคิดอะไรมากมาย คนน่ารักลืมตามองออกไปนอกหน้าต่างประกอบกับเพลงบรรเลงที่คลอเบาๆ สนามบอลมีเขียวขจีมีนักเรียนชายมัธยมปลายสองคนวิ่งไล่กันราวกับพี่น้องอายุสองสามขวบ ช่างเป็นภาพที่น่ารักน่าประทับใจ เมื่อดวงตากลมจ้องชัดๆ ก็พบว่าเป็นซิ่วหมินและอู๋ฟาน หลานรักของครูยุนโฮซึ่งกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ชานยอลเปิดหน้าต่างให้กว้างกว่าเดิมแล้วป้องปากตะโกนออกไป
“น่ารักมากเลย! เป็นพี่น้องต้องรักกันเข้าไว้นะ! แบบนั้นแหละ”
แต่ความเป็นจริง
“ฉันจะฟ้องแม่!!! แค่กๆๆ” คนน้องนั่งคร่อมตัวคนพี่ที่นอนเกลือกกลิ้งอยู่แล้วดึงหญ้ามาปาใส่หน้า ซิ่วหมินไอออกมาเป็นเศษหญ้าดิ้นขัดขืนไม่มีทีท่ายอมแพ้
“ถ้านายฟ้องแม่ฉันฆ่านายแน่!!!”
พี่น้องที่ชอบแกล้งกันแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบนะ ชานยอลอมยิ้มพลางคิดในใจ
TBC
สวัสดีรีดเดอร์ทุกท่านคะ กราบงามๆ OTL หายหัวไปนานมาก อยู่ในช่วงสอบมิดเทอม+สมองตัน
ตอนนี้สั้นมากเลย ขอโทษนะคะ เอามาให้หายคิดถึงไปก่อน เดี๋ยวจะรีบมาลงเรื่อยๆ ติดตามด้วยนะขอรับ!
อย่าลืมติดแท็ก #ฟิคครูครับ นะฮ๊าฟ <3
ความคิดเห็น