คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Remember
Remember
“ผมขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” เสียงของผู้ชายร่างหนาในชุดเสื้อยืดสีดำดังขึ้น
ขณะที่ ‘มาร์ค’ กำลังก้มหน้าขีดเขียนรูปเล่นในสมาร์ทโฟนตรงหน้า
บรรยากาศภายในร้านขนมแห่งนี้คึกคักตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเลิกงานแบบนี้ที่มักจะมีกลุ่มนักศึกษามานั่งจับกลุ่มนินทาชาวบ้านหรือไม่ก็คุยงานกัน
โต๊ะที่มาร์คนั่งเป็นมุมบอดภายในร้านเพราะเขารักความสงบมากกว่าความจอแจกลางตัวร้าน
‘แจ็คสัน’ ก็เช่นกัน
โต๊ะทุกตัวถูกจับจองจนหมด เขาทำได้แค่มองหาคนที่หน้าตาเป็นมิตรเพื่อขอนั่งร่วมโต๊ะเพียงชั่วครู่เท่านั้น
“ได้ครับได้” คนที่นั่งอยู่เงยหน้าสบตาต้นเสียงก่อนจะส่งยิ้มอย่างอัธยาศัยดีแล้วก้มลงจอจ่อกับหน้าจออีกครั้ง
ปากกาอัจฉริยะในมือถูกขยับให้เกิดภาพการ์ตูนสวยงามบนหน้าจอ มาร์คมีความสุขกับสิ่งนี้
การวาดรูปคืองานอดิเรก ความฝัน ความสุข และความทรงจำทั้งหมดของเขา แจ็คสันวางแก้วลาเต้ปั่นลงบนโต๊ะก่อนจะหย่อนก้นลงบนเก้าอี้โซฟาสีน้ำตาลเข้ม
หน้าจอสมาร์ทโฟนของมาร์คมีขนาดใหญ่พอที่จะดึงดูดความสนใจจากแจ็คสัน
“วาดมิคาสะเหรอครับ” คนที่แอบมองได้ซักพักเอ่ยถาม
ทำเอาคนวาดสะดุ้งเล็กน้อย
“อา ใช่ครับ คุณรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้ด้วยเหรอ”
“ผมชอบเรื่องนี้มากเลยครับ แฟนพันธุ์แท้เลย” แจ็คสันยิ้มกว้างด้วยท่าทีที่สนใจ
“ผมไม่ได้ชอบการ์ตูนเรื่องนี้หรอกครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบวาด”
“แฟนคุณชอบมั้งครับ”
“ผมไม่มีแฟนหรอกครับ” มาร์คหัวเราะร่วนพลางยกหลังมือข้างหนึ่งมาบังปากแบบอายๆ
ตรงกันข้ามกับแจ็คสัน รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าได้ถูกแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดในหัวใจ
ดวงตาดูสิ้นหวังและหมดแรง
.
.
.
.
บรรยากาศภายในร้านขนมแห่งนี้ยังคงคึกคักเหมือนทุกวัน โต๊ะนับสิบตัวภายในร้านถูกจับจองเป็นจุดนัดหมายของนักศึกษา
ยกเว้นเสียจากโต๊ะตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่มุมหลืบของร้าน
“ขอโทษนะครับ โต๊ะนี้มีคนจองแล้วครับ” พนักงานเสิร์ฟรีบวิ่งมาขัดลูกค้าสาวคนหนึ่งที่ตรงดิ่งมายังโต๊ะนั้น
ทำเอาเธอตกใจเล็กน้อย เขารีบวางป้ายตั้งพลาสติกสีแดงที่มีตัวหนังสือคำว่า “จองแล้ว” ไว้บนโต๊ะพร้อมหายใจหอบเพราะวิ่งตรงมาจากหลังร้าน
ก่อนจะเงยหน้ามองนาฬิกาแขวนที่บอกเวลา 16:30 นาฬิกาพอดี เขาโค้งขอโทษลูกค้าเล็กน้อยก่อนจะกลับไปรับออเดอร์ลูกค้าโต๊ะอื่น
.
.
เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแทบทุกวัน
จนกลายเป็นเรื่องปกติ
.
.
โต๊ะเดิม เวลาเดิม และคนเดิม
.
.
.
.
.
.
“วาดมิคาสะเหรอครับ”
“อา ใช่ครับ คุณรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้ด้วยเหรอ”
“ผมชอบเรื่องนี้มากเลยครับ แฟนพันธุ์แท้เลย”
“ผมไม่ได้ชอบการ์ตูนเรื่องนี้หรอกครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบวาด”
“แฟนคุณชอบมั้งครับ”
“ผมไม่มีแฟนหรอกครับ”
.
.
.
.
มีสิ ผมไง คนที่อยู่ตรงหน้าคุณนี่ไง
เป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้วที่มาร์คป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ความทรงจำของเขาเริ่มจางหายไปพร้อมกับเวลาที่ล่วงเลย
มันเริ่มตั้งแต่ตอนที่มาร์คเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 3 และป่วยจนไม่สามารถสำเร็จการศึกษาได้
ทุกวันของมาร์คผ่านไปด้วยงานอดิเรกที่เขารัก นั่นคือการวาดรูป
โดยมีคนที่เขารักอย่างแจ็คสันคอยดูแลไม่ห่าง ทั้งสองคนคบหากันตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นปีที่
2 และร้านขนมแห่งนี้เป็นสถานที่แรกที่คนทั้งสองได้รู้จักกัน
เหตุผลที่โต๊ะตัวนี้เป็นที่ประจำสำหรับมาร์คเพราะเจ้าของร้านคือแจ็คสันนั่นเอง
เขาเปิดธุรกิจเป็นของตัวเองตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 1
.
.
.
.
เขารู้ว่ามาร์คชอบนั่งตรงไหน
เขารู้ว่ามาร์คจะมาที่นี่เมื่อไหร่
เขารู้ว่ามาร์คชอบกินอะไร
.
.
เขาจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับมาร์คได้
ถึงแม้มาร์คจะจำอะไรที่เกี่ยวกับเขาไม่ได้เลยก็ตาม
“ผมต้องกลับแล้ว” มาร์คขยับปากพูดด้วยสีหน้ากังวลเมื่อเห็นนาฬิกาที่บอกเวลา
19:00 น. เวลาผ่านล่วงเลยไปด้วยบทสนทนาซ้ำเดิมกับคนเดิม
มันเป็นบทสนทนาธรรมดาที่คนแปลกหน้าจะสามารถแลกเปลี่ยนกันได้และไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านั้น
ถึงแม้แจ็คสันจะอยากให้มันพิเศษมากก็ตาม
“ให้ผมไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่เอาดีกว่า รบกวนคุณเปล่าๆ”
“งั้นกลับดีๆ นะครับ” แจ็คสันยิ้มบางให้อีกฝ่ายก่อนที่แผ่นหลังมาร์คจะเลือนหายไปกับความมืดนอกร้าน
แท็กซี่ที่มารับมาร์คทุกวันก็เป็นแท็กซี่คันเดิม คนขับคนเดิม
คนที่รู้ว่าต้องไปส่งมาร์คที่ไหน
.
.
.
ทำไมผมไม่ถอดใจตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าเขาป่วย
เพราะรักไปแล้วล่ะมั้ง
.
.
.
เสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มถูกพาดไว้บนพนักโซฟายาว แจ็คสันคว้ารีโมทโทรทัศน์มากดปุ่มปิดเพราะมันถูกเปิดทิ้งไว้โดยไร้คนดู
เขาเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน
มีร้านอาหารมากมายหลายสาขาที่เขาต้องจัดการ
ร้อยแปดพันเรื่องที่ทำให้สมองทำงานไม่หยุดหย่อน ร่างหนาในชุดเสื้อกล้ามสีขาว
กางเกงขาสั้นวนกลับมาที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง
เขายืนมองรูปสีน้ำมันที่ตั้งเรียงพิงกับผนังนับสิบรูป แต่ทว่า
แต่ละรูปนั้นมันไม่เคยเสร็จสมบูรณ์
.
.
.
.
.
“นอนแล้วเหรอมาร์ค” แจ็คสันนั่งลงบนเตียงใหญ่
ขณะที่เจ้าของชื่อนอนหลับปุ๋ยเหมือนเจ้าหญิงนิทรา คิ้วเข้ม ขนตางอนสวย จมูกโด่งได้รูป
บวกกับปากอวบอิ่มทำให้เขาอดใจไม่ไหวที่จะก้มลงทาบริมฝีปากลงเบาๆ
“ฝันดีนะ” ร่างหนาขยับตัวเข้าหาก่อนจะวางหัวลงบนหมอน เอื้อมแขนโอบกอดคนตรงหน้าไว้
และนั่นก็ทำให้คนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นจากนิทรา ขนตางอนขยิบเบาๆ ด้วยความงัวเงีย
เมื่อแจ็คสันเห็นก็จุมพิตลงบนหน้าผากอีกครั้ง เลื่อนมือมาลูบผมเบาๆ ไม่มีบทสนทนาใดๆ
ดังขึ้น มีเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคน ใบหน้าสวยค่อยๆ
พร่ามัวเพราะน้ำตาที่เอ่อคลอ แจ็คสันเม้มปากแน่นๆ
กระพริบตาถี่กว่าปกติเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
ไม่รู้ว่าเป็นน้ำตาของความรู้สึกแบบไหน เศร้าใจ หมดหวัง ท้อแท้ หดหู่ หรือคิดถึง
.
.
.
แต่เขามั่นใจเพียงหนึ่งความรู้สึกคือความรักของเขาที่มีให้มาร์ค
มันไม่เคยลดน้อยลงและเปลี่ยนแปลงไป
.
.
.
.
ถึงมาร์คจะจำอะไรไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
.
.
เขาจะเป็นคนจดจำทุกอย่างแทนมาร์คเอง
“แจ็คสัน หลับตาเร็ว!” คนที่มานั่งรอก่อนเอ่ยปากสั่งคนที่เพิ่งมาทั้งที่ก้นยังวางไม่ถึงเก้าอี้
“หลับทำไมอ่ะ”
“หลับเถอะหน่า” แจ็คสันนั่งลงตรงข้ามอีกคนก่อนจะหลับตาลงอย่างไม่ขัดขืน
ก่อนที่มือเรียวจะควานหากล่องพลาติกสี่เหลี่ยมจากกระเป๋าตัวเองออกมาวางบนโต๊ะด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ลืมตาได้”
แจ็คสันขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
มันคือทาร์ตไข่ของโปรดเขาที่บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใสรูปสี่เหลี่ยม
สีหน้าที่ดูไม่เข้าใจของแจ็คสันทำให้มาร์คหุบยิ้มลง
“ฉันทำเองเลยนะ นายชอบไม่ใช่เหรอ ก็ร้านนายไม่มีเมนูนี้
ฉันเลยอยากทำให้นายกิน”
“ใช่ ฉันชอบทาร์ตไข่มากเลย” มาร์คจดจ้องที่ใบหน้าแจ็คสันอย่างตั้งใจ
“แต่รู้ไหม ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วนะที่นายทำทาร์ตไข่ให้ฉัน แถมยังสามวันติดกัน”
“ฉ..ฉันเคยทำให้นายไปแล้วเหรอ”
“หน้าฉันเหมือนทาร์ตไข่หรือยัง” แจ็คสันหัวเราะเสียงดังพลางยื่นหน้าไปหาอีกฝ่าย
ถึงแม้ภายนอกแจ็คสันยังคงเป็นผู้ชายที่พูดมากและร่าเริงเหมือนปกติ
แต่ภายในสมองของเขากลับว้าวุ่นและเต็มไปด้วยคำถาม
ใบหน้าของมาร์คตอนนี้มันดูไม่สู้ดีเลย เหมือนว่ามาร์คจำไม่ได้จริงๆ ว่าเคยทำทาร์ตไข่ให้แจ็คสันไปแล้วถึงสองครั้ง
นั่นคือจุดเริ่มต้นของอาการป่วยของมาร์ค และมันรุนแรงขึ้นทุกวัน
จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่เรื่องราวทุกอย่างของมาร์คและแจ็คสัน
ถูกกลืนหายไปพร้อมกับเวลาที่ล่วงเลย
.
.
.
.
ตู้เย็นบรรจุอาหารประเภทเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกันนับสิบชิ้น
.
ลิ้นชักโต๊ะวางโทรทัศน์ที่มีแต่แผ่นหนังเรื่องเดียวกันเกือบสิบแผ่น
.
.
.
จะมีคนซักที่คนที่ยอมเหนื่อยเพื่อคนที่จำเราไม่ได้แม้กระทั่งชื่อ
คนที่ไม่มีเราอยู่ในเสี้ยวความทรงจำแม้แต่วินาทีเดียว
.
.
.
คนๆ นั้นคือแจ็คสัน
.
.
กล่องกำมะหยี่สีแดงที่บรรจุแหวนเพชรดีไซน์สวยจากฝรั่งเศสถูกเก็บลงลิ้นชัก
ร่างหนาคลี่ยิ้มบางๆ พร้อมดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำสีใส
ผมอยากขอคุณแต่งงาน แต่คงไม่มีใครอยากแต่งงานกับคนแปลกหน้าหรอก
จริงไหม
END
เป็นยังไงบ้างคะ ช็อคฟิคเรื่องนี้ บอกตามตรงว่าได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์เรื่อง Remember the war of son นั่นแหละ เศร้ามาก คคือตอนแต่งเป็นอารมณ์ชั่ววูบ หาเรื่องไม่อ่านหนังสือมิดเทอมจ้า 55555555555555555 อยากให้มันเศร้าแต่ก็ไม่เศร้าเกินไป แต่งเองหน่วงเอง เอาแค่นี้ก็พอ อ่านแล้วไปสกรีมในทวิตเตอร์ก็อย่าลืมติดแท็ก #ฟิคทาร์ตไข่ ให้เค้าด้วยน้า
ความคิดเห็น