คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : LESSON 03
lesson 3
ร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำสีฟ้าอ่อนนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว เปิดโทรทัศน์ไว้แต่ดวงตากลมสวยกลับจับจ้องรูปถ่ายในมือ เขายิ้มบางๆ ให้กับผู้ชายในรูปก่อนที่เสียงเคาะประตูห้องจะดังขึ้น
ก๊อก ๆ ๆ
แอ๊ดดดดด …
“กลับมาแล้วเหรอชานยอล” เขารีบยัดรูปถ่ายไว้ใต้หมอนอิงที่วางใกล้ๆ ก้นมนของรูมเมทหน้าตาจิ้มลิ้มวางลงข้างๆ เขาพร้อมกับไม้ขนมสายไหมในมือ
“พี่แจจุงยังไม่นอนอีกเหรอครับ” พูดไปก็เอียงคองับน้ำตาลก้อนฟูๆ ไป เห็นแล้วอดเอ็นดูไม่ได้จริงๆ
“เอ่อ พี่.. กำลังจะไปนอนแล้วล่ะ เพิ่งอาบน้ำเสร็จ รีบอาบน้ำนอนนะเรา ฝันดีคร้าบ” แจจุงเอื้อมมือไปยีผมคนอายุน้อยกว่าก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปยังห้องนอน หารู้ไม่ว่าลืมของสำคัญไว้ เด็กซนที่นั่งจ้องโทรทัศน์คลำหมอนข้างๆ มากอดแต่ก็พบหลักฐานชิ้นสำคัญบางอย่าง
“หือ รูปอะไรอ่ะ” มืออวบเอื้อมไปหยิบรูปขึ้นมาดูชัดๆ
ควับ!
เกือบไปแล้ว … โชคดีที่นึกออก
“ฝันดีอีกรอบนะ” แจจุงที่ยืนอยู่ด้านหลังโซฟายิ้มกว้างให้น้องรักหลังจากคว้ารูปถ่ายในมือมาอย่างทันท่วงที จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ความลับอะไรเท่าไหร่ แค่ไม่อยากให้ใครรู้ก็เท่านั้นเอง
สองขาเรียวก้าวข้ามผ่านประตูห้องนอน ทอดกายลงบนเตียงขนาดคิงไซส์ มือข้างหนึ่งหยิบขวดไวน์ที่วางบนโต๊ะข้างเตียงมารินใส่แก้วแล้วจิบดื่มเช่นทุกวัน ในสมองล่องลอยออกไปแสนไกล ภาพในอดีตกับคนรักปรากฏเด่นชัดเสมอ ตั้งแต่วันแรก จนถึงวันที่ตัวเขาเอง ทิ้งคนรักไป ทิ้งผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิต .. ผู้ชายอย่างชองยุนโฮ
“แกมาที่บ้านฉันได้ยังไง!”
“…” ลู่หานได้แต่นั่งนิ่งจ้องหน้าอีกฝ่าย ตัวเขาเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อย นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น โลกจะกลมอะไรปานนั้น คนที่ช่วยเขาไว้กลับเป็นคนในครอบครัวของคนที่ทำร้ายเขาอย่างนั้นเหรอ
“ฉันถามว่าแกมาที่นี่ได้ยังไง!” มือใหญ่ของอู๋ฟานกำหมัดแน่น สายตาเกรี้ยวโกรธทำเอาทุกคนตกอยู่ในความเงียบ ซิ่วหมินเริ่มจับต้นชนปลาย พอจะเข้าใจเรื่องทุกอย่าง เขารู้ดีว่าน้องชายเขามีศัตรูมากมายขนาดไหน แฮมิที่นั่งอยู่รีบลุกมาดึงตัวลูกชายคนเล็กไว้ไม่ให้เข้าไปซ้ำเติมคนบาดเจ็บอีก
“เป็นอะไรของแกห้ะตาอู๋!”
“ออกไปจากบ้านฉัน…” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาพลางจ้องเขม็งไปยังคนที่นั่งอยู่บนโซฟา ร่างสูงพยายามรวบรวมสติไว้ถึงจะโมโหเพียงใดก็ตาม
“โธ่เว้ย!”
เขาเขวี้ยงกระเป๋าเป้ใส่โซฟาที่ว่างอยู่ก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดเข้าห้องนอนของตัวเองไป มันน่าโมโหไหมล่ะ เพิ่งทำให้ศัตรูพ่ายแพ้มาแต่กลับโดนเยียวยาโดยคนในครอบครัวตัวเอง ถ้าแม่ไม่ห้ามไว้เขาคงได้เข้าไปชกหน้าหมอนั่นอีกสักที
“อู๋ฟาน! ตาอู๋! มาคุยกับแม่ให้รู้เรื่องก่อน”
“ปล่อยมันไปเถอะครับแม่ มันก็ชอบใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาแบบนี้แหละ” คนตัวเล็กพูดพลางใช้สำลีเช็ดแผลให้ลู่หานต่อ ผู้เป็นแม่ได้แต่ถอนใจหายส่ายหน้ากับลูกชายคนเล็กที่เพิ่งปิดประตูใส่หน้าเธอ
“แม่ไปนอนแล้วนะซิ่วหมิน ดูแลเพื่อนดีๆ อย่ามัวอ่านหนังสือจนดึกดื่นล่ะ”
“ครับแม่ ฝันดีครับ”
“ฝันดีจ้ะ” แฮมิเดินมาจุ๊บหน้าผากเด็กตัวเล็กที่นั่งอยู่ หารู้ไม่ว่ามีใครบางคนแอบมองและแอบยิ้มอยู่เงียบๆ ภาพที่ปรากฏด้านหน้าลู่หานช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจ ภาพที่ไม่สามารถเกิดขึ้นในชีวิตของเขา ชีวิตที่ขาดคนที่ขึ้นชื่อว่า ‘แม่’
“หมอนั่นน่ะ เป็นพี่นายเหรอ” ลู่หานเริ่มเปิดบทสทนาเมื่อในห้องเหลือเพียงเขาสองคน
“อู๋ฟานน่ะเหรอ ไม่ใช่อ่ะ ฉันตังหากที่เป็นพี่”
“ทำไมเตี้ย…”
“กลับบ้านไปเลย!” โดนไล่แล้วยังโดนทุบหลังซ้ำอีก ลู่หานได้แต่หัวเราะเสียงดัง ความจริงหลังแทบหัก เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้แต่มือหนักเป็นบ้า
“เรียบร้อยแล้ว” มือเล็กแปะพลาสเตอร์ยาลงบนบริเวณหางตาของร่างโปร่งเป็นที่สุดท้าย แล้วหันไปก้มหน้าก้มตาเก็บอุปกรณ์เข้ากล่องปฐมพยาบาลเหมือนเดิมในขณะที่ดวงตาคมยังคงจับจ้องอีกฝ่ายไม่ละ
“ขอบใจนะ”
“อือ ไม่เป็นไร อย่าไปมีเรื่องกับเจ้าบ้านั่นอีกล่ะ”
“เธอรู้”
“น้องชายฉันนี่ แค่ขยับก็รู้แล้วว่าคิดอะไร”
“อืม จะพยายาม … แล้วเรา จะได้เจอกันอีกไหม”
“…” คนแก้มซาลาเปาไม่ตอบได้แต่เลิกคิ้วใส่เหมือนอยากให้ทวนคำถาม
“เพราะฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอเลย”
“ฉันเป็นพวกหลืบน่ะ”
“ก็ว่าอยู่”
ลู่หานลุกขึ้นยืน เดินตามคนตัวเล็กออกไปยังหน้าบ้านผ่านสวนหย่อมขนาดเล็กที่มีลมเย็นๆ พัดผ่านร่างกาย เสียงแมลงบางอย่างส่งเสียงร้องแข่งกัน มือเล็กดันประตูรั้วออกให้อีกฝ่าย
“กลับบ้านดีๆ ”
“ฝันดีนะ”
“อือ ฝันดี”
“ถ้าฉันโดนต่อยแล้วจะกลับมาให้ทำแผลอีก”
“นี่บ้านนะไม่ใช่โรงพยาบาล!” โดนทุบไปอีกบึ้บ …
มีความสุขแบบแปลกๆ
ลู่หานอมยิ้มขณะที่มองร่างเล็กเดินหายไปในตัวบ้านผ่านช่องรั้วเหล็ก อยู่โรงเรียนเดียวกันมาเกือบ 3 ปี แปลกดีที่ไม่เคยเห็นซิ่วหมินเลย หากมองสิ่งดีๆ ในเรื่องร้ายๆ แบบนี้ชีวิตคงไม่แย่เท่าไหร่ ถ้าจะขอบคุณอู๋ฟานก็คงไม่ผิดอะไรสินะ
เสียงอ่อดดังขึ้นเป็นสัญญาณให้นักเรียนทยอยเดินแยกย้ายเข้าห้องเรียนของตนเอง ในขณะที่ห้องพักครูเกรด 12 มีครูอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเพราะครูใหญ่ได้แนะนำครูคนใหม่ให้ได้รู้จักนั่นก็คือปาร์คชานยอลนั่นเอง เมื่อยุนโฮรู้ว่าเมื่อวานตัวเองปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มไปเมื่อก็ถึงกับหน้าซีดหน้าแดงผสมกันจนมั่วไปหมด
ทำไมไม่ใส่ชุดนักเรียนมา เก็บของเสร็จแล้วไปพบครูที่ห้องพักด้วย …
อา.. ให้ตายสิวะยุนโฮ
.
.
“ส..สวัสดีครับ ครูชื่อปาร์คชานยอลนะ เป็นครูโฮมรูมคนใหม่ของพวกเธอ แล้วก็เป็นครูสอนวิชาศิลปะนักเรียนเกรด 12 ทั้งหมด” ชายหน้าหวานตัวสูงที่ยืนเด่นหน้าห้องเรียนชั้นล่างสุดของอาคารยิ้มแย้มแนะนำตัวพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง แต่ก็ดูเหมือนนักเรียนของเขาจะดูไม่เอนจอยด้วยเท่าไหร่
“เมื่อวานครูมีประชุมก็เลยไม่ได้มาทักทาย วันนี้เปิดเรียนวันที่สอง ขอให้ตั้งใจเรียนเข้าน้า” ชานยอลก้มหน้ากับเอกสารที่วางบนโต๊ะพลางพึมพำกับตัวเองเบาๆ “ทำยังไงต่อนะ”
“เช็คชื่อครับครู” หนุ่มหน้าหวานโอเซฮุนที่นั่งอยู่ด้านหน้าสุดยกมือป้องปากกระซิบบอก
“อ้อ! ใช่ เช็คชื่อๆๆ เอ…ดูเหมือนจะมีคนขาดคนนึงนะ” ครูคนใหม่พูดหลังจากสังเกตเห็นเก้าอี้ด้านหลังสุดริมหน้าต่างว่างอยู่
“อู๋ฟานครับครู เช็คตรงช่องมาสายนะครับ” หนุ่มลูกครึ่งจีนเกาหลีแก้มกลมซึ่งเป็นหัวหน้าห้องและเป็นพี่แท้ๆ ของอู๋ฟานยกมือ เซฮุนที่นั่งข้างกันพยักหน้าเห็นด้วย “หมอนี่น่ะจอมอันธพาลเลยนะครับครู ครูคงต้องเหนื่อยหน่อยนะ”
“ใครบอกว่าฉันมาสายล่ะ!”
สองขายาวกระโดดเข้าห้องเรียนผ่านทางหน้าต่างบานหลังสุดหลังจากกระเป๋าเป้ใบแบนถูกโยนมาบนโต๊ะอย่างแม่นยำ จะใครที่ไหนนอกจากคริสอู๋สุดหล่อแห่งจตุรเทพฝั่งตะวันออก … แหม่ ขอซาวด์เท่ๆ เปิดประกอบทีเถอะ ..
“น..นั่น อู๋ฟานเหรอ” ชานยอลทำตาโตเมื่อเห็นใบหน้าคมที่คุ้นตา อยู่ๆ ก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว นึกถึงเรื่องเมื่อวานที่โดนขโมยหอมแก้มแล้วมันทำอะไรไม่ถูก เจ้าเด็กบ้านี่อยู่ห้องนี้อย่างนั้นเหรอ โลกจะกลมเกินไปแล้วนะ แต่ก็คงไม่ต่างอะไรกับนักเรียนตัวแสบที่นั่งปากหวอชี้หน้าครูที่ยืนอยู่หน้าห้อง
“ธ…เธอ”
“ค…ครูเป็นครูโฮมรูมคนใหม่ของห้องนี้” ชานยอลพูดตะกุกตะกัก แก้มกลมเปลี่ยนเป็นสีแดงจนสังเกตุเห็นได้ชัด
“เหอะ ตลกดี” อู๋ฟานหัวเราะแห้งๆ พลางส่ายหน้าเบาๆ “ผมมาทันนะครับครู”
“แต่นายมาหลังอ่อดดัง ครูครับ เช็คชื่ออู๋ฟานว่ามาสายนะครับ”
“ถ้าคิดแบบซิ่วหมินมันก็ถูกนะ อู๋ฟาน วันหลังอย่ามาสายละกันเนอะ”
“ครูคิดเองไม่ได้เหรอครับ”
“อ..เอ่อ แต่นี่เพิ่งวันแรกของครูเอง เว้นซักวันละกันนะซิ่วหมิน”
“กฎก็ต้องเป็นกฎสิครับ”
“อ่อใช่ กฎก็ต้องเป็นกฎ งั้นเช็คว่ามาสาย” ปลายปากกาของครูชานยอลจรดลงบนกระดาษเรียบร้อยหลังการตัดสินใจอันแสนยาวนาน คนเป็นพี่หันหลังไปยิ้มมุมปากให้คนเป็นน้องที่นั่งหลังสุดด้วยความสะใจ
“ไอ้-เตี้ย” อู๋ฟานขยับปากทีละคำพลางยกหมัดทำท่าจะต่อยอีกคน ชานยอลเองก็พอจะรู้มาว่าหลานของครูยุนโฮทั้งสองคนอยู่ห้องของตัวเองนั่นก็คือซิ่วหมินและอู๋ฟาน แต่ดูท่าทางไม่เห็นเหมือนพี่น้องกันเลยสักนิด ถ้าไม่รู้นี่คิดว่าเป็นคู่อริมากกว่าพี่น้องซะอีก
“คาบต่อไปของครูอึนฮยอกใช่ไหมเอ่ย ตั้งใจเรียนกันนะเด็กๆ”
“คร้าบ..” นึกถึงคาบคณิตสุดแสนน่าเบื่อก็ได้แต่ถอนหายใจกันยกห้อง ต่อให้เก่งขนาดระดับซิ่วหมินก็อดที่จะเบื่อวิชานี้ไม่ได้ ไม่รู้จะสอนคณิตหรือเล่นตลกกันนะครูคนนี้ ชานยอลรวบเอกสารขึ้นแนบหน้าอกก่อนจะเดินออกจากห้องไป โดยมีอู๋ฟานจ้องอย่างไม่ละสายตา ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายหน้าละอ่อนคนนี้จะโตกว่าตัวเอง แถมยังเป็นครูโฮมรูมอีก ให้ตายเถอะพระเจ้า ..
ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ
ภาพหลอนปรากฏขึ้นมาในหัวอีกแล้ว อา … หน้าแดงไปถึงไหนแล้วนะปาร์คชานยอล เอาออกไปจากหัวที
TBC
จบไปอีกตอน ไรเตอร์ฟินลู่หมินอย่างบอกไม่ถูก T___T เรื่องจริงเป็นแม่ยกคริสยอลเฉยๆ
แต่พอตาโมเม้นลู่หมินแล้วทนติ่งไม่ไหวค่ะ 55555555555555555555555
โครงเรื่องให้เครดิตกับไฮคิกเลยนะคะ เป็นซิทคอมที่เราชอบมาก เก่าแล้ว ยังไงก็ฝากติดตาม #ฟิคครูครับ กันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น